สวัสกดีค่ะคุณเอก จตุพร การมีโครงการ พอ.สว.ทางอากาศ ช่วยให้สถานีอนามัยรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาก ทั้งเป็นการช่วยเหลือคนไข้ได้ทันท่วงที และทุกวันอังคารก็มีแพทย์จากโรงพยาบาลชลบุรีลงมาตรวจคนไข้ด้วย คล้ายๆกับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพทุกวันนี้ แต่ทำไมบรรยากาศมันไม่เหมือนก็ไม่รู้ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ อ.นุ
ขอบคุณนะคะที่ยังติดตามอ่านเรื่องของหมออนามัยเรื่อยมา ช่วงเวลาดังกล่าวนั้นชนบทไทยเรายังลำบากอยู่มาก ยิ่งยามเจ็บป่วยยิ่งเป็นแัญหาใหญ่ ดูจะเดือดร้อนไปทั้งหมู่บ้าน บางทีพากันขึ้นรถไปส่งคนไข้ที่โรงพยาบาล หมอรับตัวไว้และให้ญาติๆกลับบ้าน ปรากฏว่ารถคว่ำขณะเดินทางกลับ เสียชีวิต พิการก็มีค่ะ ไม่รู้จะบอกว่าอะไรดี
สวัสดีค่ะคุณนงรัตน์ ครั้งแรกที่ออกไปอยู่ในชนบทโอกาสเรียนต่อน้อยมาก เพราะการเดินทางก็ไกล เคยลงเรียนที่ ม.รามคำแหง ได้ สองเทอม ก็หมดแรง เพราะกลับบ้านต้องโบกรถเข้าหมู่บ้าน เกือบสามทุ่ม รู้สึกว่าอันตรายมาก เลยเลิกเรียน แล้วก็มุ่งทำงานอย่างเดียว แต่โครงการ พอ.สว.ทางอากาศนี้ อาจารย์หมอหลายท่านได้ให้ความรู้มากมาย จนไม่รู้สึกว่าตัวเองด้อยโอกาสเลยค่ะ
สวัสดีค่ะพี่นาง นางนาท พี่คะ เวลาหน่วยมาที่สถานีอนามัยคุณหมอจะให้เกียรติหมออนามัยมาก โดยการให้พวกหนูเป็นคนตรวจ และถ้าสงสัยอาการให้คุณหมอตรวจซ้ำ หรือบางทีคุณหมอตรวจพบอาการผิดปกติ แล้วให้พวกหนูตรวจซ้ำว่าได้ผลเหมือนกันไหม แบบนี้ ทำให้หนูมีความชำนาญมากขึ้น และเพราะหนูเองก็เพิ่งจบมาด้วยค่ะ เป็นโอกาที่ดีเหลือเกินค่ะพี่
สวัสดีค่ะคุณทิมดาบ อ่านบันทึกนี้แล้วคล้ายๆปัจจุบันเหมือนกัน ที่มีนโยบายเอาแพทย์ พยาบาลลงไปช่วยตรวจรักษาคนไข้ แต่อย่างที่บอกว่าบรรยากาศมันไม่ใช่ น้องทิมดาบช่วยวิเคราะห์หน่อยนะคะ
สวัสดีค่ะคุณคนบ้านไกล ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านบันทึก สังเกตได้ว่า คนปฏิบัติธรรมมักอารมณ์ดี จริงนะคะ เพราะคุณคนบ้านไกลมีบันทึก ฮา ฮา เสมอเลย ช่วยทำให้หมออนามัยรู้สึกแจ่มใสตามไปด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ ธ.วั ช ชั ย
ขอบคุณนะคะที่กรุณามามอบดอกไม้กำลังใจให้ สถานีอนามัยวันนั้น มาจนถึงวันนี้ ก็ได้รับการพัฒนาไปมาก แต่ความพิเศษของอนามัยก็ยังคงอยู่นะคะ