ผมเขียนบันทึกเรื่องโครงการ Spearhead ด้านการวิจัยและพัฒนาระบบบริการสุขภาพฉุกเฉินไว้ที่ (๑) (๒)
วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔ มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการแผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคม แผนงานระบบบริการสุขภาพ ครั้งที่ 3/2564 ซึ่งก็คือโครงการการวิจัยและพัฒนาระบบบริการสุขภาพฉุกเฉิน (พบฉ.) ที่มี ศ. ดร. นพ. สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ เป็นประธานบริหารแผนงาน ซึ่งถือได้ว่า เป็นความสำเร็จของ สวช. ในการสนับสนุนแผนงานนี้
ชื่อโครงการที่ใช้ในการประชุมคือ โครงการพัฒนาระบบบริการเพื่อการดูแลภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์ และสาธารณสุขอย่างครบวงจร (พบฉ.)
ผมได้สะท้อนคิดไว้ในบันทึกสองตอนก่อน ที่ (๑) และ (๒) ว่า ศ. นพ. สุวัฒน์ ได้ใช้ภาวะผู้นำของท่าน เปลี่ยนแผนงานระบบบริการสุขภาพ ให้กลายเป็นงานวิจัยเพื่อพัฒนาระบบ คือระบบสุขภาพฉุกเฉิน เป็นเป้าหมายที่ทรงคุณค่าและท้าทายมาก โดยมีลักษณะที่จำเพาะคือ เป็นการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบที่เน้นการริเริ่มสร้างสรรค์แบบ bottom-up พัฒนาจากหน้างานระดับปฏิบัติเป็นหลัก แล้วหาทางให้กลไกระบบในภาพใหญ่เข้าไปสนับสนุน และเชื่อมโยงสู่ระบบใหญ่ ผ่านกลไกของคณะกรรมการอำนวยการแผนงาน
กรอบแนวคิดของแผนงานวิจัยนี้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ดังนี้
เนื่องจากมีผู้แทนจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) มาร่วมเป็นกรรมการอำนวยการ ผมจึงเสนอให้ สพฉ. หาทางเชื่อมการวิจัยและพัฒนาแบบ top-down ที่ สพฉ. สนับสนุน เข้ากับโครงการวิจัยแบบ bottom-up นี้ และเสนอให้ สวช. ร่วมกับ สวรส. พิจารณาสนับสนุนการวิจัยเชิงระบบแบบ top-down ด้านระบบสุขภาพฉุกเฉินของประเทศ
งานนี้มีปัจจัยซับซ้อนมาก หัวใจคือระบบข้อมูลภายในโรงพยาบาล และเชื่อมโยงระหว่างสถานบริการระดับต่างๆ และเชื่อมโยงไปยังบ้าน รวมทั้งเชื่อมโยงไปยังกลไกป้องกันและรับรู้ปัญหาฉุกเฉินและแจ้งข่าวและขนส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล
ผมฟังการอภิปรายแลกเปลี่ยนในการประชุมแล้ว ได้ทราบว่าการเชื่อมต่อของระบบข้อมูลมีความสำคัญมาก ในเมืองเชียงใหม่ดำเนินการได้ และช่วยให้การป้องกันและต่อสู้โควิด ๑๙ เกิดผลดีมาก โดยโครงการ พบฉ. ได้สนับสนุนการพัฒนาระบบข้อมูล CMC-19 ขึ้นใช้งานได้อย่างมีประสิทธิผล ในขณะที่ กทม. มีหลากหลายระบบข้อมูล เชื่อมต่อกันยาก (หรือไม่ได้) การใช้ระบบข้อมูลในการอำนวยความสะดวกต่อการรับมือภาวะฉุกเฉินใหญ่ของสังคมไทยในปัจจุบัน คือ โควิด ๑๙ ในกรุงเทพ อย่างครบวงจร จึงไร้ประสิทธิผล
ภาวะฉุกเฉินที่โครงการ พบฉ. เน้นในเบื้องต้น คือเรื่องโรคหลอดเลือดสมองแตกหรือตัน และอุบัติเหตุทางสมองและไขสันหลัง แต่เวลานี้ภาวะฉุกเฉินใหญ่ของประเทศคือ การระบาดของโควิด ๑๙ ระบบข้อมูลที่พัฒนาขึ้นที่เชียงใหม่จึงได้ทดลองใช้เพื่อการนี้ และพบว่า ช่วยให้การระบาดระลอกแรกและระลอกสองอยู่ภายใต้การควบคุมได้อย่างน่าชื่นชม
ในปีที่ ๒ ในส่วนของภาคเหนือมีโครงการวิจัย ๑๑ โครงการ ภาคตะวันออกฉียงเหนือที่ขอนแก่น (นพ. ธวัชชัย มี ๑๑ โครงการ และภาคใต้ (รศ. ประณีต ส่งวัฒนา) มี ๖ ชุดโครงการ ครอบคลุมทั่วภาคใค้ และมีเรื่องการพัฒนาระบบเวชศาสตร์ฉุกเฉินทางทะเลร่วมกับ สพฉ.
วิจารณ์ พานิช
๒๐ ก.ค. ๖๔
ไม่มีความเห็น