ขอเชิญชวน "ชาว GotoKnow" ร่วมต้อนรับสมาชิกใหม่ “คุณ yanyong-p”
ในบันทึกเรื่อง “เพราะเหตุใด ใครๆ จึงรัก GotoKnow” (http://www.gotoknow.org/posts/537245) “ไอดิน-กลิ่นไม้” ได้รับดอกไม้จากสมาชิกใหม่ และได้กล่าวต้อนรับความว่า “ยินดีมากค่ะ ที่ได้ต้อนรับ "คุณ Yanyong-P" สมาชิกใหม่หมาดๆ 3 วัน "ไอดิน-กลิ่นไม้" ขอเป็นตัวแทน "ชุมชน GotoKnow" ให้การต้อนรับ ด้วยดอกไม้ "ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ดอกรักแรกพบสีแดง" ที่เพิ่งปลูก (มีสีส้ม สีชมพู และสีเหลืองอยู่แล้วค่ะ)…
"ไอดิน-กลิ่นไม้" ขออนุญาตแนะนำให้ชุมชน GotoKnow รู้จัก "คุณ yanyong-p" นะคะ ท่านให้ข้อมูลในประวัติว่า "เกิด พศ 2506 และเติบโตที่ สมุทรสาคร การศึกษา ประถมต้น รร สวัสดิ์วิทยา ประถมปลาย รร เอกชัย มัธยม รร สวนกุหลาบวิทยาลัย อุดมศึกษา วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต (โยธา) จุฬาฯ หลังสำเร็จการศึกษาในปี 2527 ดำเนินธุรกิจครอบครัวด้านการประมงต่อเนื่องจนหยุดประมาณปี 2550 สถานภาพ ครองชีวิตคู่ร่วมกับคุณพึงใจ มีบุตรชาย 2
หญิง 1 (บุณยฤทธิ์ ทำงานที่ กฟผ, วรงกฎ ปี 4 วิศวฯจุฬาฯ , จุฑาทิป ปี 1 ทันตฯจุฬาฯ ) ขอออกตัวนิดหนึ่งว่า เพิ่งหัดใช้คอมฯได้ไม่นาน และ เข้าสังคมออนไลน์เดือน มิ ย นี้เอง ถ้ามีอะไรผิดพลาด หรือ บาดหมางใจ โปรดแจ้งให้ทราบด้วย"
"ไอดิน-กลิ่นไม้" ได้กล่าวกับคุณยรรยงว่า "ขอเรียนให้คุณ Yanyong-P ทราบด้วยความสบายใจว่า ชุมชน GotoKnow ของเรา มีแต่ความเป็นมิตร ความเอื้ออาทรและความปรารถนาดีต่อกันค่ะ พวกเราหวังว่า จะได้อ่านงานเขียนของ "คุณ Yanyong-P" ในเร็วๆ นี้นะคะ ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามามอบดอกไม้ให้กำลังใจแก่ "ไอดิน-กลิ่นไม้"
และท่านได้เข้าไปตอบรับการต้อนรับความว่า "สวัสดีครับอาจารย์ และฝากผ่านความเคารพมาถึงสมาชิกทุกท่านด้วยครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่ คิดว่าตัวเองโชคดีมากได้มาเจอ G2K เหมือนเป็นสังคมในอุดมคติเลยครับ แหล่งรวมปัญญาชนผู้สละเวลา มอบวิทยาทานแก่คนทั่วไป แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นแก่กัน แม้เห็นต่างก็โต้แย้งกันแบบผู้เจริญ บันทึกของอาจารย์ ครอบคลุมเนื้อความที่ผมรู้สึกได้เกินร้อย เพราะมีด้านที่ผมมองไม่เห็นมาพรรณาเป็นวิชาการที่อ่านง่าย หวังลึกๆว่าวันหน้าจะมีความสามารถเขียนบันทึกมาแบ่งปันกับท่านบัวเหนือน้ำทั้งหลายได้บ้าง เชื่อมั่นว่า ณ ที่นี้ Gotoknow บัณฑิตจะพาไปหาผล"
และไอดินฯ ได้กล่าวกับคุณยรรยงล่าสุดความว่า "สวัสดีค่ะ "คุณ yanyong-p" ดีใจจังค่ะ ที่ "คุณ yanyong-p" เข้ามาตอบการต้อนรับอย่างรวดเร็ว ตอนนี้คุณก็เป็น "ชาว GotoKnow" แบบเต็มตัวแล้วนะคะ
"ไอดิน-กลิ่นไม้" เขียนอนุทินน้อยมาก จะเขียนก็ต่อเมื่อมีแรงบันดาลใจจริงๆ ครั้งนี้ มีแรงบันดาลใจจากถ้อยคำของคุณยรรยงที่กล่าวรับการต้อนรับ จึงคิดจะไปเขียนอนุทินให้ชาว GotoKnow รับทราบอย่างกว้างขวางขึ้น ว่า เราได้สมาชิกใหม่ที่มองภาพ "ชุมชน GotoKnow" ได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน ครอบคลุม และงดงาม ตลอดจนมีศักยภาพสูงทั้งด้านความคิดและความสามารถทางภาษา ที่จะเข้ามาสร้างความแข็งแกร่งให้กับ "ชุมชน GotoKnow" อีกท่านแล้ว
"อยากเก็บงานเขียนดีๆ ไว้อ่าน และบอกผ่านไปยังผู้ที่สนใจ"
หลังจากที่ผู้เขียนได้อ่านบันทึกของ "คุณสามสัก" เรื่อง "๔๖.ปู....นางฟ้าผู้อารี หรือนักฆ่านัยตาหวาน ????" ที่สร้างในวันที่ 9 กันยายน 2555 (http://www.gotoknow.org/blogs/posts/501708) ผู้เขียนได้แสดงความเห็นไว้ ดังนี้
• อ่านบันทึกนี้ในเวลาที่ควรนอน ตอนเกือบตีสองหลังตรวจงานนักศึกษา
ชอบบันทึกนี้มากๆ เลยค่ะ
อ่านแล้วได้ความรู้ว่า ต้นที่ขึ้นเยอะมากที่ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้และถอนทิ้งประจำเรียกว่า "ต้นสาบแมว" เคยถ่ายรูปตอนที่เขาขึ้นเต็มสวนกล้วยและออกดอกเต็มสวยเหมือนกันค่ะ
ได้รู้จัก "แมงมุมปู (Flower Crab Spider)" ซึ่งรู้สึกว่าจะไม่พบแถวฟาร์มไอดินฯ และได้เรียนรู้เกี่ยวกับการหาอาหารของแมงมุมดังกล่าว
ได้เรียนรู้ว่า คุณสามสักมีความรู้เกี่ยวกับแมลงศัตรูพืชเป็นอย่างดี เป็นคนละเอียดอ่อน ช่างคิด และมีความคิดลึกซึ้ง จะเห็นได้จากการนำวิถีชีวิตของสัตว์มาเปรียบเทียบกับคนไทย ที่อยากให้คนไทยทั้งประเทศได้อ่านอย่างมีสติตระหนักรู้ จะได้ไม่หลงระเริงดังเช่นผึ้งที่หลงใหลในความงามและน้ำหวานของดอกสาบแมว
"คุณสามสัก" ทิ้งท้ายในบันทึกดังกล่าว ไว้ดังนี้
เฮ้อ..ช่างแสนเวทนาแมงมุมปูวัยเด็กและสงสารผึ้งตัวนั้นจริงๆ.......พอๆ กับการสงสารตัวเอง สงสารอนาคตของลูกหลานไทย .. ที่ถูกภาครัฐ กำลังเพาะบ่มพฤติกรรม "รอแลกแจกแถม อย่างไม่เห็นคุณค่า...ถูกหลอนให้หลงใหลได้ปลื้มกับความสุข ความสบายภายใต้นโยบายประชานิยมที่ขาดความสมเหตุสมผลที่ดี ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น มากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาทางการเมืองและทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว..เพราะรายได้ของประเทศ ได้ถูกนำเอามาใช้เพื่อเอาอกเอาใจประชาชน ให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง..จนกระเป๋าของชาติฉีกขาดอย่างต่อเนื่องยาวนาน ..
เมื่อไม่มีก็ต้องกู้ ..หนี้เก่าเมื่อปี ๒๕๕๔ จำนวน ๔.๒๘ ล้านล้านบาท มาปีนี้ คงมีหนี้สะสมไม่น้อยกว่า ๕ ล้านล้านบาท.. ในขณะที่ทรัพยากรชาติ ก็ถูกล้าง ถูกผลาญ..ควบคู่ไปกับการเพิ่มขึ้นของหนี้สินภาคครัวเรือน จาก ๘ หมื่นบาทเศษ เป็น ๑๓๖,๕๖๒ บาทต่อครัวเรือน ในเวลาเพียงไม่กี่ปี..
คนไทย จึงไม่ต่างกับผึ้งที่ถูกหลอนให้หลงระเริงกับความหวานและความสวยงามของดอกสาบแมว.รอเวลาที่จะถึงกาลเสื่อมถอย..แตกดับ...
ในขณะที่ลาว พม่า เวียตนาม (เวียดนาม).. ซุ่มซ่อนลับคมเขี้ยวทางปัญญาให้แก่พลเมือง ให้รู้จักตนเองและก้าวเท่าทันโลกอย่างมั่นคง..พร้อมที่จะแซงพี่ไทย..ที่หลงระเริงความหวาน จนจะเป็นโรคเบาหวาน..ได้อย่างไม่ยากเย็น...
ถ้อยคำทิ้งท้ายของ "คุณสามสัก" ดังที่ยกมา ตรงใจผู้เขียนยิ่งนัก ที่รู้สึกนึกคิดเยี่ยงเดียวกัน ด้วยความห่วงใยใน "หายนะของชาติ" แต่ไม่อาจเขียนออกมาเป็นถ้อยคำ เมื่อได้พบกับงานเขียน "ค่าล้ำ" จึงขอนำมาบอกต่อ ขอให้คนไทยได้นำมาคิดไตร่ตรองกันดู จะปล่อยให้บ้านเมืองก้าวไปสู่หายนะเช่นนี้หรือไฉน...
วันนี้มีคำสอนที่เราได้เจอ.................
" ....ท่านทั้งหลายจงอย่าทำตัวเป็นตัวบุ้งตัวหนอนคอยกัดแทะกระดาษแห่งคัมภีร์ใบลานเปล่าๆ
โดยไม่สนใจพิจารณาสัจธรรมอันประเสริฐที่มีอยู่กับตัว แต่มัวไปยึดธรรมที่ศึกษามาถ่ายเดียว
ซึ่งเป็นสมบัติของพระะพุทธเจ้า มาเป็นสมบัติของตน ด้วยความเข้าใจผิด
ว่าตนเรียนรู้และฉลาดพอตัวแล้ว ทั้งที่กิเลสยังกองเต็มหัวใจยิ่งกว่าภูเขาไฟ มิได้ลดน้อยลงบ้างเลย
จงพากันมีสติคอยระวังตัว อย่าให้เป็นคนประเภทใบลานเปล่าๆ เรียนเปล่าและตายทิ้งเปล่า
ไม่มีธรรมอันเป็นสมบัติของตัวอย่างแท้จริงติดตัวบ้างเลย"
....นี่คือคำสอนที่องค์หลวงปู่มั่นเคยพูดอยู่เสมอๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.luangpumun.org/dharma.html
ตอนเช้าอาจารย์โทรมาหาให้ไปแนะแนวน้องเกี่ยวกับการเรียนและการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยอย่างไรให้มีความสุขอย่างที่ผมเป็น ผมยินดีมากเลยครับที่จะได้ทำหน้าที่นี้ และประโยคที่ต้องการบอกกล่าวเล่าสู่น้องๆ ชั้นปีที่ 1 ว่าบางครั้งความรู้ที่ได้รับก็ไม่ได้เกิดจากห้องเรียนเพียงอย่างเดียว เพียงแต่เราต้องกล้าที่จะก้าวออกสู่สังคมกว้างเพื่อเปิดโลกทัศน์ และปัญหาที่แท้จริงจะมัวแต่ชมสิ่งสวยงามตามการสร้างบรรยากาศของมหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ต้องทิ้งเี้ืีรื่องเรียนไปโดยสิ้นเชิง (เพราะผมจะปิดท้ายด้วยการโชว์ว่าคนทำกิจกรรมก็เรียนไม่แพ้เด็กที่เรียนอย่างเดียวเหมือนกัน แต่เราได้เปรียบที่ประสบการณ์นั่นเอง)
พอช่วงบ่ายอาจารย์อีกท่านโทรมาหาให้ไปรับทราบเบื้องต้นว่าทางคณะได้ส่งผมเข้าคัดเลือกนิสิตดีเด่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้านผลการเรียนและกิจกรรมเสริมหลักสูตร ผลทันตาจริงๆ ครับ 555
ในสัปดาห์แรกของการเปิดเรียน ฉันเป็นไข้หวัดโดยไม่ได้ไปหาหมอไม่ได้ไปให้เภสัชฯ จัดยาให้ ฉันเข้าสอนครบ 12 คาบ โดยเดินขึ้นไปสอนชั้น 6-7 ฉันให้ความสำคัญต่อการเรียนการสอนมาก ลาคลอดยังลาแค่ 1 สัปดาห์ ฉันเริ่มด้วยการให้นศ. ทำแบบสำรวจข้อมูลรายบุคคลซึ่งนศ.จะได้คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ ช่วยให้นศ.เข้าใจตนเอง เข้าใจเพื่อน (จับคู่) และอาจารย์มีข้อมูลทางชีวสังคมของนศ. รู้ถึงความสามารถ ความสนใจ คติ ค่านิยม อัตมโนทัศน์ เจตคติต่อสถาบันและต่อสาขา และความคาดหวังในรายวิชา แล้วให้ทดสอบก่อนเรียน ฉันเห็นนักศึกษา 4 Sections รอเก้อเพราะอาจารย์ไม่เข้าสอน ประมาณ 16.30 น. เมื่อวานนี้ขณะที่ฉันยังอยู่ในห้องสอน มีผู้นำแบบประเมินไปให้ฉันเซ็นรับรอง ส่วนใหญ่ฉันได้รับการประเมินการปฏิบัติงานในระดับ 2 จากคะแนนเต็ม 4 ด้วยผู้ประเมินที่ไม่รู้จักฉันเพราะชื่อฉันถูกฝากไว้ในสาขาของผู้ประเมินที่อยู่คนละตึกกัน ซึ่งฉันก็รู้สึกเฉยๆ เพราะชินชาแล้ว หกทุ่มเศษนศ.เขียนความเห็นใน GTK ว่า คอลัมน์ที่ฉันเขียน น่าสนใจมาก จะแนะนำเพื่อนๆ ให้เข้าไปเรียนรู้ จะได้รู้ว่าอาจารย์ ใจดี น่ารัก เหมือนที่เธอได้สัมผัสตั้งแต่เรียนคาบแรก