อนุทินล่าสุด


bop
เขียนเมื่อ

เมื่อวันที่ ๙และ๑๐ ผมและคณะครูนำลูกเสือและเนตรนารีสามัญ จำนวน ๑๐๘ คนไปเข้าค่ายที่อำเภอมวกเหล็ก ค่ายลูกเสือพงษ์ลดา อยู่ห่างจากตัวอำเภอมวกเหล็กราว ๗ กม.ใช้เวลาเข้าค่าย ๒ วัน ๑ คืน ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของค่ายทุกท่านที่อำนวยความสะดวกให้คณะของเรา ซึ่งมีอีกสองโรงเรียนที่ร่วมเดินทางไปข้าค่ายครั้งนี้ คือโรงเรียนวัดโชติการาม และโรงเรียนวัดจันทร์ การเข้าค่ายเป็นไปด้วความเรียบร้อย เราออกจากค่ายเมื่อเวลา ๑๐ นาฬิกาเศษ พาลูกเสือและเนตรนารีทั้งหมดไปดูทุ่งทานตะวัน จำนวนทานตะวันเริมลดลงมากแล้ว โดยจอดรถดูดอกทานตะวันบานสพรั่งที่แยกแสยง ผมถามคนแถวนั้นเขาบอกชื่อแยกถูกหรือไม่ผมก็ไม่ทราบครับ จากนั้นก็พาไปศึกษาแหล่งเรียนรู้เขื่อนปาสักชลสิทธิ์ รับประทานอาหารกลางวันที่บริเวณเขื่อน จนได้เวลาพอสมควรราว ๑๓.๓๐ น. จึงออกเดินทางกลับโรงเรียน ถึงโรงเรียนโดยสวัสดิภาพเวลา ๑๖.๓๐ น. ขอขอบคุณคณะครูที่ร่วมเดินทาง และดูแลการเข้าค่ายจนเสร็จเรียบร้อยไม่มีปัญหาใดๆ ขอบคุณมากครับ และถ้ามีโอกาสที่จะเข้าค่ายลูกเสือหรตือกิจกรรมอื่นๆอีก หวังว่าโรงเรียนทั้งสามโรงเรียนจะได้ร่วมกันอีก สำหรับผมก็คงเกษียณอายุราชการไปแล้วครับ สวัสดีครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

"กว่าจะถึงวันนี้ 1" ผมเรียนจบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔   จากโรงเรียนวัดบางแคใหญ่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม โดยทั่วไปเขาเรียกขานว่า"บ้านนอก"        ลุงเขย(นายพนม  ปูรณานุนาค) ซึ่งรับราชการอยู่ที่กรมศุลกากร   ได้ไปขอให้ผมไปอยู่ด้วยแล้วจะส่งให้เรียนต่อ ราว พ.ศ. ๒๕๐๕  แม่ผมแกก็หวังจะให้ผมได้เรียนหนังสือจึงยอมให้ผมไปอยู่ด้วย ก่อนที่จะไปอยู่กับลุงเขยที่กรุงเทพฯไปทำอะไรก็ไม่ทราบที่อำเภออัมพวา(ผมมาทราบภายหลังเมื่อเรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษา)นั่นคือการขอรับเป็นบุตรบุญธรรม ผมถูกเปลี่ยนชื่อตนเอง ชื่อพ่อ ชื่อแม่และนามสกุล  ดั้งเดิมของผมหมดสิ้น    เมื่อวันที่แม่เสียชีวิตผมไม่มีโอกาสที่จะขอพระราชทานเพลิงศพให้กับแม่บังเกิดเกล้าของผมได้ ผมเสียใจแต่ได้จัดงานศพให้กับแม่อย่างดี       จนได้รับการกล่าวชมจากญาติและชาวบ้านที่มาร่วมงานศพ แม่ผมเป็นคนจนอาชีพแจวเรือ  จึงมีคนรู้จักมาก    ผมต้องใช้ชื่อของลุงเขยเป็นชื่อพ่อ ชื่อของป้า เป็นชื่อแม่จนทุกวันนี้ผมไม่เคยลืมบุญคุณของคนทั้งสอง แต่ที่ผมไปอยู่ด้วยนั้นในสภาพของคนรับใช้ต้องตื่นแต่เช้าราวตีสี่ เปิดร้านเตรียจัดของ ติดเตาต้มน้ำหม้อกาแฟ หุงเข้า ไปซื้อของที่ตลาด ขัดรองเท้า เทกระโถนปัสสาวะ สารพัดแล้วจึงได้ไปโรงเรียนเดินเท้าจากบ้านไปโรงเรียนราวหนึ่งกิโลเมตร ชื่อโรงเรียนวัดสุทธาราม กลางวันต้องเดินกลับมากินข้าวบ้านและช่วยล้างถ้วยชาม แล้วจึงไปเรียนต่อในตอนบ่าย เย็นกลับมาถึงบ้านต้องไปหาบน้ำจากคลองบางใส้ไก่ห่างจากบ้านราวสี่ร้อยเมตร หาบน้ำมาใส่ตุ่มวันละ ๔-๕ ตุ่มๆละ ๖หาบ เพื่อใช้ภายในบ้าน ลุงเขยมีลูกชาย ๓ คน อายุมากกว่าผม ๑ คน น้อยกว่าผม ๒ คน ผมต้องทำทุกอย่างภายในบ้าน กว่าผมจะได้นอนต้องเก็บร้านทำความสะอาดร้านเสร็จก็ราวสี่ทุ่ม วันไหนฝนตกกลางคืนต้องลุกขึ้นมารองน้ำใส่ตุ่ม ผมคิดถึงแม่ทุกวัน กลางคืนนอนหนาวก็คิดถึงแม่  กว่าสามปีผมจึงได้กลับไปหาแม่ ก่อนกลับไปหาแม่ลุงเขยบอกให้เอาเงินจากแม่มาให้ด้วยความหมายก็คือที่ผมต้องไปอยู่กับลุงเขยคงมีสัญญากันไว้กับแม่ที่จะต้องให้เงินลุงเขยเป็นค่าอยู่กินที่บ้านของลุงเขย วันที่จะต้องกลับกรุงเทพฯผมนั่งรถไฟสายแม่กลอง-มหาชัย นั่งมาถึงมหาชัยผมก็นั่งกลับแล้วบอกแม่ว่านั่งหลับ เพราะผมไม่อยากกลับไปกรุงเทพฯสองสามวันลุงเขยก็มาตามผมกลับ ผมไปเรียนหนังสือต้องนั่งหลับในห้องเรียนทุกวัน บางวันลงไปนอนใต้โต๊ะด้วยความเป็นเด็กความอายจึงไม่มีในขณะนั้น เพื่อนๆชอบล้อผมอยู่เป็นประจำ ผมมีชื่อเล่น"ชื่อหลง" ความจริงก็เป็นชื่อจริงของผม เพื่อนๆจึงล้อมผมว่า"หลงหลับ" ผมต้องอดนอนทำงานหนักมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ผมสนใจเรื่องเกี่ยวกับงานช่าง  ที่บ้านเมื่อคราวปลูกบ้านใหม่ ผมช่วยช่างเขาทำงาน เดินสายไฟ ต่อสายไฟ ผมทำได้ตั้งแต่ผมเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ห้า ผมทำงานได้หลายอย่างเพราะดูและช่วยเขาทำ

 



ความเห็น (1)

อาจารย์คะ เพิ่งเข้าไปเห็นว่าอาจารย์ยังไม่เคยเขียนบันทึกเลย มีแต่อนุทิน ขออนุญาตแนะนำให้อาจารย์ลองดูจากเมนูข้างบนให้เลือกที่ "เพิ่มบันทึก"แล้วตั้งชื่อแต่ละบันทึกได้ตามที่อาจารย์ต้องการ เช่น "กว่าจะถึงวันนี้ 1" แล้วอาจารย์จะสามารถเลือกใส่คำสำคัญ เพื่อเอาไว้รวบรวมค้นหา จัดเป็นหมวดหมู่ได้ในภายหน้าด้วยนะคะ จะดีกว่าการเขียนเป็นอนุทินค่ะ อาจารย์ลองเลือกหาอ่านวิธีใช้ได้ที่บล็อกของน้องมะปรางที่ http://www.gotoknow.org/blogs/books/14443/toc และหากมีข้อสงสัยอะไรเขียนถามมาได้ที่ อีเมล หรือถามไปยัง [email protected] ก็ได้ค่ะ

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้คณะครูได้ร่วมกันทำบุญเลี้ยงพระเพล จำนวน ๙ รูป เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๕๕ ได้นิมนต์พระวัดโคนอน มหาสวัสดิ์ จำนวน ๔ รูป วัดไทร จำนวน ๕ รูป วัดสำโรง ติดงานศพที่ตั้งอยู่ที่วัด จึงไม่สามารับนิมนต์ได้ วัดโคนอนมหาสวัสดิ์ เจ้าอาวาสมาด้วยตนเอง ผมกราบนิมนต์ท่านด้วยเพราะเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการที่โรงเรียนวัดโคนอน จึงผูกพันกับท่าน กอปร์กับที่ท่านมีเมตตาต่อผมตั้งแต่วันแรกที่ผมไปรับตำแหน่ง ความมีเมตตาของท่านผมมิอาจลืมได้เลย เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๕๔น้ำท่วมมากไม่สามารถไปกราบนมัสการเนื่องในวันเกิดของท่านได้ วันที่ ๑๔ มกราคม ๕๕ ท่านได้รับพัดยศขั้นสูงขึ้น จึงได้แสดงความยินดีกับท่าน และได้ร่วมเป็นเจ้าภาพในงานดังกล่าว ขอขอบคุณ ครูทุกท่าน ผู้ปกครองนักเรียนทุกคนที่ได้บริจาคเงินร่วมทำบุญ ผมได้นำเงินถวายพระไปทั้งหมด ขอได้รับผลบุญนี้ร่วมกันด้วยเทอญ วันนี้ผมสุขใจ ๒ ประการ ๑.ผมได้ทำบุญให้กับโรงเรียน อุทิศส่วนกุศลให้กับครู อาจารย์ที่เคยอยู่ในโรงเรียนนี้และได้ล่วงลับไปแล้ว ๒.ผมได้ร่วมทำบุญกรวดน้ำกับคนที่ผมรักและเห็นทุกคนอิ่มใจยิ้มแย้มแจ่มใส รับประทานอาหารร่วมกันผมไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ดีๆอย่างนี้จะเกิดมีขึ้นอีกหรือไม่เพราะเวลาของผมที่มีอยู่ ณ ที่นี้ เหลืออีกเพียง ๒๖๘ วันเท่านั้น  จากนี้ไปผมจะเขียน"กว่าจะถึงวันนี้"เล่าเรื่องราวจากเด็กนักเรียนถึงผู้อำนวยการ"ทั้งหมด ๑๐ ครั้ง สวัสดีครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้เตรียมการที่จะทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับโรงเรียนวัดสำโรงฯ ครู,นักเรียน ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๕๕ โดยกำหนดทำบุญเลี้ยงพระ ๙ รูป ในวันศุกร์ที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๕ ครูชายจัดเตรียมสถานที่โดยใช้ห้องโถงใหญ่ข้างห้องผู้อำนวยการเป็นที่ใช้ในการเลี้ยงพระ นิพนธ์  แดดภู่นักการภารโรงเป็นผู้รับผิดชอบนำทีมจัดสถานที่ ตลอดจนขอยืมอุปกรณ์ ถ้วยชามจากวัด จารุณี  เรืองชัยวุฒิคุณ รับผิดชอบรับเงินบริจาคที่ได้จากผู้ปกครอง จัดทำบันทึกการรับ-จ่าย การจัดปัจจัยใส่ซองถวายพระ นวพร  อุ่นแจ่ม รับผิดชอบจัดหาดดอกไม้ธูปเทียนสำหรับบูชาพระและถวายพระ ประเทืองทิพย์  จ่ายวารี รับผิดชอบน้ำดื่มถวายพระ สมเพชร  กิจบุญชู และคณะรับผิดชอบจัดเตรียมอาหารที่จะถวายพระ ศิวพงษ์  รุจนพฤนธท์ รับผิดชอบการกล่าวบูชาพระ สายชล,ทิพวัลย์,รัตนาภรณ์ รับผิดชอบจัดเตรียมถ้วยชามใส่อาหารและการจัดเก็บล้าง ชลิต  อำพันแสง รับผิดชอบ การบันทึกภาพ ที่กล่าวมายังมีอีกหลายคนที่ช่วยกันทำงานเตรียมทำบุญ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามในรอบสองปีที่ผมมาปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนวัดสำโรงฯ เสร็จการทำบุญพรุงนี้ผมจะมาบันทึกไว้อีกครั้ง สวัสดีครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้เปิดทำงานวันแรกของปี ๒๕๕๕ ผมจะนำสถิติบางเรื่องมานำเสนอไว้ ณ ที่นี้ในรอบ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ ผมขับรถไปทำงาน ไปธุระ ไปเที่ยว สุดแท้แต่จะไป  มีสถิติที่น่าสนใจสำหรับตัวของผม ดังนี้ครับ ตลอดทั้งปีผมขับรถ จำนวน ๔๙,๑๑๗ กิโลเมตร เสียค่าน้ำมัน(ดีเซลล์) ๑๑๗,๒๐๕ บาท ราคาน้ำมันยืนนิ่งสนิทตั้งแต่เดือนมกราคม ๕๔ ราคาลิตรละ ๒๙.๙๙ บาท มาลดราคาเมื่อปลายเดือนสิงหาคม ๕๔ ราคาลิตรละ ๒๖.๙๙ บาท และก็ขึ้นอีกจนปัจจุบันราคาลิตรละ ๒๘.๘๙ บาท ผมจะบันทึกไว้ทุกครั้งที่เติมน้ำมัน จะเห็นว่าผมมีค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพียงอย่างเดียว เป็นเงินถึงหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นเจ็ดพันสองร้อยห้าบาทถ้วน เป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยครับ เฉลี่ย ๑๒ เดือนๆละ ๙,๗๖๗.๐๘ บาท น่าสนใจไหมครับสถิตินี้ สวัสดีปีใหม่ครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

เหลืออีกหนึ่งวันก็จะสิ้นปี 2554 หลายวันที่ผมไม่ได้บันทึกไว้ที่นี่เพราะระบบ it ขัดข้องหลายวัน ขอขอบคุณผู้จัดการธนาคารเกียรตินาคินสาขานนทบุรี สาขาบางใหญ่ซึ่งพร้อมด้วยคณะได้นำโต๊ะพร้อมเก้าอี้จำนวน 80 ตัว เครื่องฉายโปรเจคเตอร์พร้อมจอมอบให้กับห้องสมุดโรงเรียนวัดสำโรง ขอขอบคุณท่านท้ังหลายไว้ ณ ที่นี้ สำหรับคณะครูที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำความสะอาดโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 5 ธันวาคม จนแล้วเสร็จเรียบร้อย นักเรียนสามารถมาเรียนได้ตามปกติ ถึงแม้ว่าบางห้องยังไม่เรียบร้อย ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ ในโอกาสที่จะสิ้นปีเก่าและขึ้นปีใหม่ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยได้โปรดคุ้มครองให้ท่านและครอบครัวประสพความสุข มีสุขภาพกายและใจแข็งแรง สวัสดีครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้กำหนดให้ทุกคนดำเนินการทำความสะอาดโรงเรียนทั้งหมดให้แล้วเสร็จ โดยพรุ่งนี้จะประมวลความเสียหายที่เกิดขึ้นอีกครั้งเพื่อวางแผนฟื้นฟู และซ่อมแซมตามความจำเป็นก่อนหลัง กำหนดให้วันที่ ๑๓ ธันวาคม เปิดเรียนได้ตามปกติ ทุกคนพร้อมใจกันที่จะทำความสะอาดให้แล้วเสร็จ ผมขอขอบคุณทุกคนไว้ ณ ที่นี้ ถึงแม้ว่าเราจะประสบอุทกภัยอย่างแสนสาหัส เราก็ช่วยกันแก้ไขจนสำเร็จ เราไม่ได้รับการช่วยเหลือจากใครเลย ทุกหน่วยงานมีภารกิจเร่งด่วนพวกเราจึงต้องช่วยกันเอง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

ตั้งแต่เดือนตุลาคม54 เข้าทำงานที่โรงเรียนไม่ได้น้ำท่วมถนนทางเข้าโรงเรียนทุกทาง ในโรงเรียนน้ำท่วมสูงระดับ 1.80 เมตร ห้องเรียนชั้นล่าง ห้องส้วม ห้องสมุด ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายอย่างมาก วันนี้เข้าสำรวจความเสียหายเพื่อประกอบการพิจารณาปรับปรุง ซ่อมแซม หรือกรณีอื่นๆ ได้นัดข้าราชการครูและบุคลากรทุกคนประชุมปรึกษาหารือ เพื่อเตรียมการจัดทำความสะอาด เพื่อเปิดเรียนให้ได้วันที่ 6 ธันวาคม 54 การเรียนการสอนในภาคเรียนที่สองนี้ต้องเพิ่มเวลาเรียนในแต่ละวันออกไปอีกวันละสองชั่วโมง ที่ประชุมเห็นด้วยมากกว่าที่จะเปิดสอนวันเสาร์และอาทิตย์ เพราะจะเป็นการยัดเยียดให้กับเด็กมากเกินไป  สำหรับครูทุกคนได้รับผลจากน้ำท่วมครั้งนี้กันไปทั่วหน้า ทุกคนได้รับในระดับที่เสียหายมาก เครื่องใช้ต่างๆต้องทิ้งภายหลังน้ำลดแห้งแล้ว ต้องทำความสะอาด ผมได้ให้นโยบายไปสำหรับผู้ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ภายในบ้าน ให้ดูแลบ้านให้เรียบร้อยในระดับหนึ่งก่อน แล้วมาช่วยกันทำความสะอาดโรงเรียนร่วมกับคนอื่นๆ ผมพิจารณาจัดสรรเงินให้ดำเนินการจัดหาอุปกรณ์ทำความสะอาดอย่างเต็มที่ รวมทั้งการดูแลเรื่องอาหารกลางวันสำหรับครูทุกคน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ผมเขียนเหตุการณ์น้ำท่วมในโรงเรียนไว้หน่อยเดียว ไม่มีเวลาที่เขียนต่อ เพราะน้ำท่วมในโรงเรียนมากเหลือเกิน     สะพานไม้ที่ทำไว้ยังเตี้ยไปแล้วมีคนถามผมว่าน้ำท่วมปีนี้ยังน้อยกว่าปี ๒๔๘๕ ผมก็บอกว่าผมเกิดไม่ทันแต่ผมได้ถามคนสูงอายุหลายคนบอกว่าไม่เคยเจอ ผมก็ว่าตั้งแต่มีประเทศไทยคงไม่มีครั้งไหนที่มีน้ำท่วมมากกว่านี้  เมื่อครั้งผมเด็กๆเรียนอยู่ชั้น ป.๓ น้ำท่วมแม่ต้องพายเรือไปส่งที่โรงเรียน ก็ไม่มากกว่านี้ น้ำท่วมครั้งนี้ได้มองเห็นความสามัคคีปรองดองของคนหลายกลุ่ม ช่วยกันแก้ไข ป้องกันน้ำท่วม การสูญเสียทรัพย์สินต่างๆทำให้ต้องคิดแล้วว่าต่อไปการก่อสร้างถนน  ที่อยู่อาศัย นิคมอุตสากรรมต่างๆ ให้พ้นจากการถูกน้ำท่วม ถนนในประเทศของเรานี้ทำไมการก่อสร้างจึงสูงๆต่ำๆ มันควรจะมีระดับที่เป็นระดับเดียวกันตลอดเส้นทางเว้นแต่ขึ้นที่สูง เช่นภูเขา วันนี้น้ำท่วมได้บทเรียนหลายอย่างเก็บไว้แก้ไขเมื่อน้ำแห้งนะครับ  สำหรับโรงเรียน ผมจะปรึกษาหารือคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครูเพื่อเตรียมการหาทางแก้ไขต่อไป



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้ต้องเขียนเรื่องน้ำท่วมบ้าง  โรงเรียนวัดสำโรงฯประสบปัญาน้ำท่วมทุกปี ผมเตรียมป้องกันไว้ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ๒๕๕๔ ขอความร่วมมือจากเทศบาลเมืองบางกรวย ขอทรายกระสอบบรรจุทรายพร้อมทั้งคนงานมาดำเนินการจัดทำแนวป้องกันด้านหลังอาคารเรียนโดยเฉพาะห้องสมุดซึ่งเพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๔ น้ำท่วมเข้าตอนกลางคืน ตอนเช้าครูและนักเรียนมมาถึงต้องลุยน้ำเดินเข้าอาคารเรียน ผมเห็นว่าเป็นความลำบากของทั้งครูและนักเรียนห้องส้วมใช้การไม่ได้ นักเรียนชั้นอนุบาลตัวเล็กมาก เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักเรียนจึงประกาศปิดเรียนกรณีพิเศษ เป็นเวลา ๔ วัน จากนั้นได้ปรึกษาหารือร่วมกันกับคณะครู เห็นตรงกันว่าควรสั่งปิดเรียนชั้นอนุบาลตลอดเดือนตุลาคม ๒๕๕๔ เปิดเรียนวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ สั่งซื้อเครื่องสูบน้ำพร้อมอุปกรณ์ จำนวน ๒ เครื่อง เพื่อสูบน้ำออกจากบริเวณโรงเรียนเท่าที่จะทำได้ ป้องกันความเสยหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ขอความอนุเคราะห์เทศบาลเมืองบางกรวยจัดสร้างสะพานไม้ชั่วคราวเพื่อให้ครูและนักเรียนใช้เดินระหว่างอาคาร ได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน เขียนไว้ยังไม่จบขอต่อวันนี้ ผมได้รับพระราชทานเข็มผู้บริจาคโลหิต ๗ ครั้งเมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๕ จากสเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถขณะที่ผมยังเป็นนักเรียนการช่างปทุมธานี จากนั้นมาผมตั้งใจบริจาคโลหิตติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็ไปที่สนามหลวง ขณะนั้นยังเป็นตลาดวันเสาร์อาทิตย์ รถของศูนย์บริการโลหิตไปจอดรับ ผมสะดวกมากเดินทางจากบ้านที่ปากเกร็ดไปบริจาคสะดวกกว่าที่จะเดินทางไปที่ศูนย์ฯ เดี๋ยวนี้บริการแบบนี้ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว ผมได้รับพระราชทานเหรียญผู้บริจาคโลหิต อย่างต่อเนื่อง ดังนี้ครับ เหรียญ ๒๐ ครั้ง เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๑๘ เหรียญ ๒๔ ครั้งเมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๒๑ เหรียญ ๓๖ ครั้งเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๒๒ เหรีญ ๔๘ ครั้ง เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๒๕ พอบริจาคครบ ๕๐ ครั้งก็ได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ ๒ เหรียญ ๖๐ ครั้ง เมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๒๗ เหรียญ ๗๒ ครั้ง เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๓๓ เหรียญ ๘๔ ครั้ง เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๓๖  เหรียญ ๙๖ ครั้ง เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๑ เหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ ๑ ผู้ที่บริจาคโลหิตครบ ๑๐๐ ครั้ง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

ได้บริจาคโลหิตครั้งแรกแล้วภาคภูมิใจที่ได้ทำความดีให้กับสังคมและตนเองวันนั้นยังไม่มีสมุดบันทึกความดี ตั้งใจไว้ว่าจะบริจาคโลหิตทุกๆ สามเดือน ให้ได้100 ครั้งพอครบสามเดือนก็จะนั่งรถเมล์จากบ้านแถวๆบุคโลไปสภากาชาด ทำอย่างนี้อย่างต่อเนื่องผมได้รับพระราชทานเข็มผู้บริจาคโลหิตครบเจ็ดครั้งจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ขณะนั้นผมเรียนอยู่ที่การช่างปทุมธานีปีที่ สอง ผมภาคภูมิใจที่ได่แต่งชุดนักเรียนเข้ารับพระราชทานเหรียญผู้บริจาคโลหิต ผมมองดูในห้องอาคารใหม่สวนอัมพร ไม่เห็นมีนักเรียนเลยมีแต่ผู้ใหญ่ วันนี้เป็นวันที่ผมภาคภูมิใจเป็นที่สุดวันหนึ่งวันที่ผมได้ทำความดีแล้วเห็นผล ผมเลยตั้งใจจะบริจาคโลหิตต่อไปอีก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

ผมตั้งใจจะเขียนเรื่องการบริจาคโลหิตสักครั้งเพื่อให้คนอื่นได้คิดทำความดีเพิ่มขึ้นอีกผมเริ่มบริจาคโลหิตครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2512 ที่ศูนย์บริการโลหิต ยังเป็นอาคารไม้สองชั้น ผมเรียนอยู่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานแห่งชาติ ทีแรกผมเห็นลุงเขยได้รับพระราชทานเข็มบริจาคโลหิตจากสมเด็จพระนางเจ้าฯผมคิดว่าผมจะต้องทำให้ได้รับพระราชทานเข็มบริจาคโลหิตบ้าง จึงไปบริจาคโลหิต แรกๆก็กลัวเจ็บพอบริจาคเสร็จแล้ว ก็ได้รับการบริการที่ดีจากเจ้าหน้าที่พยาบาล มีเครื่องดื่มและขนมให้รับประทาน บริจาคแล้วรู้สึกสบายใจที่ได้ทำบุญด้วยเลือดของตัวเองให้กับคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ผมได้รับสมุดบันทึกการบริจาคโลหิต ปัจจุบันไม่มีแล้ว เป็นเล่มสีเทาผมได้หมายเลขสมาชิก เลขที่ 48163  หมู่เลือด A จำนวนเลือดที่เก็บใส่ขวด 300 ccผมดีใจครับที่ได้บริจาคโลหิตครั้งนี้ (จะเล่าต่อฉบับหน้า)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

ผมได้ดูโฆษณารายการหนึ่งของบริษัทประกัน เนื้อหาเด็กหญิงคนหนึ่งมีพ่อพิการเป็นใบ้พูดไม่ได้ พ่อรักเธอมากเอาใจลูกทุกอย่าง แต่ลูกก็อายที่มีพ่อพิการเป็นใบ้ ถูกเพื่อนนักเรียนด้วยกันล้อ เธออายมากจนทำร้ายตัวเองพ่อนำส่งโรงพยาบาล ขอแต่เพียงให้ลูกหาย  สรุปจากโฆษณา"ไม่ได้มีพ่อที่ดีที่สุด แต่มีพ่อที่รักเธอมากที่สุด" ผมเกิดมามีแม่แต่ไม่เคยได้พบพ่อไม่เคยได้มีโอกาสเรียก"พ่อ"เลยในชีวิต แม่ผมพิการเป็นใบ้ตั้งแต่กำเนิด ผมภูมิใจกับแม่ของผม  ผมไม่เคยอายใครเพราะแม่เลี้ยงดูผมตั้งแต่เกิด ผมไม่มีความพิการทางร่างกาย ผมก็ต้องไม่พิการทางจิตใจ แม่ผมเป็นใบ้เลี้ยงดูสั่งสอนผมตั้งแต่เล็กให้เป็นคนดี ผมกับแม่สื่อสารกันด้วยสัญชาตญาณ เพราะคำพูดของแม่ไม่มีเป็นคำอย่างที่เราพูดกัน คนอื่นๆที่คุยกับแม่ก็ต้องเป็นคนที่เคยชินกัน ท่าทางและมือใช้ประกอบการพูดของแม่ ผมเป็นคนดีมีหน้าที่การงาน ปัจจุบันผมมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ระดับชำนาญการพิเศษ ถ้าเป็นระบบ PC ผมกับอยู่ในระดับ 8 ผมไม่เคยอายใคร ผมพูดกับเพื่อนครูเสมอๆถึงชาติตระกูล ผมภูมิใจที่เกิดเป็นลูกของแม่ที่พิการพูดไม่ได้ สวัสดีครับ



ความเห็น (1)

เป็นกำลังใจให้คุณเสมอ

 

bop
เขียนเมื่อ

เมื่อวาน 21 สิงหาคม เป็นวันครบสองปีที่แม่ของผมได้เสียชีวิต ผมจำได้ว่าวันนี้ต้องวิ่งวุ่นจัดการเรื่องศพ ที่บ้านมีผู้ใหญ่หลายคนที่ให้ความช่วยเหลือทำให้ผมได้จัดการงานต่างๆสำเร็จไปด้วยดี ที่กล่าวถึงเพราะรำลึกถึงแม่ที่ผมมีแม่ที่ดี่ที่สุดของผม เมื่อวานจึงไปทำบุญอุทิศกุศลไปให้แม่ ผมเดินทางไปเยื่มน้องชายที่บ้านอัมพวา ได้พูดคุยกับพี่สาว ลูกพี่ลูกน้องกัน ได้คุยกันถึงเรื่องต่างๆ ผมมีพี่และน้องอีกไม่กี่คน ที่ยังพบและไปมาหาสู่กันอยู่ประจำ เมื่อไม่มีผู้ใหญ่เราก็เลยกลายเป็นผู้ใหญ่ ผมบอกพี่สาวว่าอีก 13 เดือน ผมก็เกษียณอายุราชการแล้ว ขอมาอาศัยพี่สาวปลูกบ้านสักหลังได้ไหม พี่สาวของผมคนนี้นับถือกันมาตั้งแต่เด็กๆ บัดนี้พ่อแม่ของพี่และผมก็ตายกันไปหมดแล้วจะต้อง ไปขอที่ดินพี่สาวเพื่อปลูกบ้านอยู่ พี่สาวก็อนุญาตทันทีเลยครับ เป็นอันว่าผมจะไปปลูกบ้านที่บ้านเกิดของผมหลังย่อมๆสักหลัง ไว้ได้พักและพูดคุยกับพี่และน้อง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

สัปดาห์วันแม่ ต้องพูดถึงแม่ผมคิดว่าผมยังตอบแทนบุญคุณของแม่ยังไม่ได้มากเท่าไรแม่ก็จากผมไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2552 อีกไม่กี่วันจะครบ 2 ปี เมื่อครั้งผมยังเรียนอยู่ราวชั้น ป.4 ที่ยังจำได้เพราะเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดบางแคใหญ่ "เขาเรียกว่าบ้านนอก" วันหนึ่งผมกลับบ้านตอนกลางวันเพื่อไปกินข้าว ปกติจะเจอแม่ที่ท่าเรือแม่คอยแจวเรือรับส่งคนข้ามฟาก ทุกๆวันพอกินข้าเสร็จแล้วก็จะขอสตางค์แม่ไปซื้อขนม แม่จะให้วันละสลึง ซื้อขนมสมัยนั้นเพียงสิบสตางค์ หรืออย่างแพงก็หนึ่งสลึง วันนั้นไม่เจอแม่เพราะแม่แจวเรือไปส่งคนที่อื่น ผมเดินกลับบ้านไปกินข้าวตามปกติพอเปิดหม้อข้าวมองเห็นสตางค์ สองสลึงวางไว้ในหม้อข้าว ผมดีใจไม่เจอแม่แต่แม่ก็ยังวางสตางค์ไว้ในหม้อข้าว เพราะแม่รู้ว่าผมจะต้องกลับบ้านมากินข้าว แสดงให้เห็นถึงความรักของแม่ที่มีต่อลูก มันอาจไม่ซาบซึ้งสำหรับคนอื่นแต่สำหรับตัวผมจะจำไว้จนตายสำหรับแม่คนนี้"แม่พับของลูก"



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

อีกสี่วันจะถึงวันแม่แห่งชาติ คือวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี แม่ผมจากผมไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2553 แม่เป็นผู้มีพระคุณต่อลูกอย่างหาที่เปรียบมิได้โดยเฉพาะกับตัวผมที่มีแม่สุดประเสริฐ ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยทำความผิดที่ต้องทำให้แม่น้ำตาไหลถึงแม้ว่าแม่ผมจะยากจนแม่ผมก็สอนให้ผมเป็นคนดี ผมต้องจากแม่ไปอาศัยอยู่กับคนอื่นต้องลำบากตรากตรำทำงานเพื่อแลกกับการได้เรียนหนังสือชั้น ป.5 ทั้งๆที่ผมอยากอยู่กับแม่ ผมต้องทนลำบากทำงานหนักทั้งๆที่ผมอายุเพียง 11 ขวบ ผมเคยคิดที่จะทำในสิ่งที่ไม่ดีหลายครั้งแต่พอคิดถึงแม่ที่ไรผมต้องล้มเลิกความคิดที่ไม่ดีนั้นทุกครั้งผมคิดอยู่เสมอว่าโตขึ้นผมจะมีงานทำและเลี้ยงแม่ ไม่ให้แม่ต้องลำบากแจวเรือ ความอดทนที่ผมได้อดทนต่อความลำบากทำให้ผมมีความเจริญก้าวหน้ามาถึงทุกวันนี้ผมจะกลับไปหาแม่ทุกเดือนเมื่อครั้งที่แม่ยังอยู่ ระยะหลังแม่ป่วยมากรับรู้ได้น้อยแต่พอเห็นผม แม่ก็จะยิ้มทุกครั้ง วันแม่ของผมมีทุกวันไม่เฉพาะต้องเป็นวันใดวันหนึ่ง ขอกราบภาวนาให้วิญญาณของแม่จงเป็นสุขเถิด

จากลูก "หลง"



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้เจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองบางกรวยได้นำอุปกรณ์การทำบัตรประชาชนเด็กมาให้บริการ จัดทำบัตรประชาชนเด็ก เมื่อสัปดาห์ก่อนผมได้ไปพบท่านนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางกรวย ได้ขอความอนุเคราะห์จากท่านในเรื่องการทำบัตรประจำตัวเด็ก วันนี้นักเรียนโรงเรียนวัดสำโรงฯ ตั้งแต่ชั้น ป.1-6 ได้รับบัตรประชาชนเด็ก ครบถ้วน ผมต้องขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำบัตรประชาชนเด็กในครั้งนี้ เพราะเด็กไม่ต้องเดินทางไปทำบัตร ให้เสียเวลาและค่าพาหนะ ถ้าท้องถิ่นอื่นๆจะทำอย่างนี้บ้าง ก็จะเกิดประโยชน์ ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ผู้ปกครองของเด็กก็จะใช้เวลาไปทำมาหากินได้อย่างสบายใจ ขอบอีกครั้งสำหรับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวก ขอบคุณครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันที่ 19 กรกฎาคม 54 ผมได้มีโอกาสไปกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดโคนอนมหาสวัสดิ์พระคูนนทวีรวัฒน์ เมื่อครั้งผมปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโคนอนฯ ผมได้รับความเมตตาจากท่าน เมื่อผมย้ายไปทำหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสำโรงฯ ท่านยังมีความกรุณาไปส่งผม ผมไม่ได้ไปพบท่านสองสามเดือนทราบว่าท่านนั้นได้รับ ปริญญาโท ท่านเป็นพระที่แสวงหาความรู้ จากพระธรรมดาๆจนสามารถเข้าศึกษาจบปริญญาตรี ปริญญาโท ท่านเป็นพระนักเทศน์นักพัฒนา ผมต้องขอยอมรับในความมุ่งมั่นของท่าน ได้สนทนากับท่านก็ได้รับความรู้จากท่านใหม่ๆทุกครั้ง คราวนี้ท่านบอกว่าท่านได้รณรงค์พระในวัดทุกองค์ ให้เลิกสูบบุหรี ตัวท่านเองภายหลังจากไปวิปัสนาที่เขาใหญ่ท่านเองก็ตัดใจเลิกสูบบุหรี ใครก็ตามที่จะมาบวชต้องปฏิบัติตนได้ตามที่ท่านเขียนไว้หน้ากุฏิ ท่านจึงจะบวชให้.....จะมีวัดไหนทำได้อย่างท่านบ้าง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้ผมได้จัดให้ครู,นักเรียนและผู้ปกครองร่วมกันหล่อเทียนจำนวน 2 ต้น เพื่อนำไปถวายวัดสำโรง ซึ่งโรงเรียนตั้งอยู่ในที่ดินของวัด และวัดไทร ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้ๆเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาในโอกาสนี้ได้รับความร่วมมือจากครู นักเรียนและผู้ปกครองเป็นอย่างดี เริ่มหล่อเทียนในตอนเช้าจนแล้วเสร็จทั้งสองต้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

เมื่อปีที่แล้วผมเพิ่งมารับหน้าที่ใหม่ๆจึงไม่ได้คิดที่จะดำเนินการหล่อเทียนเพราะ ครูและนักเรียนไม่เคยทำมาก่อนเกรงว่าจะเกิดความยุ่งยาก  การทำครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าคณะครูและนักเรียนเมื่อได้รับคำแนะนำก็สามารถทำได้ วันนี้ปล่อยให้เทียนแข็งตัวอยู่ในแบบปล่อยไว้ 2 วัน (เสาร์และอาทิตย์) เช้าวันจันทร์จึงมาทำการเอาต้นเทียนออกจากแบบ ขั้นตอนนี้จะต้องคอยให้คำแนะนำกับครูที่จะดำเนินการ เป็นการสอนทางวิทยาศาสตร์ไปในคราวเดียวกัน วันจันทร์จะมาเล่าให้ทราบว่าดำเนินการเอาเทียนออกจากแบบได้อย่างไร 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้สารพัดช่างนครหลวงได้นำนักศึกษาฝึกอาชีพหลักสูตรระยะสั้นการตัดผมจำนวน 20 คนมาตัดผมให้กับนักเรียนชายของโรงเรียนวัดสำโรง ฯ ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 80 คน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. จนถึง13.00 น.โดยไม่คิดค่าบริการทางโรงเรียนขอขอบคุณผู้อำนวยการ สารพัดช่างนครหลวงไว้ ณ ที่นี้ ผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่ไม่เอาใจใส่ต่อสุขภาพของลูกหลานตนเอง ปล่อยให้ผมยาวไม่เหมาะสมกับการเป็นนักเรียน นโยบายเรียนฟรี 15 ปี ควรจะผนวกค่าตัดผมไว้ในงบประมาณด้วยจะเป็นการดีอย่างยิ่ง ไหนๆก็เรียนฟรี เพราะผู้ปกครองเกิดความเคยชินซะแล้ว ไม่สนใจกับลูกหลานตนเอง เสื้อไม่ปักอักษรย่อโรงเรียนก็ต้องบริการจัดหาช่างมาปักเสื้อให้ ผมยาวโรงเรียนก็หาช่างมาตัดผม รัฐบาลต่อไปคงจะต้องจัดสรรเงินงบประมาณให้ในการนี้ด้วยกระมัง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

ผมบอกกับคุณสมพงษ์ว่าไม่มีเงินซื้อหรอก ปี พ.ศ. 2546 ผมได้รับการปรับปรุงตำแหน่งจากอาจารย์ใหญ่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนระดับ 8 ได้รับเงินประจำตำแหน่งตกเบิกราว สองแสนกว่าบาท ผมใช้เป็นเงินดาวน์รถ ได้รถยนต์คันใหม่ป้ายแดงผมจึงนึกถึงคุณสมพงษ์ ที่ทำนายผมไว้เป็นจริง ขอบคุณมากๆ



ความเห็น (1)
bop
เขียนเมื่อ

ผมได้เกริ่นไว้ว่าจะเล่าถึงเพื่อนที่ชื่อสมพงษ์  คชินทรานนท์ อายุมากกว่าผม 7 ปี ผมเข้ารับราชการเมื่ออายุ 25 ปี คุณสมพงษ์ เข้ารับราชการอายุ 32 ปี น่าชื่นชมที่เป็นคนมีความอุสาหมานะพยายาม เป็นลูกชาวนาเรียนจบแค่ ป.7 เป็นนักการภารโรง ศึกษาเพิ่มเติมจนจบ ม.3 แล้วเรียนภาคค่ำวิทยาลัยครู จนจบ ปกศ. มาสอบบรรจุเป็นครูที่เดียวกันใช้เวลาสองปีสอบ พม.ได้ ขอชื่นชมด้วยความจริงใจ คุณสมพงษ์ มีความสามารถพิเศษ ดูลายมือแล้วทำนายโชคชะตา บรรดาเพื่อนฝูงทั้งหญิง และชาย เจอกันเม่ือไรต้องให้คุณสมพงษ์ ดูลายมือแล้วทำนายโชคชะตา ผมไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าใดนัก แต่ยอมรับว่าความสามารถของคุณสมพงษ์ ใช้ได้ เมื่อ พ.ศ. 2545 ผมพาคณะครูของโรงเรียนป่าไม้อุทิศ ๙ ไปศึกษาดูงานที่โรงเรียนวัดดอนทอง จังหวัดฉะเชิงเทรา ไปพบคุณสมพงษ์ โดยบังเอิญ ขณะนั้นคุณสมพงษ์ ย้ายไปรับราชการที่โรงเรียนในจังหวัดอยุธยาแล้วไปศึกษาดูงานที่โรงเรียนวัดดอนทอง เช่นกัน ผมยื่นฝ่ามือหงายให้คุณสมพงษ์ดูลายมือแล้วทำนายให้ด้วย คุณสมพงษ์ ดูลายมือสักพักแล้วบอกว่าผมจะโชคดี จะได้ซื้อรถยนต์คันใหม่ป้ายแดงทีเดียว ผมบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก ผมไม่มีเงินซื้อ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้ไปโรงพยาบาลปทุมธานี ไปตรวจร่างกายตามนัดผมรักษาพยาบาลโรคเบาหวานที่โรงพยาบาลแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2549 การบริการของเจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายให้บริการที่แตกต่างกันไป ผมเดินทางไปถึงโรงพยาบาล 06.00 น. เพื่อรับบัตรคิวเจาะเลือดได้หมายเลข 24 หน้าห้องแผ่นป้ายมีข้อความเจาะเลือดคลีนนิคเบาหวาน เวลา 06.30 น. ผมนั่งรอ เวลาล่วงเลยจนถึง 06.50 น.เจ้าหน้าที่จึงมาถึง (รักษาเวลาดีจัง) เจาะเลือดแล้วไปชั่งน้ำหนักวัดรอบเอว วัดความดัน เจ้าหน้าที่จุดนี้บริการดีมากครับ คนที่มารถเข็นก็วัดความดันเครื่องหนึ่ง ที่มาปกติก็วัดความดันอีกเครื่องเสร็จเร็วครับ ขอชมเชยนำผลไปส่งให้โต๊ะซักประวัติ เพื่อรอผลเลือด กลับมาอีกครั้ง 10.30 น.ผลเลือดมาแล้วครับ ไปนั่งรอพบแพทย์ที่จะวินิจฉัย (พญ.วันทนา.....) ท่านไม่คอยอยู่ครับนั่งรอกันนาน พบคนไข้สองสามคนก็ออกไปนอกห้องพักใหญ่จึงกลับมา ผมได้พบเวลา 11.20 น. อัธยาศัยไม่คอยประทับใจเหมือนแพทย์คนอื่นๆที่เคยมาพบ ค่ายาของผมครั้งนี้ หนึ่งหมื่นเอ็ดบาทครับ แยกประเภทได้ดังนี้ ค่ายา 1,490 บาท ค่าบริการผู้ป่วยนอก ในเวลาราชการ 50 บาท ค่ายานอกบัญชีหลัก 8,461 บาท ถ้าได้ค่าสอนบ้างก็ดี

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

เมื่อวันก่อนพูดถึงเพื่อนคุณสมพงษ์  คชินทรานนท์ เดินทางถึงโรงเรียนวัดเสนีวงศ์วันแรกพบครูใหญ่แนะนำตัวแล้วพาไปบ้านพักครู มีว่างอยู่ 1 หลัง สองห้องนอน คุณวิโรจน์ กับคุณสมพงษ์ ได้พักผมต้องไปนอนที่กุฏิพระ หลวงพ่อใจดีมากแต่ดุ ตอนเช้าพูดออกเครื่องขยายเสียงทุกวัน มีที่พักแล้ว ครูใหญ่ก็พาไปพบหลวงพ่อ ไปพบผู้ใหญ่สินธุ ซึ่งอยู่ที่ชุมชนร้านค้าหน้าวัด อาสัยอยู่ที่วัดก็ดีนะครับเช้าขึ้นไปบิณฑบาตรกับพระ ได้พบผู้ปกครองทุกบ้าน เป็นการเยี่ยมบ้านนักเรียนไปด้วย พอถึงวัดก็จัดอาหารถวายพระ พอพระฉันเสร็จแล้วเราก็แบ่งอาหารส่วนหนึ่งเก็บไว้ถวายพระตอนเพล แล้วก็กินข้าวเช้าร่วมกับเด็กวัดคนอื่นๆ เมื่อ พ.ศ. 2520 มีเงินไปใช้จ่ายตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ค่าอาหารค่าเดินทางค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพียงสัปดาห์ละ 100 บาท ยังเหลือเลยครับรวมแล้วหนึ่งเดือน ผมใช้จ่ายเพียง 400-500 บาท เท่านั้นเอง มีเงินเหลืออีกประมาณ 500 บาท วันนี้เงินเดือน รวมเงินประจำตำแหน่ง 60,000 บาท พอดิบพอดีถึงสิ้นเดือน ยังไม่ได้พูดถึงคุณสมพงษ์ เอาไว้คราวหน้าจะพูดถึงเพื่อนคนนี้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท