อนุทินล่าสุด


bop
เขียนเมื่อ

วันนี้ครบ 34 ปีที่ผมรับราชการ ผมเริ่มรับราชการเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2520 ที่โรงเรียนวัดเสนีวงศ์ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ตำแหน่ง ครู 1 ระดับ 1 เงินเดือน 1,080 บาท นายไพโรจน์  บัวภิบาล เป็นครูใหญ่ ขณะนั้นสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี มีนายสุชาติ  พัววิไล เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด นายธนุส  อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นนายอำเภอ นายจำนงค์  แป้นเจริญ เป็นหัวหน้าหมวดการศึกษาอำเภอไทรน้อย นายสุรินทร์  เวชรัตน์ เป็นหัวหน่าส่วนการศึกษาจังหวัดนนทบุรี ผมเดินทางไปโรงเรียนวัดเสนีวงศ์ กับเพื่อนที่บรรจุใหม่อีกสองคน คือนายวิโรจน์  ดีวุ่น (ลาออกจากราชการแล้ว) นายสมพงษ์  คชินทรานนท์ (เกษียณอายุราชการแล้ว) ลงเรือหางยาวที่ท่าเรือตลาดบางบัวทอง ซึ่งเป็นจุดนัดหมายของบรรดาเพื่อนครูที่อยู่ต่างโรงเรียน ไม่ใช่เป็นคนในพื้นที่วันจันทร์ต้องมาลงเรือที่นี่เย็นวันศุกร์จึงกลับบ้านมาขึ้นที่ท่าเรือแห่งนี้ อยู่สอนที่โรงเรียนวัดเสนีวงศ์ 3 ปี จึงย้ายไปอยู่อำเภอปากเกร็ด (พรุ่งนี้จะเล่าต่อ)

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

โรงเรียนเปิดเรียนเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 54 ตั้งใจจะบันทึกเหตุการณ์ ณ วันที่โรงเรียนเปิดเรียนวันแรกไว้ เกิดเหตุชุมสายโทรศัพท์ที่โรงเรียนใช้อยู่ขัดข้องเกิดไฟไหม้จึงไม่สามารถบันทึกได้ ขอบันทึกไว้ ณ ตรงนี้ ปีนี้เปิดเรียนวันแรกไม่มีปัญหาและอุปสรรคใดๆเลย ผู้ปกครอง นักเรียน และครูอาจารย์ทุกคนให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนเป็นอย่างดีขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ ปีนี้นักเรียนระดับประถมศึกษามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ต้องขยายชั้นเรียนชั้นป.1 และ ป.2 เป็นสองห้องจากเดิมมีเพียงชั้นละหนึ่งห้อง ผู้ปกครองเอาใจใส่กับตัวนักเรียนมากขึ้น นักเรียนแต่งกายมาโรงเรียนเรียบร้อยดี ผมได้มอบเงินตามนโนบายเรียนฟรีไปตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 54 วันนี้นักเรียนจึงเรียบร้อยกว่าปีที่แล้ว ขอขอบคุณครูอาจารย์ทุกคน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้เตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียนปีการศึกษาใหม่ 2554 ทุกคนมาช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ ห้องสมุดได้ปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยพร้อมรับบริการ ห้องธุรการจัทำใหม่จ้างช่างมาทำการปรับปรุงห้องเพื่อพร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ติดตั้งระบบอีเลคโทรนิคส์ เพื่อให้ทันสมัยเข้ากับยุค IT ขอชมเชยบุคลากรของโรงเเรียนวัดสำโรงฯ ที่มีความรัก สามัคคีช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี วันนี้นัดหมายให้ผู้ปกครองมารับอุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้าชุดนักเรียนที่สั่งซื้อไว้กับทางโรงเรียน และได้มอบเงินค่าอุปกรณ์ ค่าเสื้อผ้าชุดนักเรียนให้กับผู้ปกครอง ตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี ที่ไม่ได้มารับในวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา ขอขอบคุณครูทุกท่านที่มาช่วยกันทำงานจนเสร็จด้วยความเรียบร้อย



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

ความยุติธรรม 2

และผู้ที่ได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน ตามกฏ กคศ ข้อ 7 ที่จะเเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคม 2555 ประกอบด้วย ผอโรงเรียนวัดพุฒิปรางค์ปราโมทย์ ผอ.โรงเรียนวัดทางหลาวงโพธ์ทอง ผอ.โรงเรียนวัดปากน้ำพิบูลสงคราม สำหรับผอ.โรงเรียนวัดสำโรงฯที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคม 2555 เช่นกัน ได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน ตาม กฏ กคศ. ข้อ 6 ขอแสดงความยินดีและขอขอบคุณมา ณ ที่นี้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

ความยุติธรรม

เมื่อปี พ.ศ. 2521 ผมเพิ่งเข้ารับราชการได้เพียงปีเดียว วันหนึ่งได้มีการประชุมข้าราชการครูทั้งอำเภอ โดยมีนายอำเภอเป็นประธาน ขณะนั้นข้าราชการครูโรงเรียนประถมศึกษาทั้งหมดสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด มีครูใหญ่คนหนึ่ง (ปัจจุบันท่านเสียชีวิตไปแล้ว) ได้ลุกขึ้นถามนายอำเภอ ถึงเรีองการพิจารณาความดีความชอบซึ่งท่านไม่ได้รับการพิจารณาให้เลื่อนสองขั้น โดยถามว่า"ความยุติธรรมมันอยู่ที่ความพอใจใช่หรือไม่" นายอำเภอ (ปัจจุบันท่านเสียชีวิตไปแล้ว) ตอบทันทีว่า "ใช่มันอยู่ที่ความพอใจ" บรรยากาศการประชุมไม่ค่อยดี นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา ต่อมาไม่นานนักครูใหญ่ท่านนี้ถูกปลดออกจากตำแหน่งครูใหญ่ ผมได้มีโอกาสร่วมงานกับท่านก่อนเกษียณอายุราชการ ราวปี 2527 ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่มีอัธยาศัยดีมาก ใครๆก็รักท่าน เรื่องความดีความชอบ ผมขอแสดงความยินดีกับเพื่อนผู้บริหารที่ได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นครั้งที่ 1 เมษายน 2554 โดยได้รับการเลื่อนขั้น ตาม กฏ กคศ ข้อ 7 ประกอบด้วย ผอ.โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 55 ซึ่งจะเกษียนอายุราชการเดือนตุลาคม 2554 นี้ และผู้ที่ไดรับการพิจารณา



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

(คิดถึงแม่ ฉบับที่ 7) วันนี้เป็นวันแม่ของผมอย่างแท้จริง ผมถือกำเนิดในวันนี้ เมื่อ 2495 แม่ผมก็เป็นผู้หญิงที่มีสถานะเป็นแม่ ผมเกิดที่บ้านมีหมอตำแยเป็นคนทำคลอด คุณตาของผม "คุณตาเผื่อ" เป็นคนแจ้งเกิด แม่ผมชื่อ"พับ  นามสกุลต้องใช้ของคุณตา "สุวรรณรัตน์ ชื่อพ่อของผมไม่ปรากฏ ต้องใช้ชื่อคุณตาเป็นชื่อบิดาในใบแจ้งเกิดและในทะเบียนบ้าน ผมจึงมีชื่อพ่อเป็นชื่อของคุณตา ตัวผมเองคุณตาตั้งชื่อว่า "หลง" เพราะมันไม่มีพ่อ เป็นทั้งชื่อจริงและชื่อเล่น ผมเข้าโรงเรียนก็ชื่อเด็กชายหลง เรื่องนี้ผมเขียนรายละเอียดไว้ใน 365 วัน ใน 60 ปีของผม วันนี้เป็นวันเกิดของผม ครบปีที่ 59 ตอนเช้าไปทำบุญถวายสังฆทานอุทิศส่วนกุศลให้แม่พับ และคุณม่วิง ที่ผมนับถือ ตลอดจนญาติมิตรทั้งหลาย เมื่อครั้งที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ วันนี้เป็นวันแม่ที่แท้จริงของผม หลังจากทำบุญแล้วผมก็จะนำอาหารที่ทำด้วยตนเองสองสามอย่าง ใส่ปิ่นโตขับรถไปหาแม่ที่บ้านอัมพวา ซื้อเสื้อผ้าให้แม่ใหม่ เสร็จแล้วจึงกลับมาทำงาน วันนี้ผมไม่มีแม่ได้แต่ตั้งจิตอธิษฐานไปถึงแม่ บุญกุศลที่ทำทั้งหลายขออุทิศให้กับแม่ หากเกิดมาอีกขอเป็นลูกของแม่



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

(คิดถึงแม่ ฉบับที่ 6) วันนี้เมื่อ พ.ศ. 2495 ผมคงดิ้นอยากออกจากท้องแม่แล้ว แม่ผมคงไปไหนไม่ไหวแล้ว คิดถึงวันนั้นทำให้ผมยิ่งรักและคิดถึงแม่มาก ผมคิดอยู่เสมอว่าถ้ามีชาติหน้าจริงก็ขอให้ผมเกิดเป็นลูกของแม่ "พับ" ไปทุกๆชาติ จำได้ว่าผมเกิดมาจนเติบโต ผมไม่เคยทำให้แม่น้ำตาไหลในทางที่ไม่ดีเลย เล็กๆผมเคยมีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนรุ่นเดียวกันบ้าง ทุกครั้งแม่จะลงโทษด้วยการตีผมเป็นอันดับแรก แม่ไม่เคยให้ท้ายผมเลย วันไหนที่แม่ต้องแจวเรือไปส่งคนไกลและคิดว่าจะกลับมาไม่ทันโรงเรียนพักกลางวัน ทุกครั้งแม่จะเอาสตางค์หนึ่งสลึง ไปใส่ไว้ในหม้อข้าวในครัว (ครัวกับที่นอนก็ที่เดียวกัน) เมื่อครั้งกระโน้นผมไม่คิดหรอกว่าการที่แม่ทำอย่างนี้เป็นความรักและความห่วงใยที่แม่มีต่อลูก กลัวว่าลูกจะอดกินขนมเพราะไม่มีสตางค์ซื้อ การขอคนอื่นดูเหมือนจะไม่เคยเกิดขึ้นกับผมเลย แม่รักและห่วงใยผมจนทำให้ผมเก็บสิ่งเหล่านี้ซึ่งเป็นเรื่องเล็กสำหรับคนอื่นแต่เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมที่แม่มีต่อผม ได้ใช้เหตุฯอย่างนี้ในการอบรมนักเรียนหรือโอกาสวันสำคัญต่างๆ ได้เล่าให้นักเรียนฟังเพื่อจะได้มีความรักต่อพ่อแม่ของตนเอง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

(คิดถึงแม่ ฉบับที่ 5) ผมมีเสื้อผ้าชุดนักเรียนเพียงชุดเดียวโรงเรียนเลิกเรียนแล้วกลับถึงบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดนักเรียนแขวนไว้ข้างฝาบ้าน ทำด้วยไม้ขัดแตะ ไปวิ่งเล่นตามประสาเด็กหรือไม่ก็เดินหาเศษสตางค์ใต้ถุนร้านค้า เย็นหน่อยก็ไปช่วยแม่พายหัวเรือส่งคนข้ามฝาก ค่าเรือข้ามฟากเมื่อ พ.ศ. 2500 คนละ หนึ่งสลึง วันหนึ่งแจวเรือส่งคนข้ามฟากได้วันละ ประมาณ ห้าบาท กับข้าวมื้อเย็นที่แม่จะทำให้กินบ่อยๆ ก็เป็นของถูกๆสำหรับคนจนในสมัยนั้น คือกุ้งก้ามกรามเผา กุ้งก้ามกรามหาได้ง่ายราคาต้องถูกแน่นอนเพราะเรือตกกุ้งมีเยอะแยะ เล่นน้ำดำน้ำลงไปใกล้ๆกับตอไม้ก็จับกุ้งได้แล้วตัวใหญ่ ได้ตัวหนึ่งหรือสองตัวก็พอแล้ว พวกเราคนบ้านนอกจึงโชคดีที่ได้กินกุ้งก้ามกรามในตอนเด็ก ๆสมัยนี้ตัวละ 7-8 ร้อยบาท แม่ผมทำกับข้าวอร่อยน้อยครั้งที่ผมจะไปอาศัยกินข้าวบ้านป้า บ้านลุง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

(คิดถึงแม่ฉบับที่ 4) วันนี้เมื่อ พ.ศ. 2495 ผมอยู่ในท้องแม่โตเต็มที่แล้ว แม่คงอยากให้ผมออกมาดูโลกเร็วๆ เพราะต้องอุ้มท้องอยู่นานร่วมเก้าเดือนแล้ว แม่บอกว่าอ้มท้องแจวเรือจนใกล้คลอด พออายุเข้าเกณฑ์คุณตาเผื่อนำผมไปฝากเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดบางแคใหญ่ กับครูใหญ่ ชื่อครูชลอ  บัวเวช ปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่ ผมจำได้ว่าที่โรงเรียนมีครู 2 คน สอนตั้งแต่ชั้น ป.1 ถึง ป.4 มีชั้นละ 1 ห้องเรียน แม่พาไปซื้อเสื้อและกางเกงนักเรียน 1 ชุด ที่ตลาดอัพวา ที่มีชื่อเสียงอยู่ในปัจจุบันนี้ มีโอกาสผมจะเล่าเรื่องตลาดน้ำอัมพวาจากความทรงจำ เดินจากท่าเรือไปตามสวนสาเกผ่านป่าช้า ที่ฝังศพหลังวัดอัมพวัน ซึ่งปัจจุบันเป็นบ้านไม้ทรงไทย เป็นสถานที่จัดงาน ดูไม่น่ากลัวเมือนก่อนแล้วแต่อัมพวา ไม่มีใครรู้จักใน พ.ศ. 2495- 2515 เวลาที่มีคนถามผมว่าบ้านเดิมอยู่ที่ไหน ผมบอกว่าเป็นคนอัมพวา เขาถามว่าอยู่จังหวัดไหน ไม่มีคนรู้จักจริงๆ เวลามากรุงเทพฯทางกรุงเทพฯเขาเรียกบ้านอัมพวา ว่า"บ้านนอก"  คล้ายๆเรียกคนทางนครราชสีมา ว่า"อีสาน" ได้เสื้อผ้าชุดเดียวแล้วก็ตัดผมทรงนักเรียน เพราะแม่ไม่มีเงินจะซื้อมากไปกว่านี้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

(คิดถึงแม่ ฉบับที่ 3) เมื่อผมอายุ 3-4 ขวบ ผมพายเรือเก่งแล้วแจะให้ผมนั่งหัวเรือคอยพายเรือช่วยแม่ตอนที่แม่แจวเรือ แม่ไม่ต้องให้ผมอยู่ที่ศาลาท่าเรืออีกแล้ว เวลาจอดเรือผมก็จะใช้โซ่ผูกเรือ สมัยนี้เรือไม่ใช้โซ่ผูกเรือ เขาใช้เชือกกันเป็นส่วนใหญ่ เรื่อเล็กหรือใหญ่ต้องใช้โซ่สำหรับผูกเรือกันทั้งนั้น เวลาที่แม่รับจ้างไปส่งคนที่ไกลๆผมก็จะนั่งพายหัวเรือช่วยแม่อีกแรงหนึ่ง ถ้าไปไกลมากๆบ้างครั้งเม่อยเลยนอนหลับอยู่หัวเรือ พอส่งคนถึงที่แล้วแม่จึงปลุกให้ตื่น คนที่ใช้บริการของแม่ผมรู้จักผมทุกคน คุณตาเผื่อมักจะให้ผมไปกับคุณตาบ่อยๆ ไปหลายที่บางครั้งก็ไปรับศพเพราะคุณตาเผื่อเป็นสัปเหร่อด้วย ผมจึงไม่ค่อยกลัวผีเท่าใดนัก (จะเล่าเรื่องคุณตา"เผื่อ"ในวันที่ 10 มีนาคม วันเกิดของผม) ผมพายเรือเป็นตั้งแต่ยังเล็กๆเรือทุกชนิดผมพายได้ทั้งนั้น เรื่อที่พายยากทีสุดคือเรือ "บด" รูปร่างแหลมหัวแหลมท้าย พระใช้พายเรือสำหรับบิณฑบาตตอนเช้า ผมเริ่มหัดแจวเรืออยากช่วยแม่บ้าง (พรุ่งนี้จะเล่าต่อ)

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

"คิดถึงแม่ ฉบับที่ 2" (ฟังจากคนเล่าให้ฟัง) เมื่อตอนที่ผมยังเล็กๆ ยังเดินไม่ได้เคลื่อนที่ด้วยการคลาน แม่จะเลี้ยงผมอยู่ที่ศาลาท่าเรือที่ใช้เป็นท่าแจวส่งคนข้ามฟาก (ท่าวัดบางแคใหญ่ ใกล้ๆกับอนุสรณ์ ร.2) แม่จะผูกเปลด้วยผ้าถุงของแม่ที่ไม่ใช้แล้ว เมื่อมีคนจะข้ามฟากแม่จะฝากคนรู้จักให้ไกวเปลให้ระหว่างที่แม่แจวเรือไปส่งคนข้ามฟาก บางครั้งไม่มีใครอยู่ที่ท่าเรือเลยสักคนเดียว ขณะที่ผมยังนอนหลับอยู่แม่จะให้ผมนอนกับพื้นกระดานศาลา ห่มผ้าให้แล้วเอาเชือกผูกขาไว้กับลูกกรงศาลาที่ใช้สำหรับคนนั่งพิง เพื่อป้องกันไม่ให้ผมตื่นขึ้นมาแล้วคลานตกศาลาหรือตกน้ำตาย เป็นความฉลาดของแม่ ตอนที่ผมยังเด็กอยู่ผมก็คงไม่ฉลาดที่จะแก้เชือกเองได้ ถ้าเป็นเด็กสมัยนี้คงแหกปากร้องลั่นบ้านแล้วถ้าถูกแม่ผูกเชือกขาไว้กับเสาหรือลูกกรง ทำให้ผมมีชีวิตมาจนถึงอายุ 59 ปีได้ ความดีของแม่ผมยังคงจำอยู่ในจิตใจของผมตลอด ผมไม่เคยได้กินนมกระป๋อง นอกจากนมของแม่ จำได้ว่าเวลานอนกลางคืนต้องจับนมแม่ก่อนจะหลับทุกคืน เป็นความสุขในวัยเด็กของผม แม่จะสอนให้ผมไหว้ คนทุกคนที่แม่รู้จักแม่เป็นครูของผมที่ผมจะไม่ลืมสิ่งที่แม่สอนผม พรุ่งนี้ผมจะเริ่มพายเรือ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

เดือนมีนาคม  เป็นเดือนที่มีวันเกิดของผมก่อนจะถึงวันเกิดของผมขอระลึกถึงพระคุณของแม่ผมไว้ตรงนี้ ถ้าแม่ผมยังมีชีวิตอยู่ก็จะมีอายุ 79 ปี ผมจะกล่าวถึงพ่อน้อยมากเพราะเกิดมาผมมีแต่แม่ที่เลี้ยงดูผมจะเติบโต ให้ผมได้เรียนหนังสือแต่แม่ไม่เคยเรียนหนังสือ แม่ต้องแจวเรือเลี้ยงผม จะบอกว่าผมโตมากับเรือจ้างก็ไม่ผิด วันไหนที่น้ำลงมากแม่เอาเรือเข้าจอดใต้ถุนบ้านไม่ได้ก็จะนอนในเรือ ผมจะนอนกับแม่ในเรืออบอุ่นมาก เวลานอนในเรือกับแม่เหมือนได้นอนกอดแม่ทั้งคืน เพราะขนาดของเรือมันบังคับไม่สามารถนอนดิ้นไปไหนได้ยิ่งวันไหนฝนตกอากาศเย็นสบาย เหลือเกิน ตะเกียงน้ำมันก๊าดจุดตามไว้ในเรือพอมองเห็น วันนี้ผมจึงคิดถึงแม่ หากตายไปแล้วยังเกิดมาอีกขอเกิดเป็นลูกแม่พับต่อไป ผมจะกล่าวถึง"แม่" ตลอดเดือนมีนาคมนี้ เพื่อจะบอกว่าวันแม่ที่แท้จริงของผมคือวันไหน ไม่ใช่วันแม่ทั่วๆไป



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้ผมได้ร่วมปรึกษางานกับ อ.สมร และ อ.อรสุดา ในเรื่องที่เกี่ยวกับการจัดทำรายงานคุณภาพสถานศึกษาประจำปีการศึกาา 2553 เพื่อดำเินการจัดทำให้แล้วเสร็จก่อนเปิดเรียนปีการศึกษา 2554 ซึ่งจะมีการประชุมผู้รับผิดชอบในวันที่ 24-25 มีนาคม 54 ที่โรงแรมเดอะริช ผมได้เสนอแนะให้นำผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดทำไปเข้าร่วมประชุมด้วย ตอนบ่ายก็เสนอแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำรายงานคุณภาพให้ผมลงนามในคำสั่ง กรณีที่จะจัดวันมอบวุฒิบัตรให้กับนักเรียนอนุบาล 2 ที่จบการศึกษา ได้มอบหมายให้ อ.งามนิตย์ ไปดำเนินการจัดทำรูปแบบของงานพร้อมทั้งกำหนดผู้รับผิดชอบ สำหรับงบประมาณนั้นได้มอบหมายให้ อ.สมร ซึ่งดูแลเกี่ยวกับเงินสวัสดิการ ดำเนินการสนับสนุนค่าใช้จ่าย มอบหมายให้ อ.ชลิต ดำเนินการถ่ายภาพนักเรียนในลักษณะเป็นภาพหมู่แต่ละชั้นเรียนเพื่อจัดทำเป็นข้อมูลนักเรียนประจำปีการศึกษา 2553 ใกล้ปิดภาคเรียนต้องสรุปงานหลายเรื่อง เรื่องสำคัญๆที่รอยู่ อาทิการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูครั้งที่ 1 จะทำให้คนทุกคนพอใจคงเป็นเรื่องยากแต่ความยุติธรรมในใจต้องมี



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 54 ผมไม่ได้เขียนอนุทินเพราะเป็นวันหยุดไปพักผ่อนในช่วงขึ้นปีใหม่ ก็ถือโอกาสนี้อวยพรให้กับผู้ที่เปิดอ่านทุกท่าน ขอให้มีสุขภาพ พลานามัยแข็งแรงมีฐานะมั่นคงถ้ารวยอยู่แล้วก็ขอให้รวยยิ่งๆขึ้นไป ถ้าเป็นหนี้อยู่ก็ขอให้อดทนใช้หนี้ให้หมดโดยเร็ว เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มกราคม 54 ผมและคณะครูร่วมกันทำบุญในโอกาสขึ้นปีใหม่ เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับโรงเรียน อุทิศกุศลให้กับบรรดาข้าราชการครูที่เคยปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่โรงเรียนวัดสำโรงฯแห่งนี้ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ตลอดจนบรรพบุรุษที่ได้สร้างโรงเรียนแห่งนี้เป็นที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้กับเด็กๆ ขอขอบคุณคณะครูทุกึคนที่ร่วมแรงร่วมใจกัน จัดทำอาหาร และจัดทำอาหารใส่ปิ่นโตเพื่อถวายพระ ขอขอบคุณคนงานทุกคน ตลอดจนผู้ปกครองนักเรียนที่ร่วมกันทำบุญในครั้งน้ ขอให้บุญกุศลที่ท่านได้ทำสนองกลับไปสู่ท่านและครอบครัว ตลอดไป



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม 53 ผมมีภารกิจที่จะต้องเข้าร่วมประชุมสัมมนากับ สพป.นนทบุรี เขต 1 จึงมิได้ไปเยี่ยม ราว 17.00 น.ได้รับแจ้งว่าอาการของ อ.คารมไม่ดีขึ้น การเต้นของหัวใจลดลง การผ่าตัดยังไม่เกิดขึ้น จนกระทั่งเช้าของวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 53ผมได้รับแจ้งว่า อ.คารม ได้เสียชีวิตแล้ว ผมได้แต่เสียใจที่ไม่สามารถช่วยชีวิตเพื่อนไว้ได้มากกว่านี้ ไปสู่สุคติเถิดเพื่อน ภายหลังจากการถ่ายโอนโรงเรียนวัดโคนอนราษฎร์บำรุง ไปสังกัดเทศบาลปลายบางแล้ว ข้าราชการครูที่ไม่สมัครใจถ่ายโอนก็ย้ายไปรับราชการที่โรงเรียนอื่น อ.คารม ย้ายไปโรงเรียนวัดบางไกรนอก ผมเองมาอยู่ที่โรงเรียนวัดสำโรงฯ อ.คารม มาพบและขอร้องว่าขอมาอยู่สอนที่โรงเรียนวัดสำโรงฯด้วยผมก็ไม่ขัดข้อง ในที่สุด อ.คารม ก็มาช่วยราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 จนถึงวันเสียชีวิตยังไม่ถึงสองเดือน ผมได้ช่วยเพื่อนได้เท่านี้เองครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

จะบันทึกไว้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 17 ธ.ค.53 ก็ไม่มมีเวลา จนวันนี้ต้องบันทึกไว้ เหตุจาก อ.คารม พวงทอง ซึ่งเป็นเพื่อนกันมานานกว่า 20 ปี ได้เสียชีวิตในโรงเรียนที่ผมเป็นผู้บริหาร มันสะเทือนความรู้สึกทั้งในฐานะผู้บริหาร และในฐานะเพื่อน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 53 ตอนเช้าผมได้พบและพูดคุยถามไถ่ว่าโรงเรียนหยุดไปไหนมาบ้าง เขาเล่าว่าได้กลับไปบ้านที่สกลนคร ไปดูแลกิจการเลี้ยงวัวที่ทำไว้ จากนั้นผมก็ไปทำงานและมีภารกิจออกไปข้างนอก ราว 14.00 น.ได้รับแจ้งว่า อ.คารม ล้มศรีษะกระแทกพื้นในบริเวณห้องสมุด ผมก็สั่งให้นำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ไปอยู่ที่โรงพยาบาลบางกรวยราว 2 ชั่วโมงแพทย์ไม่สามารถทำอะไรได้ต้องนำส่งต่อไปโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าแพทย์ต้องรอญาติมาให้ความยินยอมในการรักษาพยาบาล ลูกสาวมาถึงโรงพยาบาลก็ให้ความยินยอมไม่ได้เพราะอายุไม่ถึง 20 ปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะสำหรับมารดาก็ได้หย่าร้างไม่สามารถให้ความยินยอมได้ อ.คารมต้องนอนรอความช่วยเหลือต่อไปอีก ญาติที่สามารถให้ความยินยอมได้ก็เดินทางมาถึงรุ่งขึ้นของอีกวันหนึ่งคือวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 53 อาการของ อ.คารมไม่ดีขึ้น



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงมากท่วมเข้าในบริเวณโรงเรียนวัดสำโรงฯโดยทั่วไปภายในบริเวณโรงเรียน ท่วมสูง เกิน 60 เซ็นติเมตร ห้องส้วมใช้การไม่ได้ ห้องเรียนน้ำไหลเข้าในห้องเรียนชั้นล่างทุกห้องเรียน ได้เก็บสิ่งของขึ้นบนที่สูงทุกห้อง โรงอาหารใช้การไม่ได้ พรุ่งนี้จะมีน้ำหนุนสูงขึ้นอีก  ผมได้จัดส่งข้อความทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปยังผู้ปกครองทุกคนเลื่อนเปิดเรียนจากวันที่ 1 พฤศจิกายน 53 เป็นวันที่ 8 พฤศจิกายน 53 ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่าน้ำจะลดลงสู่สภาพปกติหรือไม่ ห้องส้วมนักเรียนจะใช้การได้หรือไม่ หากยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติก็คงจะต้องเลื่อนเปิดไปอีก นักเรียนต้องเสียโอกาสที่จะได้เรียนตามสื่อทางไกลของโรงเรียนวังไกลกังวล ผมคงต้องจัดหาเครื่องบันทึกในการบันทึกการเรียนการสอนให้กับครูทุกคนต่อไป



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม 2553 ได้ทราบข่าวโรงเรียนชุมชนวัดบางไกรใน เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียน 017 ผมเดินทางไปโรงเรียนเพื่อมอบหมายงานให้ภารโรงทำงานระหว่างปิดภาคเรียน แล้วเดินทางไปให้กำลังใจ ผอ.บุญมี  จันทวีผล ในฐานะที่เป็นเพื่อนผู้บริหารด้วยกัน ไปถึงโรงเรียนชุมชนวัดบางไกรในได้เห็นสภาพอาคารเรียนที่ถูกไฟใหม้ส่วนที่เป็นไม้ทั้งหมด ได้พบท่านผู้อำนวยการเขตฯและรองฯ ตลอดจรศึกษานิเทศก์ของเขตฯ นับว่ายังเป็นโชคดีที่ไฟไหม้เพียงอาคารที่ใช้เรียนเพียงอย่างเดียวไม่มีเอกสารสำคัญต้องถูกไฟไหม้ไปด้วย ก็ขอแสดงความเสียใจกับคณะครู นักเรียน และชุมชนวัดบางไกรในไว้ ณ ที่นี้ด้วย ผมกลับมาที่โรงเรียนของผมได้พูดคุยกับเพื่อนครูที่มาทำงานระหว่างปิดภาคเรียน เราต้องระมัดระวังไม่ทำสิ่งอันอาจก่อให้เกิดอัคคีภัยได้โดยง่ายเป็นต้นว่าไม่เปิดพัดลมทิ้งไว้ อุปกรณ์การใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเลิกใช้หรือก่อนกลับบ้านจะต้องสำรวจให้เรียบร้อยก่อนทุกครั้ง  อย่าเป็นวัวหายแล้วล้อมคอก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

อีกไม่กี่วันข้าราชการครูที่มีอายุครบ 60 ปี บริบูรณ์จะเกินมากี่วันกี่เดือนก็แล้วแต่จะต้องออกจากราชการ(เกษียณอายุ)ด้วยความภาคภูมิใจที่อยู่รับใช้ราชการ ครูทุกท่านเป็นปูชนียบุคคลที่ควรเคารพ เป็นแบบอย่างที่ดีมากน้อยต่างกัน ความเป็นครูมีศักดิ์ศรีแค่นักเรียนหรือผู้ปกครองเคารพนับถือ ไม่มีเกียรติศักดิ์สูงส่งใดๆมากนัก แต่ก็มีความภาคภูมิใจที่ได้สั่งสอนศิษย์ให้อ่านออกเขียนได้อันเป็นปฐมแห่งความรู้ที่เด็กจะได้รับไปเพื่อพัฒนาตนเองให้มีความรู้สูงยิ่งขึ้น ก้าวไปสู่การเป็นลบุคคลสำคัญ ในอนาคต เป็นผู้พิพากษา เป็นทหาร ตำรวจ ฯลฯ ครูประถมอย่างเราได้แต่ให้กำลังใจกันเอง ผมขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้โปรดดลบันดาลคุ้มครองครูที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน นี้ให้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง พ้นจากโรคภัยต่างๆและมีความสุขกับชีวิตในบั้นปลายเถิดครับ แด่เพื่อนครูผู้อาวุโสกว่าผมทุกท่าน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

เมื่อวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม ผมได้รับโทรศัพท์จากน้องชายแจ้งว่า ป้าฉลวย  สุวรรณรัตน์ ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อเวลา 12 นาฬิกาที่โรงพยาบาลอัมพวา ป้าฉลวย  สุวรรณรัตน์ เป็นป้าสะไภ้ของผม ท่านได้สมรสกับลุงพุฒิ  สุวรรณรัตน์ ซึ่งได้เสียชีวิตไปนานแล้ว ตั้งแต่ผมยังเด็กๆอยู่ ลุงพุฒิ  สุวรรณรัตน์ เป็นพี่ชายของแม่ผม ป้าฉลวยเมื่อผมยังเด็กๆก็ได้อาสัยท่านเลี้ยงดูเมื่อเวลาที่แม่ไม่อยู่แจวเรือไปส่งคนทีอื่น ป้าฉลวยเป็นคนใจดีโอบอ้อมกับลูกๆหลานๆทุกคน ป้าฉลวยก็แจวเรือเหมือนกันเวลาลุงพุฒิเมาเหล้าแกก็จะแจวเอง  ป้าฉลวยมีลูกหลายคน เอาไว้เล่าโอกาสหน้า ก่อนที่แกจะเสียชีวิตผมได้พบเห็นท่านก็มีสุขภาพแย่ลงมากแล้ว ภาษาชาวบ้านเรียกว่า  "หลง" คือไม่รู้ตัวเองแล้ว กินแล้วก็บอกว่ายังไม่ได้กินทำนองนี้ ท่านอายุ 85 ปี แม่ผมเสียชีวิตไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว อายุ 80 ปี แต่แม่ยังไม่มีอาการ "หลง" ยังจำได้เวลาผมไปเยี่ยมท่าน ผมขอแสดงความเสียใจในครอบครัวสุวรรณรัตน์ ไว้ ณโอกาสนี้ สวัสดีครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

ผมไปราชการเข้ารับการอบรมตามโครงการผู้บริหารยุคใหม่ไทยเข้มแข็งที่ชลพฤกษ์รีสอร์ทจังหวัดนครนายกตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมาเลยไม่มีโอกาสได้เขียน  เดินทางกลับมาถึงโรงเรียนวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม ก็ประชุมวางแผนจัดงานวันแม่ทันที  วันนี้ได้จัดงานวันแม่เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยถึงแม้จะมีอุปสรรคเรื่องฝนบ้างก็ไม่เป็นปัญหา  ตอนเช้าเริ่มจากการทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งของผู้ปกครอง  ครู  นักเรียนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสวันแม่แห่งชาติ เชิญแม่ดีเด่นมาร่วมงานมอบของที่ระลึกแล้วให้นักเรียนได้กราบแม่ การแสดงของนักเรียน สุดท้ายการบำเพ็ญกิจสาธารณะด้วยการทำควาสะอาดบริเวณโรงเรียนโดยรอบ และบริเวณวัด  ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองนักเรียนอย่างดียิ่ง ขอขอบคุณผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนวัดสำโรง (หิรัญราษฎร์ภักดีวิทยา) ทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ โอกาสหน้าคงได้รับความร่วมมือจากท่านอีก วันพรุ่งนี้โรงเรียนหยุดวันเฉลิมพระชนมพรรษา ต่อเนื่องวันศุกร์หยุดตามมติ ครม.และวันเสาร์-อาทิตย์ รวมหยุดทั้งหมด 4 วัน  สวัสดีครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

วันนี้ตั้งใจจะเขียนถึงกลอนดอกสร้อย บทที่ว่า  แมวเอ๋ยแมวเหมียว ผมอ่านจากหนังสือแบบเรียนภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เขียนว่าแมวเอ๋ยแมวเหมียว  รูปร่างประเปรียวเป็นนักหนา ตรงคำที่ที่ว่า"ประเปรียวเป็นนักหนา" ผมจำได้ว่าเมื่อครั้งที่ผมเรียนหนังสือเขียนไว้ "รูปร่างปราดเปรียว" ไม่ใช่ "ประเปรียว" ใครมีต้นฉบับช่วยกันหน่อยครับถ้านักเรียนอ่านผิดมันก็จะเป็นบาป ผมจะพยายามหาต้นฉบับมายืนยันอีกครั้ง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมป่วยมีอาการเวียนศรีษะหน้ามืดต้องเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลปทุมธานี เป็นอาการที่แพทย์ยังบอกไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ตรวจทางสมองปกติ ดวงตาก็ปกติ รับประทานยาที่หมอให้มาสามรายการวันนี้อาการดีขึ้น ตอนเช้าไปเข้าร่วมประชุมพัฒนาศักยภาพผู้บริหาที่โรงแรมริชมอนด์ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี เป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้บริหารทุกโรงเรียนทั้งสองเขต ตอนเย็นวันนี้ออกเดินทางไปประชุมที่จังหวัดกระบี่ และภูเก็ต เดินทางกลับวันเสาร์



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

สัปดาห์นี้ผมไม่สบายตลอดสัปดาห์เลยครับไปพบหมอที่รักษาประจำตัว ที่โรงพยาบาลปทุมธานี อาการเวียนศรีษะ และหน้ามืดเวลาก้มลงนอน หมอตรวจอาการแล้วให้ยามาสามชนิด มียานอนหลับชนิดหนึ่ง อีกสองอย่างเป็นวิตามิน วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ ไปพบหมอตามนัดเพื่อตรวจตาประจำปีเกี่ยวกับเบาหวานที่เป็นอยู่ขณะนี้ ทั้งกายและใจไม่ปกติเลยครับ จึงไม่ได้บันทึกในอนุทินเลยครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

bop
เขียนเมื่อ

พอเดินบิณฑบาตรกับพระเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็แต่งตัวเตรียมไปสอน ทานอาหารเช้าที่หอฉันฑ์เมื่อพระฉันฑ์เสร็จแล้ว ลูกศิษย์วัดก็จะจัดแบ่งอาหารที่เก็บไว้ถวายพระตอนเพลกับเป็นอาหารมื้อเช้าเป็นเช่นนี้เกือบทุกวัน ผมยังนึกถึงบุญคุณของหลวงพ่อจนถึงทุกวันนี้ กิจกรรมในตอนเย็นพวกเราจะเล่นกีฬากันเป็นประจำ โดยเฉพาะฟุตบอลมีสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน ตอนเย็นวัยรุ่นในระแวกโรงเรียนหน้าวัดหลังวัด จะรวมตัวแล้วแบ่งข้างเล่นฟุตบอลจนมืดจึงเลิกเป็นอย่างนี้แทบทุกวัน ครูสตรีก็จะเล่นวอลเล่ยบอล กันอย่างสนุกสนาน ตกเวลาค่ำพวกเราจะทำอาหารเย็นตั้งวงสวนเสเฮฮากันตามประสาเพื่อนพ้อง คุณสมพงษ์ฯ เป็นผู้ชำนาญการด้านดูลายมือพวกเรามักจะให้ดูลายมือกันแล้วก็ทำนาย โดยเฉพาะครูผู้หญิงทั้งหลายชอบมากเรื่องดูหมอ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท