เริ่มต้นเขียนวันนี้เถิดนะคะ


คนเราพูดและฟังอยู่ทุกวันนะคะ แต่อาจจะขาดซึ่งการอ่านและการเขียนอย่างเป็นประจำค่ะ ซึ่งทักษะทั้งสองอย่างนี้เป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตหรือการทำให้เป็นคนใฝ่รู้นั่นเองค่ะ

อ่านมากแต่เขียนน้อย ก็ไม่เกิดการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณค่ะ 

อ่านน้อยแต่เขียนมาก ความคิดที่ถ่ายทอดออกมาก็จะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์และไม่เป็นปัจจุบันค่ะ

ทักษะการเขียนสร้างได้ไม่ยากค่ะ ด้วยการเริ่มต้นจากการฝึกเขียนทีละเล็กละน้อยอย่างสม่ำเสมอ โดยหยิบเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรามาเขียนเหมือนการพูดเล่าเรื่องนั่นละคะ

GotoKnow เปิดรับทุกท่านที่สนใจที่อยากจะมีพื้นที่ในการเขียนและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานของท่านค่ะ และพื้นที่แห่งความสุขนี้แวดล้อมด้วยบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างกัลยาณมิตรค่ะ :)

GotoKnow ครบรอบ 8 ปีในวันที่ 28 พค. นี้ ดิฉันจึงอยากจะขอเชิญชวนทุกท่านเริ่มต้นเขียนวันนี้เถิดนะคะ เพราะการเขียนทำให้ท่านสามารถสัมผัสจับต้องความคิดของตนเองได้ค่ะ





คำสำคัญ (Tags): #gotoknow#การเขียน
หมายเลขบันทึก: 536718เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2013 10:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม 2015 12:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (35)

เข้ามาสนับสนุนค่ะ

สมัยเด็กๆ ครูสอนให้เขียนเรียงความ ย่อความ จับใจความ

แล้วครูก็จะวิจารณ์ให้ ทำให้รู้ว่าเขียนแล้วอ่านรู้เรื่องหรือเปล่า

แต่เดี๋ยวนี้ มี  blog  ให้เขียน จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน

แต่คงไม่มีวิจารณ์กัน เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ มากกว่าในห้องเรียน

ส่งเสริมเด็กรุ่นใหม่ๆ ให้หัดเขียน จะได้ถ่ายทอดได้อย่างเข้าใจมากขึ้นค่ะ

pis.ratana

 


 

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะอาจารย์

ขอบคุณโกทูโน ที่มีพื้นที่ให้ได้เขียน -อ่าน ขอบคุณค่ะ 

...

อยากรักการเขียน
อยากรักการเรียนรู้
อยากรักความเป็นครู
อยากเรียนรู้ให้เป็นบทเรียน

อยากรักการเขียนอ่าน
อยากสร้างตำนานการเขียน
อยากสร้างหัวใจแห่งความเพียร
ก็ ... อยากเรียน อยากเขียนกับโกทูโน

...

555

เพราะรักการอ่าน การเขียน จึงต้องอยู่โรงเรียน เพราะ....เป็นครู..จ้ะ

ชอบเขียน เพราะได้เก็บเรื่องราวให้ศึกษาเพื่อแก้ปัญหาภายหลังได้ แต่ไม่ชอบเขียนมาก เพราะสังคมยังมองว่าคนเขียนคือคนไม่ได้อะไรเลย ได้แต่วิจารณ์คนทำงาน

แต่ลึกๆแล้วคนเขียนก็ต้องศึกษาหาข้อมูลในเชิงลึกอยู่แล้ว ถ้าไม่เขียน ไม่งั้นคงไม่มีคนทำสื่อ ทำสารคดี และคนทำนิยายให้อ่านแน่นอน

*** ... ชอบทั้งอ่านและเขียน....แต่การเขียนต้องสืบหาข้อเท็จจริงมากมายเลยนะคะ ... *** 

มีคนบอกว่า เขียนไปเถอะ.. เขียนไปเขียนมาสามปีกว่าแล้วค่ะ ภูมิใจที่สุด 

ขอบคุณ GotoKnow ขอบคุณอาจารย์จันค่ะ

อ.จันทวรรณ อ.ธวัชชัยและทีมงาน G2K
ครูนกต้องขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ G2K ที่ฝึกทักษะในการเขียน การสรุปและการคิดเชิงบวกค่ะ

ขอบคุณครับอาจารย์จันเป็นความจริงในการสัมผัสความคิด Recall ความความจำ เข้าใจงานที่ทำครับ...ผมลองประสานพี่บางคนทำ COPs ทางการแพทย์และระบบมาตราฐานพยาบาลที่นี่ครับอาจารย์อย่างไรจะประสานอาจารย์อีกครั้งครับ..


ทำไงให้เด็กสมัยนี้รักเรียน เขียน อ่าน ค่ะ

 ขอบคุณนะคะที่มีgotoknow มาได้รับสิ่งดีดีจากที่นี้มากๆ


ขอบคุณ Gotoknow ที่ทำให้ผมมีวันนี้..วันที่ชอบเขียนครับ

จะเขียน 1 คำ 1 บรรทัด หรือ 1 หน้ากระดาษ A4 มันก็เป็นการฝึกคิด ฝึกการเรียบเรียงของสมอง อารมณ์และสภาพจิตใจของผู้เขียน บ่งบอกตัวตนของแต่ละคนออกมา เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

ขอบคุณมากค่ะ เข้ามาอ่านทุกวันหลังจากนี้จะพยายามเข้ามาเขียนให้ได้ทุกวันนะคะ

ทำงานในวิชาชีพมาก็กว่า 26 ปีแล้ว ร่ำเรียนมาก็มากแต่ก็ต้องยอมรับว่า การถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นภาษาเขียนก็ยังคงเป็นงานที่ยากยิ่งนัก.. ไงก็ตาม...บล็อกของสมาชิกGotoKnow ที่แวะเวียนมาบอกกล่าวเล่าขานในเรื่องราวและสาระดีๆ ...นี่แหละค่ะเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ต้องแบ่งเวลาบวกการหาวัตถุดิบบวกการสร้างพลังความมุ่งมั่นเพื่อถ่ายทอดความคิด ออกมาเป็นภาษาเขียนให้ได้ค่ะ


    ขอขอบคุณ gotoknow ที่สร้างกลไกทางออนไลน์ เพื่อส่งเสริมการเขียนและอ่านด้วยจิตแบ่งปัน และความเป็นกัลยาณมิตร            


ครูอาจารย์ทุกท่านค่ะ ขอเชิญอ่านหนังสือของอาจารย์หมอวิจารณ์เล่มนี้ค่ะ http://www.gotoknow.org/posts/533305 ท่านเขียนไว้เรื่องการสร้างนิสัยรักเรียน และนิสัยรักการอ่านการเขียน ให้แก่ผู้เรียนไว้อย่างดีค่ะ


อ่านและเขียน เป็นทักษะที่ยากใน 4 ทักษะ

หลักสูตรการศึกษาของชาติตั้งแต่พ.ศ 2503 จนถึงปัจจุบัน

ก็ยังเน้นเรื่องการเขียน ภาษาไทยเรานั้นเน้นทักษะทั้ง 4ไปพร้อมๆกัน 

แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมา ดูเหมือนจะได้รับการเน้นเรื่องการฝึกเขียน

แต่การขาดประสบการณ์ในการอ่าน จึงทำให้ทักษะการเขียนนั้นด้อยลง ไปพร้อมๆกับ

ทักษะการฟังเพื่อใคร่ครวญ และคิดสรุปประเด็นเรื่องที่ฟังก็ด้อยตาม

นับว่าg2kได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่จะได้ฝึกฝนและนำไปสู่การอ่าน การเขียนที่ดี

กระตุ้นให้ได้เห็นความสุขจากการเขียนเล่า แลกเปลี่ยนเพื่อพัฒนาความคิด

และนำไปสู่องค์ความรู้ได้มากทีเดียวค่ะ

ขอบคุณค่ะ Happy birthday gotoknow ที่รักให้เจริญก้าวหน้าทันโลกทันเหตุการณ์

 และเป็นห้องเรียนที่ทันสมัยและใหญ่มากขึ้นๆรองรับสมาชิกได้มากขึ้นๆค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณอาจารย์จันมากนะครับ เก็บfileของอาจารย์หมอไว้แล้วครับ

ชอบความเห้นของครูต้อยนะครับ


"นับว่าg2kได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่จะได้ฝึกฝนและนำไปสู่การอ่าน การเขียนที่ดี

กระตุ้นให้ได้เห็นความสุขจากการเขียนเล่า แลกเปลี่ยนเพื่อพัฒนาความคิด

และนำไปสู่องค์ความรู้ได้มากทีเดียว"



สวัสดีค่ะดร.จันทวรรณ ...ที่จริงน่าจะเรียกการพิมพ์นะคะ...เพราะไม่ได้จับปากกา ดินสอ และยางลบเลย...อ่านแล้วพิมพ์นะคะ ...

การเขียนช่วยเปลี่ยนชีวิตคนเราได้ 

- การเขียนของนักเรียนช่วยจดจำเพิ่มพูนความรู้

- การเขียนของผู้ประกอบอาชีพช่วยสร้างรายได้

- การเขียนของครูช่วยสร้างปัญญา  

การเขียนด้วยทักษะและใจ ประกอบด้วย การทำงานเชิงบูรณาการของเส้นใยสมองที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกปัญญาและสมองซีกคุณธรรม ขอบคุณมากครับสำหรับพื้นที่การเขียนที่ยอดเยี่ยมจาก Go to Know

Please look at user beerna999's posts.

I suggest we delete user beerna999 and all his posts for commercial actibities on G2K.

While we welcome new members we also need to keep our space in our vision and goal clean -- free of rubbish that takes up space and reduces values of other G2K bloggers.

ขอบคุณอาจารย์จันที่อยากให้เขียนให้อ่านมากๆเพราะเป็นการเรียนรู้ที่ฝั่งลึกอยู่ในตัวเราตลอดไปค่ะ สุ จิ ปุ ลิ จึงทันสมัยในทุกยุคค่ะ  แนะนำให้เด็กเข้ามาเรียนรู้การเขียนเพราะการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้นจะต้องเขียนได้ นำเสนอได้ ขอนำหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล ม. ต้น ที่สอนในภาคเรียนนี้มาแบ่งปันค่ะ

รหัสวิชา I20202 การสื่อสารและการนำเสนอ (Communication and Presentation)

เวลา 2 ชั่วโมง / สัปดาห์ 40 ชั่วโมง/ ภาคเรียน  1.0 หน่วยกิต คะแนนเต็ม 100

คำอธิบายรายวิชา

ศึกษา เรียบเรียง และถ่ายทอดความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบจากข้อมูลองค์ความรู้จากการศึกษาค้นคว้าในรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation) โดยเขียนโครงร่าง บทนำ  เนื้อเรื่อง สรุป ในรูปของรายงานเชิงวิชาการ โดยใช้คำจำนวน 2,500 คำ มีการอ้างอิงแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้อย่างหลากหลาย เรียบเรียง และถ่ายทอดความคิดอย่างชัดเจน เป็นระบบ มีการนำเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral individual) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation) โดยใช้สื่อประกอบที่หลากหลาย และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดทักษะ ในการเขียนรายงานเชิงวิชาการ และทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เป็นประโยชน์ แก่สาธารณะ

ผลการเรียนรู้

1. วางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่าง
2. เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการภาษาไทย ความยาว 2,500 คำ
3. นำเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุปจากประเด็นที่เลือกในรูปแบบเดี่ยว(Oral individual presentation) หรือกลุ่ม (Oral panel presentation)ใช้สื่อ อุปกรณ์ในการนำเสนอได้อย่างเหมาะสม
4. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ
5. เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้แก่สาธารณะ

  จึงเห็นด้วยที่ว่าครูและนักเรียนจะเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน โดยมีสื่อต่างๆเป็นแหล่งเรียนรู้ค่ะ

อยากได้รายละเอียดในกลุ่มอื่นๆด้วยครับ

กลับมาแล้วค่ะ...แล้วเจอกันนะค่ะ...หายไปถึงสองปี...คิดแล้วเสียดายจังค่ะ...


 

พื้นที่ฝึกการเขียนคะ ขอบคุณมาก มาที่นี่ไม่มีผิดถูก แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน คะ พื้นที่แห่งความรักและความสุข 

ผมทั้งอ่านและเขียน บางครั้งมานั่งทำการบ้านของอาจารย์ที่ให้โจทย์มา และแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากบุคคลต่างๆหลากหลายอาชีพ และได้รื้อความทรงจำต่างๆกลับมาเขียนๆๆๆ

ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมตั้งนานในบ้าน Gotoknow.org หลังนี้ ต่อไปจะเขียนให้มากขึ้น 

ยินดีกับวาระครบรอบ 8 ปีที่ผ่านมาด้วยครับ

มายกมือสนับสนุนอีกหนึ่งคน เพราะครูแอ้ก็เป็นคนหนึ่งที่มาฝึกการเขียนที่นี่
กว่าจะเขียนได้และพอใจ พร้อมที่จะเผยแพร่ ก็แก้แล้วแก้อีก
ถ้าใช้กระดาษก็คงกองโต คงต้องขอบคุณ Gotoknow ที่สุด
ที่มีพื้นที่ให้ฝึกการเขียน และผู้ที่มาแวะอ่านก็ยังได้แนะนำ ชี้แนะสิ่งดี ๆ

พอย้อนนึกไปถึงในชั้นเรียน
มากมายที่พบปัญหาในเรื่องการเขียนของลูกศิษย์
เริ่มจากสะกดคำไม่ถูก เขียนตอบแบบอัตนัยไม่เป็น
ลำดับการเรียงเนื้อหารายงานไม่ได้

เก่งในเรื่อง Copy + Paste
ตัดเนื้อหา จับประเด็นสำคัญ ๆ ร้อยเรียงความไม่ได้เลย

ทุกวันนี้รายงานฉบับสั้น ๆ ครูแอ้ก็ดูเหมือนใจร้าย บังคับให้เขียนด้วยลายมือ
ถือว่าเป็นการฝึกในทุกเรื่องก็แล้วกัน

เห็นด้วยครับ เพราะเขียนบันทึกมีส่วนช่วยในการ พัฒนาความรู้และเทคโนโลยีให้เจริญก้าวหน้าถ้ามีแหล่งสืบค้หรือแหล่งที่มาของข้อมูลที่ชัดเจน เช่นภูมิปัญญาคนไทยหลายอย่างตกเป็นของต่างชาติเพราะคนไทยไม่ชอบการบันทึกและเผยแพร่ ดังเช่นข้าวหอมมะลิ กวาวเครือ ต้นน้ำน้อยเป็นต้น

ดีค่ะ กว่าเราจะเขียนอะไรได้ ต้องผ่านกระบวนการอ่าน คิด วิเคราะห์ ถ้าจะสอนให้เด็กคิดวิเคราะห์เป็น ต้องให้เขาฝึกเขียน แล้วทักษะการคิดวิเคราะห์จะตามมา

การเขียน ฟังดูวิชาการแต่ถ้าปล่อยอารมณ์สบายๆแล้วเขียนก็อาจจะออกมาแบบบันทึกเหตุการณ์หรือสิ่งที่อยากเขียน หรือเหมือนการเล่าสู่กันฟัง(อ่าน)  อาจจะมีหลากหลายมากมายในสิ่งที่จะเขียน มีทั้งสาระความรู้  และบันเทิงเพี่อความเพลิดเพลินใจหรือมีสิ่งที่อยากเล่าอยากระบาย การเขียนออกมาดีที่สุด ทำให้สมองรู้จักคิด วิเคราะห์ เรียบเรียง แต่กว่าจะเขียนแล้วถูกใจทั้งคนเขียนและคนอ่านคงต้องผ่านประสบการณ์แห่งการเริ่มต้นก่อน เริ่มเขียนเลยค่ะ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท