ตอนนี้ GotoKnow เริ่มใช้ Node.js ในบางส่วนของระบบแล้วครับ เพิ่มความเร็วของระบบได้อีกนิดหนึ่งครับ
งานนี้ต้องรีบบอกต่อค่ะ ถูกใจมากเพราะตอนนี้มีความรู้สึกอยากช่วยรณรงค์เรื่องนี้จริงๆ นั่นคือมีรายงานยืนยันชัดเจนอีกแล้วค่ะว่า การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตทำให้คนที่อยู่ในภาวะ"ก่อนจะเป็นเบาหวาน" (prediabetic) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าค่าที่ควรจะเป็น แต่ยังสูงไม่ถึงขั้นที่จะโดนติดป้ายว่าเป็น "เบาหวาน" ซึ่งตอนนี้คือกลุ่มที่มีระดับน้ำตาลอยู่ที่ค่าระหว่าง 110-125mg% สามารถที่จะกลับมาเป็นคนปกติที่ไม่ต้องเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานได้ เป็นรายงานจากการศึกษา 2 งาน ในวารสาร American Journal of Preventive Medicine Volume 44, Issue 4, Supplement 4 April 2013 คือ http://www.ajpmonline.org/article/S0749-3797(13)00023-8/abstract" target="_blank">The Healthy Living Partnerships to Prevent Diabetes Study หน้า S324-S332 และ http://www.ajpmonline.org/article/S0749-3797(13)00024-X/abstract" target="_blank">Cost of a Group Translation of the Diabetes Prevention Program หน้าS381-S389 ตามลิงค์ไปอ่านบทคัดย่อได้ค่ะ
ใครที่ตรวจร่างกายแล้วรู้ว่าระดับน้ำตาลในเลือดเริ่มจะขยับขึ้นๆเรื่อยๆจะได้ระวังปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตกันเสียแต่เนิ่นๆนะคะ
เพิ่งเขียนเล่าเรื่องที่อ่านพบว่าอัตราคนเป็นอัลไซเมอร์ของอเมริกาจะเพิ่มมากขึ้น แต่ก็มีรายงานในวารสาร Annals of Internal Medicine.5 February 2013;158(3):162-168. ว่าการที่ร่างกายแข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคความจำเสื่อมได้มากขึ้น อ่านบทคัดย่องานวิจัยนี้ได้ที่ The Association Between Midlife Cardiorespiratory Fitness Levels and Later-Life Dementia: A Cohort Study
จะได้มีแรงจูงใจให้พยายามออกกำลังกายให้สม่ำเสมอขึ้นอีกอย่างหนึ่งนะคะ
9 เทคนิค ฝึกสมองไบรท์ !!
1. จิบน้ำบ่อยๆ สมอง ประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง
ถ้าไม่มีน้ำต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า
กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ
2. กินไขมันดี สมองของคนประกอบด้วยไขมัน ซึ่งจำเป็นจะต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ
แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย
ปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง
3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที หลังจากตื่นนอนแล้วให้นั่งสมาธิทุกเช้า
วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta
ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลาย ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ( ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้าให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน)
4. ใส่ความตั้งใจ การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด
ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง
ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน
5. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน
ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความสุข อารมณ์ดี
เป็นคนร่าเริงและไม่เครียด
6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่
คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารโดปามีน
ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และมีความคิดสร้างสรรค์
7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง
โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระเครียดของสมอง
8. เขียนบันทึก Graceful Journal ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี
ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี
ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น
เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา
ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์
9. ฝึกหายใจลึก ๆ สมอง ใช้ออกชิเจน 20-25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย
การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น
ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก
20 %
การ
มีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น
ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม
มีรายงานจากการศึกษาติดตามในคนไข้ Parkinson's disease พบว่าการออกกำลังกายแบบมีระบบมีประโยชน์ อ่านแล้วคิดถึงพยาบาลคนขยันของเรา-น้องโจ้-ชลัญธร ตามไปอ่านรายละเอียดได้ทางวารสาร Archives of Neurology ทางออนไลน์ เลยค่ะ
คิดดูแล้วโลกนี้ก็มีปัญหาการศึกษาทั้งนั้น ไทยมีปัญหา "จ่ายครบจบแน่" หรือ "ความรู้ไม่ต้องน้องขอแค่ใบปริญญา (และพี่ยาขอค่าสอน)" ส่วนเกาหลีตอนนี้มีปัญหาว่าเด็กแข่งขันกันจนไม่เป็นผู้เป็นคน ถึงขั้นต้องมีตำรวจคอยตรวจเพื่อปิดโรงเรียนกวดวิชาที่เปิดเกินเวลา
หรือ "การศึกษา" คือปัญหาของโลก?
กินยาแก้ปวดที่ใช้กันบ่อยๆ 2 ชนิดนี้คือ Ibuprofen และ acetaminophen ที่ปกติเราจะเป็นห่วงแค่ว่ามันมีฤทธิ์กัดกระเพาะสำหรับ Ibuprofen ส่วน acetaminophen หรือที่เราคุ้นกับการเรียกว่ายาพาราเซ็ตนั้นก็เป็นพิษต่อตับ มีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาพบว่า ในผู้หญิงหกหมื่นกว่าคน อายุช่วง 31-48 ปีที่ใช้ยา 2 ชนิดนี้บ่อยๆคือ 2-3 วัน/สัปดาห์, 4-5 วัน/สัปดาห์ และมากกว่าหรือเท่ากับ 6 วัน/สัปดาห์ จะมีโอกาสสูญเสียการได้ยินมากกว่ากลุ่มคนที่กินน้อยกว่าสัปดาห์ละครั้ง เพราะยา 2 ตัวนี้มีผลต่ออวัยวะในช่องหูด้วย แต่เราอาจจะไม่ค่อยรู้ ในผู้ชายก็มีการศึกษาที่พบผลเช่นนี้เหมือนกันค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Analgesic Use and the Risk of Hearing Loss in Women จากวารสาร American Journal of Epidemiology
เป็นความรู้ใหม่ที่น่าเก็บมาเตือนกันต่อค่ะ ยาแก้ปวดที่เราคุ้นเคยไม่เป็นมิตรกับหูเรานะคะ อวัยวะไหนๆเมื่อตึงก็ดูเหมือนจะดีขึ้น ยกเว้นก็แต่"หู"นี่แหละ ต้องถนอมเอาไว้ให้ดี
โจรกรรมทางวรรณกรรม
จากที่ได้ไปเป็นกรรมการสอบสวนเรื่องเหล่านี้มา การเอางานตัวเองมาใช้ แต่ไม่มีการอ้างอิงไว้ ถือว่าเป็น การโจรกรรมงานของตัวเอง ก็เข้าข่ายละเมิดด้วยเช่นกันครับ
เรามาเพื่อรับ...เพื่อเรียน... (เข้าใจชีวิต)
ช่วงบ่าย...ผมออกไปตรวจสุขภาพพระ...กับน้องผู้ช่วย
การเข้า-การออก...แต่ละวัดให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง คือ ความสงบ ร่มรื่น และมวลต้นไม้
ระหว่างนั่งรถ...ไปอีกวัดหนึ่ง...มีเสียงมือถือเรียกเข้า
น้องที่อนามัยนั่นเอง...บอกว่า...พี่ๆ มีข่าวดีสำหรับพี่
ผมรีบบอกออกไป...มีคนไข้ไข้เลือดออกเหรอ?
เพราะเมื่อเสร็จคลินิกเบาหวาน...ผมก็ลงหมู่บ้านไปสอบสวนโรค
และแจ้ง อบต. ออกมาพ่นยา...ไม่ให้เกิดไข้เลือดออกอีก...และแจ้งข่าวหมู่บ้าน
ผมเลยกังวลในใจว่า...จะควบคุมโรคไม่อยู่...
น้องรีบบอกว่า...มีผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษา...ที่ท่านมาล้างแผลกับเรา
ท่านมาขอบคุณเรา...ที่เราให้บริการอย่างดี
ผมพอจำได้...เพราะมีคนไข้ที่เป็นคน กทม. ไม่มาก...แต่ไม่นึกว่า...ท่านจะเป็นผู้ใหญ่
พวกเราก็ให้บริการตามปกติ...
สำหรับผม...ผมก็ผ่านคำชม..และคำติ
คำชม...ก็รับไว้...ด้วยหัวใจที่ผู้ที่ต้องการให้เรา
ตำติ...ผมก็พยายามแก้ไขปรับปรุงตัว
เพราะชีวิตผม...มาเพื่อรับ...เพื่อเรียน....
และก้าวเดินทางไปท่ามกลางชีวิต
ที่ภาวนาเหลือเกิน...ให้มีสติและมีปัญญาเกิดขึ้นในชีวิตบ้างเท่านั้นครับ....
30 ส.ค.55