เรื่องเล่า การทำงานเกือบ 38 ปี...ของแก้ว อุบล จ๋วงพานิช
ดิฉันจบการศึกษาจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ด้วยเกียรตินิยม อันดับสอง เมื่อปี 2523 ลองไปหาประสบการณ์ทำงานเป็นพยาบาลที่ รพ หัวเฉียว กรุงเทพฯ มีเพื่อนจาก มข ไปอยู่ด้วยกันประมาณ 28 คน อยู่ไม่นาน ก็ย้ายไปอยู่ รพ กรุงเทพฯ และ รพ เพชรเวศ อยู่เกือบปี แม่อยากให้ย้ายกลับมาอยู่แถวบ้าน เลยลาออกจาก รพ เอกชน มาสมัครงานที่ รพ ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เริ่มทำงานที่ รพ 2 เมษายน 2524 ต้องการอยู่ตึกเด็ก แต่ขณะนั้นไม่มีตำแหน่งว่าง เขาให้อยู่ตึกอายุรกรรม 4ก พออยู่สักระยะหนึ่ง มีตำแหน่งตึกเด็กว่าง แต่เรารู้สึกชอบทำงานที่ 4ก แล้ว เลยไม่ย้าย จนกระทั่งได้รับเลือกเป็นหัวหน้าหอผู้ป่วยเคมีบำบัด 5จ ปี 2530
หอผู้ป่วยเคมีบำบัด 5จ เริ่มเปิดรับบริการเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2530 โดยมีผู้ป่วยมะเร็งที่มารับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดในครั้งแรกจำนวน 12 เตียง ต่อมาในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2531 เปิดรับผู้ป่วยทั้งหมด 32 เตียง มีเตียงสามัญ 31 เตียง และห้องแยก 1 ห้อง ดิฉันได้รับการคัดเลือกเป็นหัวหน้าหอผู้ป่วย 5จ สมัยที่อาจารย์บัวลอง ชินอ่อน เป็นหัวหน้าพยาบาล และได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการหัวหน้าหอผู้ป่วย 5จ ตามคำสั่งคณะแพทยศาสตร์ ที่ 196/2530 วันที่ 20 พฤษภาคม 2530 ขณะที่เป็นพยาบาล 5 ระดับ 5 ผ่านการประเมินได้รับแต่งตั้งเป็น หัวหน้าหอผู้ป่วยเคมีบำบัด5จ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ตามคำสั่งคณะแพทยศาสตร์ ที่ 170/2531 วันที่ 22 เมษายน 2531 และคำสั่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ 1250/ 2533 วันที่ 24 พฤษภาคม 2533 ทำงานไปสักระยะ รู้สึกว่า ระบบคิดไม่ค่อยคล่อง เลยขอไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทในปี 2533 จบปี 2536 เมื่อจบมาเราก็นำข้อมูลทั้งหมดจากการศึกษาค้นคว้าตอนปริญญาโท มาพัฒนาหน้างาน เริ่มต้นพัฒนาระบบการให้ข้อมูลเตรียมความพร้อม การวางแผนจำหน่าย ต่อมาพัฒนาการดูแลผู้ป่วยเพื่อลดปวด โดยใช้ดนตรีบำบัด และพัฒนาการลดความทุกข์ทรมานจากผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัด เช่น ลดคลื่นไส้ อาเจียนโดยการให้ผลไม้รสเปรี้ยว ใช้น้ำขิง กดจุด ป้องกันช่องปากอักเสบโดยใช้น้ำแข็ง น้ำผึ้ง การดูแลมิติจิตใจ นำแนวคิดการเสริมพลังอำนาจมาใช้ รวมทั้งหาแบบประเมินมิติจิตวิญญาณ ฯลฯ
นอกจากนี้ยังได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหารให้เป็นเลขาคณะกรรมการ QA จัดทำคู่มือปฏิบัติการพยาบาล 4 เล่ม ทำวิจัยเพื่อวิเคราะห์อัตรากำลังใน รพ ศรีนครินทร์ ต่อมาย้ายมาอยู่คณะกรรมการวิจัย เริ่มจากการเป็นเลขาฯ จนได้เป็นประธานฯ สุดท้ายเป็นที่ปรึกษา โดยเปลี่ยนชื่อเป็น คณะกรรมการพัฒนาบริการสู่ความเป็นเลิศ สุดท้ายเป็น คณะกรรมการพัฒนาวิชาชีพการพยาบาล แต่บทบาทหน้าที่สำคัญ คือ สนับสนุนการพัฒนางานประจำให้เป็นวิจัย การนำหลักฐานเชิงประจักษ์มาใช้ การจัดการความรู้ การนำผลวิจัยมาใช้ และการพัฒนาบุคลากรให้เลื่อนระดับที่สูงขึ้น ทั้ง ชำนาญงาน ชำนาญการ ชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญ ตั้งแต่ปี 2536 จนถึง 2561 ขณะเดียวกันยังทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหอผู้ป่วยเคมีบำบัด 5จ ปี 2530-2560=30 ปี ทำงานเกี่ยวกับวงการวิจัย 2536-2561=25 ปี เป็น APN 2548-2561=13 ปี ดูแลหน่วยการพยาบาลเฉพาะทาง 2559-2561=2 ปี ประกอบด้วย ผู้ปฏิบัตการพยาบาลขั้นสูง และพยาบาลที่ดูแลกลุ่มโรค เช่น ผู้ป่วยเอดส์ ผู้ป่วยระยะสุดท้าย หน่วยการให้สารอาหารโดยวิธีพิเศษ หน่วย ACRO เป็นต้น
(มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ได้วุฒิบัตร Basic Theories of Traditional Chinese Medicine and Tuinatology ที่ Guangxi, China ปี 2549 ได้วุฒิบัตรInternational Diploma Course in Research Methodology & Biostatistics, Khon Kaen University, 2551 ได้วุฒิบัตร ผู้ปฏิบัติการพยาบาลขั้นสูง สาขาการพยาบาลอายุรศาสตร์และศัลย์ศาสตร์ จากสภาการพยาบาลฯ ปี 2547 ได้อนุมัติแสดงความรู้ความชำนาญเฉพาะทาง สาขา อายุรศาสตร์-ศัลยศาสตร์ (Advanced-Practiced Nurse)พ.ศ. 2557 (อพย.) และ ได้ตำแหน่งทางวิชาการ พยาบาลชำนาญการพิเศษ ปี 2542 และพยาบาลเชี่ยวชาญ ปี 2552ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพายประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)ประจำปี 2555 และได้รับมอบหมายเป็นรองหัวหน้าพยาบาลด้านพัฒนาบริการสู่ความเป็นเลิศ ในปี 2557-2559 เป็นรองหัวหน้าฝ่ายพัฒนาวิชาชีพการพยาบาล ปี 2559-2561)
ปี 2561 เป็นปีที่เราจะเกษียณอายุราชการ สิ่งที่ภาคภูมิใจ คือ ทำงานจน 37 ปี 5 เดือน 28 วัน ได้รับรางวัลดีเด่นมากมาย เช่น รางวัลผู้ปฏิบัติงานดีเด่นของสภาการพยาบาล พยาบาลดีเด่นวิจัย รางวัลศรีมอดินแดง ฯลฯ รางวัลวิจัยระดับนานาชาติ ที่ไอวอรี่ โคสต์ 1 เรื่อง รางวัลระดับประเทศ 5 เรื่อง มีผลงานวิจัยตีพิมพ์ โดยเป็นหัวหน้าโครงการ จำนวน 8 เรื่อง เป็นผู้ร่วมโครงการ 5 เรื่อง รวม 13 ไปนำเสนอผลงานต่างประเทศ และ ไปศึกษาดูงานต่างประเทศ 13 ครั้ง
เคล็ดลับการทำงานให้สำเร็จ คือ ...
การตั้งเป้าหมายการทำงานให้ชัดเจน วางแผนการทำงาน โดยมีการศึกษาค้นคว้าและดูแบบอย่างระบบงานที่ดี แล้วดำเนินการตามแผน การมีความตั้งใจทำงานให้สำเร็จ จะต้องออกแบบการทำงานทุกชิ้นให้รัดกุม มีการทำงานวางแผนงานร่วมกับทีม ให้ทีมมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น แล้วปรับให้สมบูรณ์และต้องสื่อสารให้เข้าใจก่อนที่จะลงมือปฏิบัติงานนั้น มีการประเมินผลการทำงานทุกครั้ง เพื่อนำมาเป็นบทเรียนในการทำงานชิ้นต่อไป นอกจากนี้การทำงาน ต้องมีความขยัน มีความเพียร กัดไม่ปล่อย เรียนรู้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันต้องให้วิถีการทำงานและครอบครัวให้สมดุล
....................
แก้ว
บันทึกไว้ให้ตัวเองจดจำ
4 กันยายน 2561
ขอส่งต่อมงกุฏให้กับคนอื่นต่อไป ในวันที่ 30 กันยายน 2561
ความเห็น (10)
พี่แก้วจะเกษียณแล้วเหรอครับ ;)…
ไวจัง
ขอให้พี่แก้วสุขภาพแข็งแรงนะครับ ;)…
ศรัทธา และชื่นชมครับ ผม มข. รุ่น 14 ครับ (เป็นรุ่นน้องพี่แก้ว1ปีครับ)ตอนพี่แก้วอยู่ปี4 ผมเป็นประธานเชียร์กลาง และประธานเชียร์คณะเกษตร, ผอ.ค่ายอาสาพัฒนา สโมสรนักศึกษา คิดว่าพี่แก้วคงจะเห็นผมอยู่นะครับ ด้วยความระลึกถึงนะครับ..น้องชาย.. ชยพร แอคะรัจน์
ชื่นชมค่ะพี่แก้ว เป็น38 ปีที่ทรงคุณค่ามาก
ชื่นชม อ วัต อ ชัยพร และขวัญนะคะ
ปรับข้อมูลเล็กน้อยนะคะ
ตอนไปอยุธยา น้องที่ใกล้ชิดให้มุมมองเราว่า…พี่แก้วเป็นผู้เก็บเกี่ยวงาน จากานประจำ อารมณ์ดี มีศิลปะ มีความเป็นศิลปิน เป็นนักกีฬา มีความสวยงามอยู่ในตัวตน soft and strongน้องบางคนบอกว่า คำพูดพี่แก้วทำให้ชีวิตหนูเปลี่ยน คือ การศึกษา คือ การลงทุน หนูเลยตัดสินใจไปเรียนปริญญาโท อีกคนบอกว่า น้องจะมัวไปหาเงินงกๆจนไม่มีเวลาเป็นของตนเอง ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ลองตั้งใจทำงานแล้วพัฒนางาน ขอผลงานทางวิชาการ จะมีเงินตอบแทนเหมือนกัน อีกคนบอกว่า เห็นพี่แก้วสอนวิจัย ทำยังไงจะเก่งเหมือนพี่ เลยไปเรียนปริญญาโท
ชื่นชมพี่แก้วมากๆ ค่ะ
ขอบคุณ อ จันด้วยนะคะ ที่มีเวปไซต์ Gotoknow ให้คนหน้างานได้ฝึกฝนการเขียน สามารถนำงานที่ทำมาบอกเล่าผ่านการเขียน จนมีผลงานออกมาสู่สายตาและทำให้มีการต่อยอดระบบคิดได้มากมายค่ะ