เช้าวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๓ ผมเข้าร่วมประชุมทางไกล ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร กสศ. และชอบวาระที่ ๔.๑ ร่างกรอบแนวคิดยุทธศาสตร์ มาก
ท่านกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ชาลี จันทนยิ่งยง เป็นผู้จุดพลุประเด็น ว่า จนถึงปัจจุบัน กสศ. ยังไม่ชัดว่าตนมีหน้าที่อะไร เมื่อมองวัตถุประสงค์ ๗ ข้อ ตามมาตรา ๕ ของ พรบ. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และเป้าประสงค์ ๓ ข้อ ที่ทีมบริหาร กสศ. กำหนด คือ (๑) ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส (๒) พัฒนาคุณภาพครูและหน่วยจัดการเรียนรู้ (๓) ภาครัฐและสังคมมีแนวทางสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา
ข้อคิดเห็นของกรรมการมีพลังมาก สรุปได้ว่า กสศ. ไม่ควรเน้นการเป็นหน่วยปฏิบัติ แต่เน้นเป็นหน่วยทำงานเพื่อสร้างความรู้ที่นำไปสู่รูปแบบใหม่ของระบบการศึกษา ผ่านการทดลองปฏิบัติการจริง ที่ ดร. กฤษณพงศ์ กีรติกร เสนอว่า เป็น social lab ไม่ใช่ academic lab
ในกรณีเช่นนี้ กสศ. ก็ไม่ต้องใหญ่มาก ไม่จำเป็นต้องมีงบประมาณมาก โดยมีการนำเสนอรูปแบบการทำงานเป็น area-based
เรื่องนี้ยังจะต้องทำความชัดเจนกันต่อไป และจะนำไปสู่มติของคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ผมคาดว่าจะมีผลต่อการปรับโครงสร้างองค์กร และต่อยุทธศาสตร์การทำงานอย่างมากมาย
วิจารณ์ พานิช
๓๐ ต.ค. ๖๓
ไม่มีความเห็น