ดอกไม้


Sila Phu-Chaya
เขียนเมื่อ
  • "Happy Ba นำพาเจ้าสำนักมาพบกัน
  •   Large_43happyba1
  • ภาพแรกอาจารย์จัน นักยอน นักสร้าง สร้างพื้นที่แห่งความฝันที่เป็นจริง
  • คนที่สองอาจารย์ หมอ ป. ผู้ก่อไฟปราถนาชักพาให้หลายคนให้ได้ทบทวนตนเอง พัฒนาศักยภาพจากภายในนำไปสู่การแบ่งปันแห่งการเปลี่ยนแปลง เห็นทีจะต้องขอประมือฝึกปรือวิชาด้วยสักครั้ง  
  • คนที่สาม นักกฎหมายสาว เจ้าสำนักนพลักษณ์ ผู้หยั่งรู้ กาย จิต สังคม ปัญญา อาจารย์ ศิลา  
  • คนที่สี่ ยิ่งไม่ธรรมดา นักวิจัยอิสระ แห่ง"ปริศนาภูมิปัญญาท้องถิ่น" ที่นำงานวิจัยมาแก้ปัญหาชุมชน  
  • ส่วนภาพที่สอง ยิ่งต้องคารวะ เมื่ออาจารย์วัลลา ฉายา KM ความดัน เบาหวาน ที่เชี่ยวชาญเยี่ยมยุทธ ปฐพี"เสียมก็ก   แนะนำอย่างไม่ตกหล่น
  • หนุ่มเดียวหนึ่งนั้นที่ผู้เฒ่า ยังไม่เคยประมือ คือหนุ่มดร.ป็อบ
  • คงมีโอกาสวาสนาได้มาพบพาน เพื่อสานสืบเจตนา นำพาชุมสู่การสร้างสุข   แฮปปี้ บาร์ พื้นที่แห่งความสุข พื้นที่แห่งความปลอดภัย ในการแสดงความคิดเห็น ผิดพลาดพลั้งเผลอก็อภัยแก้ไขให้กันตลอด   เฒ่าพัทลุง นาม วอญ่า ขอคารวะ ในการสร้างพื้นที่แห่งความสุข นำพาผู้กล้าที่เยี่ยมยุทธ์มาพบกัน........ใน GotoKnow"

ความเห็นท่านวอญ่า ในบันทึก Happy Ba CoP ใต้ร่มไม้ Gotoknow http://www.gotoknow.org/blogs/posts/499040

                                                         ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๕

9
1

เมื่อ go ก็ know เอง?

Live online
เขียนเมื่อ
1,350
44
43
ผศ.ดร. ทิพยวรรณ นิลทยา
เขียนเมื่อ

วันฮารีรายอ เสียงประทัดที่ต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าวันนี้ เป็น

เสียงที่บอกถึงการเฉลิมฉลองของพี่น้องชาวไทยมุสลิมใกล้บ้าน เมื่อวานนี้มีเพื่อนบ้านเปาะจิ(ลุง) ที่นับถือ แม่นำตูปะ(ช้าวต้มสามเหลี่ยม)กับสะตอดองมาให้

กล่าวกันว่า เทศกาลสำคัญๆในอดีตชาวบ้านสามจังหวัดชายแดนใต้จะนิยมทำข้าวต้มสามเหลี่ยมรับประทานกัน ซึ่งการทำก็ค่อนข้างยุ่งยากเพราะ สมัยอดีตนั้นการหาข้าวเหนียว การหามะพร้าวมาขูดด้วยกระต่ายขูดมะพร้าว คั้นกะทิด้วยมือ แล้วนำวัตถุดิบมากวนเตาถ่านหรืออั้งโล่ไม้ฟืน จากนั้นจึงนำมาห่อด้วยในกระพ้อซึ่งต้องหาจากในป้าหรือในสวน วิธีการห่อก็มีลักษณธพิเศษที่ต้องเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยเฉพาะหากห่อแบบมุสลิมจะมีลักษณะการห่อที่แน่นมากไม่มีมุมใดของสามเหลี่ยมที่ข้าวเหนียวหลุดรอดออกมา เวลาห่อย่าบอกว่าต้องดึงให้ตึงจนกว่านำ้มันมะพร้าวที่ได้จากข้าวเหนียวที่กวนกับกะทินั้นจะหยดออกมาจึงเรียกว่าแน่นจริง จากนั้นจึงนำไปนึ่งหรือต้มให้สุกอีกครั้ง

ในปัจจุบันการทำข้าวต้มสามเหลี่ยมในเทศกาลฮารีรายอยังมีอยู่บ้าง มองว่าวัตถุดิบต่างๆมีความสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งข้าวเหนียว กะทิที่คั้นขายเรียบร้อยแล้ว แต่ปัญหา คือ เริ่มหาใบกะพ้อยากขึ้น ประกอบกับ การทำขนมชนิดนี้ไม่ง่ายนักทั้งการกวน การห่อ ซึ่งต้องอาศัยการถ่ายทอดภูมิปัญญาผ่านประสบการณ์ ทำให้ยุวชนรุ่นหลังนิยมซื้อจากตลาด สั่งทำ หรือ ซื้อขนมที่มีอยู่ตามท้องตลาดมาทดแทนเพื่อนำไปให้ญาติมัตรในเทศกาลอันสำคัญนี้

จะทำอย่างไรจึงจะคงไว้ซึ่งภูมิปัญญาให้ยาวนานสืบต่อไป

7
2
ณัฐพัชร์
เขียนเมื่อ

"อย่ามัวแต่มองหาความพึงพอใจ แต่จงรีบปฏิบัติเสีย .."

                                

-------------------------------------------
ภาพ : บทบาทของมนุษย์กับห้วงเรียนรู้
บันทึกภาพ:
   ณัฐพัชร์ ทองคำ

กล้อง :  iPhone4
สถานที่:   เขตทวีวัฒนา,กรุงเทพฯ (หลังน้ำลด)
วัน เวลา: ๔ กุมภาพันธุ์ ๕๕

4
1
dejavu monmon
เขียนเมื่อ

ขณะที่นั่งตรวจงาน มักมีเสียงเตือนซึ่งไม่ใช่ใคร หากแต่ตัวเราเตือนตัวเราเอง คำเตือนนั้นคือ "อย่ามักง่าย" มักเกิดขึ้นขณะตั้งใจทำอะไรหลายๆอย่างเสมอๆ บางครั้งจะได้ยินเป็นเสียงครูบาอาจารย์ที่เคยอบรมเรามาเมื่อสมัยก่อน

2
0
ทิมดาบ
เขียนเมื่อ

ผมไปประชุมที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

ตั้งแต่วันที่ 18-20 มิ.ย.55

ผมกลับมาถึงบ้าน...รู้สึกคิดถึงบ้านโกทูโกว์...หลายไปหลายวัน...หยากไย่...จนหลงทางภายในบ้าน

*****************

ผมไม่ได้กลับไปเขื่อนอุบลรัตน์...หลายปี..ตั้งแต่เพื่อนๆ 39 คน

เสียชีวิตจมน้ำ...จากแพ...ล่ม

ความรู้สึกผมไม่อยากไป...แต่ไปเพราะต้องไปทำงาน

(ผมไม่ได้เกลียดที่นี้...เป็นเพราะรู้สึกว่า...ใจตนเองไม่แข็งแรงพอ...

กับความทรงจำอันแสนเศร้า...และฝันร้าย)

ผมปลีกตัว...มาไว้อาลัยให้เพื่อนๆ...เหม่อมองสายน้ำที่นี้...พร้อมกับหยดน้ำตาที่มันออกมาอย่างไม่รู้ตัว

ถึงที่นี้จะเปลี่ยนแปลงมากมาย...แต่มันยังมีเรื่องราวที่ยังคงติดตัวไปกับชีวิตของผม

ผมมองเห็นพระพุทธรูปสีขาวตั้งตะหง่านบนภูเขา...ต้นไม้เรียงราย

เสียงสายน้ำ...เสียงให้กำลังใจจากเพื่อน...กระซิบบอกผมว่า

เพื่อนมีความสุข...เพียงแต่ผมไม่เห็นเขาเท่านั้น

ขอให้หยดน้ำตาเยียวยาผม

และเยียวยาจักรวาล......

 

10
2
ทิมดาบ
เขียนเมื่อ

เราเคยเป็นคนแปลกหน้า

เราเคยเป็นคนรู้จัก...

เราเคยเป็นคนรักกัน...

อยากกลับไปไม่รู้จักกันอีกครั้ง...

อยากกลับไปเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน­อีกหน...

อยากย้อนเวลากลับไป..ช่วงเวลาที­่เราต่างตกหลุมรักกัน...

คำว่าเคย... แปลได้ตรงตัวว่า.. เคยมี...และมีอยู่

บางอย่างที่ว่างเปล่าในวันนี้... เคยมีเรื่องราวซ่อนไว้..

...ดีใจที่ครั้งหนึ่ง ..เราเคยรักกัน...

...ดีใจที่วันนี้...เรายังคงรักกัน...

...ดีใจที่วันนี้...เรายังมีความรู้สึกรักกัน...

***********

ผมแอบเขียนถ้อยคำเล็กๆ บนกระดาษสีแผ่นเล็กๆ 

ใส่ในกระเป๋าเงินของภรรยา...

ผู้ไม่เคยได้ไปไหน...ไปคนเดียว...ไกลจากบ้าน...

เขาเป็นแม่ของบ้านจริงๆ...

ถ้าเขาเปิดอ่าน...คงรับรู้ว่า...ไม่ได้โดดเดี่ยวลำพัง

คิดถึงบ้าน...แหงนมองบนท้องฟ้า...ความรักและความคิดถึงอยู่ในนั้น...

 

5
2
k-jira
เขียนเมื่อ

555 ได้พยายามเปลี่ยนรูปแทนตัวใหม่ แต่ทั้งราอันและจอมยุทธหญิง ก็ยังคงเกาะไว้อย่างเหนียวแน่นไม่ยอมเปลี่ยนให้ 555

3
2
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท