เอาอีกแล้ว บันทึกเสร้จเห็นว่ายาวไปจึงจัดการcopy ว่าจะไปวางในบันทึก หายไปหมดเลย อิอิ

• วันจันทร์รับอาจารย์มานิเทศน้องนิสิตทันตแพทย์มาฝึกงาน  พบวงข้าวเช้า  เราขอตัวกลับไปทำคนไข้  อาจารย์เล่าว่าซุปหน่อไม้อร่อยมาก  แม้จะเผ็ดไปหน่อย
  
• อาจารย์ไปพบพี่ศาลพร้อมกับน้องนิสิตที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก  ปิดเทอม  ไม่มีเด็ก  แต่มาทำความสะอาด  วันนี้อ่าน fieldnote น้อง ๆ ได้เรียนรู้หลายประเด็น   ความเกาะเกี่ยวกลับมารักกันของคนในชุมชน  จากที่เคยมีเหตุการณ์ลูกป่วยด้วยไข้เลือดออกแล้วไม่มีใครมาเยี่ยม  เพราะบ้านนั้นเริ่มแยกตัวต่างคนต่างอยู่
• 
  
• น้อง ๆ สร้างความสัมพันธ์ดีมากกับทีม อสม.ที่แนะนำไว้วันเสาร์  ทำแผนที่เดินดินได้้รายละเอียดมากขึ้น  น้องสะท้อนความรู้สึกว่ายากเหมือนกันนะ  แต่รู้รายละเอียดมากกว่าซอยบ้านตัวเองที่กรุงเทพอีก  
• น้องประทับใจความเสียสละ  จิตอาสาของแม่ ๆ อสม.  โดยเฉพาะความเป็นหญิงเก่งของพี่บังอรที่เป็น อบต.  คนเก็บค่าไฟฟ้า  ประธานกลุ่มแจ่วบอง  และอีกหลายบทบาทในการพัฒนาหมู่บ้าน
• 
  
• คิดว่าตัดสินใจถูกแล้วที่ให้นอนในหมู่บ้าน  น้องได้ประสบการณ์ตรงต่าง ๆ เยอะมาก  พ่อผู้ใหญ่พาไปเลี้ยงวัว  ถางหญ้าไร่อ้อย  เก็บแตงไทยอ่อนที่แม่ปลูกไว้มาอ่อมใส่ไก่  (เส้นทางอาหาร)   ของที่บ้านผู้ใหญ่บ้านปลูก  ใคร ๆ มาเก็บกินได้  เหมือนของสาธารณะ 
• เรื่องอาหารการกินของคนในชุมชน  การทำนา  ไร่อ้อย  กลุ่มปุ๋ย  ธนาคารข้าว  ได้ข้อมูลมาพอสมควร
• น้องสัมภาษณ์และลงมือทำผังเครือญาติของบ้านที่ตนเองพักด้วย  ทำปฏิทินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและทางสังคม  รู้จักคำว่าฮีตสิบสอง คองสิบสี่  บุญเลี้ยงขึ้นเลี้ยงลงศาลปู่ตา  ก่อนลงทำนาและหลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จ
• 
  
• สะท้อนให้น้องฟังว่า  ที่รับคำชวนไปร่วม "ซุมแซว" บ้านคุณครูและมีมหามากินข้าวเย็นด้วยนั้น  ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นเครือข่ายความสัมพันธ์ทางสังคมของกลุ่มผู้นำทางความคิด  และการเชื่อมโยงส่งผ่านถ่ายทอดของข้อมูลข่าวสารภายนอกกับภายในชุมชน
• 
  
• น้องเขียน Fact เยอะดีมาก (Course นี้  ยังไม่เน้นผลลัพธ์  ยังไม่เน้นการตรวจสอบข้อมูล  เน้นปรับเปลี่ยนทัศนคติเชิงบวกต่อชุมชน)  สะท้อนความรู้สึกและความคิดเห็นบ้าง  มีเพียง  ๑  คน  ที่เขียนสิ่งที่ได้เรียนรู้ออกมาชัดเจน  
• ๕  วันผ่านไป  น่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ที่อาจารย์ส่งน้องมาที่สระใครแล้วล่ะ
• 
  
• แต่ก็ให้น้องลองประมวล Fact บางประเด็นที่ประทับใจ  เขียนสะท้อนและสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ชัด ๆ  
• ลุ้น ๆ รออ่านต่อ
• ๒๓ ๔ ๕๖ (๒๓ เมษา ๒๕๕๖)

อ่านแล้วดี จึงบอกต่อค่ะ "ลักษณะคนสงบ 16 อย่าง" 

บุคคลที่มีความสงบสำรวม มักเป็นผู้ที่มีแต่คนอยากอยู่ใกล้ เพราะอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่มีความทุกข์ ไม่มีพลังงานด้านลบ ออกมาจากตัวตนของคนผู้นั้น...ลักษณะของผู้มีความสงบ คือ 

1. เป็นผู้ไม่ฉุนเฉียว 

2. เป็นผู้ไม่หวาดหวั่น 

3. เป็นผู้ไม่โอ้อวด 

4. เป็นผู้ไม่ก่อความรำคาญ 

5. เป็นผู้พูดด้วยปัญญา 

6. เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน 

7. เป็นมุนีมีวาจาอันสำรวมแล้ว 

8. เป็นผู้วางตัวเป็นกลาง 

9. เป็นผู้มีสติทุกเมื่อ 

10. เป็นผู้ไม่ถือตัวว่าเสมอกับเขา 

11. เป็นผู้ไม่ถือตัวว่าวิเศษกว่าเขา 

12. เป็นผู้ไม่ถือตัวว่าต่ำกว่าเขา 

13. เป็นผู้ไม่มีโทษ อันทำให้มืดมัวดุจฝ้า 

14. เป็นผุ้ไม่ยึดถือสิ่งใด ๆ ในโลกว่าเป็นของตน 

15. เป็นผู้ไม่เศร้าโศก เพราะสัตว์และสังขารที่เสื่อมไป 

16. เป็นผู้ไม่ถึงอคติในธรรมทั้งหลาย 

(http://www.dhammajak.net/)

                                                                                                                           ๒๓ เมษายน ๒๕๕๖

วันนี้รับทราบปัญหาของผู้ป่วยแรงงานต่างด้าว และแนวคิดการทำงานกับผู้ป่วยแรงงานต่างด้าวจากน้องคุณอ้อ ซึ่งถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการ การให้บริการ ด้านสุขภาพกับแรงงานต่างชาติ และทัศนวิสัย

รู้สึกทึ่งและปลื้มกับแนวคิดของเธอจังเลย วันนี้ฉันโชคดีเจอผู้หญิงเก่งอีก 1คนแล้ว เยี่ยมจริงๆ

และได้ข้อคิดว่าคนหน้างานหากทำงานเพื่องานจะมีความสุข และสนุกกับการทำงานที่จำเจได้ทุกวันๆโดยไม่เบื่อนั้น เพราะเธอคิดถึงความสุขที่ผู้รับบริการจะได้รับรวมทั้งประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับการพัฒนาองค์กร มากกว่าประโยชน์ที่ตัวเธอจะได้รับนั่นเอง...ขอบคุณ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานกับเพื่อนผู้ป่วยความดันกลุ่มสมาธิดีชีวิสดใสแล้วรีบเดินทางเข้ากทม. ไปค้นหาความรู้ที่ต้องการ วันพฤหัสเริ่มทำหน้าที่เป็นแมวมองณ ห้องตรวจครรถ์วัยรุ่น เพื่อค้นหาเพื่อนคู่คิดแม่วัยใสใส่ใจลูกน้อยทั้งกลุ่มคนไทย และต่างชาติ