บันทึกนี้ มีวัตถุประสงค์หลักก็เพื่อไว้เตือนตัวข้าพเจ้าเอง
ผู้ติดอยู่ใน "บ่วง" อย่างไม่เอะใจมานาน
จนเมื่อได้รับฟังสิ่งที่กัลยาณมิตรใหม่แห่งสุโขทัย
แนะนำติดไม้ติดมือเป็นของฝาก.
ทั้งนี้ สิ่งที่จะเล่า เป็นเทคนิค และการตีความจากประสบการณ์ส่วนบุคคล
จึงเป็นธรรมดาที่ย่อมมีผู้เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย
หากท่านใดอ่านแล้วอยากแสดงทัศนะที่หลากหลาย
เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกันค่ะ.
"พี่กบ" เป็นแพทย์ปฐมภูมิท่านหนึ่ง ที่ตอนแรกข้าพเจ้า..กลัว
เพราะบุคลิกพูดเสียงดังฟังชัด มั่นใจสูงขณะเล่าประสบการณ์ทำงาน
แต่เมื่อเข้าไปคุย ก็พบว่าพี่กบมีเทคนิคการดำรงชีวิตที่น่าสนใจ
คือหลัก "จ๊ะ จ๊ะ จ๊ะ"
แม้พี่กบออกปากว่า นี่ไม่ได้อ้างจากตำราไหน
แต่เมื่อกลับมาทบทวน ก็พบความสอดคล้องกับสิ่งที่ Edward de Bono เรียกว่า " Intelligence trap" บ่วงของคนไอคิวดี ที่ดักไว้ไม่ให้เป็นคนคิดดี ซึ่งมีสองอันใหญ่ๆ คือ
ความคิดฉันถูกเสมอ " Be right" = ชอบใส่ "หมวกแดง"
ฉันเหนือกว่าคนรอบข้าง "Be superior" = ชอบใส่ "หมวกดำ"
"จ๊ะ จ๊ะ จ๊ะ" ของพี่กบ เป็นกุศโลบายให้สงวนพละกำลังความคิด ในทางก่อประโยชน์ต่อส่วนรวม แทนที่จะใช้ไปกับการก่อสถานการณ์ดังต่อไปนี้
...
1) จ๊ะ เมื่อมีคนแสดงความเชื่อไม่ตรงกับที่เราเชื่อ :
ไม่ต้องเถียงทุกเรื่อง เพียงเพื่อให้ตัวเองรู้สึกเป็นฝ่ายถูก
หากการถกเถียงของเราไม่ทำให้เขาได้ "กินอิ่ม นอนอุ่น" มากขึ้น
ก็ควรยอมรับ "ถููกแบบของเขา" ไปเถิด
ที่ต้องระวัง เพราะผู้มี IQ สูงมากเท่าใด ก็ยิ่งชอบเถียง เพราะเชี่ยวชาญในการยกเหตุผลมาสนับสนุน การใช้ภาษาให้น่าเชื่อถือ
ยิ่งเถียง ก็ยิ่งเหมือนตอกลิ่มความเชื่อตนเอง ผู้ IQ สูงบางส่วนไม่สามารถคิดนอกกรอบ หรือเปิดรับแนวคิดใหม่ๆ
ผลการทดลองใช้ :
วันนี้มีผู้ป่วยหญิงท่าทางภูมิฐานท่านหนึ่ง มาด้วยปวดบ่าเรื้อรัง
ระบายความในใจว่าเครียด ที่ข้างบ้าน เป็นคนอุดมการณ์ทางการเมืองต่าง ทำให้ไม่อยากคุยด้วย
หลังจากนั้น เธอก็อธิบายเหตุผลว่าทำไมเธอจึงไม่เห็นด้วยกับเพื่อนบ้านครู่ใหญ่ๆ
" ค่ะ..ค่ะ..ค่ะ" ข้าพเจ้าใช้เทคนิคที่พี่กบสอน
เมื่อผู้ป่วยถามว่า ควรทำอย่างไรดี เวลาเพื่อนบ้านมาชวนคุย
จึงแนะนำคาถา ทั้งพูดออกไป และท่องในใจ "จ๊ะ..จ๊ะ..จ๊ะ"
...
2) จ๊ะ เมื่อมีคนแสดงออกว่าเหนือกว่าเรา :
De Bono กล่าวว่า มีสองวิธีที่คนเราทำเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ คือ
1) Constructive way :การพูดหรือการทำให้ตัวเองมีค่าขึ้น
2) Destructive way : การพูดหรือการทำให้คนรอบข้างดูด้อยกว่า
คนส่วนใหญ่มักเลือก destructive way อาจเพราะง่ายกว่าวิธีแรก
หากการวิพากษ์ของเรา ไม่สามารถช่วยให้เขาปรับปรุงตัวแล้ว "กินอิ่ม นอนอุ่น" ขึ้น ก็ควรยอมรับ "ดีในแบบที่เขาเป็น"
ที่ต้องระวัง เพราะผู้มี IQ สูง มักสอบแข่งขันชนะผู้อื่น และเป็นที่เชิดชูของโรงเรียน ทำให้ติดกับความรู้สึกเหนือกว่า
อีกทั้งเส้นบางๆ กั้นระหว่าง ความมั่นใจในตัวเอง (self confidence) กับความยโส ( arrogance) คือ พูดตามที่ทำออกมาได้จริง..หรือเปล่า
ผลจากการสังเกต :
รุ่นพี่ของข้าพเจ้าท่านหนึ่ง จบแล้วได้ไปเป็นวิทยากรตั้งแต่อายุน้อย
เคยมี แพทย์อาวุโสกล่าว เปรียบเปรยทำนองว่า
" ผมมองวิทยากร เหมือนมองปกตำรานั่นแหละ ถ้าคนแต่งอายุไม่ถึงสี่สิบ ก็ไม่ต้องเปิดต่อแล้ว"
พี่ท่านนั้นฟังแล้วก็นิ่ง ระลึกได้ว่าเคยอ่านในพุทธประวัติ อายุก็ไม่ได้เป็นปัจจัยให้สำเร็จอรหันต์เร็วช้าต่างกัน
" ครับ..ครับ..ครับ"
###
เขียนบทความนี้ไป ก็รู้สึกเจ็บอกแปล๊บๆ ไป
แล้วท่านละ มีความเห็น หรือประสบการณ์อย่างไร
ชื่อบันทึกดึงดูดใจค่ะ น่ารัก
ปล่อยเขาไปเถิดนะคะ...
"ค่ะ..ค่ะ..ค่ะ"
:)
จ้า ... จ้า ... จ้า
แสงสว่าง ณ ปลายทางอุโมงค์ มัน "จ้า" จริง ๆ ครับ ;)...
I had picked up from somewhere and kept in my note book:
Intelligence either is or aint; Luck come and goes; Skill is Life Long.
And one beautiful skill is to keep the right balance between "being linkable" and "being unattached" (a see-saw of "worldly life" and "Buddhists' goal").
I wish I had learned your lesson ;-)
จ๊ะ จ๊ะ จ๊ะ
น่ารักดีค่ะ
อ่านแล้วค่ะ เห็นด้วยค่ะ........... จ้า จ้า จ้า
ก่อนที่จะ จ๊ะ จ๊ะ จ๊ะ ก็เถียงกัน ผ่านไปจนมึนแล้วค่ะ อิอิ
^____^
เยี่ยมยุทธ... กุสโลบาย จ้า จ้า จ้า
ผลนั้น ชะงัดเลยหละ ประสบการณ์ตรงมา...
เจ็บหลายแปล้บบ ซาบซึ้งอย่างแรง เพราะความไว้วางใจกับ คำว่า จ้าๆๆมา ฮ่า
บทเรียนราคาแพง ที่แลกมา...ด้วยเวลาและชีวิต!
จำต้อง ตามมาเก็บรายละเอียดอีก ช้าๆ ชัดๆ
ขอบคุณ บันทึกที่ดูน่ารักๆ แต่การบ้าน นั้นหนักจริงๆ
ขอบคุณคะคุณปริม
เจตนาของ จ๊ะ จ๊ะ จ๊ะ
คือ ปล่อย เพียงให้เรามีมือว่างทำสิ่งอื่นที่เป็นประโยชน์กว่า
เป็นการตีความหนึ่งนะคะ :)
เหนื่อยมากที่จะอธิบายให้ผู้สูงอายุทราบว่า "ท่านเล่นวู้ดบอลมีฝีมืออยู่ที่ File B นะ" แต่ก็มีหัวหน้าก้วนบางท่านพยายามโกง....โดยการเอานักกีฬา File A มาร่วมเล่นประเภททีมกับ File B เพื่อให้ทีมของตนเองชนะ (ถ้าเป็นกอล์ฟเขาเรียกว่าดองเค็ม).......ทั้งๆที่ผู้เขียนเอารายชื่อนักกีฬาไปติดให้ดูว่าใครอยู่ File A หรือ B เหนื่อยมากๆ บางครั้งก็ท้ออยากจะเลิกโดยไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย....แต่ถึงอย่างไรก็ต้องพาทีมไปแข่งขันคัดภาค ๕ ที่เชียงใหม่บ้านของคุณหมอ ป. โดยจะแข่งขันในวันที่ ๒๑ สค.นี้
Be nice..Be Yes Man.. .
จ้า จ้า จ้า ปลายอุโมงค์มีนัยยะอะไรหรือเปล่า
ยังไงเป็นกำลังใจให้อาจารย์ และคุณแม่ให้การผ่าตัดตาผ่านไปด้วยดีนะคะ
Thank you ka khun Sr,
I like your concept "balancing being linkable and unattached".
I think Buddism no need to isolate from society.
As Buddhadas Bikkhu said " working is practicing dhamma in the same time" - Buddism need to practice life skill within real life context.
What if we save time and mental energy from protecting "own ego" (is it practicing be selfless) and spend more time to create better society ?
ถ้า จ๊ะ จ๊ะ จ๊ะ ได้...แสดงว่ายังเอาอยู่ นิ่งได้
บางทีก็มีหลุด ๆ บ้างค่ะ ยังไม่คงเส้นคงวาเท่าไหร่
ขอบคุณนะคะ...เวลามีใครมาคุยเขื่องหรือเห็นต่าง จะนึกถึง จ๊ะ จ๊ะ จ๊ะ ในบทความนี้
ขอบคุณคะพี่หมอเล็ก ลอนดอนตอนนี้อากาศดีไหมคะ :)
ขอบคุณที่มาเยี่ยมคะคุณครูทิพทย์
เสียดายบันทึกเก่า "เรียงความเรื่องแม่" ถูกลบไปก่อนจะตอบ ขอโทษด้วยคะ
อ่านบันทึกของคุณหมอ ป. แล้ว ครับ ครับ ครับ...
สวัสดีค่ะ ขอบคุณบันทึกเตือนใจจากคุณหมอ ป.นะคะ คำเหล่านี้ทำให้คนฟังใจอ่อนจริงๆ แล้วก็เกิดสันติด้วยนะคะ
สวัสดีครับ คุณหมอ นึกขึ้นมาได้เหมือนกันว่า เราก็เคยใช้นะ ครับ ครับ ครับ คนใกล้ๆตัวเรา ก็เคย ฟังเราแล้วก็.. จ้ะ จ้ะ จ้ะ แล้วก็ จ้ะ จ้ะ จ้ะ อ้อ..มันมีนัยในตัวมันนี่เอง คำว่า จ้ะ จ้ะ จ้ะ เนี่ย
ขอบคุณคะพี่ใหญ่
ทำให้ฉุกคิด
การเป็น คน nice กับคนไม่จริงใจ ต่างกันตรงไหนหนอ
สวัสดีค่ะ อาจารย์หมอ ป. บางทีคนไม่จริงใจ >>> ค่ะ ค่ะ ค่ะ ....เหมือนฟังแต่ไม่ได้ยิน
ขอบคุณค่ะคุณหมอ จะ "จ๊ะ จ๊ะ จ๊ะ" ให้มากขึ้นค่ะ
ขอบคุณคะ คุณพิชัยมีน้ำใจมาเยี่ยมเยียนเสมอเลยนะคะ :)
ภาพประจำตัวใหม่ เป็นเอกลักษณ์ดีจังคะ มีคนกล่าวถึงอย่างชื่นชมอยู่นะคะ
ขอบคุณคะ พี่แก้ว :)