ดอกไม้


รักและเข้าใจ

tienstuk
เขียนเมื่อ
852
12
7
busara
เขียนเมื่อ

เมื่อก่อนสัก 5 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงวัยไฟแรง เป็นวัยไม่รุ่นเท่าไรนัก ก็จัดว่าเป็นวัยกำลังทำมาหากิน อยากทำโน่นนี่นั่น ที่มองเห็นเป็นเม็ดเงิน

ไม่มีทุน ไม่มีกำลังคน ไม่มีสถานที่ ไม่มีอะไรเลย

นอกจากสติปัญญาอันน้อยนิด คิดการณ์ใหญ่ อยากมีห้องว่างให้เช่า ก็ไปศึกษากฎหมายเกี่ยวกับห้องว่างให้เช่า ศึกษาเกี่ยวกับการลงทุน รายรับ รายจ่าย หาคนทำงาน ติดต่อผู้มีทุน ขอเงินลงทุน ความที่มีวาทะศิลป์ดี และเป็นคนดี ก็เลยได้งานนี้มา แต่ความคิดไม่ได้หยุดแค่ตรงนี้ อยากมีห้องว่างให้เช่า 29 แห่ง ทำไมนะเหรอค่ะ เพราะแต่ละเดือนก็คิดว่าจะนั่งนับเงิน 29 วัน และ วันที่ 30 หยุดพักผ่อน เดือนไหนโชคดี มี 31 วัน ก็ได้พักเพิ่มอีก 1 วัน แต่ในความเป็นจริงเมื่อเริ่มทำได้ที่เดียว ก็แทบขาดใจตาย  ได้ทำแล้ว

อยากมีร้านขายของชำ และมีเครือข่ายหลายๆที่

อยากมีร้านขายข้าวสาร ติดต่อสหกรณ์และนำข้าวมาขายให้ผู้คนในราคาถูก ขายเป็นกิโลก็ได้

อยากทำกิจการเกี่ยวกับงานศพครบวงจร จัดงานให้ครบวงจรเลย และได้เงินมา ก็แบ่งเก็บไว้ส่วนหนึ่งจัดซื้อโลงไว้ช่วยเหลือคนยากจนที่ยากไร้ 

อยากไปช่วยโรงพยาบาลรัฐบาลที่คนไม่พอเพียงกับคนไข้ที่มากมาย ไปคีย์งานเอกสาร ไปเข็นรถเข็น

อยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆเยอะๆ

ตอนนี้ก็แก่ตัวลง การทำงานที่มองเห็นเม็ดเงินเริ่มลดลง

เริ่มมองเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต ว่าชีวิตไม่แน่นอน ไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสกว่า ดีกว่า

เห็นไหมค่ะ สิ่งที่อยากทำมีเยอะแยะไปหมด

นี่ก็ปาไปกว่าครึ่งชีวิตแล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรมากมายเลย

คิดว่าถ้ามีเงิน 100 ล้าน จะเปิดคลีนิครักษาคนไข้ต่างจว.ฟรี

ถ้ามี 1000 ล้านจะเปิด รพ.รักษาคนไข้ฟรี ขอหมอ ขอพยาบาลอาสาสมัคร ขอยาจากผู้มีจิตเมตตา

มีแต่ความคิดนะคะ

และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของความคิดสิ่งที่อยากจะทำ อ่านแล้วอยากให้ติดตามนะคะ ออกความเห็นติชมได้ อยากให้อ่านแล้วมอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้หน่อยค่ะ

7
5
Princess Kanokwan
เขียนเมื่อ

คาถาหกพี (6Ps) ให้หมั่นท่องไว้เสมอ แล้วจะเป็นคนทำงานที่มีความสุข

1. Positive Thinking คือการมองโลกในแง่ดี มีทัศนคติที่เป็นบวกอยู่เสมอ จะไม่มองอะไรในแง่ร้ายเลย ใครทำได้อย่างนี้จะไม่มีปัญหากับคนอื่นเลย

2. Peaceful Mind การมีจิตใจที่สงบ จะสร้างความสุขที่คนอื่นต้องอิจฉา เพราะใจเราจะไม่ดิ้นรน นิ่ง ไม่ตื่นเต้นหวั่นไหวตามกระแสที่ถูกปั่นจากผู้ที่มีจุดมุ่งหมายอื่นแอบแฝง

3. Patient คือการที่มีความอดทน มิได้หมายถึงความเฉยชา คนเราจะให้ทุกอย่างเป็นตามใจเราคงยาก มันต้องมีช่วงที่เป็นของคนอื่นบ้างแต่ถ้าเรารู้จักอดกลั้น อดทน รอคอยให้ถึงช่วงของเรา การแก่งแย่งชิงดีย่อมไม่เกิด การไม่ทำอะไรเลยแล้วส่วนรวมเดือดร้อนไม่ถือเป็นความอดทนที่ถูกต้อง

4. Punctual คือการตรงต่อเวลา การมีวินัย บ้านเราชอบหาข้อแก้ตัว รออีกหน่อยไว้ให้ลูกหลานเรามีวินัยก็แล้วกัน ทำไมเราไม่ทำเป็น ตัวอย่าง นิ้วก้อยกับนิ้วหัวแม่มือ แม้มีขนาดไม่เท่ากันก็อยู่ในมือเดียวกัน ต้องทำหน้าที่พร้อมกันในเวลาหยิบของ จะเกี่ยงว่าตัวเล็กตัวใหญ่ไม่ได้ อย่าผิดคำพูด อย่าผิดนัด คนเป็นใหญ่ชอบไปงานช้า เพราะคิดว่าตนสำคัญคนอื่นต้องรอแสดงถึงความยิ่งใหญ่ คิดผิดนะ

5. Polite คือความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน ยิ่งใหญ่ยิ่งต้องมีตัวนี้มาก มีมากเท่าใดคนอื่นจะยิ่งเกรงมากขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเรื่องรวง ข้าวที่มีเมล็ดข้าว มากเท่าใด ก็ยิ่งโน้มลงติดดินมากเท่านั้นช่อนั้นจะมีค่ามาก เพราะให้ผลผลิตดีกว่าช่อที่ยืนล้อลมได้สูงๆ แต่ไม่มีเมล็ดเกี่ยวไปแล้วก็ทิ้งเป็นฟาง เอาไปสีก็เปล่าประโยชน์

6. Professional หมายถึงความเป็นมืออาชีพ ในงานของตนต้องรู้ ต้องทำอย่างดีที่สุด ต้องมีความรู้ ความสามารถอย่างมืออาชีพทำหน้าที่ให้ เหมาะสม หมั่นฝึกปรือแสวงหาความรู้ให้ทันสมัยทันโลก และต้องทำงานได้ตามความต้องการขององค์การด้วยมิใช่เพียงตนเองมีความรู้เก็บไว้กับตัวเองแต่อย่างเดียว

คาถาทั้งหกข้อนี้จะทำให้คุณมีจิตใจดี สงบ มุ่งมั่นอยู่กับงาน มองโลกในแง่บวก รู้ตน รู้สถานะ ไม่คิดฟุ้งซ่าน ลงมือทำงานในหน้าที่ให้เต็มความสามารถด้วย พกสูตรนี้ไว้ โตวันโตคืน 

To find out more about how a good recruiter can help your team and your company succeed, please contact Adecco representative today.

9
8
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท