กลับสู่ฟาร์ม "ไอดิน-กลิ่นไม้"


คนทั่วไป ไม่เข้าใจว่า ผู้เขียนจะอยู่ในชนบทได้อย่างไร อยู่ในที่เงียบๆ อย่างฟาร์มไอดินฯ จะไม่เหงาหรือ คนเหล่านั้นไม่รู้หรอกว่า ในชีวิต ผู้เขียนไม่เคยรู้จักความเหงา เพราะก่อนเกษียณก็ไม่เคยว่างพอที่จะรู้สึกเหงา พอเกษียณแล้วไปอยู่ที่ฟาร์มก็มีอะไรร้อยแปดพันเก้าให้ทำ

     ในหนังสือ "เกษมสันต์ วันเกษียณ" ซึ่งเป็นหนังสือที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ได้จัดทำขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับบุคลากรของมหาวิทยาลัย เนื่องในโอกาสการเกษียณอายุราชการของบุคลากรมหาวิทยาลัย ในวันที่ 30 กันยายน 2555 นั้น ผู้เขียนได้แสดงไว้อย่างชัดเจนในภาพประกอบประวัติว่า ชีวิตหลังเกษียณ คือ ทำการเกษตรแบบพอเพียง ที่ "ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้"

Large_farmer

            ขอบคุณ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ที่ได้จัดงานแสดงมุทิตาจิต ให้กับผู้เกษียณอายุราชการ ในเย็นวันศุกร์ที่ 28 กันยายน 2555 ขอบคุณน้ำใจจากคณะ สาขาวิชา และเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่ได้มอบของขวัญให้มากมายกว่าที่คาด และขอบคุณคณบดีคณะครุศาสร์ที่มีคำกล่าว (ในวีดิทัศน์) แสดงถึงการรับรู้ด้านการปฏิรูปการเรียนรู้ที่ผู้เขียนดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาทุกสาขาวิชา 

Large_retired2

Large_28sep4

           แต่เกษียณไปแล้ว ย่างเข้าเดือนที่ 2 ผู้เขียนเพิ่งจะมีโอกาสไปอยู่ที่ฟาร์มจริงๆ จังๆ ก็ในบ่ายวันที่ 3 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งเป็นวันที่ได้ไปหาซื้อพันธุ์ไม้ต่างๆ จาก "งานเกษตรอีสานใต้" มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ไปปลูก (ขับรถเข้ามหาวิทยาลัยทางประตู 3 ซึ่งเป็นประตูด้านข้างมหาวิทยาลัย ที่มีถนนเชื่อมไปถึง "ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้" ระยะทางประมาณ 13 กม.)  

Large_1returnfarm

Large_ubu3
          พันธุ์ไม้ที่ผู้เขียนเลือกซื้อเอง ได้แก่ หน่อกล้วยหิน หน่อละ 200 บาท หน่อกล้วยงาช้างหน่อละ 150 บาท องุ่นไร้เมล็ด และองุ่นมีเมล็ดอย่างละต้นๆ ละ 150 บาท มะม่วงแดงจักพรรดิ์เสียบยอด 250 บาท ลีลาวดีสีม่วงอ่อนปนโอโรส 160 บาท โกสน 12 ชนิด 12 ต้นๆ ละ 40 บาท ยี่โถดอกสีแดง 1 ต้น และพืชสวนครัว มีแคแดง แคขาว มะละกอ พริก มะเขือ สระแหน่ ส่วนที่ "พ่อใหญ่สอ" เลือกซื้อมี มะนาว ทับทิมและมะกอกฝรั่ง ปลูกแทนต้นที่ตาย รวมประมาณ 15 ต้น โดยที่ผู้เขียนเป็นผู้จ่ายตังค์ทุกรายการ (ส่วนที่ผู้เขียนซื้อ ได้ปลูกเองหมดแล้วเกือบทั้งหมด ยกเว้นมะม่วงพันธุ์แดงจักพรรดิ์ โดยใช้เวลาตั้งแต่วันที่ 4 - 8 พ.ย. ส่วนที่พ่อใหญ่สอซื้อ ให้คนงานขุดหลุมไว้แล้ว แต่ยังไม่ปลูกสักต้น)

             พี่ๆ น้องๆ ของผู้เขียนทุกคน (4 คน) ใช้ชีวิตในเมือง มีผู้เขียนคนเดียวที่เลือกใช้ชีวิตหลังเกษียณในชนบท ...ที่ "ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้"...ที่ๆ จะได้อยู่กับธรรมชาติ...มีโอกาสดูพระอาทิตย์ขึ้น...ดูพระอาทิตย์ตกทุกวัน....

Large_2nature1

          ที่ๆ สามารถมองดูฟ้ากว้างผ่านดอกไม้หลากพันธุ์ที่ผู้เขียนสรรหาไปปลูก (ในภาพ คือ ดอกไหมจุรี หรือ งิ้วอเมริกัน)...ดูเมฆครึ้ม และดูเม็ดฝนหล่นโปรยปรายรอบบ้าน...  

Large_3nature2

            คนทั่วไป ไม่เข้าใจว่า ผู้เขียนจะอยู่ในชนบทได้อย่างไร อยู่ในที่เงียบๆ อย่างฟาร์มไอดินฯ จะไม่เหงาหรือ คนเหล่านั้นไม่รู้หรอกว่า ในชีวิต ผู้เขียนไม่เคยรู้จักความเหงา เพราะก่อนเกษียณก็ไม่เคยว่างพอที่จะรู้สึกเหงา พอเกษียณแล้วไปอยู่ที่ฟาร์มก็มีอะไรร้อยแปดพันเก้าให้ทำ แค่กิจกรรมการรวบรวมและปลูกต้นไม้-ดอกไม้ประจำจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ และไม้หายาก ก็สร้างความตื่นเต้นมีชีวิตชีวา ให้กับผู้เขียนได้แล้ว  

Large_4flowercollection

          การแสวงหาและปลูกไม้ดอก ที่มีหลากสีหลากพันธุ์ เช่น ลีลาวดี นี่ก็เพลินดีออก ดังตัวอย่างบางพันธุ์ในภาพล่าง ขวาสุดเป็นพันธุ์ที่เพิ่งจะซื้อไปจากงานเกษตรอีสานใต้ และปลูกเรียบร้อยแล้ว

Large_7leecol

Large_6banannascollection

             กล้วยก็เป็นพืชที่ผู้เขียนชอบ ทั้งยังเป็นพืชแห่งความหลังฝังใจ จึงไม่พลาดที่จะเสาะหาไปปลูก ทั้งชนิดที่ปลูกเพื่อรับประทานและชนิดที่ปลูกเป็นไม้ประดับ หน่อกล้วยหินที่ซื้อจาก ม.อุบลฯ ยังไม่มีที่ฟาร์ม ส่วนหน่อกล้วยงาช้างซื้อไปปลูกแทนต้นที่ตาย แต่ปรากฏว่า เพิ่งจะเห็นหน่อที่ขึ้นแทนต้นที่ตายอยู่ 2 หน่อ ส่วนกล้วยเทพพนมไม่ได้ซื้อ เพราะต้นที่ฟาร์มกำลังออกปลี และยังมีหน่อที่เป็นตัวตายตัวแทนอีก 2 หน่อ

             แล้วยังจะมีกิจกรรมจัดสวนหย่อมในมุมต่างๆ (ที่พ่อใหญ่สอบ่นว่า ไปฟาร์ม 100 ครั้งจัดใหม่ 90 ครั้ง) กิจกรรมรวบรวมไม้ใบประดับ ว่านชนิดต่างๆ และไม้หอมไทย ฯลฯ อีกล่ะ

Large_5plantcollection

Large_maihorm

           กิจกรรมการรวบรวมและจัดแสดงผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดต่างๆ ในประเทศ และของที่ระลึกจากประทศที่ได้ไปเยือน นี่ก็เพลิดเพลินน้อยเมื่อไหร่ 

 Large_7svcol

              นี่ก็เป็นงานใหญ่ งานต่อเติมบ้าน เพราะบ้านที่พ่อใหญ่สออยู่รอมาตั้งแต่ปี 2548 มีแค่ 1 ห้องนอน 1 ห้องโถง และระเบียงหน้าบ้าน ที่พอเลยเที่ยงก็แดดส่องอยู่ไม่ได้แล้ว ผู้เขียนก็เลยเสนอโครงการต่อเติมบ้านด้านทิศตะวันออก ซึ่งจะเริ่มมีร่มเงา ตั้งแต่ประมาณ 11.00 น. เป็นต้นไป โดยวางแผนจะปูกระเบื้องจากด้านข้างของตัวบ้าน ไปจดแนวต้นมะพร้าว ติดกับบ่อปลาขนาด 2 งาน มีความยาวตามแนวยาวของลูกศร และมุงหลังคาตามโครงที่ร่างไว้ (ไม่กระทบต้นคอเดียร์ดอกสีส้ม) โดยไม่กั้นห้องเพื่อความโปร่ง (ภาพบ้านที่แสดงถ่ายไว้ตั้งแต่ต้นไม้ยังไม่โต ปัจจุบันโตมากแล้วและให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี ภาพที่เห็นห่าน 2 ตัวกำลังว่ายน้ำถ่ายมาแล้วประมาณปีครึ่ง) ส่วนที่ต่อเติมจะเป็นที่พักผ่อน และเขียน Weblog ของผู้เขียน รวมทั้งเป็นที่พบปะสังสรรค์กับเพื่อนสนิทมิตรสหายและญาติๆ (ทำไว้รับรองชาวคณะครุศาสตร์ ที่ขอไปเยี่ยมฟาร์มด้วย) แต่ในช่วงนี้ช่างในท้องถิ่นติดเกี่ยวข้าว ต้องรอถึงวันที่ 20 พ.ย.จึงจะได้ไปคุยกัน (งานนี้รวมทั้งสร้างห้องน้ำ 1 แห่ง ผู้เขียนจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ส่วนการทำโรงเรือนสำหรับออกกำลังกาย และโรงเก็บของเพิ่มอีก 1 แห่ง น่าจะให้พ่อใหญ่สอดูแลนะคะ) 

Large_9house

            ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2555 เวลาประมาณ 10.30 น. ผู้เขียนและพ่อใหญ่สอ ได้มีโอกาสต้อนรับ "ป๋าเด" จากพิษณุโลก (รุ่นพี่ของผู้เขียนตอนเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนยโสธร) โดยไม่ทันได้ตั้งตัว เพราะขาดการติดต่อตามที่ท่านแจ้งไว้ว่าจะโทรฯ ถามเรื่องการเดินทางไปฟาร์ม จึงคิดว่าท่านยกเลิก แต่แล้วท่านก็ได้ประยุกต์ใช้วิชาลูกเสือสำรองในการเดินทางไปถึงฟาร์ม โดยที่รู้เพียงชื่อหมู่บ้านและอำเภอ แม้ชื่อตำบลก็ไม่รู้ เลยไปพบทั้งผู้เขียนและพ่อใหญ่สอ ที่อยู่ในชุดลุยงานมาตั้งแต่ตื่นนอน อยู่ในสภาพมอมแมมเหงื่อไหลไคลย้อย ไม่เหมาะที่จะรับแขกใดๆ  แต่ก็ต้อนรับท่านในสภาพนั้น ...ผู้เขียนดีใจที่เห็นป๋าเดชอบหมวกที่ผู้เขียนซื้อจาก PARIS ไปฝาก และบอกจะใช้สวมในการแข่งขันวู้ดบอลนัดต่างๆ วันนั้นป๋าเดหอบหิ้วโน้ตบุ๊คไปด้วยและเปิดเข้าไปดู Weblog "GotoKnow" ด้วย (ป๋าเดใช้ Aircard ราคาสูงกว่าของผู้เขียนประมาณ 3 เท่า เลยใช้ Internet ได้ แต่ก็ค่อนข้างช้า)            

Large_paday

  Large_dscn0865-crop

            ความเศร้าสลดใจของผู้เขียน ก็คือ กลับจากทัวร์ยุโรป พ่อใหญ่สอบอกว่า "ข้าวเหนียว" ไม่อยู่กับเราแล้ว...ผู้เขียนรู้สึกเศร้าใจและเสียใจมากที่ไม่ได้อยู่ดูแลเธอในวาระสุดท้าย ก่อนนี้ผู้เขียนดูลักษณะใต้ท้องของข้าวเหนียวแล้วก็บอกพ่อใหญ่สอว่า "เหมือนเป็นมะเร็ง" (ทั้งที่ไม่เคยเห็นมะเร็งในสัตว์) และบอกให้พ่อใหญ่สอพาไปพบหมอ แกก็ไม่พาไปสักที จนผู้เขียนต้องบังคับให้แกพาข้าวเหนียวเข้าเมือง แล้วช่วยกันอาบน้ำให้ เสร็จแล้วให้พ่อใหญ่นำข้าวเหนียวไปพบหมอ ก่อนที่ผู้เขียนจะไปต่างประเทศเพียงวันสองวัน หมอบอกว่าข้าวเหนียวเป็นมะเร็งจริงๆ และได้ให้การรักษาโดยการฉายแสง โดยบอกว่า ถ้าร่างกายของข้าวเหนียวทนต่อการฉายแสงไม่ได้ เธอก็จะอยู่ไม่ได้ วันรุ่งขึ้นที่ผู้เขียนไปอยู่ที่กรุงเทพฯ แล้วเพื่อเตรียมเดินทางไปยุโรป ได้โทรฯ ถามอาการของข้าวเหนียว พ่อใหญ่สอก็บอกว่าปกติดี ผู้เขียนก็เบาใจ แต่อีก 2 วันต่อมา หลังจากพ่อใหญ่สอกลับจากพบหมอที่รักษาตัวเอง ก็พบข้าวเหนียวนอนสิ้นลมอยู่ข้างบ้าน...อนิจจา...ต่อแต่นี้จะไม่มีข้าวเหนียวอีกแล้ว...

Large_12khawneaw

  

 

 

 

 

 

 

 

 

   

 

หมายเลขบันทึก: 508145เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2012 10:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม 2013 23:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่าน


ความเห็น

อยากไปสูดไอดิน กลิ่นไม้ เติมพลังใจ ที่ในสวน

  • เป็นชีวิตที่คุณมะเดื่อวาดหวัง หลังอำลาราชการเหมือนกันจ้ะ

สวัสดีค่ะ

มาเยี่ยมชมพื้นที่แห่งความเป็นจริงของอาจารย์แม่ แต่เป็นฟาร์มแห่งความฝันของพวกเราหลายๆ คน

สงบงามค่ะ ขอให้อาจารย์แม่มีความสุขมากๆ ในชีวิตหลังราชการค่ะ

ข้าวเหนียวยังคงอยู่ในความทรงจำของฟาร์มไอดินเสมอนะคะ

;))

  • ขอบคุณ "คุณมะเดื่อIco48" มากนะคะ ที่ติดตามให้กำลังใจ ยายไอดินตลอดมา
  • คงอีกนานมากนะคะ ที่คุณมะเดื่อจะได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างยายไอดิน
  • การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ "ห้องเรียนกลับทาง" ของคุณมะเดื่อมีคุณค่าและน่าสนุกมากนะคะ
  • ขอบคุณ "หนูปริมIco48" มากนะคะ ที่มาให้กำลังใจให้ "อาจารย์แม่" ที่เปลี่ยนสถานภาพเป็น "ยายไอดิน" มีความสุขหลังเกษียณ
  • เห็นนาข้าวของหนูปริมที่บ้านแม่ตาด (ภาพที่คุณอักขณิชนำเสนอ) ออกรวงดกมากมองเห็นเป็นทุ่งรวงทองน่าชื่นใจ ตอนนี้คงเก็บเกี่ยวแ้ล้วนะคะ 
  • ประทับใจบทความของหนูปริม ที่มีข้อคิดลึกซึ้งฝากผู้อ่านเสมอ อย่างเช่นบันทึกล่าสุดเรื่อง 'หลงทาง' ความว่า "คนเราทุกวันนี้อาจไม่มีการหลงทาง พลัดพรากทางด้านกายภาพกันมากนัก แต่เรากำลังหลงทางในด้านความรู้สึกนึกคิด เราอาจไม่หวาดกลัวหรือเหงาเพราะการอยู่คนเดียว แต่เราหวาดกลัวและเหงาเพราะเรากำลังอยู่ในแวดล้อมของคนที่คิดต่างกันต่างหาก"
     
  • ขอบคุณ "พี่วอญ่าIco48" พี่ชายทางความรู้สึกมากนะคะ ที่แวะมาให้กำลังใจทักทายพูดคุยกับเกษตรกรหลังเกษียณ
  • จำได้ว่า นานมาแล้ว พี่เคยลงภาพกล้วยป่าชนิดหนี่ง เป็นกล้วยของท้องถิ่นใต้ ที่น้องอยากได้ไปปลูกที่ฟาร์ม และปลาดุกสีสวยแปลกตาน่าอนุรักษ์ไว้ไม่ให้สูญหาย
  • อีกไม่กี่วันก็ต้องเดินทางไปร่วมกิจกรรมดีๆ ที่อยุธยาแล้วนะคะ ขอให้เดินทางไปกลับด้วยสวัสดิภาพ และนำประสบการณ์ที่มีคุณค่ามาแบ่งปันชาว GotoKnow นะคะ
  • ขอบคุณดอกไม้กำลังใจจากกัลยาณมิตรทุกท่านมากนะคะ "อาจารย์หมอป.Ico48" "คุณ tuknarakIco48"       "ดร.ธวัชชัย ปิยะวัฒน์Ico48" "อ.นุIco48"  คุณ "ยายธีIco48"  และ "ผศ.โสภณ เปียสนิทIco48"   

โอกาสหน้าจะแวะเข้าไปเยี่ยมป้าวิกับพ่อใหญ่สอที่ฟาร์มไอดินอีกนะครับ

อาจารย์แม่ครับ โอโหได้กล้วยไปปลูกหลายชนิดมาก ดีใจที่อาจารย์แม่ได้พบกับพี่ผศ.เดชาครับ ขอให้มีความสุขกับการอยู่ที่ฟาร์มครับ

ขอให้มีความสุขที่ ไอดิน-กลิ่นไม้ นะครับอาจารย์

  • ฟาร์มไอดินฯ ยินดีต้อนรับ "คุณอักขณิชIco48" และครอบครัวทุกเมื่อนะคะ
  • อยากให้ไปเยี่ยมหน้าที่มีผลไม้หลากหลาย และมีเวลาทานข้าวด้วยกันค่ะ
  • ขอบคุณมากนะคะที่แวะเยี่ยมให้กำลังใจ
  • มีความสุขที่ได้อ่านบันทึกของคุณอักขณิช เรื่อง "ฉันดีใจที่มีเธอ" และดีใจด้วยที่กำจัดเหาให้น้องเพียงพออย่างได้ผล แต่ยายไอดินได้เสนอวิธีแก้ที่ต้นเหตุเอาไว้ด้วยค่ะ เพื่อไม่ให้คุณอักขณิชต้องจ่ายค่าเบียร์บ่อยๆ

คือพื้นที่ชีวิตวิจิตรค่า

คือที่พึ่งพักพาให้อาศัย

คือพื้นที่เพาะบ่มอบรมใจ

คือสายใย "ไอดิน-กลิ่นไม้" เอย

  • ขอบคุณ"ลูกขจิตIco48" มากค่ะที่แวะเยี่ยม...อาจารย์แม่
  • ตอนนี้อาจารย์แม่เปลี่ยนสถานภาพเป็นเกษตรกรไปแล้ว ช่วยเปลี่ยนสรรพนามเป็น "แม่ไอดิน" จะได้ไหมคะ
  • ขอใช้ก่อนแล้วกันนะคะ...แม่ไอดินต้องการรวบรวมพันธุ์กล้วยไว้ที่ฟาร์มให้ได้มากที่สุดค่ะ
  • กล้วยพื้นๆ ที่ปลูกไว้กินผลก็ปลูกที่สวนกล้วยถัดจากบ่อปลา (เป็นกล้วยที่พ่อใหญ่สอซื้อหน่อมาจากสวนของเพื่อนแก ในภาพที่ลูกคล้ายกล้วยไข่แต่ลูกป้อมๆ ไม่รู้ชื่อค่ะ) ส่วนกล้วยที่หายากหน่อยและมักจะมีจำหน่ายในงานเกษตร ก็จะทะยอยซื้อไปปลูกค่ะ โดยจะปลูกข้างทางเข้าฟาร์มด้านซ้าย เช่น กล้วยเทพรส กล้วยร้อยหวี และกล้วยนาค เป็นต้น และปลูกหน้าบ้านด้านล่าง เช่น กล้วยหิน กล้วยเทพนม กล้วยงาช้าง กล้วยพระตะบะ และกล้วยนมสาว เป็นต้น 
  • แม่ไอดินคงจะต้องจัดการปัญหาศึกกลางครอบครัวค่ะ เพราะพ่อใหญ่สอชอบแก้ปัญหาโดยการทำลายของเดิม คือพอแกต้องการปลูกลิ้นฟ้า แกก็บอกจะขุดกล้วยในสวนทิ้งทั้งหมด ซึ่งแม่ไอดินไม่ยอม จะหาทางให้กล้วยและลิ้นฟ้าอยู่ด้วยกันให้ได้ ที่ผ่านมาก็ใช้วิธีริดใบกล้วยที่บังแสงต้นลิ้นฟ้า ภายหลังเมื่อมีเวลามากขึ้นก็คงจะขุดต้นที่ออกปลีแล้ว ไปทำปุ๋ยหมัก กอกล้วยจะได้เล็กลงไม่บังต้นลิ้นฟ้า เห็นไหมคะ ตอนนี้ทั้งลิ้นฟ้าและกล้วยก็อยู่ร่วมกันได้ดีอยู่แล้ว เห็นได้จากลิ้นฟ้าออกฝักดกเหมือนกัน ใช่ไหมคะ  

  • ขอบคุณ "คุณ พ. แจ่มจรัสIco48"มากค่ะ ที่่แวะมาอวยพรให้ ยายไอดินมีความสุขกับชีวิตในฟาร์ม
  • ยายไอดินก็ขอเป็นหนึ่งกำลังใจ ให้คุณพ.สามารถเอาชนะปัญหาสุขภาพให้ผ่านพ้นในเร็ววันนะคะ
  • ขอชื่นชมภรรยาและลูกของคุณพ.ที่เอาใจใส่เป็นอย่างดี และเป็นกำลังใจให้คุณพ.สู้กับปัญหาสุขภาพค่ะ
  • ยายไอดิน รู้สึกซาบซึ้งใจ และขอขอบคุณในบทกวี ที่ "คุณสันติสุขIco48" รจนามาฝาก......

                                              "คือพื้นที่ชีวิตวิจิตรค่า                คือที่พึ่งพักพาให้อาศัย

                                          คือพื้นที่เพาะบ่มอบรมใจ               คือสายใย "ไอดิน-กลิ่นไม้" เอย"

                                          ........................................................................................................

                                  อ่านบทกลอนแห่งไมตรีที่สรรค์สร้าง    จากกวีที่เหินห่างเมื่อวันก่อน

                              มาวันนี้มีวาจาอันสุนทร                               เป็นคำกลอนแทนใจยายไอดิน

            ยายไอดินชอบดอกไม้ประกอบหัวสมุดของคุณสันติสุขมากค่ะ ขอเรียนถามว่าดอกอะไรคะ

อ่านแล้วมีความสุขกับอาจารย์แม่มากครับ.....ผมหวังว่า จะไปเจอกับอาจารย์แม่...ที่ ไอดิน-กลิ่นไม้...สักวันนะครับ

ยินดีกับความสุขที่เลือกได้เช่นนี้ค่ะ..พืชพรรณไม้งดงามจริงๆ..

"Freedom is another word..." when you have no orders from above.

Now you can do what is "right" for you to do.

A "banana" collection centre -- I like that idea ;-) (I am told I am a bent banana living in the banana benders state, Dreamland ;-)

  • แม่ไอดิน จะยินดีมากค่ะ ถ้าวันหนึ่งจะได้มีโอกาสต้อนรับ "ลูกหมออนามัยทิมดาบIco48" และครอบครัวที่อบอุ่น
  • ขอบคุณมากนะคะ ที่แวะไปเยี่ยมให้กำลังใจแม่ไอดิน
  • อ่านที่ลูกหมอปั่นจักรยานเที่ยวเชียงคานน่าสนุกมากค่ะ พ่อใหญ่สอเคยชวนปั่นจักรยานรอบๆ หมู้บ้านที่ตั้งฟาร์มและหมู่บ้านใกล้เคียง แต่สงสัยตอนนี้จะไม่ไหวแล้ว เพราะล่าสุดไปร่วมปั่นจักรยานรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดของอบต. มีอุบัติเหตุตอนจะจอด หกล้มกระดูกเท้าไปโดนหิน รักษาอยู่หลายเดือน
  • ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับกำลังใจจาก "พี่ใหญ่Ico48"
  • เวลาน้องเห็นดอกไม้ไทยที่มีกลิ่นหอม เช่น "ดอกกรรณิการ์" จะนึกถึงพี่ใหญ่ที่เป้นสัญลักษณ์ของ "ความดีงาม" ค่ะ

สวัสดีครับ

ยินดีด้วยนะครับที่ได้ทำในสิ่งที่อาจารย์รัก และชอบ ความสุขก็อยู่ที่ตรงนี้ครับ

เดี๋ยวผมก็มีแผนว่าจะไปทำเกษตรพอเพียงเช่นกันครับ

ขอบคุณครับ

  • Thanks "khun srIco48" for your visiting.
  • You addressed the word "Freedom", what I expect living in "ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้."
  • But "หนีเสือ ปะจระเข้", the man who has waited for me for  8 years may be my new commander.  I might try hard to cope with that problem.
  • Wow! you live in the banana benders state, Dreamland. Would you please give me some more detail about that?
  • Collecting various kinds of banana trees is my interest. I had a good chance visiting "แปลงรวบรวมพันธุ์กล้วย" in "สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จฯ" last May with my son and daughter.
  • But while there are thousand kinds of banana, only about 20 different banana trees have been grown in my farm.    

Large_bananagardencm

  • ขอบคุณ "คุณเทพIco48" มากนะคะ ที่เข้ามาทักทายพูดคุย
  • ยินดีมากค่ะ ที่ได้รู้จักคุณเทพ ...ก่อนตอบก็ได้เข้าไปเยี่ยมที่ Blog ของคุณเทพ เพื่อหาข้อมูล คุณเทพคงจบปริญญาโทด้านสัตวศาสตร์ จาก มข. นะคะ เห็นสมัครงานไว้หลายแห่ง ถ้าถูกเรียกตัวเข้าทำงานเขียนเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
  • และที่ว่าจะทำเกษตรแบบพอเพียง ก็เขียนเล่าให้ฟังบ้าง
  • ยายไอดินชอบแนวคิดที่คุณเทพเขียนใน Blog มากค่ะ เพราะตรงกับที่ตนเองปฏิบัติ "...เวลาร่างกายเราไม่สบายนั้นร่างกายจะมีกลไกการป้องกัน หรือกำจัดเชื้อโรคที่ย่างกลายเข้ามาในร่างกายเราอยู่แล้ว แต่หากเราไปทานยาแก้ไข้ หรือแก้หวัดบ้างล่ะก็จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเราไม่ได้ทำงานอะไรเลย เพราะยาไปกดภูมิเราเอาไว้ไม่ให้แสดงออกได้อย่างเต็มที่ และยาก็ไปปั่นทอนการทำงานของตับซึ่งสำคัญมากเมื่อตับไม่แข็งแรงก็มีอะไรหลายๆอย่างที่ไม่ดีตามไปด้วยทำให้ร่างกายแสดงอื่นๆ ตามมามากมาย แล้วเราก็ต้องทานยาเพื่อป้องกันเอาไว้ หรือรักษากันต่อไปไม่รู้จบ แต่ถ้าเราไม่ทานยาแก้ไข้ หรือหวัดก็จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้เต็มที่และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของเราด้วย ตับก็ไม่เป็นอันตรายจากยาด้วย ผลก็คือไม่จำเป็นต้องทานยาก็สามารถหายได้อย่างสบายเลย ไม่เชื่อก็ต้องลองทำดูนะครับเพราะว่าจะเป็นประโยชน์กับตัวเราเอง ก่อนอื่นเราต้องเชื่อมันว่าร่างกายมีความสามารถรักษาตัวเองได้ระดับหนึ่งหากไม่หนักหนาอะไรก็ไม่จำเป็นต้องทานยาก็ได้"
  • ขอบใจนะจ๊ะ สำหรับดอกไม้กำลังใจจาก "อรวรรณIco48" และ "ปวิณาIco48"
  • สวัสดีครับ
  • ชื่นชมและยินดีกับความสุขหลังเกษียณของอาจารย์ด้วยครับ ไม่น่าเชื่อนะครับ ระยะหลังนี้ผมไม่ค่อยได้เข้ามาเขียนบันทึก แวะมาอีกที ทราบว่าอาจารย์เกษียณอายุราชการแล้ว ซึ่งตามความคิดผมสำหรับอาจารย์น่าจะยังเวลาอีก 3-4 ปี จึงน่าจะเกษียณ เวลาหมุนไวนะครับ
  • ผมเองสัมผัสกับชีวิตชาวสวนมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนมาทำงานไกลบ้านยังคิดถึงบ้านอยู่เสมอครับ เพราะให้ความรู้สึก อบอุ่น สงบ และความมีน้ำใจของผู้คน จนเดี๋ยวนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง จึงไม่แปลกใจเลยครับที่ใครๆ ต่างพากัน เสาะแสวงหาพื้นที่สุขสงบเล็กๆ ให้ตนเองในชีวิตบั้นปลายหลังจากทำงานแข่งกับเวลา มานานพอควร พอมาอยู่สวนรู้สึกว่าเวลาหมุนช้าลงไม่ต้องรีบเร่ง สุขอย่างพอเพียงจริงๆ ครับ ภาพข้างล่างเป็นวิถีบ้านสวนอีกแบบหนึ่งที่ผมคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก ขออนุญาตนำมาฝากนะครับ
  • Large_p1030482

บรรยากาศดี น่าอยู่มากๆ เลยนะคะ อาจารย์:))

 

  • ชีวิตหลังการทำงานอย่างต่อเนื่ิองยาวนานคือชีวิตที่เรียบง่าย ลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันลง และวิถีเกษตรก็เป็นชีวิตในอุดมคติที่ศิลาเห็นว่าจะตอบโจทย์การมีชีวิตที่พอเพียง สงบร่มเย็น
  • ชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติงดงามมากค่ะ หวังไว้ว่าวันหนึ่งคงได้เจริญรอยตามอาจารย์นะคะ
  • เพิ่งเห็นข้าวเหนียวครั้งแรก คงเป็นสุนัขที่เชื่อฟังเจ้านายนะคะ ท่าทางสงบเสงี่ยมเรียบร้อย ขอให้ข้าวเหนียวไปสู่สุคติค่ะ
  • ขอบคุณ "คุณชำนาญIco48" มากนะคะ ที่เข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความสุขจากชีวิตที่พอเพียงกับยายไอดิน
  • ในบรรดาเพื่อนที่เรียนปริญญาตรีด้วยกัน ยายไอดินเกษียณเป็นรุ่นสุดท้ายค่ะ ตอนไปพบปะสังสรรค์ศิษย์เก่าวิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคามรุ่นที่ 4 ที่วิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม ในวันที่ 25 ตุลาคม 2551 (สถาบันได้คัดเลือกนักศึกษาเรียนดีในสาขาภาษาอังกฤษ [สาขาที่ยายไอดินเรียน] ภาษาไทย ภูมิศาสตร์ ชีววิทยา คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ จากวิทยาลัยครูในกทม. และวิทยาลัยครูในภาคอีสานทั้งหมดไปเรียน) มีเพื่อนจากวิทยาลัยครูมหาสารคาม มอบหนังสือเกษียณของตนเอง [เกษียณ 30 ก.ย. 51] ให้ยายไอดิน ยายไอดินยังงเลยค่ะที่เพื่อนเกษียณเร็วเช่นนั้น ยายไอดินเรียนเร็วไป 1 ปี ก็เลยเกษียณหลังเพื่อนส่วนใหญ่ที่เกษียณในปี 2553 และ 2554 ค่ะ
  • ขอบคุณนะคะสำหรับภาพวิถีบ้านสวนที่นำมาฝาก ที่ยายไอดินเลือกใช้ชีวิตในฟาร์มในชนบทที่สงบเงียบ ก็เพราะต้องการใช้ชีวิตในแบบที่เคยอยู่กับแม่ในวัยเด็ก และต้องการอยู่กับต้นไม้ใบหญ้าที่ชอบค่ะ ยายไอดินจะต่างจากพี่สาวทั้งสองที่ชอบชีวิตที่สะดวกสบายในเมือง มีความสุขที่ได้จับจ่ายใช้สอยซื้อเครื่องประดับและเสื้อผ้า ในขณะที่ยายไไอดินจะมีความสุขที่ได้เสาะหาต้นไม้ไปปลูกที่ฟาร์มค่ะ
  • ขอบคุณ "คุณหนูรีIco48" คนรักดอกไม้เหมือนยายไอดิน มากนะคะ ที่ไปแวะเยี่ยมเป็นกำลังใจให้ยายไอดิน
  • วันที่ยายไอดินเดินสำรวจรอบสวนและเงยขึ้นดูเห็นต้นปีบหน้าโรงเก็บปุ๋ย ออกดอกเต็มต้น คิดถึงดอกปีบสวมแหวนของคุณหนูรีขึ้นมาทีเดียวค่ะ
  • นำดอกไม้ประจำจังหวัดอุบลฯ หน้าบ้านไอดินมาฝากนะคะ 
  • ขอบคุณ "คุณ Sila Phu-Chaya " มากนะคะ ที่แวะไปให้กำลังใจยายไอดิน และให้การสนับสนุนว่า "วิถีเกษตรเป็นชีวิตที่จะตอบโจทย์การมีชีวิตที่พอเพียง และสงบร่มเย็น"
  • "ข้าวเหนียว" เป็นลูกสุนัขที่ตัวเล็กสุดในครอกซึ่งมี 7 ตัวค่ะ พ่อใหญ่สอบอกให้ยายไอดินแบ่งสุนัขที่ตัวเล็กสุดให้คนไปเลี้ยง แต่ยายไอดินชอบเธอที่สุด เพราะมีลักษณะขน สีต่างไปจากอีก 6 ตัว ก็เลยเลี้ยงไว้เองกับแม่ของเธอที่บ้านเรือนขวัญในเมืองและให้ชื่อว่า "ข้าวเหนียว" เพราะยายไอดินชอบทานข้าวเหนียวค่ะ 2 ตัวแบ่งให้ลูกศิษย์ปริญญาโทไปเลี้ยงที่มุกดาหาร พ่อใหญ่สอนำไปเลี้ยงที่ฟาร์ม 4 ตัว (แล้วแบ่งให้ชาวบ้านหนองฝางไป 2 ตัว)
  • ตอนหลังสุนัขทั้งสองตัวที่พ่อใหญ่สอเลี้ยงเกเรไปไล่กัดไก่ เลยถูกอัปเปหิไปหมด ยายไอดินเลยต้องมอบข้าวเหนียวให้ไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อใหญ่สอที่ฟาร์มค่ะ
  • พ่อใหญ่สอเป็นคนดุ เลี้ยงข้าวเหนียวแบบใช้อำนาจบังคับ แต่ข้าวเหนียวก็ติดพ่อใหญ่สอมากค่ะ จะตามไปเฝ้าพ่อใหญ่สอทุกครั้งเวลาทำงานในฟาร์ม เวลาเห็นพ่อใหญ่สอทำท่าจะขับรถออกไปนอกฟาร์ม เธอก็จะกระโดดขึ้นไปรอบนรถ เวลาไปบ้านเรือนขวัญพ่อใหญ่สอทำท่าจะกลับเธอก็จะรีบขึ้นไปรอบนรถ จนยายไอดินตั้งฉายาให้เธอว่า "องครักษ์พิทักษ์พ่อใหญ่สอ"
  • ตอนนี้ไม่มีข้าวเหนียวรู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไปจากชีวิตค่ะ เพราะเวลายายไอดินเข้าฟาร์ม เธอจะต้องแสดงอาการดีใจ วิ่งไปรับที่ประตูฟาร์มและกระโดดโลดเต้นพันแข้งพันขา ทุกเช้าเวลาเปิดประตูบ้านไอดินออกไปก็จะพบเธอซึ่งยายไอดินก็จะต้องลูบหัวและคุยกับเธอทุกครั้ง เธออยู่กับพวกเรามาประมาณ 8 ปี และจะอยู่ในความทรงจำของยายไอดินตลอดไปค่ะ

Large_kawneaw

สวัสดีครับอาจารย์...

  ผมว่าถ้าใครได้ไปเยี่ยมอาจารย์คงไม่ได้กลับมามือเปล่าแน่เลยครับ

มีแต่ของอยากได้ อย่างน้อยก็กล้วยไม้ล่ะครับ... "แก้วมังกรออกผล ส่งข่าวด้วยนะครับอาจารย์"

  • นึกว่า "ราเชนทร์Ico48" จะไม่แวะเยี่ยมอาจารย์แล้ว
  • แก้วมังกรเพิ่งวายจ้า จะออกดอกอีกทีก็โน่น เดือนพฤษภาคม ช่วงนี้มีแต่กล้วยเป็นหลัก
  • อาจารย์เพิ่งย้ายกล้วยไม้ไปไว้ที่เรือนไทย แต่ช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีดอก
  • ขอบใจ "อริษาIco48" "ปริศนาIco48" และ "อรดีIco48" นะจ๊ะที่ให้กำลังใจอาจารย์
  • อาจารย์จะมีเวลาเข้าไปที่คณะอีกที ก็ 15-16 พ.ย. ถ้านักศึกษาจะไปรับรายงานการพัฒนาตนคืนก็ให้นัดวันเวลาอาจารย์ที่บันทึกนี้ อาจารย์จะได้ไปจัดการให้
  • ขอบคุณดอกไม้กำลังใจจาก "อาจารย์ Wasawat DeemarnIco48"  "น้องอินIco48" "ป๋าเดIco48" มากนะคะ
  • และขอบใจดอกไม้กำลังใจจากลูกศิษย์นะคะ "เสาวภาIco48" และ "ศิวดลIco48 : เปลี่ยนภาพประจำตัวจนอาจารย์จำไม่ได้ นึกว่านักแสดงในละครทีวี"

อาจารย์คะหนูขอเป็นวันที่ 15 พ.ย เวลา 16.00 น. นะคะ ไม่ทราบว่าอาจารย์จะสะดวกหรือเปล่าคะ

-สวัสดีครับอาจารย์..

-เข้ามาเยี่ยมฟาร์ม...

-บรรยากาศดีมาก ๆ ครับ..

-ความสุขแบบพอเพียง..ครับ..

-ไปร่วม "กิ๋นตาน"ตวยกั๋นนะครับ...

 

-สวัสดีครับ.

-มาเที่ยวฟาร์มครับ...

-แบบพอเพียง..ก็เพียงพอ...

-ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ ป้าวิ ขอบคุณที่แวะไปทักทายในบันทึกที่น้องเขียนเรื่อง ซอ..ค่ะ ขออนุญาิตเรียก ป้าวินะค่ะ ..

.สุขใจที่ซู๊ดนะค่ะเนี่ย ..ที่ได้เห็นบรรยากาศบ้านและชีวิตที่จะดำเนินไป ทั้งพ่อใหญ่สอและป้าวิ หลังจากที่ได้พักมากหน่อยในช่วงเกษียณ อย่างน้อยๆจากการตรวจงานนักศึกษา ที่ป้าวิ ทำงานอย่างเข้มข้น เอาใจใส่กะน้องๆลูกศิษย์ .:-)) ขอเพียงแต่ว่า อย่าทำงานในฟาร์มเพลินเกินไป จนลืมทานข้าวนะค่ะ เป็นห่วงค่ะ แฮ่ๆ.... นึกถึงแม่ ที่บ้านสวนนะค่ะ หลังเกษียณท่าานก็ทำงานปลูกนู่น นี่ นั่น จนบางครั้งเพลินไปว่า เลยเวลาทานข้าวกลางวันไปซะแล้ว ต้องแวะไปบอกให้วางมือ อืมม์..ป้าวิคงได้มีเวลา ดูและศึกษา นก เพิ่มมากขึ้นแน่ๆ เลย น้องยังจำได้ ที่ป้าวิ เคยบอกไว้ว่าสนใจ "นก" เพื่อนตัวน้อยในฟาร์ม ที่มากด้วยสีสันและเสียงร้อง นะค่ะ ..:-)) จะรอติดตามเรื่องราวจากฟาร์ม ไอดิน-กลิ่นไม้ค่ะ อืมม์...เห็นต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่แล้วในภาพละ นึกถึงของตัวเองในขณะนี้ค่ะ เพาะจากเมล็ด สี่เดือนละ ยังโตได้นิดเดียวเอง เลยดูของป้าวิ เป็นกำลังใจไปก่อนค่ะ :-))

  • "หนูอริษาจ๊ะIco48" พอดีว่า ที่ฟาร์มช่วงนี้คนงานไปเกี่ยวข้าวหมด ขาดแรงงานอาจารย์เลยต้องออกไปช่วยงานฟาร์ม ตอนอยู่ที่ฟาร์มก็พยายามจะเข้ามาดูว่า มีนักศึกษานัดไหม แต่เข้าไม่ได้ เพิ่งจะเข้าเมืองและและเข้ามาเช็คได้ว่าหนูนัดซึ่งเวลาผ่านไปแล้ว ขอโทษด้วยนะคะ ที่ไม่ได้ไปตามที่หนูนัด
  • พรุ่งนี้อาจารย์จะไปเคลียร์งานที่ห้องพัก ประมาณ 11.00-16.30 น. ถ้าหนูว่างก็ไปรับได้ในช่วงวันเวลาดังกล่าวนะคะ 
  • ขอบคุณ "คุณเพชรน้ำหนึ่งIco48" มากนะคะ ที่แวะไปเยี่ยมฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้และชมว่าบรรยากาศดี 
  • ยายไอดินก็ได้ตามคุณเพชรไปเที่ยวบ้านพี่สาวที่น่าอยู่ ไปเรียนรู้เมนูที่น่าลอง (ส้าผักกาด) และได้ศึกษาประเพณีที่น่าอนุรักษ์ยิ่ง "จุลกฐิน" ในบันทึก "ฮ่วมกิ๋น....ฮ่วมตาน... ผ้าตันใจ๋่่" ของคุณ เพชร ค่ะ
  • ขอบคุณ "Dr.KwanchaIco48" ปูชนียบุคคล จากมอ. (ปัตตานี) มากนะคะ ที่แวะไปพูดคุยแลกเปลี่ยนเจตคติกับป้าวิ

  • เรื่องทานข้าวนั้น พ่อใหญ่สอซึ่งเป็นอดีตอาจารย์วิทยาศาสตร์ที่มรภ.อบ.และเป็นคนที่ทำอะไรจะต้องมีกำหนดเวลา แกกำหนดไว้ว่า กาแฟเช้า 07.30 น. มื้อกลางวัน 13.00 น. มื้อเย็น 19.30 น.พอจวนเวลาของมื้ออาหาร ป้าวิต้องวางมือจากงานสวนไปเตรียมอาหาร ซึ่งก็จะเสร็จตามกำหนดเวลา แต่พ่อใหญ่สอจะเป็นคนที่ทำให้การทานอาหารไม่เป็นไปตามกำหนดบ่อยมาก เมื่อวานแกไปรดน้ำที่สวนลิ้นฟ้า ป้าวิไปเก็บลิ้นฟ้าและเตือนแกว่าเที่ยงแล้วนะ แล้วก็กลับไปเตรียมอาหาร แกเข้าบ้านเกือบบ่ายสองแล้วต้องอาบน้ำก่อน กว่าจะได้ทานข้าวก็บ่ายสองเศษค่ะ
  • เรื่องนกนั้น หน้านี้ไม่ทราบว่าหายไปไหนกันหมดค่ะ ตอนเช้าๆ บางวันจะเห็นกาฝูงใหญ่บินลัดฟ้าจากทิศใต้ไปทางทิศเหนือ เมื่อวานตอนทานกาแฟเช้าที่เรือนไทย เห็นนกตัวเล็กๆ บินไปเกาะที่ช่อบนสุดของดอกรักแรกพบสีเหลือง (ในภาพ) ป้าวิคว้ากล้องจะถ่ายภาพ แต่นกบินไปก่อนและไม่กลับไปอีกค่ะ (ภาพเรือนไทยและภาพนกเป็นภาพเก่าค่ะ) สายๆ เห็นนกกระยางตัวเดัยวบินเหนือสระ จากทิศใต้ไปทิศเหนือเหมือนกาเลยค่ะ
  • มะม่วงหาวนั้นพ่อใหญ่สอเคยซื้อจากสวนในเมืองอุบลฯ ไปปลูก ความสูงประมาณเมตรเศษ ปลูกในกระถางยังไม่ออกดอก ราคา 500 บาท ป้าวิไปเจอขายที่สวนจตุจักรความสูงประมาณ 80 ซม.เลยซื้อไปปลูกอีก ตอนหลังต้นของพ่อใหญ่สอออกดอกออกผล แต่ก็แกร็น (สวนคงทิ้งไว้นานเพราะยังไม่มีใครซื้อ มีต้นเดียว) และในที่สุดก็ตาย ต้นที่เห็นในภาพประกอบบันทึกเป็นต้นที่ป้าวิซื้อค่ะ ออกผลดกทุกปีในช่วงฤดูฝน ตอนหลังพ่อใหญ่สอตัดแต่งกิ่งให้เป็นทรงพุ่มไม่ยอมให้โตตามธรรมชาติ ในงานเกษตรอีสานใต้ก็เห็นมีขายอยู่ 1 กระถางค่ะ ต้นสูงประมาณเมตรครึ่ง ออกผลดกติดราคาขายไว้ 7,000 บาท และมีต้นเล็กๆ เพาะในถุงดำสูงประมาณ 6 ซ.ม.ขายต้นละ 50 บาทค่ะ ต้นของน้องคงต้องรอนานเหมือนกันนะคะ กว่าจะออกดอกออกผล
  • มะนาวโห่เป็นอีกชนิดหนึ่งนะคะ ที่ฟาร์มปลูกไว้ที่สวนสมุนไพรค่ะ

Large_rak

 

เรียนท่านอาจารย์

  • บ้านอาจารย์น่าอยู่จังเลยค่ะ
  • หนูขอไว้อาลัยให้กับข้าวเหนียวด้วยนะคะ
  • ขอบคุณ "คุณมนัสดาIco48" มากนะคะที่แวะมาให้กำลังใจยายไอดิน และร่วมไว้อาลัยให้กับข้าวเหนียว
  • ครอบครัวคุณมนัสดาก็ดูมีชีวิตชีวาและอบอุ่นมากค่ะ (ดูภาพจากบันทึกเกี่ยวกับแม่ แต่แสดงความเห็นไม่ได้ เพราะหน้าแสดงความเห็นไม่ยอมเปิดให้ และยายไอดินก็ไม่ค่อยสบาย นั่งนานไม่ได้ค่ะ)

ฟาร์มอาจารย์สวยจังครับ ผมอยากไปเที่ยวจังเลย ผมจะสามารถจะติดต่ออาจารย์ได้ยังไงครับ

  • อยากไปเที่ยวฟาร์มอาจารย์ก็ไม่มีปัญหานะคะ แต่ตอนนี้อาจารย์อยู่ในเมืองมีปัญหาสุขภาพ นัดไปตรวจปัญหากรดในกระเพาะพรุ่งนี้
  • ช่วงนี้ติดต่ออาจารย์ผ่าน e-mail ก่อนนะคะ อาจารย์ให้ e-mail address ไว้ในปฏิทินเก็บไว้หรือเปล่า ถ้าไม่เก็บก็เข้าไปดูในบันทึกเรื่อง การจัดการเรียนรู้ผ่าน GotoKnow นะคะ
  • ขอบคุณมากนะคะ สำหรับการมอบดอกไม้ให้กำลังใจจากกัลยาณมิตรใหม่ที่สงขลา คุณ "Tum Laksana RodtrakulIco48"
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท