เหตุผลที่คนถางทางขอลา gtn


ผมได้ขอลาสิกขา กทน. ไปแล้ว แต่คิดว่าเหตุผลอาจไม่ละเอียดพอ  อาจทำให้แควนพันธุ์แท้บางท่านสับสน  วันนี้ขออนุญาตแจ้งเพิ่มส้กหน่อยครับ  


ผมได้เขียนกทน. มาแต่ประมาณ กค. ๕๔  บัดนี้เกือบสองปี เขียนไปพันกว่าเรื่อง ส่วนใหญ่เรื่องประเทืองปัญญาที่หาอ่านได้ยากในสากลโลก  เพราะคิดเอง ไมได้ลอกใครมา     แต่ปรากฎว่า มีคนอ่านน้อยลงเรื่อย  ช่วงหลังๆ นี้เหลือประมาณ ๒๕ คนเท่านั้น ดอกไม้ก็หรอมแหรม เจ้าประจำสองสามคน  นี่เป็นตัวชี้วัดว่า สถานที่นี้ไม่ใช่พื้นที่เรา  ควรย้ายวิกดีกว่า   

ที่ผมยอมเหนื่อยเขียนเรื่องราวหวือหวาตั้งแต่ประวัติศาสตร์  การศึกษา การเกษตร การแพทย์  ยันเทคโนโลยีอวกาศ  ก็เพื่อบันทึกไว้ให้เป็นประวัติศาสตร์ เพื่อท้าทายระบบ ไม่ใช่เพียงแค่การกระจายหรือแชร์ความรู้ (ซึ่งวันนี้มันค้นกันได้หมดแล้วด้วยคีย์เวิร์ด จะเอามาโพสต์ให้เปล้องแบนด์วิดท์ทำไม  

สไตล์ผมอาจหวือหวาบ้าบอ ที่หลายคนไม่ชอบ    มันเป็นนิสัยที่แก้ยาก ผมถือว่า ขนมอร่อยมันอร่อยที่เนื้อใน ไม่ใช่ใบตองที่ห่อ    (แต่อนิจจา คนไทยส่วนใหญ่เขาชอบใบตอง)  

เป็นธรรมดาของคนเขียน เขียนแล้วก็อยากให้คนอ่านมากๆ  โดยเฉพาะเราเขียนเรื่องน้ำดี ไม่ใช่น้ำเน่า พอมีคนอ่านน้อยก็หดหู่ และไม่อยากเขียนต่อ   วันนี้ผมเลยหันไปเขียนเฟสบุคแทน  ผลตอบรับก็ดีนะครับ ดีกว่า กทน.สัก ๙๙ เท่าได้กระมัง   โดยเฉพาะพวกที่มาอ่านส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของผมอยู่แล้ว เพราะพวกนี้คืออนาคตชาติ

ส่วนพวก สว. ในกทน. ไม่้แก่  ดัดยากครับ  อิอิ 

สำหรับแควนพันธุ์แท้ หากยังต้องการอ่านผม อาจไปที่ 

http://www.facebook.com/tawit.boon

นอกจากนี้ ยังมีที่  http://dr-grassroot.org/index.php?option=com_content&view=frontpage    ที่ลูกศิษย์อาสาสมัคร แห่ง รพ. พิมาย ช่วยจัดทำให้ พร้อมออกค่าโดเมนให้เสร็จสรรพ  ซึ่งที่ผ่านมาผมไม่ค่อยได้เข้าไป แต่จากนี้ไปจะไปจัดแต่งบทความให้สมบูรณ์มากขึ้น  

อีกทางคือ ส่งเมล์ถึงผม เพื่อขออยู่ในรายการ Fwd mail แล้วผมจะส่งทุกบทความที่ผมเขียน (ประมาณวันละ ๑๐) ให้อ่านอย่างไม่ตกหล่น

ช่วงเกือบสองปีที่มาอยู่ gtn แม้จะกร่อยไปหน่อย  แต่ก็ได้มิตรภาพ จากหลายๆ ท่าน  บางท่านติดต่อมาทางเมล์ กลายเป็นเพื่อน พี่ น้อง กันก็มี  


ซัวเสดยครับ

...คนถางทาง (๒๐ มิย. ๒๕๕๖) 


คำสำคัญ (Tags): #คนถางทาง ขอลา gtk
หมายเลขบันทึก: 539919เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2013 09:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2013 09:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (31)

มาให้กำลังใจค่ะ

ของพี่เองก็เป็นแบบนี้เช่นเดียวกันค่ะ

ก็พยามยามเขีียนแล้ว

แต่ไม่อยู่ในสายตาคนอื่น

ของพี่เองนั้นคงเขียนแล้วไม่เข้าตากรรมการ

ต้องพยายามต่อไปค่ะ....สักวันก็คงเลิกเขียนบ้างค่ะ

ผมต้องขออนุญาตให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ

  • Facebook ไม่มีระบบนับจำนวนคนอ่านแต่มี "Like" และความเห็นครับ ส่วนระบบนับจำนวนคนอ่านของ GotoKnow นั้นเป็นระบบนับที่ทีมงานพยายามทำให้เที่ยงตรงที่สุด bots หรือ crawlers ต่างๆ ที่ไม่ได้เป็นคนที่มีการอ่านจริงนั้นเราจะกรองออกหมดครับ เคยมีคนพูดเล่นๆ ว่าทำไมทีมงานไม่แอบใส่ตัวเลขเพิ่มแบบสุ่มๆ ไปให้ดูเหมือนมีคนอ่านเยอะเหมือนกับเว็บบางเว็บ (ของไทย) ที่ทำกันบ้าง ผมตอบว่า "เพราะผมเขียนบันทึกเองด้วย ผมอยากรู้ว่าบันทึกผมมีคนอ่านเท่าไหร่ และ GotoKnow ไม่ใช่เว็บการค้าหรือเว็บการเมืองที่จะต้องสร้างฐานสมาชิกเพื่อไปแข่งขันกับใครครับ"
  • บันทึกใน GotoKnow นั้นจำนวนคนอ่านจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผ่านไปนานๆ ครับ จะไม่เยอะทีเดียวแล้วไม่มีคนอ่านอีกเลยเหมือนกับเว็บหนังสือพิมพ์หรือ Facebook ครับ
  • บันทึกอาจารย์ที่เกี่ยวกับการเมืองเหมาะกับกลุ่มผู้อ่านใน Facebook ครับ ที่จริงแล้ว Twitter จะเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่คอการเมืองชอบกันมากครับ
  • ผมเชื่อว่าสมาชิกใน GotoKnow ก็มีความสนใจในการเมืองไทยไม่ได้น้อยกว่าคนไทยอื่นๆ เพียงแต่รูปแบบการตอบสนองต่อการเมืองนั้นเป็นไปอย่างสงบครับ GotoKnow มีบันทึกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองไม่น้อยนะครับ ที่น่ายินดีคือบันทึกเหล่านั้นนำเสนอด้วยภาษาแห่งความเข้าใจไม่ดุดัน เป็นการนำเสนอความคิดที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยกครับ
  • แต่ผมคิดถึงบันทึกอาจารย์ที่ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะครับ อาจารย์เป็นคนที่มี lateral thinking ที่น่าติดตามอ่านมากทีเดียวครับ บันทึกที่ไม่เกี่ยวกับการเมืองของอาจารย์นั้นแม้ใช้ภาษาให้มีสีสันแต่ผมก็เห็นมีคนชอบอ่านกันมากทีเดียว ภาษาที่สวิงสวายนั้นสนุกดีครับ แต่บันทึกการเมืองแบบดุเดือดนั้นน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไม่กล้าอ่านบันทึกของอาจารย์เพราะไม่รู้ว่าคลิกเข้ามาอ่านแล้วจะเจอบันทึกการเมืองหรือเปล่าครับ

กะแสเฟสบุ๊คมาแรงและอีกอย่างพี่ชายไม่ค่อยเข้ามาอ่านและตอบคอมเม้นท์น่ะน้องๆจึงน้อยใจโดยเฉพาะหนูนี่แหละอิอิ อ้าว แซวเล่นๆเด้อค่า คิดฮอดเสมอนะคะ ขอให้โชคดีและมีความสุขตลอดไปค่ะ

..เห็นด้วย..กับ..ท่านอาจารย์ ธวัชชัย..เต็มร้อย..เจ้าค่ะ...("แต่..ทำอะไร..ก็ทำเถิด..พ่อ สองเกิด ใจเต็ม..ที่อยาก..จะ ถาก ถางทาง.."ด้วยอักษร"...)..เพราะเป็นธรรมดาของคนขียนที่..อยากให้..มีคนอ่านมากๆ..ก็เขียนบอก..กัน..ๆ(คงจะจริงๆ..ตามตัวอักษร..อ้ะะๆๆ..)....ขอบพระคุณเจ้าค่ะ..(แอบคิด..ยายธี)

มาให้กำลังใจครับ บทความดีๆ ที่่มีคนอ่านน้อยตามความเห็นผม การเข้าถึงก็สำคัญ เท่าที่สังเกต บันทึกที่แสดงในปัจจุบันมีการเลื่อนไหลค่อนข้างเร็ว และดูลายตาไม่เป็นหมวดหมู่ ไม่รู้ใครเป็นใคร จึงอาจทำให้ต้องพลาดบันทึกดีๆ ไป ซึ่งผมว่าตอนนี้เรื่องของจำนวนผู้อ่าน ดอกไม้ และการทักทายที่ลดลง หลายท่านคงรู้สึกเหมือนกัน เอาใจช่วยบันทึกดีๆ ครับ

เรียน อาจารย์ถางทาง ที่เคารพ

สมาชิก GotoKnow หลายคนยอมรับนับถือและชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ของอาจารย์ค่ะ และอีกหลายๆ คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก GotoKnow ก็ติดต่อสื่อสารผ่านเครื่องมืออื่นของ  GotoKnow กับอาจารย์ เพื่อขอนำเอาความคิดอาจารย์ไปสร้างอาชีพให้เขาค่ะ น่าดีใจมากนะคะ

แต่อย่างไรก็ตามความคิดเห็นทางการเมืองที่รุนแรงของอาจารย์นั้น สมาชิกโดยส่วนใหญ่รำพึงรำพันตัดพ้อไม่อยากอ่านไม่อยากเห็นค่ะ เพราะเขามา GotoKnow ด้วยความคาดหวังที่จะเห็นความรู้และความสุขเป็นที่พักใจจากเว็บที่ไม่ค่อยสุข ซึ่งมีให้เขาได้อ่านกันเยอะอยู่แล้วค่ะ 

และด้วยบันทึกการเมืองจึงพลอยทำให้ไม่อ่านบันทึกอื่นๆ ของอาจารย์ไปด้วยค่ะ และที่สำคัญบันทึกการเมืองของอาจารย์อาจส่งผลต่อการล่มสลายของชุมชนใหญ่แห่งนี้หรือเปล่าด้วยข้อกฎหมายฟ้องร้องข้อพิพาทต่างๆ ที่ในที่สุดทั้งอาจารย์เอง ทีมงาน และสมาชิก GotoKnow ก็จะเดือดร้อนกันไปด้วยค่ะ (ดิฉันไม่ได้ขู่แต่มีนักกฎหมายได้เตือนมาที่ดิฉันค่ะ)

อีกอย่างหนึ่งนะคะ สมาชิกที่เขียนอยู่ใน  GotoKnow นั้นส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานทั้งนั้น เกษียณอายุแล้วก็เยอะค่ะ เฉลี่ยอายุน่าจะ 40 กว่าค่ะ ซึ่งอาจารย์คงเปลี่ยนเขาไม่ได้หรอกค่ะ และเขาเองที่เขียนกันอยู่ก็ไม่คาดหวังจะเปลี่ยนคนใน  GotoKnow ด้วยค่ะ แต่เขาอยากเปลี่ยนคนไทยในอินเทอร์เน็ตในทุกวัยค่ะ ส่วนคนเหล่านี้จะมาอ่านหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ว่าช่วงชีวิตนั้นเขาอยากได้ความรู้อะไรที่จะมาเยียวยาชีวิตตัวเขาเองค่ะ 

ประสบการณ์ชีวิตและการทำงานของคนอายุ 40 กว่าที่ถ่ายทอดออกมาบอกลูกบอกหลานที่ฝากไว้ใน  GotoKnow มาตลอด 9 ปีเป็นจดหมายเหตุประเทศไทยของคนไทยค่ะไม่ใช่ของต่างชาติ เช่น  Facebook ที่อาจารย์ก็ควบคุมอะไรเว็บเขาไม่ได้เลยนะคะ 

และแน่นอนค่ะไม่ใช่แค่อาจารย์หรือคุณ Bonnie  หรือใครๆ ก็ตาม ก็คิดเห็นว่าบันทึกแห่งประสบการณ์เหล่านี้ทำไมคนไม่ค่อยอ่าน การเขียนให้มีคนอ่านเยอะนั้นมีปัจจัยหลายอย่างค่ะ อาทิ ความสามารถในการเขียน เนื้อหาที่เขียน ชุมชนที่แวดล้อมอยู่ การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์อื่นๆ ซึ่งในยุคนี้ผู้เขียนเองทำได้เองทั้งนั้นค่ะ 

เว็บยอดฮิตของไทยเรานั้นมีแต่เว็บบันเทิงเริงใจทั้งนั้น จะหาเว็บความรู้มือหนึ่งหมายถึงความรู้จากประสบการณ์ตรงนั้นหายากค่ะ (ส่วนใหญ่ก็ copy & paste)  ดังนั้นถ้าเราไม่ให้ก่อนแล้วใครจะเป็นคนเปลี่ยนความรู้ในโลกอินเทอร์เน็ตของไทยค่ะ เหมือนดังที่อาจารย์ได้เขียนบันทึกเพื่อสร้างอาชีพให้คนอีกมากมายค่ะ

สรุปว่าอาจารย์จะเลือกที่จะเขียนที่นี่หรือไม่ก็ได้ค่ะ เขียนที่นี่ด้วย ที่อื่นด้วยก็ยิ่งดีค่ะ แต่บันทึกที่มีส่วนเกี่ยวข้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การเมือง นั้น ขอความกรุณาเพื่อเห็นแก่ส่วนรวมอย่าเขียนที่นี่เลยค่ะ ดังเหตุผลที่ดิฉันและ อ.ธวัชชัย และบันทึกของอีกหลายท่านได้เขียนมาแล้วค่ะ

สุดท้ายดิฉันขอให้สมาชิก GotoKnow ท่านอื่นๆ อย่าได้นิ่งเฉย ขอได้ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อบันทึกนี้ของอาจารย์ด้วยนะคะ เห็นชอบหรือเห็นต่างก็เขียนเถิดค่ะ อาจารย์ถางทาง คุณ Bonnie และอีกหลายท่านจะได้รับรู้อย่างถูกต้องค่ะ


เสียดายจังครับ   ผมว่าผมได้เรียนรู้เรื่อง  "มุมมอง"  จากอาจารย์มากจากการอ่านบันทึก  แต่ผมก็ไม่ค่อยได้กดอะไรไว้ทิ้งร่องรอยหลังการอ่าน เพราะหลายครั้งมาอ่านแต่ไม่ได้ login เข้าระบบ  เลย ment หรือกดใดๆ ไม่ได้    ยังไม่นับเพื่อนร่วมงาน  ที่ copy งานอาจารย์เก็บลง word ก็มีครับ   

ไม่อยากให้งาน แปลกๆ (ดีด้วยครับ)  ของอาจารย์หายไปจาก  G2K ไปเลย  

แต่อย่างไรก็ตาม  คงห้ามน้ำไม่ให้ไหลไม่ได้   หากอาจารย์เปิดพื้นที่ใหม่  ก็จะตามไปอ่านอีกครับ  ช่วงนี้คงต้องเฝ้าว่าอาจารย์จะย้ายบ้านไปไหนต่อ

"ไอดิน-กลิ่นไม้" เป็นคนหนึ่ง ที่ติดตามอ่านงานเขียนของ "คุณคนถางทาง" ซึ่งส่วนใหญ่จะอ่านเรื่องเกี่ยวกับการเสนอความคิดริเริ่มใหม่ๆ ทางการเกษตร และ save files บันทึกที่ตนเองสนใจไว้ เพื่อนำไปทดลองปฏิบัติดู

ยังเคยบอกกับท่านว่า ชื่นชม ที่ท่านเขียนเรื่องได้ทุกประเภท ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ และท่านเขียนโดยไม่สนใจว่า จะมีคนมาอ่านมากน้อยแค่ไหน...เพิ่งรู้จากการเปิดเผยของท่านเองว่า จำนวนดอกไม้และจำนวนคนอ่าน มีผลต่อแรงจูงใจในการเขียนของท่าน มากถึงขนาดที่ทำให้ท่านตัดสินใจเลิกเขียนด้วยเหตุผลที่เห็นว่า มีคนอ่านน้อยลงไปเรื่อยๆ

ความเห็นของ "คุณหมูจ๋า" ที่บอกกับ "คุณคนถางทาง" ว่า "พี่ชายไม่ค่อยเข้ามาอ่านและตอบคอมเม้นท์น่ะน้องๆ จึงน้อยใจโดยเฉพาะหนูนี่แหละอิอิ อ้าว แซวเล่นๆ เด้อค่า..." จริงๆ แล้วก็เป็นความจริงตามที่คุณหมูจ๋าบอก เพราะท่านแทบจะไม่สนใจกลับเข้าไปดูว่าใครแสดงความเห็นและถามอะไรไว้ เพราะท่านจะใช้เวลาในการเขียนเรื่องใหม่ไปเรื่อยๆ มากกว่า

คนอ่านอย่าง "ไอดิน-กลิ่นไม้" เอง เวลาเข้าไปอ่านงานเขียนของใครก็จะให้เกียรติ อ่านทุกตัวอักษร
อ่านแบบพินิจพิเคราะห์ว่า ผู้เขียนมุ่งนำเสนออะไร มีจุดประสงค์อะไรในการเขียน ไม่ใช่สักแต่เข้าไปให้ดอกไม้และทักทาย แต่จะกล่าวเสริมหรือซักถามข้อสงสัย เมื่อทำเช่นนั้นนานๆ เข้า ท่านไม่ตอบก็เลยพลอยไม่เข้าไปอ่าน

"ไอดิน-กลิ่นไม้" ขออนุญาตแสดงความเห็นว่า บางที "คุณคนถางทาง"อาจจะใช้สมองซีกซ้ายมากไปในการคิดและเขียน คือ ใช้เฉพาะเรื่องของเหตุผล ข้อเท็จจริง กฎเกณฑ์ และตรรกศาสตร์ ในขณะที่คนอ่านใช้สมองซีกขวา คือ อารมณ์ความรู้สึก ร่วมด้วย อย่างเช่น ในบันทึกนี้ "คุณคนถางทาง" บอกว่า "สไตล์ผมอาจหวือหวาบ้าบอ ที่หลายคนไม่ชอบ  มันเป็นนิสัยที่แก้ยาก ผมถือว่า ขนมอร่อยมันอร่อยที่เนื้อใน ไม่ใช่ใบตองที่ห่อ (แต่อนิจจา คนไทยส่วนใหญ่เขาชอบใบตอง)ข้อความที่ระบายสีแดง อาจกระทบจิตใจทำให้คนอ่านรู้สึกว่า ท่านดูถูกผู้อ่าน …ก็จะเป็นที่น่าเสียดายมากนะคะ ที่คนซื้อขนมรู้สึกรังเกียจใบตองที่ห่อ ทำให้ไม่ยอมซื้อขนม ทำให้ขนมอร่อยๆ แต่กลับขายไม่ได้

“คุณคนถางทาง” บอกว่า “…วันนี้ผมเลยหันไปเขียนเฟสบุคแทน ผลตอบรับก็ดีนะครับ ดีกว่า กทน.สัก ๙๙ เท่าได้กระมัง โดยเฉพาะพวกที่มาอ่านส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของผมอยู่แล้ว เพราะพวกนี้คืออนาคตชาติ ส่วนพวก สว. ในกทน. ไม้แก่ ดัดยากครับ อิอิ” นี่ก็อาจกระทบความรู้สึกผู้อ่านนะคะ รวมทั้งเป็นการ "หยิกเล็บเจ็บเนื้อ" ด้วย เพราะท่านบอกในบรรทัดก่อนว่า "สไตล์ผมอาจหวือหวาบ้าบอ ที่หลายคนไม่ชอบ  มันเป็นนิสัยที่แก้ยาก…” แก้ยากเพราะท่านเป็นไม้แก่ดัดยากเช่นกัน ใช่ไหมคะ 

เคยเห็นสมาชิกบางท่านแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ เมื่อเห็นงานเขียนทางการเมืองและทางศาสนาของคุณคนถางทาง และบางท่านแสดงความต้องการให้ผู้ดูแลระบบจัดการอะไรบางอย่างกับคุณคนถางทางแบบเด็ดขาด ก็เลยเข้าใจว่า นี่คือสาเหตุที่กดดันให้ท่านบอกลา GotoKnow เอง

ที่เขียนมานี่ก็ด้วยความรักชุมชน GotoKnow และความชื่นชมในความรู้ความสามารถ การคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และการเสียสละเวลาในการนำเสนอแนวคิดเพื่อคนไทยโดยรวมของคุณคนถางทาง อยากจะขออนุญาตเสนอทางออกแบบ "Win-Win Strategy" ให้คุณคนทางทางยังคงเขียนใน GotoKnow ต่อไป โดยเช็ดใบตองที่ห่อขนมให้ดูสะอาดสะอ้าน คนซื้อจะไม่เดินผ่านเลยไป ดีไหมคะ




I have read a lot of your posts. Some I think are great, some are very provocative but quite insightful, some I don't like nor agree with. Many posts I do accept the points in focus but I cannot click a "like" because of the language used -- I am not comfortable with strong and devisive languages. (Though I can be blunt and honestly direct.) In my thinking, people are people -- some do bad things in bad circumstances and some do extraordinary things in extraordinary circumstances. Deep down most people are decent enough to live with and whether we like it or not we have to -- morally and legally tolerate a lot of differences. Not all people are in the defence forces and must bear derogatory remarks. But I am not speaking for everyone.

As for me, I don't get a lot of readers either. I have been posting for some 8 years. (If there is a "true grit" medal, I should qualify.) But why do I write here? I am recording and sharing my learning, my thoughts and my "style of changing the world". It is enough for me to share ideas and observations (not necessary 'mine'. even if I seem to mention them first, they belong to the world. People may use them whichever way they want.) Yes, I do have visions and I do set barriers and channels (for flows of thoughts) into a certain way I think 'best'. But I have raised children, animals, plants and businesses to accept their ways, their differences and their wills. Yes. I do get frustrated that they don't come along 'my best way' but at end of day I am thankful that we all survive to adapt do each other better the next day.

A nation (any nation) needs many kinds of things, many kinds of people and many ways to become a nation. There will be struggles against what we dislike and for what we like until such time that we can no longer bother about these waves washing beaches anymore. (I gave up "facebook" because it is a very "noisy" place -- I could not hear myself thinking ;-)

Thank you for sharing your originals and insights. May peace follow you whereever you go. You know if and when you return, we will receive you as a lost member who comes home to the (G2K) tribe.

sr


          จริงๆใน gtk  นี่ เป็นแหล่งความรู้ที่หลากหลาย  มากทีเดียวแต่อาจจะไม่เหมาะ กับ ฮาร์ดคอร์อย่าง อ.ถางจริงๆ  บางครั้ง แนวความคิดอาจไม่ตรงกับกลุ่ม  หรืออาจจะมีตรงบ้างเพียงแต่ว่าสังคมนั้นส่วนใหญ่ เขาเป็นอีกทาง มันก็อาจไม่เหมาะกับเรา คนที่มีความคิดที่ตรงก็อาจไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เท่าใด   ซึ่งชลัญว่า การตัดสินใจของอาจารย์น่าจะเหมาะสม  ที่จะไม่ทำให้คนอื่นรู้สึกอึดอัด  ทุกข์ใจทุกวี่วัน  ก็ถือว่าเป็นการทำกุศลอย่างแรงค่ะ 

          แต่จะว่าไปแบบไม่ใช่  ฮาร์ดคอร์  อย่าง อ.ประคัลภ์  ซึ่งเป็นคนที่เขียนเรื่องของ HR ได้ดีมากๆ  อ่านสนุก นำไปใช้ได้ เหมาะสำหรับการปรับปรุงพัฒนา  แต่ก็ยักกระแสตอบรับน้อยซะงั้น  แต่บางครั้งที่ชลัญเขียนบ้าๆ บอๆ เฮ้ย มีคนอ่านมากกว่าอีก  แน่ะ  งง ๆ  เหมือนกัน   พอตามไปดู บทความ อ.ที่ https://www.facebook.com/pages/Prakal-HR-community/232248973462063?ref=stream กลับได้รับความนิยมสูงมาก  ถูกแชร์ในวงกว้าง  กระแสดีมาก  

       ซึ่งจะว่าไปคนที่มีความสามารถในการเขียนบทความก็ต้องการคนอ่านล่ะแน่นอน  หากกระแสตอบรับน้อย อีกทั้งทางไม่ตรงกับกลุ่ม  ก็คงไม่สนุกที่จะเขียน 

        สำหรับชลัญ ที่ ได้เขียน web ให้ อ.ถางนั้น  เพราะความศรัทธาส่วนตัวที่มีต่อ  อาจารย์ ท่านนี้  ซึ่งอาจไม่ชอบใจใครๆหลายคน  แต่การที่เราจะเลือดศรัทธาใครสักคนนั้นคงไม่ได้ศรัทธาแบบสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก  ต้องหาข้อมูลมาพอควร  ซึ่งชลัญศรัทธาอาจารย์ที่ความดี ที่คนที่ใครหลายคนมองว่าดี นั้นอาจดีไม่ถึงครึ่งของอาจารย์  ถาง   ชลัญไม่ได้เทียบเพราะนี่มันคือมาตรฐานที่มาจากความรู้สึกของชลัญเอง  การแสดงออกของคนดีนั้น บางคนอาจมีทั้งภาพทั้งเสียง ทั้งการกระทำ  บางคนอาจมาแค่ภาพ  บางคนมาแค่เสียง บางคนมาที่กระทำ  มันเป็นความต่างของคนแต่ละคน  

       ซึ่งโดยพื้นฐานนิสัย แล้ว นั้น ชลัญกับ อ.ถางต่างกันราวฟ้ากับเหว  จริงไม่น่าถูกใจกันหรอก  แต่ที่ถูกใจคือความคงเส้นคงวา  ของอาจารย์มากกว่า

        ในแนวคิดและการแสดงออกในด้านการเมืองนั้น ใช่ว่าชลัญจะเห็นด้วยทั้งหมด  แต่ ชลัญว่าในสังคมมันต้องมีคนอย่าง อ.ถางบ้าง มันถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม  หากเป็นไทยเฉย  ไทย ดี ที่สุภาพตลอด  คนที่เลวเข้าขั้น นั้นหากเราที่เป็นคนดีทุกคนสุภาพ  ตำหนิแบบสุภาพทั้งหมด  คนเลวบางคน อาไม่ระคายผิว  ( ขนาดว่าแรงๆ ยังไม่สะเทือนเล้ย )  หลายๆคนคงคิดโมโหหงุดหงิด ในความไม่เป็นธรรมแต่ก็ไม่กล้าแสดงออกอะไร  เหมือนชลัญคนหนึ่งแหล่ะ ให้ทำแบบ อ.ถางไม่กล้าหรอก   กลัววว์คือกัน  ชลัญเก่งแต่อยู่ในบ้านแค่นั้นแหล่ะ ออกนอกบ้านชลัญก็ก็หดเป็นแมวแล้ว  มันถึงต้องมีคนอย่าง อ.ถางมาทำให้สังคมมันสมดุลน่ะ 

        แต่อย่างว่า  สังคม gtkนั้นที่ชลัญมอง ออกจะแนวสุภาพเรียบร้อย สมถะ มีความสุข  มีความพอเพียง  เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ จะบอกว่า อ.ถางอย่าได้เขียนที่นี่ให้คนอื่นเขาทุกข์ใจเลย  มันเป็นบาปอย่างแรง  ไปเขียนใน เฟสน่ะเหมาะแล้วอาจารย์  ชลัญเชียร์  อิ อิ (แรงสส์ไปมั๊ยอาจารย์ ถูกปลดจากศิษย์ก็คราวนี้แหล่ะไป๊ )

       แต่ก็ขอบคุณ gtk นะที่ทำให้ได้รู้จัก  กับคนดีๆ หลายท่าน  ซึ่งเป็นคนดีที่มีการแสดงออกที่แตกต่าง ทำให้ชลัญสามารถเอาความดีของแต่ละท่านมาปรับใช้ได้  และเข้าใจคนเข้าใจโลกมากขึ้น  และชอบสังคม ออนไลน์ที่นี่มากกว่าที่อื่น ชื่นชมผู้ดูแลเวปไซด์  ที่อุทิศใจกายกับการทำงานนี้ที่เป็นสมบัติที่มีคุณค่าของคนไทย  ต่อไป

      อาจเมนท์ยาวไปหน่อยยังไม่จบเดี๋ยวไปว่าต่อหลังไมค์  อิ อิ อิ 

ของขวัญดี มีอยู่ ที่เนื้อใน
หามิใช่ กระดาษสี ที่หุ้มห่อ
บทความดี ที่ไม่ กำมะลอ
แม้ไม่ห่อ ด้วยคำหวาน ก็อ่านเพลิน


ขอบคุณทุกท่านที่ให้คห.ดีๆ  โดยเฉพาะท่าน sr ที่แสนน่ารัก  

ท่านไอดินครับ ผมปรับเปลี่ยนนิสัยตลอดเวลา เป็นไม้แก่ที่อ่อนมาก  ที่ผมจำเป็นต้องกระด้างเพราะ มันต้องกระด้างให้ทันกาล ก่อนสังคมไทยล่มสลาย  เราสุภาพ kowtow กันมานานมากแล้ว  มันจะสายเกินไปในสายตาผม 


คนทำงานถางทาง จะเป็นเช่นนี้เสมอ เช่น ท่านพุทธทาสภิกขุ  ท่านไม่เคยมีมธุรสวาจากับใคร (แม้แต่ผม) มีแต่กระตุก กระชาก  แม้แต่ภาษิตไทยดีๆ ท่านยังเอามาล้อเลียน  เช่น   

กรุงศรีอยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี  แต่คนอัปรีย์ก็ไม่เคยขาด  


ท่าน sr อีกที ...นิสัยผมมักให้โอกาสใคร สามครั้ง (แบบอเมริกันเบสบอล  three strikes and you're out) ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ผมขอลา กทน.  แต่คร้้งที่สามผมว่ายาก เพราะผมดูแล้วคนในบอร์ดนี้ conservative  ส่วนผมหาใช่ liberal ประการใด  ผมชอบไสตล์อจ.สุลักษณ์ ที่ท่านดีแคลร์ตนเองว่า เป็น radical conservative ผมเองก็โน้มไปทางนั้น     ท่านให้สัมภาษณ์ทีวีทั่วประเทศขนาดว่า   พวกเจ้าดีๆมีมาก ผมเคารพ  ส่วนพวกเจ้าเลวๆ ขอโทษ ผมเอาตีนถีบทิ้งเลย..... ขอบคุณในคำอวยพรของท่าน sr ครับ 


สำหรับ ชลัญ  และท่านอื่นๆ  ที่เจอกันหลังฉาก  ก็ต้องขอบคุณ กทน. ที่จัดให้  


แม้ตัวจากไป แต่บทความเกือบสองพันบทของผม คงยังอยู่ (ถ้าไม่โดนลบทิ้งเสียก่อน)  ท่านใดที่ไม่สนใจใบตองห่อ ก็ไปแกะเคี้ยวได้เสมอ  หรอยบ่หรอย ค่อยว่ากันอีกที  หรอยก็กลืน บ่หรอยก็บ้วนทิ้ง  ชีวิตคนเราก็เท่านั้น


...คนถางทาง (๒๐ มิย. ๒๕๕๖) 

ผมเป็นคนแก่ซิ่ง  ดูเหมือนว่า facebook มีเด็กซิ่ง นิสัยคล้ายผมมาก  เข้าไปเล่นแป๊บเดียวได้แควน 2500 คน  แต่เล่น กทน. มาสองปี ได้ผู้ติดตาม 135 เท่านั้น  แสดงว่าผมไม่เหมาะกับที่นี่    เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนแก่ที่คอนเซเวตีฟเกินไป ไม่ต้องการการเปลี่ยแปลง 

  ขนาดผมเสนอว่าคนไทยควรกิน ๘๐๐ ไม่ใช่ ๒๐๐๐ แคล มีเหตุผลการคำนวณด้านสรีรวิทยาพร้อมมูล   ตรรกะพร้อม  ซึ่งผมว่าน่าเสนอรับรางวัลโนเบลได้เลย (อิอิ โม้ยกหางตัวเองอีกแบ้ว) ....  แต่ไม่มีหมอ (กระเด็น) ที่ไหน กดไลค์ให้สักคน  หรือ แม้แต่กล้ามาโต้แย้ง  ด้วยเหตุผล  มาฟันกันทางปัญญาให้คนทั้งหลายมาโกทูโงว กันให้ทั่วฟ้าดินไทย ...ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายกันทั้งประเทศ และ อาเซียน และ โลก  


กราบเรียน ท่านอาจารย์

สัปดาห์นี้..ผมยุ่งๆ มาก ...พอวันนี้ว่างสักหน่อย...กลับได้อ่านบันทึกนี้ของท่านอาจารย์

รู้สึกตกใจ และเสียดายไม่น้อยครับ

ท่านอาจารย์มาเขียนบันทึกที่นี้...น่าจะพร้อมๆ กับผม

แต่ท่านอาจารย์เขียนเก่งมากๆ นะครับ...สองพันกว่าบันทึก

ขนาดผมเขียนได้ประมาณเจ็ดร้อยบันทึก...(แต่บันทึกของผมร้อยบันทึกคงสู้หนึ่งบันทึกเพียงบันทึกเดียวของอาจารย์ไม่ได้ครับ)

...โอ๊ย! ไม่รู้ว่าจะเขียนอย่างไง? ดีครับ....

เมื่อสามวันที่แล้ว...ผมเขียนอนุทินนี้...และเป็นร่องรอยล่าสุด ณ ที่นี้

คงเป็นลางบอกเหตุครับ ...ผมเขียนว่า

"....

ถ้า............................................บังเอิญมีกัลยาณมิตรท่านใด

ที่เคยเขียนบันทึก ณ ที่แห่งนี้.......และว่างเ้ว้นการเขียนบันทึกลงไป

วันนี้...ผมมีโอกาสได้เข้ามาอ่านบันทึกเก่าๆ ..................................

ของหลายท่านที่เป็นแรงบันดาลใจและให้กำลังใจกับผมมาโดยตลอด..................

อยากบอกว่า...คิดถึงจัง....ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ.......................................

".....ถ้าฉันบังเอิญเป็นคนเดินจากไป

ถ้าฉันไม่ต้องเผชิญทุกสิ่งอย่างนี้

ถ้าฉันเป็นคนไม่คิดอะไร

แค่ลืมใครก็ทำได้ลง

ฉันก็คงไม่เป็นอย่างนี้

ถ้าฉันเป็นคนไม่คิดอะไร

ฉันก็คงลืมเธอสักที..............................."


 


คิดถึงเจ้าของบันทึกนี้ครับ http://www.gotoknow.org/posts/482923
และที่สุดของที่สุด คือคนนี้ http://www.gotoknow.org/posts/521238
คนนี้ก็ยังคิดถึงอยู่ครับ http://www.gotoknow.org/posts/481271
คนนี้เป็นไงบ้างหนอ http://www.gotoknow.org/posts/514395
คนนี้ต้องรออีกหนึ่งปี http://www.gotoknow.org/posts/537073
คนนี้คงไม่ว่างนะครับช่วงนี้ http://www.gotoknow.org/posts/533980
ขอให้หายป่วยเร็วๆ แล้วกลับมาเขียนนะครับ http://www.gotoknow.org/posts/495022
คงสบายดีนะครับ http://www.gotoknow.org/posts/452017
รอคอยเสมอๆ http://www.gotoknow.org/posts/446803
ขอให้มีความสุขและกลับมาเขียนบันทึกให้อ่านนะครับ http://www.gotoknow.org/posts/531286
ฝากอีกรอบกับความทรงจำชั่วนิรันดร์นะครับ http://www.gotoknow.org/posts/290844
คนใจดีของผมจะกลับมาไหมหนอ?...http://www.gotoknow.org/posts/519878
......
และอีกคนที่คิดถึงกับถนนการเดินทางและการถางทาง...

มีหลายท่าน บอกว่า ผมไม่ค่อยตอบกระทู้  ซึ่งยอมรับว่าจริงครับ ยกเว้นกระทู้ที่ท้าทายให้ความรู้ใหม่  แต่ถ้าเป็นกระทู้ทั่วไป  หรือ เจ๊าะแจ๊ะ ผมจะไม่ตอบ   มันเป็นนิสัย (ที่คงแก้ยาก อิอิ)   ซึ่งนี่ก็คงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้แควนานุแควนหดหายไปเรื่อย ๆ  เพราะนิสียคนไทยส่วนใหญ่ชอบเจ๊่าะแจ๊ะ    ก็มีท่าน sr ที่คงเส้นคงวา  แม้ผมไม่ตอบ ท่านก็เม้นท์ต่อท่้าย ดีๆ เสมอ (แล้วเมือไหร่จะหัดพิมพ์ไทยเสียทีล่ะครับ  สมัยผมทำงานอยู่ usa ยังหิ้วเอา cu write ไปฝึกพิมพ์ภาษาไทย จนวันนี้ผมพิมพ์ได้แบบไบลิงก้วลเลยนะครับ  พิมพ์สัมผัสซะด้วย  พิมพ์เร็วกว่าเลขาอาชีพ ๙๐ ปซ. ในปทท. ก็แล้วกัน อิอิ )  

เพลงมูนละเมอ  ..มอบให้ทิมดาบ ก็แล้วกัน   วันหน้า ได้มีโอกาสมาปะดาบกัน จะร้องให้ฟัง พร้อมเล่นกีตาร์คลอด้วย  เบื้องหน้ามีต้มขม อ่อมเพลี้ย  ยำแม่เป้ง  ดีไหม  อิอิ  

แง แง แง ชวนทิมดาบคนเดียวได้ไง เคืองอ่ะนี่ อิ อิ 

คุณถางทาง...คงจะเขียนอาหารการกินให้ได้ตื่นเต้นกับรสชาตินะคะ ก่อนจะลาขอคำสัญญาสักหน่อย ว่าจะ.....(เพลงค่ะ) ชวนเขียนอาหารวัยรุ่น วัยเรียน สู่อาเซียนค่ะ ทั่นเพ่.. ที่นี่ค่ะ http://www.gotoknow.org/posts/539527

"..... เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนแก่ที่คอนเซเวตีฟเกินไป ไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลง ..." ประโยคนี้ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เป็นการด่วนตัดสินผู้อื่นในทางลบ เป้าหมายในการเขียนและการอ่านของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน  ในพื้นที่ของ Gotoknow เราให้เกียรติและเห็นคุณค่าของกันและกัน ไม่ว่าจะสูงวัยหรืออ่อนวัยกว่า

ดิฉันเริ่มเขียนบันทึกตั้งแต่ Gotoknow เปิดตัวใหม่ๆ ด้วยต้องการใช้เป็น Sharing platform และคลังความรู้สำหรับการทำงานของตนเองและเครือข่าย จะมีคนเข้ามาอ่านมากหรือน้อยไม่สำคัญ ดิฉันมีความสุขที่ได้เขียนและได้อ่านบันทึกที่อยากอ่าน และได้เรียนรู้เทคนิควิธีการทำงานหลายเรื่องที่เอาไปใช้ต่อได้ 

Thanks for coming round to answer and clear the air (it makes us --in G2K tribe-- feel better. You didn't leave because we have issues beyond reconciliation ;-) and more thanks to be quite patient with me.

90 words per minute! Wow, that is faster than I can think ;-) I have been practicing typing Thai. My speed is is up to about 10 words/minutes (when I don't have to look up a dictionary). But I will need to learn to think faster too. Sometimes, I spend a few minutes to choose one phrase or even one word. If you read my poems (in G2K) in Thai, you may note my choice of words come through a lot of pains.

Ahh, yes I am both old and have come to be 'more stable' (and I hope 'more tolerant/immune' to attacks). The joy of walking in one's own chosen path! Till we meet again.

ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามท่าน  แต่ไม่ได้อ่านทุกบันทึก เนื่องจากเวลาไม่ค่อยมากนัก  รวมทั้งไม่ค่อยได้อ่านบันทึกอื่นๆ ของเพื่อนๆ ด้วย      สิ่งที่ผมคิดว่าจะมีประโยชน์ต่อไปของ G2K  คือ  ข้อเขียนจากการปฏิบัติ การตกผลึกทฤษฎีจากงานปฎิบัติ  ผมว่าบันทึกของท่านที่ผมเลือกอ่าน น่าสนใจมาก  และจะเป็นแหล่งสืบค้นต่อไป   สุดท้ายนี้  อยากแจ้งให้ท่านทราบความจริง 2 ประการคือ

  1. ข้อมูลของ G2K จะไม่หาย  และไม่มีผลประโยชน์ทางการค้ามนเกี่ยวข้อง 
  2. ข้อมูลใน G2K  จะสืบค้นเจอง่ายกว่าใน sociao network อื่น

เรียนท่านอาจารย์ "ถางทาง"

  • ผมติดตามบันทึกของท่านอาจารย์มาตลอดนะครับ การอ่านก็ไม่ได้อ่านแบบผ่านแล้วให้ดอกไม้ 
  • สำหรับผม ผมยังหวังว่าท่านอาจารย์จะบันทึกสิ่งดีๆนี้ต่อไป แม้จะไม่มีดอกไม้ เพราะผมคิดว่า จะให้ใครมาชอบความคิดทั้งหมดของท่านอาจารย์คงไม่ได้ แต่ถ้าในร้อยบันทึก มีบันทึกหนึ่งที่มันมีค่าสำหรับคนหนึ่ง ผมมองว่า มันคุ้ม บันทึกของท่านอาจารย์ไม่ได้มีบันทึกเดียวที่มีค่ามาก โดยเฉพาะการช่วยให้คนมีอาชีพเพื่อประทังชีวิต ผมยังเคยคิดจะไปทำบางอาชีพที่ท่านอาจารย์เสนอมาเลยครับ
  • ผมเป็นคนเรียนหนังสือไม่เก่ง และไม่ค่อยเรียนค่อยอ่านด้วย ผมกำลังเลียนแบบว่าคนเก่งๆเขาทำกันอย่างไร ท่านอาจารย์เป็นคนเก่ง ผมพบว่า ส่วนหนึ่งของความเก่งคือขยัน ท่านอาจารย์ขยันมากๆที่จะเขียนให้อ่านกัน และข้อความที่เขียนแสดงถึงเฉียบแหลมด้วย
  • ผมคิดว่าในตัวท่านอาจารย์มีสิ่งมีค่าเยอะ ถ้า GTK คือบันทึกประวัติศาสตร์ ซึ่งเท่าที่ทราบไม่มีเวบไหนมีลักษณะแบบนี้ ถ้าสิ่งมีค่าที่ว่านี้ตกไปถึงลูกหลาน จะยิ่งมีค่ามากนะครับ
  • สุดท้าย ถ้าผมเคยแสดงความเห็นอะไรไป หากมี..แม้จะน้อยนิด ในอันที่จะกระทบจิตใจของท่านอาจารย์ กระผมขออภัยด้วยนะครับ
  • พักใจก่อนแล้วเขียนเพิ่มนะครับ

ไปไหนก็จะตามไปอ่านอยู่ดีนั่นแหละค่ะ

ผมติดตามอาจารย์มาได้ซักพักแล้ว อ่านทุกบันทึกครับ บางเรื่องผมเอาไปปฏิบัติจริงด้วย ได้บ้าง ไม่ได้บ้างตามประสา ชอบสำนวนการเขียนครับ แรงถูกใจเด็กช่างบ้่านนอกอย่างผมมากๆ อาจจะไม่ได้ให้ดอกไม้บ้าง ไม่ได้ Comment บ้าง เพราะไม่ได้ Login เข้าระบบ บางที Comment ไป ที่รอการตอบด้วใจจดใจจ่อ อาจารย์ก็ไม่ตอบ  ก็มีแอบน้อยใจบ้าง เช่น เรื่อง "ศักดิ์ศรีสตรีไทในเวทีโลก ..อร้วกกๆๆ" http://www.gotoknow.org/posts/534715 ที่อาจารย์เขียนไม่จบ แต่ให้ขอเนื้อหาเพิ่มหลังไมค์ เพราะไม่รู้ติดต่ออาจารย์ได้ทางอื่นๆ ได้ไง เ้ข้าไปที่ http://dr-grassroot.org/index.php?option=com_content&view=frontpage ก็ไม่เจอ ถ้าอย่างไรแล้วรบกวนอาจารย์ส่งข้อมูลฉบับเต็มให้ผมด้วยครับ ที่ [email protected]

เห็นด้วยกับความเห็นในสมาชิก GTK ทุกท่านครับ โดยเฉพาะเรื่องการเมือง/ศาสนา ที่ค่อนข้าง Sensitive ผมยอมรับว่าที่นี่ค่อยข้างอนุรัิกษ์นิยม แต่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นไปอย่างมีพลัง เมื่อเทียบกับ Blog ของเจ้าอื่นๆ 

เคารพในการตัดสินใจของอาจารย์ที่จะลาโรงจากที่นี่ไป แต่อย่างไรก็ตามผมก็ยังติดตามอาจารย์ต่อที่ FB ครับ

 ขอบคุณครับ

ขอแสดงความเห็นในฐานะคนที่ให้ดอกไม้และอ่านบันทึกอ.ถางตลอดเวลาคนหนึ่ง ศรัทธาในผลงานเชิงประจักษ์ที่ได้เห็นได้รับรู้นอกวง GotoKnow ของอาจารย์ ว่าเป็นคนที่ไม่ได้บ่นหรือออกความเห็นเท่านั้น แต่ลงมือทำอย่างจริงจังโดยไม่ได้โอ้อวดหรือต้องการความชื่นชม และทำมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ส่วนบันทึกที่อาจารย์เขียนใน GotoKnow นั้น แม้หลายๆบันทึกตัวเองจะไม่เห็นด้วยและรู้สึกว่า "รุนแรง"และ"เกินขอบเขต" ก็ยังคงอ่านและพยายามให้ความเห็นในส่วนที่ให้ได้ และไม่เคยรู้สึกเลยว่าอาจารย์ไม่สนใจ เห็นว่าอาจารย์ตอบในสิ่งที่ควรตอบเสมอ และตอบได้อย่างมั่นคงในสิ่งที่ตัวเองนำเสนอทุกครั้ง

ขอเรียนให้อาจารย์พิจารณาว่า บันทึกหรือความคิด ความเห็นส่วนใหญ่ของอาจารย์ที่จะได้เผยแพร่ต่อไปอยู่แล้วในที่อื่นๆ หากอาจารย์หรือลูกศิษย์เห็นว่า น่าจะเก็บไว้เป็นจดหมายเหตุประเทศไทย ก็เอามาฝากชาว GotoKnow บ้างเป็นครั้งคราว อย่าถึงกับอำลากันไปเลยน่าจะเป็นทางสายกลางที่เหมาะสมอยู่นะคะ และเชื่อว่าความหวังดี ความจริงใจที่พวกเราชาว GotoKnow แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาถึงอ.ถางอยู่เสมอไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือเห็นต่าง ซึ่งเชื่อว่าอาจารย์รับรู้ได้แน่นอน จะเป็นสิ่งที่ทำให้อาจารย์ไม่ทิ้งพวกเราไปจริงๆ ไม่ว่าอาจารย์จะลาหรือไม่ลา เหมือนเพื่อนๆอีกมากมายที่มาๆไปๆ พวกเราก็คงจะยังคิดว่าอาจารย์คือ ชาว GotoKnow อยู่นั่นเองค่ะ ถ้าหายไปนานๆกลับมาเราก็จะดีใจและยินดีต้อนรับเสมอ เพราะสมาชิกทั้งหลายที่คุณ ทิมดาบ นำมาเรียงร้อยไว้นั้น ท่านก็จะได้รับการระลึกถึงและยินดีที่จะพบเจออีกครั้งเสมอ 

แต่ไม่ว่าอ.ถางจะตัดสินใจอย่างไร ณ เวลานี้ สิ่งที่ทุกท่านร่วมกันออกความคิดเห็นไว้นี้ก็จะเป็นจริงและอยู่ตรงนี้ไปอีกนาน (น่าจะนานกว่าชีวิตของพวกเราด้วย) หากอ.ถางไม่มาลบทิ้งหรือปิดบล็อก ซึ่งเป็นสิทธิขาดของอาจารย์ที่ไม่มีใครจะมาทำได้แน่นอน (ซึ่งจุดนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิงกับสิ่งที่เราใส่ไว้ใน Facebook ที่แค่จะหาสิ่งที่เราเขียนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วยังหายากเลยค่ะ จะเก็บอะไรก็ต้องรีบๆเก็บ)

 และสุดท้ายขอขอบคุณอ.ถางสำหรับสมบัติล้ำค่าที่ได้ฝากไว้แล้วในบ้าน GotoKnow แห่งนี้ค่ะ และยังคงหวังว่าอ.ถางจะไม่ทิ้งพวกเราไป เพราะความต่างของอาจารย์มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อพื้นที่แห่งนี้ค่ะ

สวัสดีค่ะ อ. คนถางทาง

ก่อนอื่นก็ขอขอบคุณที่อ.ถางทาง.. ได้ให้เวลาแก่ชุมชนที่นี่ gtk  ด้วยการเขียนบันทึกที่หลากสาระ จำนวน มากๆ เป็นพันเรื่องให้อ่าน  ตามระยะเวลาที่ทราบจากอาจารย์ว่าเกือบสองปี   แสดงว่า อ. ถางทาง ก็มีความรักและความปรารถนาดีต่อสมาชิกในบ้านหลังนี้ gtk..  ซึ่งเป็นที่พูดคุย ถามไถ่ของเจ้าของบ้านที่หลากหลาย ซึ่งไม่ใช่เพียงจำนวน แต่เป็นความหลากหลายทางความคิดอ่าน ความชอบ ความถนัด  ฯลฯ ซึ่งล้วนปรารถนาดีต่อกันและกันในฐานะกัลยาณมิตร ที่เข้ามาเสนอประเด็น แบ่งปัน แลกเปลี่ยน เรียนรู้ ....ทั้ง KM และมอบความเื้อื้ออาทร ให้กำลังใจกัน

โดยส่วนตัวเข้ามาเป็นสมาิชิกเมื่อไม่นาน ประมาณหนึ่งปี  ได้เข้ามาแลกเปลี่ยน เขียน อ่าน และแสดงความคิดเห็นในฐานะสมาชิก และอ่านงานของ อ .ถางทาง เกือบทุกบันทึก   เพราะได้คลิ๊กติดตามท่านในระบบ (คงเป็น ๑ใน ๑๓๕ ผู้อ่านที่ติดตามท่านในระบบ)    ถึงแม้ว่าการเข้ามาเขียน/อ่าน/แสดงความเห็นที่  gtk  หากทำได้ไม่บ่อยนัก... แต่ก็ได้อ่านค่ะ ไ้ด้อ่านติดตามบันทึกของท่าน.และบางครั้งก็ร่วมแสดงความคิดเห็น .......ผลงานการเขียนของท่าน มีประเด็นที่นำเสนอ สะกิดให้หยุดคิด ด้วยสาระเชื่อมโยงหลายศาสตร์ และภาษา ที่แทรกความขำๆ  ยั่วๆ เย้าแหย่ื้ท่านผู้อ่าน  ในสไดล์ของท่าน .. บางครั้งอ่านแล้วคิดย่อยไม่ทันในสาระ ต้องอ่านซ้ำ แต่บางครั้งก็ขำ ..เห็นในเจตนาที่ีนำเสนอ และปฏิเสธได้  

 ถึงแม้ว่าอาจารย์ถางทาง จะจากไปเขียนที่อื่นๆ .. เข้าใจว่่าในเจตนารมย์ ก็เพื่อสังคม ประเทศชาติของเราที่พัฒนาขึ้นเช่นกัน   เพียงแต่อดคิดไม่ได้ว่าหากเป็นไปได้ จะมี อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ร่วมกันบันทึกไว้ที่นี่ gtk..:-))  ส่วนบันทึกที่อาจารย์ได้เขียนไว้ใน gtk นั้นก็ยังคงเป็นประโยชน์ให้ได้ สืบค้นสำหรับผู้สนใจ  และแม้กระทั่งส่วนตัวคงได้อ่านเพื่อย่อย ทำความเข้าใจอีกครั้ง ๆ ๆ   หรือมุขต่างๆ /เพลง ฯลฯ..ที่ท่านเขียนไว้หลากหลาย    คงสื่อว่า.. ยังคงระลึกถึงค่ะ ....

ด้วยความเคารพ:-))

สวัสดีครับ อาจารย์ถางทางครับ

เมือปี 52 ผมมีบันทึกหนึ่งครับที่ผมกล้าแสดงความคิดเห็นมาก อยากให้อาจารย์อ่านครับ

ชอบบันทึกฉบับหนึ่ง  เซ็กซี่ไร้กาลเวลา

มาวันนี้  สโลแกนก็ยังคงเหมือนเดิม…แม้จะเปลี่ยนจาก เซ็กซี่ไร้กาลเวลา มาเป็น คุณค่าไร้กาลเวลา

เซ็กซี่ได้ใจ  จึงอยู่ที่เราเลือกว่า จะเลือก  แบบไหน

แบบนี้


 

หรือแบบนี้



ซึ่งเมื่อมองความหมายของคำ และมองภาพสื่อความหมายประกอบแล้ว......คงไร้ข้อกังขา

บันทึกนี้จึงอยากเอาข้อคิดที่ให้ไว้ ...มาต่อยอดความคิดซึ่งกันและกัน

เพราะยังเห็นว่า...เซ็กซี่...ยังใช้เป็นภาษาที่สร้างสรรค์ได้ อย่างน่าสนใจ


สวัสดี ครับ คุณคนไม่มีราก

เข้าระบบมาก็เจอความเซ็กซี่...ของผู้หญิงคนนี้เลย ครับ

มีหนังสือ ของเค้า 2 เล่ม อ่านความเซ็กซี่ ที่ระดมความรู้เอาไว้

เซ็กซี่ได้ใจ จริง ๆ สมคำเล่าลือ....ไม่เกินความจริงเลย

สมกับที่มีความมั่นคงทางจิตใจ อุดมไปด้วยมันสมอง ที่สร้างสรรค์อย่างแท้จริง

ชื่นชม..เช่นกัน ครับ ...มาแปรเปลี่ยน ความเซ็กซี่ ด้วย วิธีนี้ คงดีเป็นแน่แท้

และ เมื่อ พฤ. 01 ต.ค. 2552 @ 21:07

สวัสดี ครับ

เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ที่มีโอกาสใช้บริการ internet นอกสถานที่

ถือว่าโชคดี ครับ เพราะการได้นั่งรอเวลา โดยไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่า กับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ แห่งนี้

กลับมาอีก ครั้ง เพราะมีเวลาไม่มากที่จะเขียนข้อเสนอแนะในช่วงกลางวันจึงมาที่บันทึกนี้อีกรอบ

....

สมัยเด็ก ๆ ตอนที่อยู่นครปฐม แถวองค์พระปฐมเจดีย์ มีต้นลั่นทม ขึ้นอยู่อย่างมากมาย

ผมเคยถามแม่ว่า...ดอกไม้ชนิดนี้ สวยและมีกลิ่นหอม ดีจังเลย ทำไมถึงชื่อดอกลั่นทม!!

แม่ตอบผมว่า...ดอกลั่นทม ไม่ใช่ไม้มงคล และที่สำคัญ จะปลูกเฉพาะบริเวณวัด ความที่ผมเป็นเด็ก  ...ผมก็จะเชื่อตามที่แม่พูด  เป็นความเชื่อที่ถูกปลูกฝัง มาโดยตลอดว่า ต้นไม้แบบนี้ ไม่เป็นมงคล มิควรปลูกในบ้าน

เดี๋ยวนี้...เป็นอย่างไรบ้าง คุณคนไม่มีราก คงทราบดี...  ชื่อกลับหอมหวล คงจะแทบทุกบ้านมั่งครับ ที่มีต้นไม้ชนิดนี้อยู่ 

ผมย้อนมามอง ความคิดคนเรา ครับ   ที่ยึดติดกับ คำเดิม ๆ และความหมายเดิม ๆ  เป็นการคิดที่ไม่เคยหลุดไปจากกรอบ ผมเชื่อครับว่า ลีลาวดี เกิดขึ้น เพราะ เราไม่เอาความคิดเดิม ๆ มาตัดสิน  ---->นั้น ทำให้เกิดการยอมรับ

นวัตกรรม ก็เช่นกัน  เป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี  ดังนั้น การเปลี่ยนแปลง อะไรก็ตาม ต้องเริ่มจากตัวเราก่อน  เพราะเป็นปัจจัยที่ทำให้ความคิดของเราไม่หยุดนิ่ง

คุณคนไม่มีราก ครับ..โรงหนังเป็นสถานที่ให้ความบันเทิงแก่เรา มาหลายยุคหลายสมัย เคยคิดมั้ยครับว่า..ถ้าเอาโรงหนังมาจัดสถานที่แต่งงาน อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง?

ความบันเทิง  ไม่ใช่จะจำกัดเพียงแค่ ความหมาย แต่สามารถเป็นได้มากกว่านั้น

หนูดี  ก็เช่นเดียวกัน  ...ถ้าผมจะเอา ความหมายของคำว่าเซ็กซี่มาใช้กับเธอ เพราะวัตถุประสงค์ของการนำคำมาใช้ มีเป้าหมายต่างกัน 

บันทึกนี้ ก่อให้เกิดปัญญามากมายนะครับ  อยู่ที่ว่า...เราจะมองคำ มองคน มองวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้อย่างไร?

มีอีก นิด ครับ

การคิดและสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ ๆ อย่าอยู่กับที่

เพราะเมื่อเราจมปลัก  สิ่งใหม่ ก็จะไม่เกิด

ผมตั้งคำถามง่าย ๆ กับคุณคนไม่มีราก ครับว่า...  ถ้าคุณคนไม่มีรากอยากไปสิงค์โปร์ คุณคนไม่มีราก คิดถึง อะไร? ไม่ต้องตอบผม นะครับ

แต่ผมอยากบอกว่า...มันมีมากกว่านั้น


มีความสุขครับ....ที่ได้เขียนข้อเสนอแนะ แบบยาว ๆ กับ คนที่ได้ชื่อว่า..บัณฑิต


ผมมีแม้กระทั่งรูปนี้


รูปที่สมาชิกท่านหนึ่งส่งให้ผม พร้อมถ้อยคำ...

  • แล้ว..เซ๊กซี่อย่างนี้ล่ะ
  • คุณแสงพอรับได้ไหมครับ
และอีกท่านบอกว่า ..

เอารูปคุณแสงไปแปะแบบนั้น แสดงว่าใครใครเขาก็รู้ว่าคุณแสงมีรสนิยมแบบนั้น

พฤติกรรมคนดูเขาก็สื่อให้ชัดๆ

จะแก้ตัวอะไรอีกไหมคะ พ่อปลาไหล :-)



ผมตอบแสดงความคิดเห็นไปว่า..

ขออนุญาต

ยกประเด็นนี้มาตอบเพื่อความชัดเจน กรณี คุณ ยุพดี ก่อน นะครับ


ยกข้อเสนอแนะของคุณ ยุวดี มาตามที่นี้ เพราะคงตอบแบบ real time ในบันทึกนั้นไม่ทัน

อดชื่นชมคุณ ไม่ได้ จริง ๆ ....ชื่นชม ครับ

แต่หากมองให้ลึก ๆ แล้ว อะไรที่ทำให้เกิดปัญญาเนี่ย!!  คงต้องพิจารณา โดยอาศัยเวลา

เรื่องบางเรื่อง ตัดสินด้วยภาพ  โดยไม่อ่านคำบรรยายใต้ภาพ ก็คิดได้เดี๋ยวนั้น

หากเราละเลย ....รายละเอียดของเนื้อหา ..อาจทำให้ต้องคิดใหม่ ทำใหม่

ถ้าผมถามคุณยุพดีว่า....หากคุณยุพดี แต่งงาน....โดยใช้โรงหนังเป็นสถานที่แต่งงาน

คุณยุพดี....คงหัวเราะก๊าก!!! และคิดในในว่า...ไม่อยากจะเชื่อเลย  คิดได้อย่างไง?

บันทึก เซ็กซี่ได้ใจ...แบบไหนดี  ผมก็คิดเช่นนั้น

ผมไม่โทษคุณ นะครับ

เพราะคนเราต่างกัน..เกิดมาบนพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกันและมีเส้นทางการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน  เมื่อไม่มีใครเหมือนใคร  จึงเป็นเรื่องดีที่สังคมแห่งนี้ จะได้เติมเต็มซึ่งกันและกัน

มีกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง ท่านให้ข้อคิดไว้ครับว่า

  • ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะแยกแยะระหว่างความกลัวกับความละเอียดรอบคอบ
  • เมื่อไรก็ตามที่เราทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบ โดยมีข้อสงสัยต่อโลก ต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ต่อผู้คน ว่าจะต้องอย่างนั้นอย่างนี้  นั่นแหละเรากลัว เราระแวง
  • แต่หากว่าเราทำงานอย่างละเอียดรอบคอบด้วยจิตที่เป็นกลาง ไม่เพ่งโทษ นั่นแหละเป็นการทำงานด้วยกุศลจิต
  • หากไม่หมั่นฝึกฝนก็จะมองไม่เห็นภายในว่าเรากลัวมากเกินไปจนขาดความมั่นใจในตัวเอง
  • หรือเรากลัวในระดับที่จะนำมาพัฒนาสติปัญญาตนเอง โดยไม่เพ่งโทษตนและคนอื่น

    รู้สึกสงบอยู่ในที....แต่อย่างไรก็แล้วแต่  ขอชื่นชมคุณ จริง ๆ ครับ

  • สุดท้าย

    คุณหมออัจฉรา ท่านได้กรุณาเข้ามาเยี่ยมผม พร้อมฝากถ้อยคำไว้

    เข้ามาเยี่ยมค่ะ

    มีคำอะไรที่สื่อแล้วไม่ถูกใจใคร คิดว่าต่างจิตต่างใจนะคะ

    สำหรับตัวเองก็คิดว่าเป็นแค่การใช้คำทำให้ดูน่าสนใจค่ะ

    คงอยู่ที่เนื้อหาการสื่อมากกว่าค่ะ รับได้ค่ะ

    คิดถึงเสมอค่ะ แต่ไม่ค่อยมีเวลาเปิดบล็อกอ่าน

    -----------------------------------------------------

    รู้สึกเสียดายอาจารย์นะครับ 

    ผมจำคำพูดที่ผมเคยพูดกับน้องสาวของผมว่า...อยู่ที่ไหนแล้วเรามีความสุข ให้อยู่ตรงนั้น 

    อย่างน้อย  อาจารย์ก็เป็นอีกท่านหนึ่ง ที่ผมชื่นชม ครับ


    ด้วยความเคารพ

    กทน.  เขียนได้หมดทุกเรื่อง ยกเว้น การเมืือง พระมหากษัตริย์  ???     ผมว่าแบบนี้มันไม่ครบองค์ประชุมนะ   เท่ากับว่ามติ กทน.  ไม่มีผลบังคับใช้   ....ชีวิตมนุษย์เรามันจะมีอะไรน่ารู้ไปยิ่งกว่าการเมือง   ไม่มีหรอกครับ  นกหนูหมูหมากาไก่ มันยังสนใจการเมืองเลย     นี่เราคนแท้ๆ    ...เรื่องพระมหากษัตริย์ก็ยิ่งต้องสนใจ เพราะเป็นหัวเรือใหญ่การเมือง  ถ้ามัวแต่กลัวหงอ ปล่อยให้ไอ้พวกหมิื่นมันด่าได้อย่างเดียว อีกหน่อยหมดในหลวง กทน. ก็อาจถูกปิดด้วยอำนาจมืด  ..การเทิดทูน ต้องด้วยปัญญา ไม่ใช่เทิดทูนแบบตาบอด      ปัญญาต้องรู้  รู้ต้องไปเรียนรู้สิ    (go to know)  ..... ไม่งั้นก็ โก ทู โง่ กันหมด ไม่ว่าหัวหงอกหัวดำ    


    ขอบคุณหลายท่านที่ให้กำลังใจ โดยเฉพาะพี่สาวใหญ่ เขียนไปดุเป็นการส่วนตัวอีกตะหาก  ทำนองว่าผมเห็นแก่ต้ว  ไม่ยอมเสียสละเพื่อสังคม  โห..เจ๊ ช่างกระตุกต่อมคุณธรรมเก่งจัง หวังจะให้สำนึกผิดกลับมาเขียนอีก อิอิ  

    สำหรับโอ๋ไม่คิดว่าเขียนไม่ได้นะคะ เพราะตัวเองก็เขียนมาแล้วทั้งสองเรื่อง และก็เห็นหลายๆท่านเขียนในหลายๆแง่มุมที่ต่างๆกันไป แต่การออกความเห็นในเชิงก่อความขัดแย้งรุนแรง และละเมิดสิทธิ์ทางความคิดของผู้อื่นต่างหากค่ะ ที่ควรละเว้น เราบอกว่าความเห็นเราเป็นแบบนี้ๆได้ แต่เราไปว่าคนอื่นๆไม่ได้ และการออกความเห็นที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐานก็เป็นสิ่งที่ถือว่าละเมิดสิทธิ์ แม้ว่าบุคคลนั้นๆจะเป็นบุคคลสาธารณะก็ตาม 

    อย่างที่บอกไว้แล้วแหละค่ะ ว่าอ.ถางเป็นสีสันและเป็นความต่างที่น่ามีไว้ของ GotoKnow แต่ก็ต้องมีคนมาคาน มางัดแบบนี้อยู่เรื่อยๆ ถ้าอ.ถางคิดว่า พวกเราสมควรแก่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย พวกเราก็จะยินดีอย่างยิ่ง เชื่อว่าอาจารย์เข้าใจพวกเราแน่นอนอยู่แล้วค่ะ และสำหรับตัวเองก็เคารพการตัดสินใจของอาจารย์อยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าอยู่นอกวงนี้ก็อาจจะไม่ได้อ่านเรื่องราวจากอาจารย์อีกซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายค่ะ 

    เป็นแฟนคลับค่ะ อาจไม่มีเวลาอ่่านทุกบันทึก เพราะอาจารย์พลังเยอะมากแต่อ่านไม่น้อยค่ะ

    ชอบความคิดที่ไม่เหมือนใคร ความคิดที่อ่านแล้วทึ่ง หัวเราะในใจจนหัวเราะดัง ๆ 

    ชอบความกล้าแสดงออก

    ชอบการแปลเพลงแบบหาคำไทยมาใส่ให้ได้ความหมายธีมเดิม ๆ เข้าจังหวะ ร้องใหม่แบบไทยก็ยังได้

    ...

    แต่ก็มีไม่ถูกใจบ้างกับเรื่องคำที่อาจารย์ใช้คำย่อที่ไม่ใช่คำย่อมาตรฐาน คำยอบางคำที่ไม่น่าจะนำมาใช้กับสถานภาพของบุคคลที่เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าเป็นบุคคลสำคัญ เรื่องความคิดบางเรื่องที่ด่วนสรุป(เช่นกินน้ำมากเป็นภัยต่อไต) ฯลฯ

    โดยรวมคิดว่า ผู้อ่านคงใช้วิจารณญาณกันได้

    .....

    ยังอยากอ่านเรื่องของอาจารย์ในนี้ค่ะ ชอบระบบค้นหาของโกทูโน ระบบ tag ทำให้หาเรื่อง หาคำสำคัญพบ

    โกทูโนก็คงเหมือนเรา ๆ ท่านๆ คือไม่ได้ดีไปเสียหมด และไม่ได้เลวไปทุกเรื่อง (ไม่ใช่ละครทางทีวีของไทย)

    .....


    คิดถึงค่ะอ.ถาง เขียนต่อเถอะค่ะ

    ขอดื้อ ๆ และก็จบเม้นท์ห้วน ๆ อิ อิ




    สรุปคือ ผมบอกแล้ว ว่า การทำงาน "ถางทาง" (Trail blazing)   นั้นเป็น ธรรมดา ที่ต้องมีทั้งคนด่า และ คนชม  (ส่วนใหญ่ด่า ประมาณ ๘๐ คนชม ประมาณ ๒๐)  ไม่เว้นแม้พพจ. (คำย่อที่ีิคิดเอง เพราะอ้างบ่อย ..จนขี้เกียจพิมพ์)    หรือ พท. (พุทธทาส)  หรือ ปรีดี พนมยงค์ ก็ตาม  ยิ่งสุลักษณ์ ศิวลักษณ์ ก็โดนทั้งจากเสื้ิอเหลือง เสื้อแดง    ...มีแต่พวกสุภาพ ฉาบคำหวาน ที่ได้รับการยกย่อง   หิหิ   โลกนี้คือละครเจงๆ    ขอลาก่อนเด๊อ ไปเล่นตลกเวทีอื่นดีฝ่า คนอย่างราว 

    อุบัติการ ผ่านมา แล้วผ่านไป  ไม่ต่างอะไรกับละครเวที  

    ชอบ ไม่ชอบ  เฉยๆ      

    ก็เท่านั้นหและ  อย่าคิดไรมากเลยสหาย

    เล่นกันไปตามบทบาทที่เขากำหนด 

    ส่วนเราก็กำหนดได้พอประมาณ ตามสถานะแห่งเรา

    ก็เท่านั้น

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท