วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ผมร่วมกับคณะของ กสศ. ในโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง ไปเยี่ยมสองโรงเรียนในโครงการในจังหวัดเชียงใหม่ คือโรงเรียนชุมชนบ้านบวกครกน้อย อำเภอเมือง กับโรงเรียนแม่คือวิทยา อำเภอดอยสะเก็ด ซึ่งมีจุดเด่นคนละแบบ แต่เมื่อได้เห็นกิจกรรมการเรียนของนักเรียนทั้งสองโรงเรียน และได้เสวนากับผู้อำนวยการและครูในโรงเรียนแล้ว ได้ความรู้เชิงลึก ในการสนับสนุนให้โรงเรียนเป็นตัวของตัวเองมาก
โรงเรียนชุมชนบ้านบวกครกน้อย
เมื่อไปถึงผมก็ตกใจในความใหญ่โตกว้างขวางของอาคารโรงเรียน ทั้งๆ ที่เป็นโรงเรียนประถมขยายโอกาส ที่อยู่ชานเมือง ครึ่งหนึ่งของนักเรียนเป็นลูกของแรงงานต่างด้าว มาจากรัฐฉานของพม่า มีนักเรียน ๔๘๐ คน สอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึง ม. ๓ และยังมีห้องเรียนเคลื่อนที่วัดป่าเป้า สอนนักเรียนลูกแรงงานต่างด้าวล้วนๆ ๑๗๔ คน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึง ป. ๖ โดยได้รับการสนับสนุนจาก UNICEF
มีการจัดห้องเรียน MEP (Mini English Program) จ้างครูที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่มาสอน ๔ วิชาคือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ พลศึกษาและสุขศึกษา และภาษาอังกฤษ โดยผู้ปกครองต้องข่ายเงินเพิ่มเทอมละ ๘,๕๐๐ บาท ท่าน ผอ. บอกว่า ราคาต่ำสุดแล้ว บางโรงเรียนเก็บเพิ่มใน English Program เทอมละ ๓ หมื่นบาทก็มี
โรงเรียนนี้มีสารพัดโครงการพิเศษมาลง เป็นโรงเรียนที่ผลการเรียนของนักเรียนเด่นมาก
หนึ่งในโครงการพิเศษคือโครงการสอนวิชาคณิตศาสตร์แนว OA & LS ที่เผยแพร่โดย รศ. ดร. ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์ ทำมา ๑๑ ปี และเมื่อเกิดโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง โรงเรียนนี้ก็เข้าโครงการ โดยมีทีม ดร. ไมตรีเป็นพี่เลี้ยง ดำเนินการขยายการใช้เครื่องมือ OA & LS (Open Approach & Lesson Study) ไปยังทุกวิชา เพื่อให้เป็นโรงเรียนที่พัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืน
เราได้เข้าสังเกตชั้นเรียนของนักเรียนชั้น ป. ๑ ในชั่วโมงวิชาคณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้เรื่อง บวกหรือลบเอ่ย กิจกรรมเรื่อง บ้านลมแสนสนุก ซึ่งก็คือการเรียนบวกลบเลขแนวใหม่ที่เอามาจากญี่ปุ่น ที่เน้นเรียนกระบวนการคิดมากกว่าเรียนหาคำตอบ กิจกรรมแบบนี้ทำในนักเรียนชั้นประถมทุกชั้น
จากการเข้าสังเกตการณ์ชั้นเรียน ตามด้วยการเสวนากับผู้อำนวยการ ดำรง มาตี๋ ทำให้เราเข้าใจข้อจำกัดของการพัฒนาเป็นโรงเรียนพัฒนาตนเอง จากการที่มีโครงการพิเศษมาจากส่วนกลางมากมาย รวมทั้งครูใหม่หากจะฝึกให้มีทักษะสอนแบบ OA & LS ต้องฝึกถึง ๓ ปี (คำของท่านผู้อำนวยการ) รวมทั้งแนวทาง OA & LS ค่อนข้างมีรูปแบบตายตัว ผมมีข้อสังเกตว่า ทางโรงเรียนมุ่งดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายของสำนัก ดร. ไมตรี มากกว่ามุ่งพัฒนาการเรียนรู้ของตนอย่างต่อเนื่อง
โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการชำนาญสนองนโยบายของหน่วยเหนือ มากกว่าคิดสร้างนวัตกรรมด้านการเรียนรู้ขึ้นเอง
โรงเรียนแม่คือวิทยา
เป็นโรงเรียนประถมขยายโอกาสในชนบท สอนชั้นประถมและมัธยมต้น มีนักเรียน ๓๓๘ คน สภาพของโรงเรียนดีกว่าที่ผมคาด คือมีสิ่งอำนวยความสะดวกพรักพร้อม ไม่ขาดแคลน
เราได้ฟังท่านผู้อำนวยการโรงเรียน นายสุริยน สุริโยดร เล่า MKW Learning Platform (MKW = แม่คือวิทยา) ไปชมห้องเรียนที่เด็กกำลังทำกิจกรรม Maker Space ตั้งแต่ห้อง ป. ๑, ป. ๒, ป. ๓ และเด็กมัธยมแสดงผลงานแรงบันดาลใจในอาชีพ แล้วกลับมา AAR กัน ผมก็ได้ข้อสรุปว่า โรงเรียนแม่คือวิทยาเป็นต้นแบบของโรงเรียนที่โครงการโรงเรียนพัฒนาตนเองควรเข้าไปสนับสนุน
โรงเรียนนี้มูลนิธิสตาร์ฟิชเป็นพี่เลี้ยง โดยทางมูลนิธิเป็นฝ่ายโทรศัพท์มาชักชวน และท่าน ผอ. โรงเรียนรับเข้าโครงการด้วยความดีใจ เพราะทางโรงเรียนมีแนวทางพัฒนาตนเองอยู่แล้ว และต้องการตัวช่วย แนวทางของสตาร์ฟิชเหมาะสมมากต่อเส้นทางการพัฒนาโรงเรียนแม่คือวิทยาที่ทางผู้อำนวยการและครูร่วมกันกำหนดอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คือพัฒนาเด็กด้วย ๓ เป้าหมาย ใน ๓ ช่วงชั้น คือ ป. ๑ - ๓ เน้นอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น ป. ๔ - ๖ ค้นพบความถนัด (พหุปัญญา) และ ม. ๑ - ๓ เกิดแรงบันดาลใจในอาชีพ
ท่าน ผอ. ย้ำแล้วย้ำอีก ว่า เป้าหมายของโรงเรียนต้องร่วมกันกำหนดโดยครูทุกคนเห็นพ้องกัน และในการดำเนินการครูต้องไม่มีภาระเพิ่ม มิฉะนั้นจะทำไม่สำเร็จ นี่คือสุดยอดยุทธศาสตร์ของโรงเรียนพัฒนาตนเอง
MKW Learning Platforms ประกอบด้วย 4 platform คือ
ทางมูลนิธิสตาร์ฟิช เข้าไปเพิ่ม Platform ที่ ๕ ให้แก่โรงเรียนแม่คือวิทยา เรียกว่า Great idea! คือ STEAM Design Process เป็นกระบวนการของระบบคิด เริ่มด้วยการตั้งปัญหา ตามด้วย การออกแบบคิดค้นคว้าหาคำตอบ การวางแผนการทำงาน การลงมือปฏิบัติ และ การทบทวนปรับปรุงพัฒนา อย่างเป็นขั้นตอน ผ่านพื้นที่กิจกรรม Maker space ให้นักเรียนได้ฝึกเป็นนักสร้างสรรค์ นักคิด นักแก้ปัญหา
นอกจากนั้น มูลนิธิสตาร์ฟิชยังนำเครื่องมือด้านการบริหาร ๒ ตัวไปให้ใช้ ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานได้ดีมาก คือ Class DOJO ช่วยการติดตามชั้นเรียนของผู้อำนวยการ และ Plicker ช่วยการสอบและประเมินผลสอบ
ทั้งหมดนั้น ผมคัดลอกมาจากเอกสารแผ่นพับ ที่ได้รับแจกจากโรงเรียนแม่คือวิทยา ที่สรุปสั้นๆ ได้สาระชัดเจน
วิจารณ์ พานิช
๒๕ ก.พ. ๖๓
1 โรงเรียนชุมชนบ้านบวกครกน้อย
2 บรรยากาศภายในโรงเรียน
3 วัสดุประกอบการเรียน
4 หนังสือประกอบการสอน และเอกสารแผนการสอน
5 นักเรียนกำลังร่วมกันหาวิธีคิดตอบโจทย์ 13-9+6
6 ครูกำลังชวนนักเรียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้
7 นายสุริยน สุริโยดร ผอ. รร. แม่คือวิทยา
8 MKW Learning Platform หน้า ๑
9 MKW Learning Platform หน้ากลาง
10 MKW Learning Platform หน้าหลัง
11 เด็กโรงเรียนแม่คือวิทยากำลังปล่อยของ
12 ผลงานของ talent ด้านศิลปะ
ไม่มีความเห็น