อนุทินล่าสุด


bop
เขียนเมื่อ

ในที่สุดความแน่นอนบนความไม่แน่นอนก็เกิดขึ้นกับผม เมื่อคืนนี้ เวลา ๑๙.๐๐ น. เศษ ลูกชายคนเดียวของผมก็ต้องจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ การเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดขึ้นกับทุกคน ไม่เลือกว่าเป็นเพศใด สถานะใด ความตายก็เกิดขึ้นได้กับทุกคน ผมมีลูกคนเดียวความยากจนจึงทำให้ผมมีความคิดว่ามีลูกเพียงคนเดียวก็พอ เราไม่มีฐานะจะเลี้ยงดูให้เขาเติบโตอย่างมีคุณภาพ วันนี้จึงเป็นวันที่ผมต้องเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผม ผมยืนดูจนถึงวาระสุดท้ายของลูกชายผม การตายเป็นการจากกันอย่างถาวรไม่อาจย้อนกลับมาพบกันได้อีก ความรักและความผูกพันเท่านั้นที่ยังคงเหลืออยู่ในใจของเราตลอดไป ลูกเอ๋ยไปสู่สุคติภพนะลูก สิ่งใดที่ลูกได้ทำไว้ในขณะที่ยังมีชีวิต ที่เป็นสิ่งไม่ดี พ่อคนนี้อโหสิกรรมทุกเรื่อง พ่อตั้งใจให้ลูกเกิดมาพ่อรักลูก พ่อคิดอยู่เสมอว่าพ่อต้องตายก่อน จึงจัดหา จัดเตรียมไว้เพื่อลูกในอนาคตจะได้มีความสุข ให้ต่างจากพ่อที่เกิดมาเป็นคนจน ต้องดิ้นรนแสวงหาด้วยตนเอง วันนี้พอจะมีให้ลูกใช้ได้ไปจนตายแต่ลูกกลับมาตายก่อนพ่อ พ่อคนนี้รักลูก



ความเห็น (2)

ผมขอแสดงความเสียใจด้วยครับอาจารย์

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้ผมต้องสารภาพผิดมันเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีเลยสำหรับผม เรืองมีอยู่ว่าเมื่อวาน วันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ผมกลับถึงบ้านราว ๑๙ นาฬิกา ไม่พบหลานสาว อายุ ๑๒ ปี มองเห็นกระปุกออมสินรูปช้างสีชมพูของธนาคารออมสินถูกแกะฝาปิดด้านล่างเพื่อนำเหรียญออกจากกระปุกนอนตะแคงวางอยู่ผมเกิดความโมโหว่าหลานเอากระปุกที่ผมใส่เหรียญไว้เต็มแกะเอาเหรียญออก ทุกๆวันผมจะใส่เหรียญลงกระปุกทุกวันๆละหนึ่งเหรียญ บางวันก็เหรีญห้าบาท บางวันก็เหรียญบาท หรือเหรียญสิบบาท แล้วแต่จะมีอยู่ในกระเป๋า ผมนำกระปุกใบนี้จากห้องทำงานเพื่อนำมาเก็บไว้ที่บ้านซึ่งมันเต็มไม่สามารถใส่ได้อีกแล้ว พอเห็นกระปุกถูกเปิดออกก็โกรธหลานที่ไม่ขออนุญาต พอหลานกลับมาถึงบ้านสอบถามหลานบอกว่าไม่ได้เอาไปเป็นกระปุกของตนเอง ผมไม่เชื่อใช้ไม้ตีเธอไปหนึ่งที เธอร้องไห้แล้วเข้าห้องอาบน้ำผมเองไปดูหากระปุกพบว่า กระปุกของผมอีกใบหนึ่งอยู่ในต้อเหมือนกันและเงินเหรียญทีมีอยู่ยังเต็มไม่ได้เปิดออกแต่ผมเองเข้าใจผิด จึงขอโทษหลานด้วยความเสียใจ ผมวันนี้ไม่สบายใจเลยที่ทำผิดกับหลานเมื่อวานไม่รอบคอบที่จะตรวจตราให้ดีเสียก่อนขอโทษหลานจริงๆ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

ผมเกิดที่บ้านแม่ผมคลอดผมด้วยการทำคลอดของหมอพื้นบ้าน เสียดายที่ผมไม่ได้เคยถามแม่ว่าชื่ออะไร ผมอยากจะบันทึกคุณงามความดีของท่านไว้ที่ช่วยทำให้ผมมีชีวิตแตบโตมาจนถึงวันนี้ ผมเองไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องโชค เรื่องการดูหมอมากนัก แต่ผมเชื่อว่าถ้าเรามีความพยายามในสิ่งใดตั้งใจทำในสิ่งใด ความสำเร็จมันต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว สุดแท้แต่ว่าเราจะมีพื้นฐานที่จะช่วยให้สำเร็จมากน้อยเพียงใด เมื่อหลายปีผมยืนรอรถเมล์ไปทำงานระหว่ารอรถ เห็นรถยนต์ส่วนตัววิ่งผ่านไปมาหลายคัน คิดอยู่ในใจว่าวันหนึ่งเราต้องมีรถขับบ้าง ผมซื้อรถยนต์คันแรกจากการแนะนำของครูคนหนึ่งซึ่งทำงานอยู่กับผมที่โรงเรียนสุเหร่ามะสง อำเภอไทรน้อย เป็นรถยนต์อายุการใช้งานก็หลายปี ยี่ห้อ เปอโยต์ 404 เจ้าของเปลี่ยนเครื่องใหม่ ทำสีใหม่เป็นสีครีม ทะเบียน นนทบุรี 2207 เจ้าของบอกขายราคา 45,000 บาท ผมไปดูแล้วก็พอใจ ผมขอกู้เงินสามัญจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนนทบุรี ได้เงินแล้วผมก็ไปเอารถวันแรกผมไม่เคยขับรถยนต์มาก่อนเลยผมตัดสินใจขับรถจากบางกรวยไปโรงเรียนสุเหร่ามะสง คิดอยู่ในใจมันบ้าหรือเปล่าขับรถโดยไม่มีการซักซ้อมมาก่อนเลย ในที่สุดรถยนต์คันนี้ก็เป็นครูของผมทำให้ผมสามารถขับรถได้ และเปลี่ยนรถคันที่สองโดยซื้อต่อจากคุณนรากร  ไหลหรั่ง เป็นรถยนต์ยี่ห้อนิสสันซันนี่ สีเขียว เครื่องยนต์ 1300 ซีซี สภาพใหม่ คราวนี้ไปได้ไกลมากขึ้น เหนือสุดเชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ใต้สุดยะลา ภูเก็ต ตะวัตก สังขละกาญจนบุรี ตะวันออก จังหวัดตราด ผมใช้รถยนต์คันนี้ประมาสามแสนกิโลเมตร ผมได้ปรับปรุงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนะ 11200 บาท ผมก็ซื้อรถยนต์คันใหม่ป้ายแดง นิสสันฟรอนเทียรตกแต่งเสร็จเรียบร้อย สมใจที่คิดไว้ว่าวันหนึ่งผมจะต้องมีรถยนต์ป้ายแดงสักคัน วันนี้เหลือเวลาอีกเพียงห้าเดือนเศษผมจะเกษียณอายุราชการ ผมจึงติดต่อซื้อรถยนต์นั่งคันใหม่ให้เป็นของขวัญกับตนเองในโอกาสอายุครบ ๖๐ ปี พร้อมปืนพก ๙ มม. อีกหนึ่งกระบอกเป็นความตั้งใจที่คิดไว้นานแล้วที่จะต้องมีให้ได้ และของขวัญชิ้นที่สามรอว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ สวัสดีครับ



ความเห็น (1)

ของขวัญชิ้นที่สามหลังเกษียณ อะไรครับ ภริยาหรือเปล่าเอ่ย

bop
เขียนเมื่อ

เหลือเวลาอีกห้าเดือนเศษผมขอตั้งใจทำงานให้มากที่สุดเพราะหลังจากนี้ไปแล้วผมอยากจะทำอะไรให้กับโรงเรียน อย่างที่ใจต้องการก็คงไม่อาจทำได้อีกขณะนี้เวลา ๑๗:๓๐ น. ผมยังคอยดูการซ่อมแซมโรงเรียนที่ว่าจ้างให้ปรับปรุงทาสี ปรับปรุงห้องเรียนถึงแม้ว่าเพื่อนครูจะกลับบ้านกันไปแล้วตั้งแต่เที่ยง-บ่ายก็ชั่งมันเราขอทำงานอย่างที่ใจเราต้องการ ความดี คำชม ที่มาจากคนอื่นไม่มีความหมายสำหรับเรา แต่ความภูมิใจที่ทำดีสำคัญกว่า วันนี้ช่างทาสีได้ดำเนินการทาสีไปได้ประมาณ ๘๐% ของงานทั้งหมด ห้องเรียนชั้น ป.๑ ที่ปรับปรุงเพื่อรองรับการใช้อินเทอร์เน็ตแทปเล็ตก็กำลังดำเนินการ ผมจะต้องทำห้องเรียนห้องนี้เป็นห้องเรียนตัวอย่างก่อนที่ผมจะเกษียณอายุราชการอีกห้าเดือน ผมให้สัญญาครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

สามสิบห้าปีเศษที่ผมรับบราชการการเริ่มต้นจากการเข้ารับตำแหน่งข้าราชการครูตำแหน่งครู ๑ ระดับหนึ่ง เงินเดือน ๑,๐๘๐ บาท จะหนึ่งพันหนึ่งร้อยก็ไม่ด้ ดูเหมือนผู้ที่กำหนดอัตราเงินเดือนคงไม่เห็นความสำของเงินเดือนเอาเถอะผมก็อดทนมาได้จนแป่านนี้                                                                                ุ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันที่เรามีความรู้สึกว่าเป็นทุกข์จะด้วยเรื่องอะไรก็ตามแสดงว่าวันนั้นเรามีความสุขน้อย แต่ถ้าวันไหนเรามีความสุขก็แสดงว่าวันนั้นเรามีความทุกข์น้อย ดังนั้นในทุกๆวันเราจะมีทั้งความทุกข์และความสุขคละกันไป เมื่อเ้้ช้าตื่นนอนขึ้นมาปวดเมื่อยไปทั้งตัว ขาที่หกล้มบาดเจ็บก็ยังไม่หายดี วันเสาร์และอาทิตย์ทั้งสองวันต้อไปดูแลต่อเติมบ้านที่สร้างใหม่ยังไม่แล้วเสร็จดี เพราะอีกสองวันเด็กๆเขาขออนุญาตไปพักผ่อนให้คลายจากการทำงานที่โรงเรียนตั้งแต่สงกรานต์ยังไม่ได้ไปพักผ่อนที่ไหนกันเลย ตื่นเช้าขึ้นมาแทบจะลุกจากที่นอนไม่ไหวเพราะทั้งปวดเมื่อย และข้อเท้าที่ยังเจ็บและบวมอยู่ จำเป็นต้อไปทำงานเพราะนัดหมายการประุชุมข้าราการครูไว้เวลา ๙.๐๐ น. และครูอัตราจ้าง เวลา ๑๓.๐๐ น. ได้พูดคุยกับข้าราการครูในเรื่องสำคัญๆ เป็นต้นว่าขอความร่วมมือข้าราการครูทุกท่านช่วยดูแลการซ่อมแซมโรงเรียนซึ่งได้้เงินในการปรับปรุงอาคารเรียนแปดแสนบาทเศษ การจัดทำเอกสารที่จะต้องใช้ในการเรียนการสอน การปรับเปลียนห้องเรียนบางห้องเพื่อความเหมาะสม ปรัปรุงห้องเรียนั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งให้มีสภาพที่จะรองรับการใช้เทคโนโลยี่ในการเรียนการสอนของปีการศึกษา ๒๕๕๕ ได้มอบหมายครูทำหน้าที่ครูประจำั้ั้ชั้นแต่ละชั้นเรียบร้อยแล้วก็นัดหมายเพื่อประชุมวานวิาการพร้อมกับเปิดเรียนวันแรกในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕ แต่ให้ข้าราการครูมาจัดเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันที่ ๑๐ พฤษภาคม เป็นต้นไป ความทุกข์ของผมก็คือต้องติดตามการดำเนินการของุคากรที่มอบหมาย เสร็จจากประชุมข้าราการครูแล้วต้องไปดูงงานการปรับปรุงห้องเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่หนึ่ง กำลังมีความทุกข์ทันใดนั้น คุณจารุณี เลขาส่วนตัวก็โทรศัพท์ชวนไปกินข้าว กำลังหิวและคิดว่าจะไปกินข้าวที่ไหนดีปกติเธอไม่เคยชวนผมไปกินข้าว ความสุขน้อยๆของผมก็เกิดขึ้นและผมก็ตอบรัเธอตกลงไปทานเข้ากลางวัน แต่ได้นัดหมายครูอัตราจ้างไว้ว่าจะเดินทางกลับมาประชุมต่อ ทานเข้าที่ร้านปลายจวักเสร็จแล้วก็รีบกลับมาประชุมในส่วนของครูอัตราจ้างต่อ เน้นกระบวนการทำงานให้มีความขยันให้มากขึ้น รักษาคตวามสามัคคีของหมู่คณะ ให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกันและได้รับปากกับพวกเธอไว้ว่าจะดูแลการให้โบนัสพิเศษประจำเดือนเมื่อสิ้นเดือนกันยายน      



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

ผมเคยคุยกับเพื่อนๆบ่อยครั้งเมื่อถูกถามว่าหลังเกษียณอายุราชการแล้วจะไปทำอะไร จะอยู่ทึ่บ้านปัจจุบันหรือเปล่า จะไปค้าขายหรือทำอะไรบ้าง ผมเตรียมตัววันที่ผมจะถึงวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ว่าจะทำอะไร ตั้งแต่เมื่อผมดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนวัดเชิงเลน (ขณะนั้นสังกัด สปอ.ปากเกร็ด) เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ นั่นหมายความว่าอีก ๑๕ ปี ผมจะเกษียณอายุราชการ ผมไปซื้อที่ดินแปลงหนึ่งที่อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยไม่บอกใหใครรู้ วันเสาร์-อาทิตย์ผมจะไปปลูกต้นไม้ ครั้งละต้น สองต้น เท่าที่จะใส่รถคันเก่าๆของผมไปได้ ปลูกแล้ว ตายบ้างขึ้นบ้าง กว่าจะได้คุ้นเคยกับคนพื้นที่ให้ช่วยหาคนรับจ้างดูแลรดนำต้นไม้ให้ ในที่สุดผมก็ได้คนดูแลรดน้ำต้นไม้ เป็นชาวบ้านในระแวกนั้นสูงอายุสักหน่อย ชื่อรถจนา แก่คิดผมเดือนละ ๔๐๐ บาท ดูแลรดน้ำต้นไม้ไม่กี่ต้น วันเวลาผ่านไปปีหนึ่งต้นไม้โตขึ้นบ้าง พื้นที่ว่างๆผมให้แกปลูกไม้เลื้อยเป็นต้นว่า ฟักทอง แตงกวา บวบ ก็ได้ผลดี ผมเริ่มต้นด้วยการปลูกต้นกล้วยน้ำว้าไว้สักสองสามต้น เพื่อให้ร่มเงากับต้นไม้อื่นๆ ผมไปหาซื้อต้นสักมาปลูกรอบบริเวณที่ของผม ทุกต้นขึ้นโตทั้งหมด สองปีผ่านไปผมรู้สึกมีกำลังใจที่จะทำที่ดินแปลงนี้ให้ดีขึ้น ด้วยการหาซื้อพันธไม้ต่างๆมาปลูก ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง ขนุนพันธ์ต่างๆ มะนาว มะกรูด มะเฟือง มะพร้าว คำตอบของผมก็คือวันนี้ผมมีบ้านปลูกไว้อยู่อาศัย ๓ หลัง ต้นไม้ให้ผลแล้วทุกต้น ผมใช้เวลาเตรียมตัวก่อนเกษียณอายุราชการ ๑๕ ปี จากครูจนๆคนหนึ่งที่เริ่มต้นด้วยการกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนนทบุรี ที่ได้กู้เงินไปก่อร่างสร้างตัว เหลือเวลาอีกเพียง ห้าเดือน กับ สิบวัน ครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

เมื่อวันที่ผมมีอายุครบ ๖๐ ปี วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๕ ผมมีความตั้งใจมาก่อนหน้านี้  ที่จะจัดทำบุญให้กับตนเอง แต่ด้วยความจำเป็นที่ผมไม่สามารถทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ทำได้เพียงแค่ไปถวายสังฆทานที่วัด ทำได้แค่นี้ผมก็พอใจสวดมนต์แล้วอธิษฐานไปถึงแม่ให้วิญญาณของแม่ช่วยปกปักรักษาคุ้มครองลูกคนนี้ให้พบแต่สิ่งดีๆ พบแต่คนดีๆขอให้มีแต่คนที่รักเราหวังดีกับเรา ตั้งใจอยากจะได้ของขวัญให้กับตนเองในวันเกิดครบรอบ ๖๐ ปี มีสามอย่างที่ตั้งใจไว้นานพอสมควร หนึ่ง อยากได้ปืนอีกสักกระบอกเป็นปืนกึ่งอัตโนมัติ ขนาด ๙ มม. ผมก็ได้รับใบอนุญาตให้ซื้อและได้ไปซื้อเรียบร้อยแล้วเป็นปืน     ขนาด ๙ มม.ยี่ห้อ Baretta 92 FS พร้อมกับได้ทดสอบไปบ้างพอสมควร     ผมอยากได้ปืนเพราะมันเป็นสัญญลักษณ์แสดงความเป็นผู้ชายจริงๆ ไม่ใช่ชายเทียมๆ และไม่มีเป้าประสงค์นำไปใช้ก่อเหตุหรือข่มเหงใคร   และเพื่อใช้ปกป้องทรัพย์สินของตนเองตามควรแก่เหตุ        สอง  ผมอยากมีรถคันใหม่ใช้ในยามที่เกษียณอายุราชการในวันที่ ๑ ตุลาคม ๕๕ เป็นรถยนต์ขนาดเล็กกว่าที่ใช้อยู่เดิม    ผมก็ได้ไปจองไว้แล้วหนึ่งคันกำหนดส่งมอบในเดือนมิถุนายน ๕๕ สิ่งที่สาม  ที่ผมขอในช่วงท้ายนี้ของชีวิตซึ่งมันอยู่ในใจของผมมาตลอดคือกำลังใจจากคนที่ผมรักเพื่อทำให้ผมมีความเข้มแข็งในโฮกาสช่วงท้ายของชีวิต   ที่จะต้องดูแลตนเองมากขึ้น ผมได้เตรียมวางอนาคตภายหลังเกษียณอายุราชการมานาน  ถึง ๑๕ ปีผมจึงมีความพร้อมที่จะดำรงชีวิตภายหลังเกษียณอย่างไม่ขัดสน    แต่กำลังใจจากคนที่ผมรักเท่านั้นสำคัญมากๆ สวัสดีครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๕ เป็นวันสงกรานต์ ตื่นเช้าทำงานส่วนตัวเสร็จแล้วก็ไปพรมน้ำอบกระดูกแม่ นึกถึงเมื่อคราวที่แม่ยังอยู่ต้องไปหาแม่อาบน้ำให้แม่ ซื้อเสื้อและผ้าถุงลายดอกให้แม่ใหม่  ได้เห็นแม่ร้องไห้ด้วยความปลื้มใจที่ลูกคนนี้แม้จะอยู่กับแม่แค่ ๑๑ ปี ต้องจากแม่ไปอยู่กับคนอื่นแต่ในที่สุดผมก็เป็นลูกที่ดีของแม่ อีก ๕ เดือน ๑๗ วัน ผมก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว    วันเวลามันผ่านพ้นไปเร็วมาก ทุกคนมีเท่ากันคือ เวลา ไม่มีใครมีกมากกว่ากัน   เพียงแต่ใครจะใช้เวลาที่มีอยู่ทำประโยชน์อะไร ให้คุณหรือให้โทษกับตนเองและครอบครัว ลูกชายผมวันนี้ยังนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล    เป็นเพราะเขาใช้เวลาที่มีเป็นไปในทางที่ให้โทษกับตนเองมากกว่า ลูกชายผมไม่เคยทำอย่างที่ผมทำให้แม่เลยสักครั้งเดียว



ความเห็น (1)
bop
เขียนเมื่อ

สองปีเต็มที่ผมมาทำหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสำโรงฯ วันที่ ๓๐ มีนาคม ๕๓ผมเดินทางมารับหน้าที่ฯตลอดเวลาที่ทำงานอยู่ที่นี่ผมดูการทำงานของบุคลากรที่นี่ผมต้องขอชื่นชมการทำงานของบุคลากรที่นี่ ข้าราชการครูที่มีความรับผิดชอบดีเยี่ยมเอาใจใส่ทั้งในการสอนและงานพิเศษที่ได้รับมอบหมาย คุณสมเพชร กิจบุญชู ทำหน้าที่ครูประจำชั้น ป.๖ และรับผิดชอบงานการเงิน ทำหน้าที่รักษาการแทน ผอ. อ.สมเพชร สอนหนังสือก็ดีเพราะห้อง ป.๖ อยู่ใกล้กับห้องทำงานของผม นั่งฟังเวลาที่สอนนักเรียน เอาใจใส่ดีมาก งานการเงินก็ไม่บกพร่อง วันหยุดปิดภาคเรียนไม่ว่าภาคเรียนไหนต้องมาทำงานที่ยังไม่แล้วเสร็จ ขณะนี้ผมให้ทำหน้าที่ดูแลงานวิชาการไปพลางก่อน ต้องขอชื่นชมไว้ตรงนี้ อีกคนหนึ่งคุณสมร  เมืองเผือก ข้าราชการครู คศ. ๓ มาถึงโรงเรียนก่อนคนอื่นทุกวันในจำนวนข้าราชการครูทั้งหมด จะมานั่งทำงานที่รับผิดชอบคืองานบริหารทั่วไป งานสอนก็มีความตั้งใจสูงในการสอน โรงเรียนเลิกยังสอนพิเศษให้กับนักเรียนอีกวันลัหนึ่งชั่วโมง วันเสาร์ก็นัดเด็กนักเรียนมาสอนพิเศษ ขอชื่นชมไว้อีกคนหนึ่ง สำหรับครูอัตราจ้างที่มีความขยันในการทำงานที่ต้องชื่นชม คุณนวพร  อุ่นแจ่ม เป็นครูอัตราจ้างด้วยเงินงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ดูแลรับผิดชอบงานห้องสมุดมาทำงานแต่เช้าก่อนใครๆ วันหยุดก็มาทำงานปิดภาคเรียนก็มาทำงาน ไม่เคยบ่นตั้งใจสอนมอบหมาให้ทำงานทำด้วยความเต็มใจเป็นครูตัวอย่างที่ดีได้อีกคนหนึ่ง คุณประเทืองทิพย์  จ่ายวารี ครูอัตราจ้างด้วยงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ที่มีความขยันในการทำงานมาถึงโรงเรียนแต่เช้าไล่เรี่ยกับคุณนวพร มีความขยันจริงๆ คุณสาวิทย์  สุขสำราญ ครูอัตราจ้างด้วยงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี อีกคนหนึ่งที่ตั้งใจสอนนักเรียนดูแลรับผิดชอบเป็นหัวหน้าสายชั้นอนุบาล มีความละเอียดในการสอนนักเรียนทุกคนรักและอยากอยู่ด้วยอยากมาโรงเรียน ผมมอบหมายงานพิเศษให้ทำมีความตั้งใจในการทำงานดีเยี่ยม ทั้งหมดที่กล่าวถึงต้องขอปรบมือให้ด้วยความจริงใจ



ความเห็น (1)

ขอร่วมปราบมือชื่นชมด้วยคนค่ะ รวมทั้งชื่นชมท่านผอ.ด้วยค่ะ

bop
เขียนเมื่อ

ผมตั้งใจไว้ตั้งแต่วันแรกๆที่มาทำหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสำโรงฯจะต้องทำโรงเรียนนี้ให้มีสวยงามมีภูมิทัศน์ที่ส่งเสริมการเรียนการสอน เป็นโรงเรียนที่ผู้ปกครองอยากส่งลูกหลานมาเรียนหนังสือที่นี่ ผมได้ดำเนินการไปแล้วคือปรับปรุงการใช้สื่อทางไกล ด้วยการติดตั้งเครื่องรับโทรทัศน์ให้ครบทุกห้องเรียนๆสองเครื่องด้วยอุปกรณ์ติดตั้งโทรทัศน์ที่ได้มาตรฐานจัดหาเครื่องรับสัญญาณทางไกลชนิดที่รับช่องสัญญาณอื่นๆได้มากขึ้น ตั้งแต่ห้องเรียนชั้นอนุบาสามขวบถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน ๑๔ ห้อง ปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์ให้สามารถใช้จัดการเรียนการสอนได้อย่างสมบูรณ์มีระบบอินเตอร์เนตที่ใช้งานได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง สามารถใช้สัญญาณไร้สายได้ครอบคลุมทั้งโรงเรียน จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับครูใช้งานทุกห้องเรียน ปรับปรุงห้องสมุดให้อำนวยความสะดวกกับครู ผู้ปกครอง และนักเรียนสามารถเข้าอ่านหนังสือได้อย่างมีความสุขจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไว้บริการครูและนักเรียน ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงโรงเรียนให้สวยงามพร้อมรับการเปิดเรียนปีการศึกษา ๒๕๕๕ ด้วยการทาสีอาคารเรียนใหม่ทั้งสองหลัง เปลี่ยนกระเบื้องหลังคาซึ่งถูกใช้งานมานานมากกว่า ๓๕ ปี ปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในโรงเรียนใหม่ทั้งหมด ซ่อมรั้วคอนกรีตที่ชำรุดจากการถูกรถยนต์ชนตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ ก่อนที่ผมจะมารับหน้าที่ ทาสีรั้วใหม่ทั้งหมด ติดตั้งกล้องวงจรปิดจำนวน ๑๘ กล้องเพื่อใช้ตรวจสอบหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำให้สำเร็จที่โรงเรียนวัดสำโรงฯในช่วงเวลา ๒ ปี ๖ เดือน ที่ผมมาทำหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียน และจะเกษียณอายุราชการในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้คณะข้าราชการครูและครูอัตราจ้างในโรงเรียนวัดสำโรงฯได้ขอรดน้ำและขอพรเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์     พร้อมกับจัดหาผ้าขนหนูมามอบให้ผมสองผืนผมเองไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน  สังเกตจากการเตรียมของมาดำเนินการแสดงว่าทุกคนได้ตั้งใจมาทำจริงๆเพราะวันนี้เป็นวันหยุดปิดภาคเรียนจะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องรับผิดชอบถึงจะมาทำงาน แต่นี่ทุกคนมาพร้อมกัน นับว่าบุคคลเหล่านี้มีความคิดดีงามเป็นเบื้องต้น ผมต้องขอชื่นชมทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ บุญกุศลที่ผมได้ทำมาทั้งก่อนหน้านี้หรือที่กำลังจะทำขออุทิศให้กับทุกๆคน จงมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ประสพความสำเร็จ ได้พบแต่สิ่งที่ดีงามตลอดไป เสร็จแล้วผมก็เชิญทุกคนไปรับประทานอาหารกลางวัน ขอขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

อีกเพียงห้าเดือนเศษผมก็จะเกษียณอายุราชการ วันนี้จะทำโรงเรียนให้น่าอยู่       น่ามองผมเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาอาคารเรียนหลังที่ ๒ เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๕๓จากกระเบื้องเดิมซึ่งใช้งานมาร่วม ๓๕ ปี ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ผมเปลี่ยนจากเดิมสีซีเมนต์เป็นสีแดงดูสวยแปลกดี และก็ตั้งความหวังไว้ว่าจะต้องเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาอีกหลังให้เหมือนกัน และทาสีอาคารเรียนซึ่งเดิมทาด้วยน้ำมันรักษาเนื้อไม้สีแดง วันนี้ผมได้ดำเนินการอย่างที่ตั้งใจไว้ก่อนเกษียณอายุราชการ คือเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาให้เหมือนกับหลังที่เปลี่ยนไปแล้ว ทาสีอาคารเรียนทั้งสองหลังใหม่ เป็นสีน้ำมันสำหรับฝาไม้ เป็นสีน้ำสำหรับผนังคอนกรีต สีออกโทนเขียวอ่อนๆ ลูกกรงระเบียง เสาไม้ บานประตูหน้าต่างทาสีขาว ทำให้อาคารเรียนเด่นสวยงามตา บริเวณสนามหน้าอาคารเรียนถมทรายปรับพื้นให้สูงขึ้นเทคอนกรีต เสาธงชาติจัดทำฐานใหม่จากเดิมที่เป็นพื้นเสมอกับดินทั่วไป ผมไดออกแบบใหม่จัดทำเป็นสามระดับ ปรับเสาธงชาติให้สูงขึ้น ติดตั้งโคมไฟฟ้าเพื่อทำให้เกิดความสวยงามของสถานที่ เปิดเทอมใหม่นักเรียน ได้เห็นอะไรใหม่ๆ เมื่อหลายปีมาแล้วรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการให้งบประมาณกับโรงเรียนทุกโรงเรียนให้ทำโรงเรียนเป็นปัจจุบัน คือปรับปรุงซ่อมแซมทาสีสุดแท้แต่ผู้บริหารโรงเรียนจะดำเนินการทำให้โรงเรียนสวยงาม วันนี้ผมทำให้โรงเรียนวัดสำโรงฯที่ดูไม่สวยงามมีความสวยงามมากขึ้น ขอบคุณบุคลากรของโรงเรียนทุกคนที่ช่วยกันสนับสนุนทำให้โรงเรียนสวยงาม ก้าวต่อไปคือสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะจัดหาให้นักเรียน ครู และบุคลากรได้ใช้ในการเรียนการสอนทำให้นักเรียนทุกคนเรียนอย่างมีความสุข สอนอย่างมีความสุข นักเรียนเกิดการเรียนรู้สนใจกับการเรียนมากขึ้น ชุมชนให้ความร่วมมือกับโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ท้ายนี้ขอขอบคุณประธานคณะกรรมการสถานศึกษาที่เป็นกำลังใจและสนับสนุนโรงเรียนตลอดมา

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี ผมแจวเรือส่งนักเรียนข้ามฟากขึ้นฝั่งอีกหนึ่งรุ่นเป็นรุ่นสุดท้ายที่ผมจะได้มีโอกาสทำหน้าที่นี้ วันที่ 1 ตุลาคม 2555 ผมก็จะพ้นหน้าที่ ตามกฏกติกาในการรับราชการ หันหลังย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ. 2520 เมื่อเริ่มรับราชการเริ่มต้นจากข้าราชการระดับ 1เงินเดือน เพียง 1080 บาท ผมมีความภาคภูมิใจที่ได้เดินทางมาจากลูกคนแจวเรือ รับราชการมีความเจริญก้าวหน้ามาตลอด เป็นผู้บริหาร โรงเรียนตั้งแต่อายุ 32 ปี เกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการ ผมเป็นลูกคนแจวเรือแล้วก็มาแจวเรือส่งนักเรียนข้ามฟากอีก เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ได้นำนักเรียนชั้น ป.6 พร้อมด้วยคณะครูไปจัดพิธีปัจฉิมนิเทศ นักเรียนทุกคนมีกิริยามารยาทเรียบร้อย มาก แสดงออกถึงความกตัญญูที่นักเรียนมีต่อครูเคารพเชื่อฟัง ผมมีความภูมิใจที่มีลูกศิษย์ดี ขออวยพรให้ลูกศิษย์ทุกคน มีแต่ความเจริญก้าวหน้า ประสบความสำเร็จในชีวิต พบแต่สิ่งที่ดีๆ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้ได้กราบนิมนต์พระครูนนทวีรวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดโคนอนมหาสวัสดิ์ มาฉันอาหารเพลที่โรงเรียนเนื่องในโอกาสผมมีอายุครบ ๖๐ ปี เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตนเอง เพราะไม่สามารถงานทำบุญครบ ๕รอบอย่างที่ตั้งใจไว้ได้ จุดธูปบอกแม่ขอให้ปกปักรักษาที่ลูกของแม่มีอายุครบ ๖๐ ปี ผมยังคิดถึงแม่ตลอดเวลา ทำบุญวันนี้ขออุทิศส่วนกุศลนี้ไปให้แม่ หลังจากฉันภัตตาหารเพลเสร็จแล้วผมก็กราบนิมนต์ท่านไปให้พรกับนักเรียนชั้นอนุบาล ๒ ที่มีพิธีรับประกาศนียบัตร พอท่านใ้ห้พรกับนักเรียนเสร็จแล้วท่านก็มอบเงินให้กับตัวแทน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้วันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๕ นึกถอยหลังไปเมื่อ ๖๐ ปีที่แล้ว คือ ๙ มีนาคม ๙๕ผมอยู่ในท้องแม่ใกล้จะออกมาลืมตาดูโลกในวันที่ ๑๐ มีนาคม พระคุณของแม่ที่อุ้มท้องให้ผมได้อาศัยอยู่ในท้องของแม่มานาน ๙ เดือน ได้เกิดมาเป็นคนที่สมบูรณ์ มีอวัยวะครบไม่มีส่วนใดที่พิการ พระคุณของแม่ผมไม่อาจลืมท่านได้เลยด้วยสิ่งนี้กระมังทำให้ผมตั้งแต่เล็ก คิดและไฝ่ดีมาตลอด ไม่มีพ่อมีแต่แม่ผมก็มีความสุข และพอใจที่เกิดมาเป็นคนจน ชีวิตจะได้ขยันไม่ขี้เกียจ แม่ผมสอนให้ทำบุญ ไหว้พระ เจอผู้ใหญ่ก็ให้ไว้ เขาจะได้เมตตา วันนี้ผมเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่จะมีอายุครบ ๖๐ ปี ในวันพรุ่งนี้ ถามตัวเองว่านี่เราแก่มากแล้วหรือ แต่ทำไมเรายังคิดทำอะไรได้อีกตั้งเยอะ ๖๐ ปีของคนอื่นดูเขาจะมีความหมายมากกว่าผม เพราะผมต้องหาโอกาสไปทำบุญให้กับตนเอง เมื่อเช้าไปกราบเจ้าอาวาสวัดตึก อ.เมืองเพราะผมเคยดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ที่โรงเรียนวัดตึก เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๓ ผมได้รับควา่มเมตตาจากท่านอยู่เสมอ โรงเรียนยังไม่มีรั้วผู้ปกครองก็บ่นว่ากลัวเด็กนักเรียนเดินออกไปนอกโรงเรียนจะไปตกน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ผมก็ไปหารือท่านเพื่อจะหาเงินก่อสร้างรั้ว ท่านก็ยินดีที่จะให้สร้าง พอถึงวันเริ่มก่อสร้างผมก็นิมนต์ท่านมาทำพิธีปักเสาเข็มเป็นต้นแรกผมสร้างรั้วคอนกรีตจนแล้วเสร็จ ด้วยความร่วมมือของคณะกรรมการโรงเรียนในครั้งนั้น วันนี้กลับไปยืนมองผลงานที่สร้างไว้ยังอยู่ดี อีก ๖ เดือนเศษผมก็ต้องอำลาชีวิตราชการไปเป็นบุคคลธรรมดา กลับคืนสู่สามัญ ผมต้องคิดถึงความเป็นข้าราชการของผมไปอีกนานแสนนาน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

"กว่าจะถึงวันนี้ 2" วันหนึ่ง สอบไล่ชั้นประถมศึกษา ๖ วันสุดท้ายสอบเสร็จเร็วราวบ่ายโมงเพื่อนๆก็ชวนกันขึ้นรถเมล์ไปเดินเล่นกันที่สนามหลวง แล้วเลยไปบางลำภู   เดินดูโน่นดูนี่ตามประสาเด็กๆ บังเอิญไปเจอลุงเขยที่บางลำภู เขาถามผมว่ามาทำอะไรกันผมกลัวก็เลยโกหกไป พอกลับมาถึงบ้านลุงเขยเตรียมไม้ไผ่ไว้หลายอัน ผมนึกในใจวันนี้ตายแน่    เป็นไปอย่างที่คิดลุงเขยผมนั่งรอหน้าร้านให้ผมเข้าไปในบ้าน ลงมือตีผมด้วยไม้ไผ่ที่เตรียมไว้แก่ตีผมที่น่องไม่ตีที่ก้น เนื้อบริเวณน่องขาแตกเลือดไหลผมจำไม่ได้ว่ากี่สิบที   วันนี้แผลเป็นมันเกิดที่น่องผมและฝังลึกอยู่ที่ใจผมมามากว่า ๔๐ ปี  แค่ผมไปเดินเล่นกับเพื่อนหลังจากโรงเรียนเลิกแล้วไม่กลับบ้านมาช่วยขายของ   ผมจึงคิดอยู่เสมอว่าผมไม่ใช่ลูกเขาถ้าผมเป็นลูกเขา จะทำอย่างนี้กับผมไหม ผมจบ ป.๖ แล้วไปเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ที่โรงเรียนวัดบางปะกอก ที่นี่ผมได้รับประสบการณ์ชีวิตมากมาย        ผมคบกับเพื่อนที่มีอุปนิสัยคล้ายกัน ไปไหนไปกัน ผมออกจะเกเรสักหน่อยเพราะความกดดันที่เกิดขึ้นกับผมที่บ้าน ผมเรียนหนังสือไม่เก่งเรียกว่าไม่เอาไหนเลยครับ เรขาคณิต ,พีชคณิต ,ภาษาอังกฤษ สอบตกทั้งนั้นหลังจากที่ป้าตายแล้วร้านขายของก็ค่อยๆลดลงแล้วเลิกขายในที่สุด วันเสาร์และวันอาทิตย์ผมจะไปเป็นกระเป๋ารถเมล์ ร.ส.พ.สาย ๑ ถนนตก-ท่าเตียน ผมได้เงินก็เก็บเป็นค่าอาหารที่ไปโรงเรียน คนขับรถชื่อลุงโปร่ง ผมจำนามสกุลแก่ไม่ได้แกก็สอนผมให้จำชื่อประตูวังที่รถต้องวิ่งอ้อมและผ่านทุกวัน ผมอ่านชื่อประตูและท่องจำได้จนถึงวันนี้ เริ่มจาก วิมานเทเวศร์ วิเศษไชยศรี มณีนพรัตน์ สวัสดิโสภา เทวาพิทักษ์ ศักดิ์ชัยสิทธิ์ วิจิตรบรรจง  อนงคารักษ์  พิทักษบวร  สุนทรทิศา เทวาภิรมย์ และอุดมสุดารักษ์ ผมได้เก็บเกี่ยวความรู้จากการเป็นกระเป๋ารถเมล์ไว้พอสมควร คราวที่ผมไปสมัครเป็นกระเป๋ารถขนส่งทันจิต จากนครสวรรค์ไปลำปาง ผมมีใบอนุญาตทำหน้าที่เก็บค่าโดยสารทำงานอยู่ที่บริษัทนี้ระหว่างโรงเรียนปิดเกือบสองเดือน สมัยนั้นใครได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ลำปางก็ถือว่าโชคดีครับ ราว พ.ศ. ๒๕๑๐ ผ่านมา ๔๕ ปี มีโอกาสได้ท่องเที่ยวเมืองลำปาง ห้องแถวไม้ในเมืองลำปางดูคึกคักมากเวลากลางคืนเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวสุภาพบุรุษ ไฟฟ้ามีหลากสี อากาศหนาวมากครับนอนในรถปิดประตูหน้าต่างหมดยังหนาว ทำงานอยู่เดือนกว่าเก็บเงินไว้ได้บ้างไปสมัครเข้าเรียนสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานแห่งชาติ อยูแถวดินแดง เป็นของกรมแรงงาน สมัครเข้าเรียนช่างปรับตั้งใจจะเป็นช่างซ่อมแอร์(เครื่องปรับอากาศ)แต่ผมเขียนใบสมัครว่างช่างปรับ เขารับผมเข้าเรียนมารู้อีกที่กลายเป็นช่างปรับซึ่งเกี่ยวข้องการช่างกลโรงงานเป็นสาขาหนึ่งของช่างกลโรงงานคือต้องฝึกเป็นช่างเชื่อง ช่างกลึง เราเขียนใบสมัครตกไปตัวเดียวความหมายเปลี่ยนไป เรียนอยู่ ๑ ปี ส่งไปทำงานที่บริษัทโตโยต้า ผลิตรถยนต์ ได้ประสบการณ์ที่นึ่อีกมากครับรถยนต์เขาผลิตกันอย่างไร ได้รับเงินเดือน ๗๕๐ บาท ที่นี่มีรถรับส่ง มีชุดทำงานแจก มีอาหารกลางวันฟรีในรูปของคูปอง ตอนเย็นเข้าชมรมเล่นฟุตบอล เป็นนักฟุตบอลของบริษัท เสาร์อาทิตย์ ก็มีการแข่งขันฟุตบอลกับพนักงานของบริษัทที่อยู่ใกล้เคียงกัน เช่น บริษัทฮอนด้า โตชิบ้า ซูซูกิ ผมมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อ พุฒิศักดิ์  โิษฐ์ยิ้มพราย วันหนึ่งหลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จแล้วนั่งคุยกัน พวกทีจบช่างกลเขาได้รับเงินเดือนๆละ ๙๐๐ บาท มากกว่าเราอีกเราน่าจะไปเรียนต่อดีกว่า แล้วจะเรียนอะไรดี ผมบอกผมชอบช่างก่อสร้าง พุฒิศักดิ์ ก็บอกว่าเหมือนกัน ขณะนั้นโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย ดังมาก แต่เราจะสอบสู้เขาไม่ได้ เอาอย่างนี้เราไปสอบที่ไกลๆดีกว่า พุฒิศักดิ์ ไปสอบเข้าการช่างนนทบุรี ผมไปสมัครสอบการช่างปทุมธานี ผมสอบได้ครับผมตั้งใจจะเรียนให้ดีเพื่ออนาคตของผมวันเสาร์อาทิตย์ผมไปทำงานเป็นกระเป๋ารถเมล์อย่างเคย ผมขอสตางค์ลุงเขยวันละสิบบาทเพื่อเป็นค่ารถเมล์ กลางวันผมเอาข้าวใสกล่องไปกินทุกวัน ตอนเช้าผมออกจากบ้านฝั่งธน หน้าตลาดเจริญนคร ขึ้นรถเมล์เที่ยวแรกไปลงที่สนามหลวงขึ้นรถเมล์ขาวสาย ๙๐ต้นทางสนามหลวงไปลงที่ท่ารถสุดถนนติวานนท์ เดินเข้าสวนไปถึงโรงเรียน ผมตั้ใจเรียนและชอบมากโดยเฉพาะวิชาเขียนแบบผมจะเขียนได้คะแนนดีตลอดแข่งกับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเขาเรียนการช่างตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ขึ้นปีที่สองผมก็เริ่มมีรายได้จากการรับจ้างเพื่อนเขียนแบบ บางคนไม่อยากทำการบ้านเขียนแบบก็ให้ผมเขียนให้ บางวันไม่ได้นอนเลยทั้งคืนเพราะต้องเขียนแบบให้เพื่อนและของตัวเอง ได้ไม่กี่บาท ผมจึงเขียนแบบได้เก่ง  ถึงคราวสมัครสอบ มศ.๕ ที่ใช้ข้อสอบเดียวกันทั้งประเทศผมสามารถสอบผ่านได้ ดีใจมากครับนึกในใจผมทำสำเร็จแล้ว



ความเห็น (1)

ชีวิตน่าชื่นชมมากเลยครับ กว่าจะผ่านอะไรมาไม่ได้ง่ายเลย ขอบคุณมากครับที่แบ่งปัน

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้ตอนเช้าหลังเคารพธงชาติเสร็จสิ้นกิจกรรมตอนเช้าหน้าเสาธง ผมก็ตามนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 และ 2 พร้อมด้วยครูอีกสองสามคนนำนักเรียนไปทำบุญใส่บาตร เนื่องจากวันนี้เป็นวันพระ ผมซื้อของเท่าที่มีอยู่ในร้านสวัสดิการของโรงเรียน ไปร่วมทำบุญกับนักเรียน ผมสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนอนุบาลแล้วขอชื่นชม ทั้งนักเรียนและครู นักเรียนทุกคนเอฟังครู ระหว่างเดินไปวัดเป็นระเบียบเรียบร้อย ไปถึงวัดถอดรองเท้าวางไว้ในที่ ที่ทางวัดจัดไว้ เขานั่งในศาลาการเปรียญ ไม่คุย ไม่เล่นหยอกล้อ ดูทุกคนสนใจที่จะมาทำบุญ ทุกคนถือถุงใส่อาหารมาพร้อมเพรียงกัน บางคนผู้ปกครองจัดถุงใส่อาหารและใส่ธนบัตรใบละยี่สิบบาท มาตั้งห้าชุด ถ้าเรามีนักเรียนที่สนใจในการทำความดีอย่างนี้มากๆ สังคมก็จะน่ารัก น่าอยู่ ไม่ยกพวกไปไล่ตีกัน ทำร้ายกัน เราต้องฝึกเด็กนักเรียนทุกระดับบั้นให้มีจิตที่มุ่งแต่จะทำความดี จะได้ไม่ต้องออกข้อสอบบ้าๆ"มีอารมณ์ทางเพศแล้วจะทำอย่างไร" พวกเราเป็นครูที่สอนในระดับแรกพอปั้นเสร็จแล้วส่งต่อไปให้อีกระดับหนึ่งไม่ค่อยสนใจที่จะปั้นต่อให้ดี  น่าเสียดายพอมันเสียแล้วก็หมดหนทางแก้ไข วันนี้คำว่าจิตอาสาเป็นคำที่ฮิตติดตลาด ถ้าเราจะมีจิตอาสาจริงๆต้องไม่ใช่เกิดจากการบังคับให้ปฏิบัตินักเรียนเก็บของมีค่าได้แล้วนำส่งครูให้ประกาศหาเจ้าของ เราเดินไปตามถนนพบสิ่งของที่ตกหล่นหรือมีใครตั้งใจทิ้งหากเห็นว่ามันอาจเกิดอันตรายแล้วเก็บทิ้ง นี่แหละครับจิตอาสาตัวจริง



ความเห็น (1)

ให้กำลังครูๆและเด็กๆนักเรียนนะครับ เด็กเก่งมากครับ

bop
เขียนเมื่อ

หากเราได้ทุกอย่าง  ดั่งใจคิด

สิ้นชีวิตจะเอาของ  กองไว้ไหน

จะได้บ้างเสียบ้าง  ชั่งปะไร

เราตั้งใจทำดี  เท่านี้พอ

ผมอ่านบทกลอนนี้ที่เขียนไว้บนเขาที่จังหวัดสงขลา  เมื่อคราวที่ผมได้ไปศึกษาดูงานร่วมกับคณะผู้บริหาร เขตการศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต1 เมื่อเดือนกันยายน 2554 อ่านแล้วมีความหมายดีเหลือเกิน ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยจะได้อะไรมากนัก รับราชการ 35 ปี ความดีความชอบก็น้อยครั้งที่เป็นกรณีพิเศษ(สองขั้น) ผมนับแล้ว 35 ปี ได้เพียง 5 ครั้ง เฉลี่ย 7 ปีได้หนึ่งครั้ง ตุลาคมนี้ผมก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว ถ้าไม่ได้แสดงความเห็นไว้บ้างก็จะไม่รู้ว่าคนที่ทำหน้าที่ผู้บริหารสถานศึกษาคนนี้คิดอย่างไร ผมยังพอมีโอกาสโชคดีบ้างในอดีตที่การปรับเงินเดือนของทางราชการ ในแต่ละคราว ทำให้ผมมีขั้นกระโดด มิฉะนั้นก็คงดักดาน  ชีวิตการรับราชการของผมก้าวมาจากต่ำมากๆ เริ่มต้นจากการสอบได้วุฒิ พ.กศ. วันนี้มีคนรู้จักไม่มากนัก มาจากคำย่อ ประกาศนียบัตรพิเศษการศึกษา สมัครสอบด้วยตนเอง 5 ชุดวิชา ผมเริ่มสอบเมื่อพ.ศ. 2517 ขณะนั้นสอนอยู่โรงเรียนเอกชน แถวห้าแยกปากเกร็ด นนทบุรี (มันเป็นห้าแยกจริงๆ) เดี๋ยวนี้เป็นสี่แยกมีอุโมงรอดใต้ทางแยก ชื่อโรงเรียนปิ่นนาคอนุสรณ์ ในจำนวน 5 ชุดวิชา ซึ่งประกอบด้วย วิชาบังคับ ภาษาไทย วิชาครู วิชาเลือก สังคมศึกษา  วิทยาศาสตร์ และสุขศึกษา ผมสอบได้ครบ 5 ชุดวิชาในปี 2520 ขอรับประกาศนียบัตรที่กรมการฝึกหัดครู ผมสมัครสอบครูองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี เดือนพฤษภาคม 2520 ผมสอบได้เป็นลำดับที่ 1 เลือกโรงงเรียนวัดเสนีวงศ์ อำเภอไทรน้อย ได้รับการบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ วันที่ 2 มิถุนายน 2520 เกือบ 35 ปี อีกไม่กี่เดือน มีเพื่อนที่สอบได้มาบรรจุพร้อมกันอีกสองคน คุณสมพงษ์  คชินทรานนท์ และคุณวิโรจน์ ดีวุ่น คนสุดท้ายเสียชีวิตไปแล้ว เขาอายุน้อยกว่าผมสองสามปี โรงเรียนวัดเสนีวงศ์ขณะนั้นมีอาจารย์ไพโรจน์  บัวภิบาล เป็นครูใหญ่ ผมรับเงินเดือนเริ่มต้นขณะนั้น 1,080 บาท วันนี้ผมรับเงินเดือนห่างจากวันแรกที่รับราชการหกสิบกว่าเท่า (มีโอกาสจะเขียนให้ละเอียดกว่านี้) ผมยังจำคำกล่าวของผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายสุชาติ  พัววิไล ที่กล่าวปฐมนิเทศครูบรรจุใหม่ ณ ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี "วันนี้ทุกคนมีตำแหน่ง และเงินเดือนเท่ากัน ในอนาคตทุกคนจะมีเงินเดือนและตำแหน่งไม่เท่ากัน" คำกล่าวนี้ผมยังจำได้ดี มันเป็นความจริง

 



ความเห็น (2)

เคยได้ิยินอยู่วุฒิพ.กศ.นี้ อีกชื่อคือวุฒิพม.ไม่รู้เขียนถูกไหม
เมื่อก่อนพระสงฆ์จะสอบวุฒิครูกันเยอะ 

สวัสดีค่ะครู หนูเคยเป็นลูกศิษย์ครูมาก่อน ดีใจที่ได้มาพบครูในโลกอินเตอร์เน็ต  คุณครูอุทัยวรรณสบายดีไหมคะ ฝากกราบสวัสดีท่านด้วยค่ะ

bop
เขียนเมื่อ

ผมตั้งใจว่าก่อนเกษียณอายุราชการขอไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแต่ะภาค ภาคเหนือผมได้ไปกราบพระประจำปีเกิดที่วัดพระสิงห์และพระธาตุดอยสุเทพ เมื่อวันที่ ๑๐ ที่ผ่านมา และกำหนดไว้ว่าจะไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ภาคใต้โดยกำหนดไว้ที่วัดพระมหาธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช ผมได้เดินทางไปเมื่อวันที่ ๒๑ โดยนั่งเครื่องบินจากสุวรรณภูมิเที่ยวบิน ๙.๔๐ น.ไปถึงสนามบินนครศรีธรรมราช ราว ๑๑.๓๐ น.เครื่องบินช้าเนื่องจากต้องรอระหว่างการนำเครื่องขึ้น ผมถึงสนามบินนครศรีธรรมราชแล้วมองหารถรับจ้าง เจอโต๊ะมีป้ายเขียนไว้ว่ารถรับจ้างมีราคาบอกไว้เรียบร้อย เข้าเมือง ๓๐๐ บาท เป็นรถส่วนบุคคลที่มารับจ้างระหว่างทางได้สนทนากับคนขับ ระยะทางจากสนามบินถึงวัดมหาธาตุ ระยะทางราว ๒๐ กิโลเมตร นึกในใจทำไมแพงจังค่ารถ เจ้าของรถต้องเสียค่าวินปีละ สี่หมื่นบาท ก็น่าเห็นใจนะครับ ถึงวัดมหาธาตุผมตรงไปหน้าวัดทันทีพลางนึกในใจเราไม่ได้มานครศรีธรรมราช เกือบยี่สิบปี ผมไปซื้อดอกไม้ธูปเทียนตรงเข้าไปบูองค์พระมหาเจดีย์ทันทีด้วยความปลาบปลื้มใจที่ได้เดินทางมาสมความปราถนาที่ตั้งใจไว้ ทำบุญผ้าห่มเจดีย์กราบขอพรเสร็จแล้วก็เดินถ่ายรูปอยู่สักพัก ในขณะที่หิวข้าวเพราะตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินข้าวเลย ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ที่จำหน่ายดอกไม้ปเทียน แล้วทำบุญซื้อกระเบื้องมุงหลังคาโบสถ์เขียนชื่อตนเอง ญาติพี่น้องคนที่รักใคร่ทั้งหลายลงในแผ่นกระเบื้อง พร้อมอธิษฐาน และขอให้ได้มีโอกาสมากราบอีก จากนั้นก็ถามหาร้านขนมจีนเมืองคอน ตามคำบอกเล่าของจารุณี ที่ก่อนหน้านี้สองวันเธอมาบ้านที่นครฯ เธอบอกว่าร้านขนมจีนเมืองคอนเป็นร้านที่มีอาหารหลายอย่าง ผมสอบถามได้จุดที่ตั้งของร้านเสร็จแล้วก็หารถจักรยานยนต์รับจ้างไปส่งที่ร้านซึ่งอยู่ห่างจากวัดเพียงสองร้อยเมตรเศษ ค่ารถ ๒๐ บาท ผมถือโอกาสชิมอาหารที่ร้านนี้ด้วยความหิว สิ่งที่ประทับใจอยู่ที่การบริการผักสดถาดใหญ่หนึ่งถาด ยังไม่ได้สั่งอาหารอะไรเลย วันนี้อยากกินแกงส้ม อยากกินน้ำพริก อยากกินขนมจีนน้ำยา สั่งมาตามที่อยากกิน จุใจมากตั้งแต่เที่ยงถึงสามโมงเย็นนั่งกินอยู่คนเดียว โทรศัพท์ให้รถรับจ้างมารับไปส่งที่สนามบินเพื่อกลับสุวรรณภูมิ เครื่องบินออกจากสนามบินนครศรีฯ๑๖.๕๐ น.ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ๑๗.๔๕ น. ลงจากเครื่องบินคิดว่าฝันไปหรือเปล่า ทุกอย่างสำเร็จตามความตั้งใจ สวัสดีครับ



ความเห็น (1)
bop
เขียนเมื่อ

อีก ๑๙ วัน ผมก็จะมีอายุครบ ๖๐ ปี บริบูรณ์ ตั้งใจไว้ว่าจะทำบุญขึ้นบ้านหลังใหม่ที่เก็บเงินปลูกสร้างเมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ที่สุพรรณบุรี และทำบุญให้กับตนเองในโอกาสครบรอบคล้ายวันเกิดปีที่ ๖๐ ความหวังตั้งใจต้องมีอันยกเลิกเพราะลูกชายผมที่ป่วยยังต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งยังไม่มีกำหนดออกจากโรงพยาบาล ผมเองก็มีงานที่ต้องแก้ปัญหาอยู่หลายเรื่อง ในเวลาที่ใกล้จัเกษียณอายุราชการก็ต้องเตรียมสะสางงานต่างๆที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย เพราะเมื่อเราพ้นหน้าที่ไปแล้วจะไม่มีโอกาสที่จะมาแก้ไข ก็ได้แต่ตั้งความหวังไว้ว่าวันเสาร์ที่ ๑๐ มีนาคม ซึ่งตรงกับวันเกิดจะได้มีโอกาสไปทำบุญถวายสังฆทาน ให้เป็นศิริมงคลกับตนเอง เมื่อครั้งที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกๆวันที่ ๑๐ มีนาคม ผมก็จะทำอาหารด้วยตนเองสองสามอย่าง พร้อมข้าวและขนม ใส่ปิ่นโตขับรถจากนนทบุรีไปหาแม่ที่บ้านอัมพวา ตักข้าวใส่จานให้แม่กินข้าว เวลาไปก็จะให้ถึงบ้านตอนใกล้ๆ ๑๑ นาฬิกา แม่กินข้าวเสร็จแล้วก็จะกราบเท้าแม่ ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้แม่มีผ้าถุง ๑ ผืน เสื้อคอกระเช้า ๑ ตัว บอกแม่ว่าเป็นวันเกิดของหนู แม่จะดีใจและน้ำตาไหล ผมดีใจที่ได้ทำความดีกับแม่ เพราะผมเกิดมาไม่เคยเห็นพ่อ ไมเคยเรยกคำว่า "พ่อ"สักคำเดียว แต่ผมก็ภูมิใจที่เกิดเป็นลูกคนจน ลูกคนใบ้ที่ไม่ทำให้ แม่ เดือดร้อน วันนี้ผมเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ผมยังคิดอยู่เสมอว่าพื้นเพของผมคือลูกคนบ้านนอก ลูกคนจน ลูกคนแจวเรือจ้าง ผมภูมิใจมี่เป็นลูกของแม่คนนี้ สวัสดีครับ



ความเห็น (2)

ขอให้มีความสุขในวัยเกษียณนะค่ะ และยินดีด้วยกับการที่มีโอกาศได้ใช้คำว่า อายุ 60 ปีแล้วนะ(บางคนไม่มีโอกาสที่จะได้แก่ด้วยซ้ำไป)

กตัญญูกตเวทีต่อบุพการีของเราเองบุญกุศลใหญ่หลวงครับท่านผอ.

ท่านยังดีมีแม่ให้กราบไหว้ ของผมพ่อแม่ตัวเอง พ่อตาแม่ยายไม่มีแล้วครับ ถือว่าท่านผอ.ยังโชคดีที่ยังมีแม่เหลืออยู่

bop
เขียนเมื่อ

อีกไม่กี่วันผมก็จะมีอายุครบ ๖๐ ปี ดูมันช่างเร็วเหลือเกินคิดถึงเมื่อตอนเด็กๆแล้วไม่เชื่อตัวเองว่าจะมีอายุมาถึงตรงนี้ สุภาพก็มีโรคภัยไข้เจ็บอยู่บ้้างก็เข้ารับการรักษาตามที่หมอนัดไม่เคยเว้น เมื่อเดือนที่แล้วผมตัดสินใจขอกู้เงินตามโครงการของ ชพค. คิดว่าวันนี้เรามีหนี้สินที่กู้มาใช้จ่าย ปลูกบ้าน ซื้อสิ่งของที่จำเป็นรวมทั้งการใช้จ่ายต่างๆซึ่งในฐานะที่เราเป็นผู้บริหารการใช้จ่ายที่ต้องเข้าอยู่ในสังคม ผมขอกู้จำนวนสามล้านบาท เสียเงินค่าประกันเงินกู้อีก หนึ่งแสนแปดหมื่นบาท แต่ยังต้องมีสมาชิก ชพค.ค้ำประกันอีกสามคน ตรงนี้แหละครับใครๆก็จะปฏิเสธการค้ำประกัน ผมได้ผู้ค้ำครบทั้งสามคนต้องขอบคุณไว้ ณ ตรงนี้ มีอยู่หนึ่งคนผมไปขอให้ค้ำประกันเธอรับที่จะค้ำประกันให้ผมต่อมาอีกสองวันเธอให้สามีมาคุยกับผมว่าไม่อยากให้ค้ำประกันผมบอกเขาไปว่าไม่เป็นไรครับ ทั้งๆที่เราต้องเสียเงินให้บริษัทประกันจำนวนมาก ผมเกษียณอายุราชการแล้วก็ยังมีบำนาญอีกตั้งหลายหมื่นบาท ในฐานะที่เรามีอาชีพเดียวกันกรณีอย่างนี้มันไม่ใช่จะโกงกันได้ง่ายๆ บางทีเราต้องนึกถึงตนเองในวันข้างหน้า เล่าสู่กันฟังครับ ในเวลาไล่เรี่ยกันเพื่อนผู้บริหารโรงเรียนหนึ่งมาขอให้ผมค้ำประกันให้ ผมไม่ได้ปฎิเสธเลยจัดการเกี่ยวกับเอกสารให้อย่างเต็มที่ ต่อมาอีกสองสามวันให้ผมจัดทำเอกสารเพิ่มเติมให้ ผมก็ดำเนินการให้ ก่อนกลับเขาให้ผมไปที่รถของเขาบอกว่าซื้อเหล้ามาฝากขวดหนึ่ง ผมบอกปฏิเสธทันทีและต่อว่าไปอีหน่อยว่าไม่ควรจะไปซื้อให้เสียเงินพวกเรามีอาชีพเดียวกันการพึ่งพากันเป็นเรื่องธรรมดา คิดถึงใจเขาใจเรานะครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

ผมอ่านหนัสือพิมพ์มติชนฉบับวันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๕ ในคอลัมภ์ กระแสทรรศน์ ของคุณนิธิ  เอี่ยวศรีวงศ์ วิกฤติอัตลักษณ์ไทย ผมอ่านจบแล้วผมยังไม่เห็นว่าประเทศไทยปัจจุบันจะถึงจุดวิกฤติอัตลักษณ์ อย่างที่เขียนไว้ ได้กล่าวถึงอธิปไตยของปวงชนชาวไทย,กล่าวถึงฝ่ายท้าทาย ผมเป็นคนไทยผมไม่เข้าใจในการเขียนของท่าน ฝ่ายท้าทายเป็นฝ่ายไหนครับ การปฏิวัติ เมื่อ ๑๙ กันยายน เป็นเรื่องที่เราควรจะพูดถึงมันทำให้เกิดความคิดที่แตกแยก มาจนวันนี้ ผมเป็นคนไทยผมยังมีอัตลักษณ์ของความเป็นคนไทย เคารพบิดามารดา เคารพครูบาอาจารย์ และเคารพประเทศไทย ผมยังไม่เห็นว่าอัตลักษณ์ของประเทศไทยจะถึงจุดวิกฤติ ตราบใดที่คนไทยยังพูดภาษาไทยไม่ใช่พูดภาษาอื่น



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันครูที่ ๑๖ มกราคม ที่ผ่านมามีเวลาว่างได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับครู ๒ เล่ม เป็นหนังสือเก่าซื้อมาจากแผงหนังสือสนามหลวงหลายปีแล้ว อ่านอยู่สองสามครั้ง มาคราวนี้ขอนำเสนอให้ทราบกันบ้าง เล่มที่หนึ่งชื่อ"ทำเพื่อลูกเพื่อหลาน" เขียนโดย ดร.ก่อ  สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมวิสามัญ เขียนไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๓ อีกเล่มหนึ่งชื่อ"โรงเรียนประถมศึกษาภาคปฏิบัติ"เป็นหนังสือแจกงานศพ คุณวัชรี  เอี่ยมสกุล ภรรยาของท่านเกรียง  เอี่ยมสกุล ท่านได้เขียนไว้อย่างต่อเนื่องถึง ๘๕ บท เป็นเรื่องที่ปัจจุบันยังใช้ได้ ครู,ผู้บริหาร,ศึกษานิเทศก์ ลองหาอ่านดูนะครับ มีโอกาสผมจะสรุปแต่ละเรื่อง วันนี้ขอนำเสนอเล่มของ ดร.ก่อ  สวัสดิ์พาณิชย์ เรื่อง"อาจารย์ใหญ่ทนไม่ไหว" เรื่องมีอยู่ว่า โรงเรียนนารีรัตน์ เป็นโรงเรียนสตรีตั้งอยู่กลางเมืองแพร่ มีบ้านหลังหนึ่งอยู่ติดกับโรงเรียนเป็นบ้าน โสเภณี มีผู้ชายมาเที่ยวทั้งกลางวันกลางคืน นักเรียนในโรงเรียนก็รู้ว่าเขามาเที่ยวอะไรกัน อาจารย์ใหญ่ทนไม่ไหวขอร้องให้กรมวิสามัญจัดงบประมาณจัดซื้อที่ดินแปลงนี้ จำนวนสองงานในราคาแปดหมื่นบาทแต่แล้วกรมฯก็ไม่สามารถจัดหางบประมาณให้ได้ ท่านอาจารย์ใหญ่จึงตัดสินใจใช้เงินส่วนตัวของท่านซื้อที่ดินแปลงนี้ แล้วรื้อถอนบ้านหลังดังกล่าวสุดท้ายท่านยกที่ดินแปลงนี้ให้กับทางราชการเพื่อก่อสร้างอาคารเรียน โดยไม่ขอรับเงิน อาจารย์ใหญ่ท่านนี้ชื่อ อาจารย์บัวเขียว  รังคศิริ ท่านเป็นผู้บริหารตัวอย่างที่สมควรยกย่องสรรเสริญท่าน ในโอกาสววันครู  สวัสดีครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

เมื่อวานเป็นวันครู ผมขอเขียนระลึกถึงครูของผมท่านหนึ่ง ชื่อครูชลอ  บัวเวช บ้านของท่านอยู่ริมคลองอ้อม ตรงข้ามวัดปากน้ำ อำเภออัมพวา ท่านเป็นครูใหญ่โรงเรียนวัดบางแคใหญ่ ผมเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ท่านเป็นคนสะอาด เสื้อและกางเกงที่ท่านใส่จะรีดเรียบมาทำงานทุกวัน ไม่มีเน็คไท ท่านเดินจากบ้านมาสอนหนังสือทุกวันครับเดินมาตามทางในสวนมะพร้าว ท่านสอนหนังสือเด็กทุกคนรักท่านขณะเดียวกันก็กลัวท่านด้วย พักกลางวันทุกวันท่านจะส่งจานสังกะสีเคลือบสีขาวให้ผมไปซื้อก๋วยเตี๋ยวราดหน้าให้ท่านทุกวัน ผมจะไปซื้อห้ท่านด้วยความเต็มใจ เสร็จแล้วจึงกลับ้านไปกินข้าวกลางวันที่บ้าน วันนี้ท่านยังมีชีวิตอยู่ ในขณะที่ผมเป็นลูกศิษย์ของท่านอีกเดือนเศษๆผมก็จะมีอายุครบ ๖๐ ปี ขอให้คุณครูมีสุขภาพแข็งแรงนะครับ

อีกท่านหนึ่งที่ผมขอกล่าวถึงท่านด้วยความเคารพ คือคุณครูรัตนา  พรพิพิธ ท่านสอนภาษาอังกฤษ และตรีโกณ เมื่อคราวที่ผมเรียนชั้น มศ.๔และ๕ โรงเรียนการช่างปทุมธานี ผมเรียนหนังสือไม่เก่งครับ ไม่ชอบเลยวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ผมได้เรียนทั้งสองวิชากับท่าน ผมเข้าใจและอยากเรียนในวิชาของท่าน ผมขอกราบคุณครูที่ทำให้ผมมีความรู้ จนสามารถมาทำหน้าที่ครูเหมือนกับท่าน มีหน้าที่บริหารโรงเรียน ผมจะไม่ลืมพระคุณของครูทุกท่านที่ได้อบรมสั่งสอนผม

สำหรับครูคนแรกของผมคือ"แม่" ผมยังระลึกถึงแม่อยู่ตลอดเวลาถึงแม้ท่านจะจากผมไปแล้วก็ตาม ผมพูดได้ ทำอะไรหลายๆอย่างได้ก็เพราะได้รับการอบรมสั่งสอนจากแม่ซึ่งเป็นครูคนแรกของผม   สวัสดีครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท