ครูบาบินก้าว
ครูบา บินก้าว อิทธิภาโว จนอีหลีอีหลอ

อนุทินล่าสุด


ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ


สมัยเด็กมักได้ยินครูบาอาจารย์ ท่านดุ.. เตือน.. ศิษย์ร่วมสำนัก ณ เวลาที่ขาดความปรองดอง หากจิตใจเกิดริษยาเกิดเขม่นกัน เพียงหมายเพื่อให้ศิษย์ได้อ่านจิตใจตน.. ประมาณว่า พวกเอ็ง นี่ ชอบแข่งดี ชอบหาเรื่องข่มกันนัก

ตอนนั้น ฟังแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี..

ครั้นกาลเวลาผ่านมา กว่า ๒๐ ปี มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ มากขึ้น และอยู่ในเส้นทางการปฏิบัติธรรมอย่างมีสัมมาทิฐิ ก็ยังคงพบเห็นผู้คนมากมาย ที่ก็ยังแข่งกันทำความดี เช่นเดิม ทั้งด้านการเรียนการศึกษา การค้า การขาย การทำงาน การแสดงออก  ฯลฯ 

...ซึ่งก็มีบุคคลทั้งที่สามารถทำได้ดีจริง ๆ โดยต่อหน้าและลับหลัง และ ก็มีทั้งในแบบที่ปรารถนาจะได้รับคำชื่นชม จากครูบาอาจารย์ หากก็คงมุ่งกระทำคุณความดี ฯ 

บรรยากาศจิตวิญญาน มีไปจนกระทั่งตระหนี่ความดี และหรือ นำความดีที่ทำ เพื่อนำมาปกปิดความไม่ดีที่พลาด... พบเห็นแล้วก็ยิ่งซาบซึ้งเข้าใจ... 

แม้กระนี้ ในใจก็ไม่ได้มีจิตคิดตำหนิ.. ติ.. ว่า..แม้แต่น้อย 

เพราะพิเคราะห์แล้วชัดเจนว่า... ต่างยังคงตั้งอยู่บนเส้นทางแห่งการส่งเสริมให้ตนเกิดคุณความดี... เห็นว่า จิตใจยังคงเลือกยืนอยู่ ณ จุดก้าวแห่งคุณธรรมมีอยู่ ก็คงปล่อยให้เกิดมีแข่งดีกัน...เสมือนเป็นการช่วยพัฒนาฝีมือในกันและกันต่อไป

บางคราว มีเลยเถิดเกิดการหมั่นไส้ เลื่อยขา หน้าไหว้ ใจหลอก โดยเฉพาะช่วงเกิดอัตตา มานะ ซึ่งพื้นฐาน เกิดจากการบกพร่องออกนอกศีล จิตใจ ตกภายใต้โมหะขาลง  หากแกนแก่นสำนึก...ก็คงช่วยทำประโยชน์ โดยต่อหน้า 

หากด้านลับหลัง...ก็มีผิด มีละอายอยู่ แต่ก็ไม่ร้ายถึงกับแย่งผลประโยชน์ ฯลฯ มาเสพ มากลบบังเพื่อเป็นของตัวเพียงเจ้าเดียว ยังพอมีความต่าง...แต่สามัคคี ไม่กินรวบ โดยสำคัญ เห็นว่า พอมีสำนึกรู้แก่ใจ... ในส่วนเหล่านี้

และที่สุด แม้มีเลยเถิดดังกล่าวแล้ว หากส่วนตัว ก็ยังใจกว้างพอที่จะติดตามต่อไป ด้วย หวังว่า ต่างคนต่างได้บทเรียนทั้งผิด - ทั้งถูก ให้ได้เรียนรู้จิต ในจิต ตามแรงฤทธิ์แห่งลิงลมอมข้าวพองที่มาก - น้อย ของแต่ละคน จนกว่าจะก้าวพ้น...

มหาบุรุษทั้งหลาย พร้อมและสามารถอดทน รอคอย สำนึกดี... ที่ค่อย ๆ พัฒนาและเติบโต... ดังคำกล่าวหลวงพ่อเดินดิน ให้สติไว้เมื่อวันที่ ๑๒ ก.พ. ๒๕๕๖ ความว่า...

ความเสียหายของเรา เกิดจากการกระทำของเรา ไม่ได้อยู่ที่คำว่าของใคร...








ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

วันวาเลนไทน์... ไม่ใช่วันเสียเนื้อเสียตัวโดยเด็ดขาด ใครเอาวันดีๆเช่นนี้มาทำปู้ยี่ปู้ยำ เสื่อมต่ำสิ้น...


วันนักบุญวาเลนไทน์ (อังกฤษ: Saint Valentine's Day) หรือที่มักเรียกเพียง วันวาเลนไทน์ (อังกฤษ: Valentine's Day) ตรงกับวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ของทุกปี วันวาเลนไทน์มีการเฉลิมฉลองในหลายประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นประเทศทางตะวันตก แม้จะยังเป็นวันทำงานในทุกประเทศเหล่านั้นก็ตาม

"นักบุญวาเลนไทน์" แต่เดิมเป็นเพียงการจัดพิธีสวดแก่นักบุญยุคต้นหนึ่งคนหนึ่งหรือมากกว่า ชื่อ วาเลนตินัส ความหมายโรแมนติกโดยนัยสมัยใหม่ล้วนถูกกวีเพิ่มเติมในอีกหลายศตวรรษต่อมาทั้งสิ้น วันวาเลนไทน์จัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยสมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ ๑ ใน ค.ศ. ๔๙๖ ก่อนจะถูกลบออกจากปฏิทินนักบุญทั่วไปของโรมัน (General Roman Calendar of saints) ใน ค.ศ. ๑๙๖๙ ภายหลัง โดยสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ ๖


**************************************************************************************************

ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์

มรณสักขีในศาสนาคริสต์ช่วงต้นหลายคนมีชื่อว่า วาเลนไทน์ ซึ่งวาเลนไทน์ที่มีการสรรเสริญเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์มีวาเลนไทน์แห่งโรม (Valentinus presb. m. Romae) และวาเลนไทน์แห่งเทอร์นี (Valentinus ep. Interamnensis m. Romae)

วาเลนไทน์แห่งโรมเป็นนักบวชในโรมผู้พลีชีพเพื่อศาสนาราว ค.ศ. ๒๖๙ และถูกฝังที่เวียฟลามีเนีย (Via Flaminia) กะโหลกที่สวมมาลัยดอกไม้ของนักบุญวาเลนไน์ถูกจัดแสดงในมหาวิหารซานตามาเรียในคอสเมดิน โรม 

วัตถุมงคลอื่นพบได้ในมหาวิหารซานตาพราสเซเด (Santa Prassede) ในโรมเช่นกัน เช่นเดียวกับที่โบสถ์คาร์เมไลท์ถนนไวท์ไฟร์อาร์ (Whitefriar Street Carmelite Church) ในดับลิน ไอร์แลนด์

วาเลนไทน์แห่งเทอร์นีกลายมาเป็นบิชอปแห่งอินเตรัมนา (Interamna, ปัจจุบัน คือ เทอร์นี) ราว ค.ศ. ๑๙๗ และกล่าวกันว่าพลีชีพเพื่อศาสนาระหว่างการเบียดเบียน (persecution) ในรัชสมัยจักรพรรดิออเรเลียน ท่านถูกฝังที่เวียฟลามีเดียเช่นกัน แต่คนละตำแหน่งกับที่ฝังวาเลนไทน์แห่งโรม วัตถุมงคลของท่านอยู่ที่มหาวิหารนักบญวาเลนไทน์แห่งเทอร์นี

สารานุกรมคาทอลิกยังกล่าวถึงนักบุญคนที่สามที่ชื่อวาเลนไทน์ ผู้ซึ่งมีการกล่าวขานถึงในบัญชีมรณสักขียุคต้นในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ท่านพลีชีพเพื่อศาสนาในแอฟริการ่วมกับเพื่อนเดินทางจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีข้อมูลอื่นใดเกี่ยวกับท่านอีก

ไม่มีส่วนใดที่โรแมนติกปรากฏในชีวประวัติยุคกลางตอนต้นแต่เดิมของมรณสักขีทั้งสามท่านนี้ ก่อนที่นักบุญวาเลนไทน์จะมาเชื่อมโยงกับเรื่องรักใคร่ในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๔ นี้ ระหว่างวาเลนไทน์แห่งโรมกับวาเลนไทน์แห่งเทอร์นีนั้นไม่มีความข้องเกี่ยวกันเลย

ศีรษะของนักบุญวาเลนไทน์ถูกเก็บรักษาไว้ในแอบบีย์นิวมินสเตอร์ วินเชสเตอร์ และเป็นที่เคารพบูชา แต่ไม่มีหลักฐานว่านักบุญวาเลนไทน์จะเป็นนักบุญที่ได้รับความนิยมก่อนบทกวีของเชาเซอร์

ในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๔ แม้แต่ในพื้นที่วินเชสเตอร์ การเฉลิมฉลองนักบุญวาเลนไทน์มิได้แตกต่างไปจากการเฉลิมฉลองนักบุญคนอื่นอีกมาก และไม่มีโบสถ์ได้อุทิศถึงท่าน

ในการตรวจชำระปฏิทินนักบุญโรมันคาทอลิก วันสมโภชนักบุญวาเลนไทน์ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ถูกนำออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปและลดขั้นไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะ (particular calendar, ท้องถิ่นหรือประจำชาติ) ด้วยเหตุผล "แม้ความทรงจำเกี่ยวกับนักบุญวาเลนไทน์จะเก่าแก่ แต่ชื่อของท่านก็ถูกลดไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะ 

เพราะ นอกเหนือไปจากชื่อของท่านแล้ว ไม่มีข้อมูลอื่นใดทราบกันเกี่ยวกับนักบุญวาเลนไทน์ เว้นแต่ว่า ท่านถูกฝังที่เวียฟลามิเนียเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์" วันสมโภชนี้ยังมีการเฉลิมฉลองอยู่ในบัลซาน (มอลตา) ที่ซึ่งมีการอ้างว่าพบวัตถุมงคลของนักบุญวาเลนไทน์ที่นั่น และมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยผู้นับถือนิกายคาทอลิกดั้งเดิมที่ถือตามปฏิทินที่เก่ากว่าก่อนหน้าของสภาวาติกันที่สองนี้ วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ยังมีการเฉลิมฉลองเป็นวันวาเลนไทน์ในนิกายอื่นของศาสนาคริสต์ ตัวอย่างเช่น วันวาเลนไทน์มีระดับระดับ "พิธีฉลอง" (commemoration) ในปฏิทินของศริสตจักรแห่งอังกฤษ และส่วนอื่นของแองกลิคันคอมมิวเนียน

ตำนาน

ในคริสต์ศตวรรษที่ ๕ หรือที่ ๖ ผลงานชื่อ Passio Marii et Marthae ได้กุเรื่องราวการพลีชีพเพื่อศาสนาแก่นักบุญวาเลนไทน์แห่งโรม ซึ่งปรากฏว่ามิได้มีพื้นฐานอยู่บนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ใด ๆ เลย ผลงานนี้อ้างว่า นักบุญวาเลนไทน์ถูกเบียดเบียนเพราะนับถือศาสนาคริสต์ และถูกสอบสวนโดยจักรพรรดิโรมัน เคลาดิอุสที่สอง เป็นการส่วนตัว 

วาเลนไทน์ทำให้จักรพรรดิเคลาดิอุสประทับใจและได้สนทนากับท่าน โดยพยายามให้เขาเปลี่ยนไปนับถือลัทธิเพเกินโรมันเพื่อรักษาชีวิตของท่าน วาเลนไทน์ปฏิเสธและพยายามโน้มน้าวให้จักรพรรดิเคลาดิอุสหันมานับถือศาสนาคริสต์แทน ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงถูกประหารชวิต ก่อนที่ท่านจะถูกประหารชีวิตนั้น มีรายงานวาท่านได้แสดงปาฏิหาริย์โดยรักษาลูกสาวตาบอดของผู้คุมของเขา แอสเตอเรียส (Asterius) Passio สมัยหลังย้ำตำนานนี้ โดยเสริมเรื่องกุว่า 

สมเด็จพระสันตะปาปาจูเลียสที่ ๑ ได้ทรงสร้างโบสถ์ครอบสุสานของท่าน (เป็นความเข้าใจผิดกับผู้พิทักษ์ประชากร [tribune] ในคริสต์ศตวรรษที่ ๔ ชื่อ วาเลนติโน ซึ่งบริจาคที่ดินเพื่อสร้างโบสถ์ในขณะที่จูเลียสเป็นพระสันตะปาปา) ตำนานได้ถูกหยิบยกขึ้นเป็นข้อเท็จจริงโดยบันทึกมรณสักขีในภายหลัง เริ่มจากบันทึกมรณสักขีของบีดในคริสต์ศตวรรษที่ ๘ และมีย้ำในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๓ ใน Legenda Aurea หนังสือนี้อธิบายคร่าว ๆ ถึงกิจการของนักบุญ (Acta Sanctorum) ยุคกลางตอนต้นของนักบุญวาเลนไทน์หลายคน และตำนานนี้ถูกจัดเข้ากับวาเลนไทน์ใต้วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์







ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ


ในเส้นทางแห่งการประกอบคุณงามความดี เรามีสิทธิ์ที่จะปฏิบัติตาม ใครก็ได้ ที่ปฏิบัติได้ถูกต้อง ตรงธรรม ทั้งถูกต้องตามกฏหมาย

และในขณะเดียวกัน เราก็สามารถและมีสิทธิที่นำทำในสิ่งที่เรามั่นใจและพร้อมนำเสนอสิ่งที่ดีกว่า เหนือชั้นกว่ามาก.. ทั้งกล้า พร้อมท้าทายให้มาพิสูจน์ ฯลฯ 

เพื่อจักได้เกิดผลดีต่อชาติ ต่อแผ่นดิน เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข ความสงบ ร่มเย็น อย่างชอบธรรม โดยแท้  โดย ไม่มีใครที่จะมาริดรอนสิทธิของเราได้





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

ขอมอบเพลง ลมหายใจปลายด้ามขวาน  

แต่งและขับร้องโดย  น้องเดียว สุวรรณแว่นทอง  ยอดอัจฉริยะ  ศิลปินตาบอด  


หนุ่ม...เมืองนครศรีธรรมราช วัย ๑๘ ปี จากตำบลเกาะขันต์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช 

นางจิต สุวรรณแว่นทอง นายบัญญัติ สุวรรณแว่นทอง มาดา บิดา ที่ให้กำเนิด มาพร้อมด้วยร่างกายสมบูรณ์ แต่ต้องมาพิการสายตาทั้ง ๒ ข้าง แต่กำเนิด หากไม่เคยย่อท้อต่อชะตากรรมของชีวิต ค้นพบตัวเองชอบเส้นทางสายการแสดง ตัดสินใจหัดร้องเพลงตั้งแต่ ๑๐ ขวบ 

.......................................................................................

เพลง ลมหายใจปลายด้ามขวาน


ความคิดขัดแย้งพื้นที่สีแดงชายแดนด้ามขวาน พี่น้องเราเดือดร้อนมานาน 

ด้วยอุดมการณ์แยกดินแบ่งฟ้า ปักษ์ใต้บ้านเราบัดนี้เงียบเหงาไร้เสียงบินหลา

ใครๆ เขาไม่อยากมา ลูกหลานถามว่าฆ่ากันทำไม

ตำรวจ ทหาร ครูบาอาจารย์ ชาวบ้านผู้คนเสียงหวีดร้อง เลือดนองถนน

ระเบิดปืนกลของคนฝ่ายไหน อีกกี่ชีวิตต้องปลิดสังเวย   เฉลยได้ไหม วันที่ท้องฟ้าสดใส  ลูกหลานจะได้ยิ้มด้วยความหวัง

***สายเลือดไทยหัวใจสยาม ขวานไทยถ้าไม่มีด้าม คงหมดความงามไม่มีพลัง 

แล้วจะร้องเพลงปักษ์ใต้บ้านเราให้ใครเขาฟัง บินหลาก็คงสิ้นหวัง

เกาะต้นยางฟังเสียงปืนดังไกล<

 พื้นที่สีแดง ภาพความขัดแย้งระแวงสายตา แล้วทำไมไม่หันหน้ามา 

พูดคุยปรึกษาปัญหาแก้ไข ใต้ร่มฉัตรงาม ลูกพ่อสยามเราสายเลือดไทย 

อยากถามว่านานแค่ไหน คืนลมหายใจให้ปลายด้ามขวาน

http://www.oknation.net/blog/chanakan50/2012/08/24/entry-1






ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

ด้วยหัวใจที่เปี่ยมรัก...ของลูกตัวน้อย
พันผูกซึ้งรักคุณพ่อ นักหนา
ถ้าหากฝึกชนะใจ ก่อนโกรธา
ปัญหาจักไม่เป็น เช่นเรื่องนี้...

เมื่อคุณโกรธ... อยากให้อ่านนะ ดีมาก ๆ บทความเก่า แต่ขอนำมาเล่าใหม่...


ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังขัดล้างรถอย่างขะมักเขม้น
ลูกชายวัย ๔ - ๕ ขวบ ก้มลงเก็บก้อนหินขึ้นมา
แล้วบรรจงขูดขีดไปบนด้านข้างของตัวรถ

พักใหญ่ต่อมา...
เมื่อพ่อได้ยินเสียงครูดของหิน
ก็เกิดความฉุนเฉียว โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เขากระชากมือลูกมา
ตีลงบนมือน้อย ๆ นับครั้งไม่ถ้วน
โดยไม่ทันนึกว่าตนได้ถือก้อนหินก้อนที่ลูกนั้นได้นำมาขูดรถอยู่ในมือ

ณ โรงพยาบาล..
นิ้วลูกชายถูกตัดออก เพราะกระดูกแตก
จนหมอไม่สามารถเชื่อมต่อได้

ขณะที่พ่อเข้ามาดูลูกในห้อง
ลูกมองพ่อด้วยสายตาปวดร้าว
แล้วถามพ่อว่า... " เมื่อไร นิ้วหนูจึงจะยาวเหมือนเดิม ? "

คำถามนั้น...
เหมือนคมมีดกรีดลึกลงไปในหัวใจผู้เป็นพ่อ
เขารู้สึกละอายใจ รู้สึกผิด
และเสียใจในการกระทำตนอย่างไม่อาจให้อภัย

เขาจึงกลับไปที่รถ
เตะมันสุดแรงเกิดโดยไม่ยั้งจนเหนื่อยหอบ
แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างรถอย่างเศร้าใจ
สายตาพลันเหลือบไปเห็นรอยขูดขีด

เขาเบิกตากว้าง !
จ้องมองคำว่า "รักพ่อ"
น้ำใส ๆ เริ่มเอ่อ แล้วไหลอาบแก้ม
เขาเอามือปิดหน้า
ร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับใจจะขาด

รุ่งขึ้น...
ชายคนนั้นได้ฆ่าตัวตาย
อารมณ์โกรธ มีโทษมหันต์
ปัญหาของโลกในทุกวันนี้

คือ
คนบางคน..
รักรถ หวงรถ หรือสิ่งของอื่น
ยิ่งกว่ารักและห่วงใยลูก
หรือ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

จำไว้เสมอว่า..."สิ่งของมีไว้ให้ใช้ และ คนมีไว้ให้รัก"


(ศูนย์พัฒนาคุณภาพสังคมคนไทยทำดี)





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ





การตรวจใจ ที่หลงในกรงขังแห่งความชัง และ ความชอบ

กระแสความเห็นที่เห็น...
กระแสความจริง เรื่องจริง ที่เกิด ที่เป็น อาจจะตรงข้ามกัน หักล้างกัน หรือ จะไปในทิศทางเดียวกันก็ได้... 
ใครจะชัด หรืออยู่ด้านไหน ? มุมไหน ? แต่ละคน ก็ต้องตรวจและพิจารณา...ในตนของตน





ความเห็น (1)

ความชัง และ ความชอบ .... ปีใหม่ ๒๕๕๕ แล้ว .... ตรวจสอบให้ดี ... ตรวจจริตของตน นะคะ ... 

ขอบคุณมากค่ะ

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

โทษภัย ของกาม

ตอนที่ ๑

นานมาแล้ว นับแต่โลกนี้ ยังไม่เคยเกิดมีผู้ที่จะตั้งจิตบำเพ็ญตนเป็นพระโพธิสัตว์ 

กระทั่งวันหนึ่ง เมื่อมีพ่อพรามณ์ผู้หนึ่ง ท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง จนกระทั่ง ไปพบกับควาญช้างผู้ชำนาญ ทั้งสองได้มีโอกาสสนทนากัน โดย ท่านควาญช้าง เอ่ยความโปรโหมดตนเองว่า ท่านพรามหณ์ ผู้จำเริญ ข้าพเจ้า นี้ เป็นควาญช้าง ที่มีความสามารถในการฝึกช้าง เลี้ยงช้าง ที่ในโลกนี้ จะหาใครเทียมข้าพเจ้าไม่ได้เลย ท่านจะเชื่อมั๊ย

ท่านพรามหมณ์ กล่าวว่า... ข้าพเจ้าเอง เห็นว่า เรื่องนี้ ท่านต้องพิสูจน์ให้ข้าพเจ้าเห็นก่อน สิ

ควาญช้างผู้ชำนาญ... จะเอางั้น รึ

ท่านพราหมณ์... ถูกต้องแล้ว ต้องเป็นเช่นนั้น

ตกลง พ่อพราหมณ์ เราไปร่วมพิสูจน์ด้วยกัน

จากนั้น สองคนจึงพากันเข้าไปในป่า ที่มีบึงน้ำขนาดใหญ่ ที่เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายจะต้องมาดื่มกิน และ ได้มองหาต้นไม้ใหญ่ พร้อมพากันปีนขึ้นไป เพื่อจะได้หลบพ้นการถูกทำร้าย และ โดย ไม่นานนัก ก็ได้มีช้างป่าโขลงใหญ่ ส่งเสียงแปร๋น ๆ เข้ามา โดย ที่ทันทีมันได้กลิ่นแปลก ๆ ของมนุษย์ เจ้าตัวหัวหน้าช้างฝูงนั้น ก็ทำท่ามองหา โดยในใจ หากพบเจอคงหมายจะจัดการเจ้ากลิ่นแปลกหน้า โดย อาจจะหมายพุ่งเข้ามาทำร้าย แต่ทั้งควาญช้าง และ พรามหมณ์ ซึ่งได้ขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนแล้ว

เมื่อพบว่า อยู่ในจุดที่ปลอดภัยแล้ว พราหมณ์ จึงบอกให้ควาญช้าง ลงไปจัดการเจ้าช้างพลาย ตัวใหญ่ ที่ดุ ทั้งที่จะเล่นงานทั้งสอง เมื่อสักครู่นี้นั่นแหละ

ก่อนที่ ควาญช้าง จะลงไปจัดการตามที่ตนได้คุยไว้ ก็ได้บอกว่า พ่อพราหมณ์ แม้ข้าพเจ้าจะมีฝีมือมากมาย เก่งขนาดไหนก็ตาม ข้าพเจ้าเอง ก็ไร้ความสามารถแม้กระทั่งช้าง ที่ข้าพเจ้าเลี้ยงมาแต่แรกเกิดก็ตอนที่มันเกิดอาการตกมัน...

อะไรกัน อาการตกมันนี่ ท่านไร้สามารถที่จะจับ หรือขัง หรือ ฝึกให้อยู่ใรอาณัติเชียว รึ

ถูกต้องแล้ว เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ท่านควาญช้างตอบ

โดย ทันที ที่ควาญช้างลงมาถึงพื้น เจ้าช้างพลายป่า ไม่ฟังอีร้า ค้าอีรม ตะกุยพื้นดินจนฝุ่นฟุ้ง ส่งเสียงคำราม เป็นที่น่ากลัว แล้วก็มุ่งพุ่งเข้ามาเล่นงาน โดยทันที หากทว่า ยังไม่ทันถึงตัว....ท่านควาญช้าง ได้ใช้วิชาประการใด ในเรื่องชาดก ไม่ได้กล่าว...ด้วยคงเกรง เจ้าคนสมัยนี้ จะนำไปใช้ ปราบแม้ว หรือไร ไม่ทราบได้ พ่อช้างดุ ก็มาหมอบนิ่ง อยู่ที่ข้างกายท่านควาญช้าง ประดุจ หมาน้อย แมวน้อย เชื่อง ๆ ตัวหนึ่ง

ตอนที่ ๒

พ่อพราหมณ์ เห็นเหตุการณ์ ความโหดร้ายของช้างพลาย ที่พุ่งเข้ามาแต่ต้น ก็เกิดอาการอกสั่นขวัญแขวนแทนควาญช้าง หากต่อมาก็ให้สะดุดใจเมื่อฝุ่นจางลง ไฉน ช้างพลายตัวใหญ่ จึงหมอบราบ ให้ควาญช้างจับเล่นได้ ประดุจแมวเชื่อง ๆ ตัวหนึ่ง

จึงตะโกนลงมาว่า... แค่นี้ ง่ายเกินไป ท่านลองฝึกให้ดูฝีมือ ที่ยิ่งกว่านี้... สิ

ด้วยความสามารถท่านควาญช้าง หากเป็นสมัยนี้ ช้างที่ถูกฝึกก็ใช้ให้ทำงาน ให้วาดรูป ให้ทำอะไรต่ออะไร ก็ทำให้เป็นที่ประจักษ์ตาได้ทุกอย่าง

พ่อพราหมณ์ จึงตะโกนลงมาอีกว่า... แค่นี้ ง่ายเกินไป ท่านลองฝึกให้ดูฝีมือ ที่ยิ่งกว่านี้... สิ

ควาญช้าง จึงได้แสดงอื่น ๆ อีกมากจนที่สุดได้บอกว่า เอาอย่างนี้ เดี๋ยวข้าพเจ้าจะมาแสดงชุดพิเศษให้ท่านชม จะได้เห็นฝีมือดังที่ข้าพเจ้าคุยไว้นั้น... กล่าวแล้ว ก็ขึ้นคอช้างเดินจากไป ครู่ใหญ่ก็กลับมาพร้อม ท่อนเหล็กขนาดยาวราวกับท่อนตาล มาท่อนหนึ่ง

จากนั้น บังคับช้างให้ขุดหลุมลึก กว้าง พอให้เหล็กขนาดใหญ่ท่อนยาว พาดไว้ที่ปากหลุมได้ แล้วบังคับช้าง ให้ไปหาฟืน มากองไว้ที่ก้นหลุม และก่อไฟ 

กระทั่ง ท่อนเหล็กร้อนและแดงฉานที่โดนไฟเผาลน

ควาญช้างผู้สามารถก็ได้บังคับช้าง ให้เอางวงไปจับท่อนเหล็กร้องแดงนั้น เจ้าช้างพลายตัวใหญ่ก็เต็มใจเชื่อฟังโดยดีไม่อิดออด แม้ตนจะเจ็บปวดจากความร้อนทุกข์ทรมานขนาดไหนก็ตาม ก็ยอมทำตามที่ถูกบังคับนั้น ควาญสั่งให้ยก ก็ยก สั่งให้วางก็วาง ขณะที่ปากก็แผดร้องด้วยความเจ็บปวด เนื้อหนังไหม้ งวงไหม้ จนที่สุด ก็ขาดใจตาย ณ ตรงนั้นนั่นเอง

พราหมณ์ ถึงกับตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงกับอุทานออกมาว่า ท่านควาญช้าง มีความสามารถที่จะจับช้างป่าที่ดุมากมาใช้งาน มาอยู่ในอาณัติได้ถึงขนาดนี้

แต่ยืนยันว่า หากแม้แต่ช้าง ที่แม้เลี้ยงมาแต่แรกเกิดแท้ ๆ หากเป็นในยามที่เขาตกมัน ก็ไม่สามารถจะบังคับอะไรได้  โอ...ความรุนแรงแห่งกิเลสกาม น่ากลัวขนาดนั้นเชียวหรือ 

นับแต่ชาตินี้ เป็นต้นไป ข้าพเจ้า จักขอตั้งจิตอธิษฐาน ที่จะก้าวล่วงพ้น ภาวะแห่งกามให้ถึงที่สุดให้จงได้ ขอตนอย่าได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจแห่งกามอันน่ากลัวนั้นเลย...

เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้








ความเห็น (1)

 

.
การตกมัน
 
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
 
เทมพอริน (temporin) ที่หลั่งออกมาในช่วงตกมัน 
การตกมัน (อังกฤษ: musth หรือ must) เป็นสภาวะชั่วครั้งชั่วคราวในช้างพลาย อันมีลักษณะของพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างสูง และการหลั่งฮอร์โมนสืบพันธุ์มากผิดปกติ ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในช้างที่กำลังตกมันสามารถมีสูงถึง ๖๐ เท่ากว่าช้างในเวลาปกติ อย่างไรก็ตาม การที่ฮอร์โมนสืบพันธุ์ของช้างเพิ่มสูงขึ้นผิดปกตินั้นเป็นสาเหตุประการเดียวของการตกมัน หรือเป็นเพียงปัจจัยประกอบเท่านั้น ยังไม่เป็นที่ทราบ การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของการตกมันยังเป็นปัญหา เพราะช้างที่กำลังตกมัน แม้ว่าจะแสดงท่าทางสงบนิ่งก็ตาม ก็อาจพยายามฆ่ามนุษย์ได้ 
 
สาเหตุและผลกระทบ
 
แม้ว่าบ่อยครั้งที่ผู้เข้าเยี่ยมชมสวนสัตว์จะสังเกตเห็นว่าการตกมันนั้นเชื่อมโยงกับการเป็นสัด แต่ข้อสังเกตดังกล่าวไม่น่าจะถูกต้องในทางชีววิทยา เพราะวงรอบการเป็นสัดของช้างเพศเมียนั้นไม่เกี่ยวข้องกับฤดูกาล ขณะที่ช้างส่วนใหญ่จะตกมันในฤดูหนาว ยิ่งไปกว่านั้น ช้างพลายที่ตกมันมักจะทราบกันว่าจะโจมตีช้างเพศเมียด้วย ไม่ว่าช้างตัวเมียนั้นกำลังติดสัดหรือไม่ก็ตาม มีการสังเกตว่าอาจมีความเชื่อมโยงระหว่างการตกมันกับพฤติกรรมเด่น
 
บ่อยครั้งที่ช้างที่กำลังตกมันได้ปลดปล่อยสิ่งคัดหลั่งข้นลักษณะคล้ายน้ำมันดิน เรียกว่า เทมพอริน (temporin) จากท่อเทมพอรัลด้านข้างของหัว เทมพอรินประกอบด้วยโปรตีน ลิพิต (ที่โดดเด่นคือ คอเลสเตอรอล) ฟีนอล ครีซอล และเซสควิเทอร์ฟีน สิ่งคัดหลั่งและปัสสาวะที่ถูกเก็บรวบรวมจากช้างในสวนสัตว์แสดงให้เห็นว่ามีระดับของคีโตนและอัลดีไฮด์มีกลิ่นหลายชนิดเพิ่มสูงขึ้น ความก้าวร้าวของช้างบางส่วนอาจเกิดขึ้นจากปฏิกิริยาต่อเทมพอริน ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วจะย้อยลงเข้าปากช้าง อีกปัจจัยประกอบหนึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการบวมของต่อมเทมพอรัล ซึ่งไปกดตาของช้างและทำให้เกิดความเจ็บปวดเฉียบพลันเทียบได้กับฝีรุนแรงที่รากฟัน บางครั้งช้างพยายามรับมือกับความเจ็บปวดนี้โดยการขุดงาลงไปในดิน
 
 
ช้างแอฟริกาที่กำลังตกมันตัวหนึ่งกำลังวิ่งไล่ยีราฟ
การตกมันยังเชื่อมโยงกับความตื่นตัวทางเพศหรือการสร้างความครอบงำ แต่ความสัมพันธ์ดังกล่าวมีความชัดเจนน้อยมาก กรณีที่ช้างแทงและฆ่าแรดไปหลายตัวในอุทยานแห่งชาติหลายแห่งในแอฟริกาได้ถูกบันทึกข้อมูลไว้และคาดว่าน่าจะเกิดจากการตกมันในช้างเพศผู้วัยหนุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช้างที่ไม่ได้เติบโตมากับเพศผู้ที่มีอายุมากกว่า การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการนำช้างเพศผู้ที่มีอายุกลับเข้ามาในประชากรช้างในพื้นที่ดูเหมือนว่าจะช่วยป้องกันมิให้ช้างเพศผู้วัยหนุ่มเข้าสู่สภาวะตกมัน และสามารถหยุดพฤติกรรมก้าวร้าวนี้ได้
 
ช้างที่ตกมันมักจะมีอายุเกินกว่า ๒๕ ปี ช้างเลี้ยงที่กำลังตกมันจะต้องถูกล่ามหรือขังไว้ แม้ว่าช้างเพศผู้ยังสามารถสืบพันธุ์ได้แม้ว่าจะไม่ได้กำลังตกมัน แต่ช้างที่กำลังตกมันจะมีกำลังมากกว่า และช้างเพศเมียก็มักจะเลือกคู่เป็นช้างเพศผู้ที่กำลังตกมัน
 
ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

คำขวัญวันเด็กในอดีตนับตั้งแต่ ปี ๒๕๐๒ - ๒๕๕๔ ตั้งแต่ยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จนถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีรายละเอียดดังนี้

๒๕๐๒ - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์... ขอให้เด็กไทยในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้าจงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า
๒๕๐๓ - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์... ขอให้เด็กไทยในสมัยปฏิวัติของข้าพ เจ้าจงเป็นเด็กที่รักความสะอาด
๒๕๐๔ - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์... ขอให้เด็กไทยในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย
๒๕๐๕ - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์... ขอให้เด็กไทยในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด
๒๕๐๖ - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์... ขอให้เด็กไทยในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันมั่นเพียรมากที่สุด
๒๕๐๗ - จอมพล ถนอม กิตติขจร... งดจัดงานวันเด็ก
๒๕๐๘ - จอมพล ถนอม กิตติขจร... เด็กจะเจริญต้องรักเรียนและเพียรทำดี
๒๕๐๙ - จอมพล ถนอม กิตติขจร... เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะบากบั่นและสมานสามัคคี
๒๕๑๐ - จอมพล ถนอม กิตติขจร... อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรง เรียนดี มีความประพฤตเรียบร้อย

๒๕๑๑ - จอมพล ถนอม กิตติขจร... ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัยมีความเฉลียวฉลาด และรักชาติยิ่ง
๒๕๑๒ - จอมพล ถนอม กิตติขจร... รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ
๒๕๑๓ - จอมพล ถนอม กิตติขจร เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส
๒๕๑๔ - จอมพล ถนอม กิตติขจร... ยามเด็กจงมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ
๒๕๑๕ - จอมพล ถนอม กิตติขจร... เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ
๒๕๑๖ - จอมพล ถนอม กิตติขจร... เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ
๒๕๑๗ - นายสัญญา ธรรมศักดิ์... สามัคคีคือพลัง
๒๕๑๘ - นายสัญญา ธรรมศักดิ์... เด็กคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจ ร่วมพลังสร้างความดี
๒๕๑๙ - ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช... เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรืองจะต้องทำตัวให้ดี มีวินัยเสียแต่บัดนี้
๒๕๒๐ - นายธานินทร์ กรัยวิเชียร... รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย

๒๕๒๑ - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์... เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติมั่นคง
๒๕๒๒ - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์... เด็กไทยคือหัวใจของชาติ
๒๕๒๓ - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์... ขยัน อดทน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
๒๕๒๔ - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์... มีวินัยใจซื่อสัตย์ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม
๒๕๒๕ - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์... ขยัน ศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
๒๕๒๖ - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์... รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัย และคุณธรรม
๒๕๒๗ - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์... รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดี มีความคิด สุจริต ใจมั่น
๒๕๒๘ - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์... สามัคคี มีวินัย ใฝ่คุณธรรม
๒๕๒๙ - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์... นิยมไทย ใช้ประหยัด ใจซื่อสัตย์ ถือคุณธรรม
๒๕๓๐ - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์... นิยมไทย ใช้ประหยัด ใจซื่อสัตย์ ถือคุณธรรม

๒๕๓๑ - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์... นิยมไทย ใช้ประหยัด ใจซื่อสัตย์ ถือคุณธรรม
๒๕๓๒ - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ... รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจซื่อสัตย์ ถือคุณธรรม
๒๕๓๓ - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ... รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจซื่อสัตย์ ถือคุณธรรม
๒๕๓๔ - นายอานันท์ ปันยารชุน... รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา
๒๕๓๕ - นายอานันท์ ปันยารชุน... สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม
๒๕๓๖ - นายชวน หลีกภัย... ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
๒๕๓๗ - นายชวน หลีกภัย... ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
๒๕๓๘ - นายชวน หลีกภัย... สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
๒๕๓๙ - นายบรรหาร ศิลปอาชา... มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด
๒๕๔๐ - พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ... รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด

๒๕๔๑ - นายชวน หลีกภัย... ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
๒๕๔๒ - นายชวน หลีกภัย... ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
๒๕๔๓ - นายชวน หลีกภัย... มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
๒๕๔๔ - นายชวน หลีกภัย... มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
๒๕๔๕ - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร... เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคต ที่สดใส
๒๕๔๖ - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร... เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี
๒๕๔๗ - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร... รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดี ๆ อนาคตดีแน่นอน
๒๕๔๘ - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร... เด็กรุ่นใหม่ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด
๒๕๔๙ - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร... อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด
๒๕๕๐ - พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์... มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข

๒๕๕๑ - พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์... สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม
๒๕๕๒ - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ... ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี
๒๕๕๓ - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ... คิดสร้างสรรค์ ขยันใผ่รู้ เชิดชูคุณธรรม
๒๕๕๔ - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ... รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ
๒๕๕๕ - นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร...  สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี 

คำขวัญวันเด็ก ประจำปี ๒๕๕๖ 

โดย นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร...  รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทย สู่อาเซียน









ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

ตราบที่ศีลธรรม ไม่กลับมา โลกาจักวินาศ

ตราบที่การศึกษาไม่เป็นไปเพื่อการลด ละ กิเลส กู้ประเทศไม่ได้


เมื่อชีวิตเกิดวิกฤติผิดพลาด ถึงจะได้สติ ถึงจะนึกถึงคำเตือนของคนในสังคมรอบข้าง และ ใจก็จะเกิดความแจ่มชัดในคุณค่าของความบริสุทธฺ์ที่ตนเคย มี

บางคนรู้แก่ใจตนจากที่ได้ผิดพลาด หากก็ยังปล่อยกาย - ใจ ปล่อยตัว ถลำหนักไปเรื่อย ๆ โดยหลงคิดว่า ตนฉลาดที่สามารถลับลวงพรางคนอื่นได้ นี้แหละ ความมีโมหะของแท้


แต่ที่หนักข้อกว่านั้น คือ ถึงขั้นลวงคนอื่นให้พลาดไปด้วยเพื่อจักได้สามารถปิดปากได้สนิทจากกรรมที่ก่อ จากบาปที่แบกที่ทำกันไว้อย่าง ไร้สำนึกกระทั่งหยาบจนเคยชิน







ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

น้ำใจ...สองพี่น้อง

เจ้าหนูมิว หลานสาว กับ เจ้าแป็ค หลานชาย ของคุณครู ใน จ.นครปฐม วัยอนุบาล และ ประถมต้น ชวนกันมาใส่บาตร เช้าวันรัฐธรรมนูญ พร้อม พับพัดกระดาษ มาฝาก หลวงลุง...คลายร้อน






ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

รู้... ใครดี ใครชั่ว
ตื่น... มาช่วยเป็นคนดี และร่วมใจลงมือทำ อย่าเปิดโอกาสมีคนชั่ว
เบิกบาน... จักเป็นผล ที่ทุกคนจะได้รับ

คนที่มีจิตยิ่งมิจฉาทิฐิเท่าใด ๆ จักยิ่งนำพาชีวิตผิดพลาดหนัก...หนักจนแม้จะมี ปราชญ์ บัณฑิต พระโพธิสัตว์ ท่านจะมีเมตตามากในระดับใด ๆ ก็ไม่สามารถช่วยคนเช่นนี้ได้ 

ยิ่งคนเช่นนี้ มีพื้นฐาน แห่งความทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง...ซึ่ง แผ่นดินไทย ก็มีให้เห็นเป็นตัวอย่างคนทราม

เมื่อตรวจดูนักบริหาร

แผ่นดินไทยนั้น ทหารก็มาบริหารแล้ว ตำรวจก็มีมาบริหารแล้ว ข้าราชการบริหารแล้ว นักธุรกิจก็มาบริหารแล้ว อีกทั้ง คนเหลี่ยม คนหล่อ ก็บริหารแล้ว บัดนี้ คนงามก็แสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์ในบัดนี้แล้ว

กว่า ๘๐ ปี แล้ว เมืองไทย
ประชาธิปไตย แท้... ไม่เกิด
จักมีก็แต่..พระบารมีองค์กษัตริย์ ผู้ทศพิธราชธรรมปกพสกนิกร
ทั้งแผ่นดินเรียนผิด-ถูก รู้แท้ ใครดี-ชั่ว ซึ้งแล้ว คนไทย

บัดนี้...

ประชาชน สัมมาปัญญา แจ่มชัด...
มีผู้สัมมา ฯ นำปฏิบัติเสียสละ เป็นผู้ให้ ยิ่งใหญ่
รับพระมหากุศโลบาย
น้อมเทิดไท้ จากพระองค์..ทรงพระมหากรุณา

ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง เลี้ยงชีวิน
พระเจ้าแผ่นดิน ทรงภูมิธรรม นำความรู้ นำธรรม นำทำ ล้ำค่า
ถึงเวลาที่ประชาชน ซื่อ ๆ ใจพอ ธรรมดา ๆ 
จักมาบริหาร ฯ แผ่นดินธรรม - แผ่นดินทองสุดล้ำค่า เป็นแบบอย่าง เป็นที่พึ่งให้โลกครา นี้.......




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

วันนี้ บ่นเรื่อง หนี้สิน คนไทย ต่อหัว ต่อคน


เมื่อครั้งเป็นเด็ก มีผู้ใหญ่พูดให้ฟังว่า รู้มั๊ย เอ็งมาเกิดเป็นคนไทยนี้น่ะ ต้องเป็นหนี้ต่อหัว ต่อคนด้วย !!! 

ก็สงสัยว่า เรายังใช้ตังค์ ไม่เป็นเลย เป็นหนี้ได้ไง (วะ)

โตมา ก็ยังคงได้ยินคำแบบเดิม ๆ พร้อมตัวเลขหนี้ เพิ่มมากขึ้น ๆ จนกระทั่งอุปสมบท... หลาย ครั้ง นับแต่สมัย นากยก ฯ ไทย แต่ชื่อ แม้ว ก็รับนิมนต์เข้าไปสู่อาคารรัฐสภา ฯ เพื่อร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็น กับ บรรดา ส.ส. ส.ว. ที่เป็นอนุกรรมาธิการ ด้านสื่อ ฯ แต่.. ช่วงหลัง ๆ มัก

เป็นตามโรงแรม ฯ

เมื่อว่าง ก็ได้สนทนา กับ บรรดา ส.ว. ส.ส. ก็พบว่า เพราะพวกเอ็งทั้ง ๕๐๐ นี่เอง ที่ก่อหนี้ กู้เงิน ผลาญเงินแผ่นดินแล้วไม่มีปัญญาใช้หนี้..แถมขึ้นภาษีอีก เสร็จแล้ว ก็โยนก้อนหนี้ ใส่หลังให้กับทุกคนไทยแบก

( แต่อาตมา ไม่ได้พูดออกไปตรง ๆ แบบที่ บ่น ออกมา นี่ หรอกนะ )

จึงแลกเปลี่ยนสนทนาไปว่า...คนไทยนับแต่อยู่ในครรภ์มารดา ควรมีสิทธิโดยอัตโนมัติในทรัพยากรธรรมชาติ ณ ใต้พื้นแผ่นดิน แผ่นน้ำ เสมอพื้นแผ่นดิน แผ่นน้ำ และ เหนือพื้นแผ่นดิน แผ่นน้ำของไทยด้วย 

เอาล่ะ โดย สมัยนี้ เขาเอาไปลงทุนโดย นำเข้าตลาดหลักทรัพย์ คิดเป็นหุ้น มีราคาค่าหุ้น ดังนั้น ทุกคนไทยก็ต้องมีสิทธิ์ได้รับหุ้นโดยอัตโนมัติ โดย รับปันผลด้วย...อยู่ในครรภ์ จำนวนหุ้น อาจจะน้อย พอเกิดมา และ มีอายุมากขึ้น ๆ ปริมาณหุ้น จักมากขึ้น ๆ

มิใช่ ให้หุ้น ไปจอด เพียงกับคนไม่กี่ตระกูล แต่เวลาพวกเอ็งไปก่อหนี้ ดัน เอามาแบ่งให้คนไทยแบกทั้งแผ่นดิน... พอสนทนามาถึงตรงนี้ ท่านผู้มีเกียรติ ส.ส และ ส.ว ต่างส่ายหัวดิก.. ลุกหนีหมด บอกว่า เป็นไปไม่ได้ ๆ และจากนั้น ก็ไม่มีใคร ติดต่อนิมนต์อีกเลย... 

แหม อาตมา ยังบ่นไม่ทันจบเล้ย ย ย พ่อเจ้าประคุณ


คนไทยเป็นหนี้ทั่วหน้า ทารกยันคนชราแบกหนี้ต่อหัวกว่า ๑ แสนบาท !

 www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000103459





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

…..นิทานเรื่องเมื่อพระเจ้าฯสร้างโลก.....






เมื่อพระเจ้าฯสร้างโลก


๑...พระองค์สร้าง”มนุษย์” เพื่อทำหน้าที่ให้มีประโยชน์ต่อโลก และทำให้โลกงดงาม  มีอายุ ๓๐ ปี


๒...สร้าง “วัว-ควาย”  เพื่อทำงานรับใช้มนุษย์  ให้มีอายุ ๓๐ ปี

“วัว-ควาย” บอกว่า ไม่เอา งานหนักเกินไป  ขอลดอายุเหลือเพียง ๑๐ ปี

“มนุษย์” จึงขออายุ”วัว-ควาย” ที่เหลือเป็นของตน  รวมเป็น ๕๐ ปี


๓...เมื่อ”มนุษย์”มีทรัพย์สมบัติมากขึ้น  พระเจ้าฯจึงสร้าง “สุนัข” ขึ้นมาทำหน้าที่เฝ้าสมบัติ ให้มีอายุ ๓๐ ปี

“สุนัข” บอกว่า ไม่ไหว อดนอนไม่ไหว  ขอลดอายุเหลือเพียง ๑๐ ปี

“มนุษย์” จึงขออายุ”สุนัข” ส่วนที่ลดไปมาเป็นของตน  รวมเป็น ๗๐ ปี


๔...พระเจ้าฯเห็นว่า “มนุษย์” ควรมีสิ่งสนุกสนาน  จึงสร้าง “ลิง” เพื่อทำหน้าที่ให้”มนุษย์”หัวเราะ  มีความสำราญ  ให้มีอายุ ๓๐ ปี

“ลิง” บอกว่าทำหน้าที่จำอวด ๓๐ ปีไม่ไหว  ขอลดเหลือ ๑๐ ปี

“มนุษย์”จึงขออายุ”ลิง” ส่วนที่ลดไปมาเป็นของตนเอง  รวมเป็น ๙๐ ปี


ลองทบทวนดูเถอะ.....

เมื่ออายุ ๑ ปี – ๓๐ ปี  เรามีความสุขสนุกสนาน  ชีวิตสวยสดงดงาม สดชื่น

อายุ ๓๑ ปี – ๕๐ ปี  เป็นช่วงอายุของวัว-ควาย ต้องทำหน้าที่วัว-ควาย งานหนัก รับผิดชอบครอบครัวในฐานะเป็นพ่อแม่

อายุ ๕๑ ปี – ๗๐ ปี  เป็นคุณตา-คุณยาย  คุณปู่-คุณย่า เป็นช่วงอายุของสุนัข  เริ่มนอนไม่หลับ  เป็นห่วงลูกหลาน ทรัพย์สมบัติ  มีความวิตกกังวล  หลับยาก

อายุ ๗๑ ปี – ๙๐ ปี  เป็นช่วงอายุของลิง  เป็นคนแก่ ป้ำ ๆ เป๋อ ๆ   งก ๆ เงิ่น ๆ   กินแล้วบอกว่ายังไม่ได้กิน  เป็นตัวตลกของลูกหลาน


ลองทบทวนดูเถอะมนุษย์เอ๋ย....เป็นเช่นนั้นหรือไม่ ?

นิทานเรื่องนี้  ท่านอาจารย์พุทธทาส  เล่าให้นักเรียนวิทยาลัยเทคนิคพระนคร (ชื่อสมัยนั้น)  

ฟังเมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์  ๒๕๑๐ 


จะเป็นเรื่องน่าขำ  น่าพิจารณาพินิจพิเคราะห์หรือไม่ ?  เป็นเรื่องของท่านผู้อ่าน

จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ?  ไม่ใช่เรื่องของข้าพเจ้า...เพราะเป็นนิทานของท่านอาจารย์......






ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

ทางรอดของโลก ทางรอดของไทย ต้องหัวใจที่รู้จักพอ ณ พื้นฐานแห่งสัมมาเศรษฐกิจพอเพียง...



การทุ่มเทให้คนเปิดสัมมาปัญญา เกิดสัมมาทิฐิ โดย กว่าแต่ละคนจะค้นพบจุดยืน ตนเอง กว่าจะนำจุดยืนที่มั่นคงในหน่วยงานตนเอง เพื่อกลับมาช่วยปกป้องแผ่นดิน นั้น..

จักต้องฝ่าด่านโลกธรรม หลายด่าน... ก่อความเสียหายแล้ว ๆ เล่า ๆ เมื่อเกิดปัญหา ซ้ำก็ถนัดที่จะผลักภาระไปที่คนอื่น หน่วยงานอื่นต่อ ทั้งตนก็จะไม่แนะนำหรอกว่า...จะให้เดินเรื่องต่ออย่างไร ?  ( อย่าง กรณี กสทช. กับลักษณะฮั๊วเอกชน ที่ทำให้ชาติสูญเสียรายได้ มากมาย หากองค์กร ที่ควรจะพิจารณาได้ กลับปัดภาระ ออกไปด้วยเหตุผลแปลก ๆ ทั้งไม่แนะนำ หนทางเพื่อรักษาผลประโยชน์แผ่นดิน ฯลฯ )


ทั้ง ๆ ที่ตน และ หน่วยงานที่ตนดูแล ก็ทราบชัดในเจตนาของเหตุปัญหา...ทว่า ก็ไม่ก้าวเอาภาระช่วย แม้ที่สุด ประหยัดแม้กระทั่งคำแนะนำ กลับใจดำ ปล่อยให้คนทั้งแผ่นดินได้รับความเสียหาย จมอยู่ในวังวนทุกข์ นี่แหละ คือ วิชาเอาตัวรอด ที่เจ้าทุนนิยมสามานย์ จอมมายา เจ้าแห่งมิจฉาทิฐิ สอน ทั้งนั้น



หากโลกใบนี้ ก็มีพอจะมีโอกาสดี ที่กำเนิด พระโพธิสัตว์เจ้า กำเนิดสัตบุรุษ ผู้เคยผ่านระบบโรงเรียนทุนนิยมสามานย์ เฉกเดียวกัน กลับกล้าฝ่า ทั้งหักด่านจนเป็นตัวของตัวเอง อย่างไม่หวั่นเกรงใด ๆ แม้คนรอบข้างจะเมินหมาง.. และคงนำฝ่ากระแสอย่างงดงาม...









มาพัก สมอง ที่นี่...

MV ฝ่าฟ้าสังคมฝัน / สุทธินันท์ จันทระ 
แต่งคำร้อง/ ทำนองโดย ครูรัก รักพงษ์ 
เรียบเรียงเสียงประสานโดย ครูปฏิพล เหมวรานันท์


โอ้แผ่นดินสิ้นแสง แห่งศีล

สังคมป่ายปีนดิ้นรน จนชั่ว

ต่างหลงทาง ห่างสัมมา บ้าบิ่นน่ากลัว

ต่างตัวของกู... เพื่อกู..


เมื่ออธรรมเท่าฟ้า อย่างนี้

หลายคนไม่มีแรงใจ จะสู้

ยิ่งสังคมเห่อเหิมกาม เกียรติ และความรู้

ยิ่งอดสู.. น่าอาย


*  ฝ่าฟ้า สังคม..

ซึ่งอยู่อย่างคนจมฝัน เมามาย

ต่างคนต่างฝันกันมาทำลาย

เชื่อดีเชื่อร้าย ยึดตามกัน


ผู้จริงใจ ไม่หลงผิดแล้ว

รู้แนวและมีความดีคงมั่น..

โปรด.. เผยตนตรวจค้นตัว

อย่ามัวแต่ฝัน

กล้า! ฟันฟ้า.. ฝ่าไป..*

http://www.youtube.com/watch?v=5yjXm4AErH0





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

เพียงความดูดี ของบัณฑิตเฉโก



คือ สามารถออกแบบแนวทาง ออกแบบการต่อสู้ ออกแบบมธุรสวาจาออกมาเพื่อให้ดูดี มีหลักการทั้งสอดคล้องกับสถานการณ์อันเป็นเป้าหมายที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดี 

โดย สอดรับกับภาระกิจ ที่หมายส่งผลไปยังบุคคล ที่เจ้าของเจตนาต้

องการมุ่งทำลาย หรือ มุ่งใช้ให้เป็นเครื่องมือทำงาน จะเต็มใจ หรือไม่ ไม่เป็นไร ? 

ด้วยความสามารถของบัณฑิตเฉโกเพียงเท่านี้ เขาก็หลงภูมิใจตนเอง ที่ใครก็ตามรู้ไม่ทัน เป็นการขยับตนเอง สู่การก้าวเป็นอำมาตย์กำมะลอ ที่เหนือชั้นจากการค่อย ๆ ลอยตัว 

ผู้ต้องทำงาน โดย หน้าที่ ย่อมตกเป็นเสมือนคนถูกใช้ จากบัณฑิตเฉโกเหล่านี้ หากผู้ที่ทำหน้าที่ ชัดในตนก็จะมีอิสระใจที่จะกระทำเมื่อสำนึกรู้ว่า ต้องกระทำ โดยตนรู้ตนดีว่า ตนไม่ได้ตกเป็นเบี้ยของใครใด 

หากผู้มีหน้าที่ ทำหน้าที่ ไม่ชัดในตน ย่อมตกเป็นเครื่องมือเจ้าบัณฑิตเฉโก ผู้รู้แก่ใจว่า ณ สถานการณ์แบบนี้ ผู้ที่ทำหน้าที่ เขาไม่สามารถทำได้หรอก หากหมากที่สร้างมา ก็ด้วยมุ่ง โค่น ทำลาย

แต่หากแม้ผู้มีหน้าที่ กระทำหน้าที่สำเร็จ บัณฑิตเฉโก เหล่านี้ ก็จะมีแนวกล่าวให้ตนสามารถก้าวไปในสังคมอย่างยืดคอ เสมอนั่นคือ ผลงานตนที่ผลักดันให้เกิดปรากฏการณ์


คนพรรค์อย่างนี้...มีอีกมากหลาย เช่น...

ความโก้ ของนักวิชาการมาร
ความโก้ ของนักการทหาร นัการเมือง นักเฉโกอื่น ๆ ทั้งหลาย...



บทบาทที่กล่าวมาให้เห็นนี้ เป็นตัวอย่างเล็ก ที่หยาบใหญ่ที่ต้องนำความห่วงใยจากครูบาอาจารย์ มาให้ความสำคัญให้มากขึ้น...เพื่ออร่วมพลังขับเคลื่อนให้สำเร็จในอนาคต ความว่า...

" หากศีลธรรม ไม่กลับมา โลกาจักวินาศ "  และ...
" ตราบที่ การศึกษาไม่เป็นไป เพื่อการลด ละกิเลส กู้ประเทศไม่ได้ "





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

อันเนื่องมาจาก ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

เมื่อ เรื่องราวยุติ...โดย สงบ

จึงมีผู้กล่าวว่า " เกิดการหักหลัง " โดยแท้คงไม่ใช่ ด้วยในหัวใจผู้มีอำนาจเป็นธรรม หาได้มีกติกาประชาธิปไตย ตาม รัฐธรรมนูญ ใด ๆ ไม่.. พันธะสัญา หรือ ข้อตกลง ตามที่เสธ.อ้าย นายทหาร ลูกผู้ชายผู้มีหัวใจใสซื่อตัวจริง นิสัยตรงไป ตรงมา ผู้มุ่งหมายจัก ให้เกิดมีธรรมเป็นอำนาจ ในแผ่นดิน ต่างคิดเอง เข้าใจเอง มองโลกในแง่ดีอยู่คนเดียว 

เพราะปรากฏการณ์ของการลงมือปฏิบัติการ ล้วนเป็นการทำลายความลูกผู้ชายของเจ้าหน้าที่และ ผู้บังคับบัญชาที่กระทำโดยตนเอง ด้วยตนเองจนหมดค่า ไร้ศักดิ์ศรี... ไร้วุฒิภาวะ ฯลฯ

เขาวางหมาก ตั้งใจ มิใช่ หักหลัง
เหมือนครั้ง ลวง ราตรี - วีระ ตายใจสนิท
กรรมบาปบังใจไร้สำนึก แบบจะจะ หมายพิชิต
ศาล รธน.ยับยั้งสามครา กล้าฝืนลิขิต ประกาศใช้ พรบ. ฯ

ด้วยเขาตั้งใจ มิใช่ จะหักหลัง
หมายเอา ประชาชน เป็นเหยื่อล่อ
ปวงประชา ยังไม่มา เกณฑ์ตำรวจ หลายหมื่นรอ
คนหมายมีธรรมเป็นอำนาจ ไม่ท้อขอทำประชาธิปไตยภายใต้สถานการณ์อธรรม 

" เธอ..จักพิทักษ์สันติราษฎร์ หรือ เธอ..พิฆาตประชาชน "

ตั้งใจ มิใช่ หักหลัง
ด้วยเขาตั้งใจ มิใช่ จะหักหลัง

หากครั้งนี้ผลบาปนั่นแหละ จักย้อนกลับไปหักหลังเจ้าคนคิด และต้องขอขอบคุณ ทุกผู้ที่หัวใจมีธรรมเป็นอำนาจ ทุกกำลังใจ

- ขอบคุณความรอบคอบการตัดสินใจ
- ขอบคุณฝนที่ตกลงมาอนุโมทนาการตัดสินใจ
- ของคุณ สถานการณ์ นี้แหละ การพัฒนาประชาธิปไตย ฯลฯ


***********************************************************************************************************


ขอนำ นิทาน เรื่อง หมาป่า กับ ลูกแกะ แนวใหม่ มาเปรียบเทียบ สู่กัน...

เมื่อหัวหน้าหมาป่า มีบัญชาการ นำบรรดาลูกฝูงมารวมกันในกรุง หมายว่า จะมากินน้ำ กินอาหารให้เปรมปรีย์ แต่่ขณะที่หัวหน้าฝูง กำลัง ดื่มกินน้ำอยู่ที่ตอนเหนือของแม่น้ำในระยะที่ไม่ไกลนัก มีลูกแกะน่ารัก กลุ่มหนึ่งต่างกำลังกินน้ำอยู่ถัดไป เมื่อหัวหน้าหมาป่าเห็น ดังนั้น

จึงเดินมาพูดกับเจ้าลูกแกะว่า " อะไรกันนี่ เจ้าลูกแกะเกเร เจ้ากล้าดีอย่างไร จึงทำให้น้ำขุ่นเป็นโคลนจนข้ากินไม่ได้ " 

ลูกแกะตอบว่า " ฉันเสียใจ แต่ฉันคิดว่า ฉันไม่สามารถทำให้น้ำนั้นขุ่นจนท่านกินไม่ได้ เพราะ ฉันอยู่ปลายน้ำ จะไปทำให้น้ำขุ่นจนถึงที่ที่ท่านยืนอยู่ได้อย่างไร ? " 


หมาป่า ผู้ตั้งใจจะหาเรื่องกับลูกแกะให้ได้จึงพูดว่า " บางทีมันก็อาจจะเป็นได้ แต่เมื่อหกเดือนก่อน เจ้าคนพาล เจ้าได้ด่าข้าลับหลัง " 

" มันจะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ !!!  "  ลูกแกะตอบ  " ในเมื่อตอนนั้นฉันยังไม่เกิด " 

หมาป่าตอบว่า " อะไรกัน เจ้าช่างไม่มีความละอาย ครอบครัวของเจ้า เกลียดครอบครัวของข้า ถ้าไม่ใช่เจ้าเป็นคนด่า ก็คงเป็นพ่อของเจ้า " เมื่อพูดจบก็ตรงเข้าขย้ำลูกแกะ... ลูกแกะน้อย ก็ใช้วิชาตัวเบา หายตัววับไปจากที่นั้น ปล่อยให้เจ้าหมาป่า ต้องอดกินอาหารที่วางไว้ตรงหน้า ด้วยเสียดายไปอีกนานแสนนาน... 


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้ที่ไม่มีความกรุณา จะไม่ยอมรับฟังเหตุผล เนื่องจากมีความโหดร้าย และ ความอยุติธรรมในใจ จึงเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ในการที่จะไปต่อปากต่อคำด้วย ผู้ที่กดขี่ข่มเหงมักจะหาทางที่จะทำลายเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจนได้

การหายตัวไปจากพื้นที่เสี่ยงภัย ที่เจ้าหมาป่า วางแผนหมายพับกระดานขย้ำ... แล้วแปลงกายเป็นมดงาน ช่วยกันเก็บงำของทำความสะอาดสถานที่อย่างเรียบร้อย.. ปล่อยให้หัวหน้าฝูงเจ้าหมาป่า ที่สู้อุตส่าห์ ลงทุนและวางแผนโดยรอบคอบอย่างดี ต้อง งงเล่น..โดย จะเป็นเรื่องที่ตราตรึงใจบรรดาฝูงหมาป่าไปอีกตราบนานเท่านาน 
ด้วย นี่แหละ โดยแท้ คือ การพัฒนาประชาธิปไตยให้คนทั้งแผ่นดินได้ชาญฉลาดเกิดสัมมาปัญญา








ความเห็น (1)
ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

ขอบ่น จาก สถานการณ์สนามม้า... ฤา ว่า...ผู้บริหาร ฯ ไม่เข้าใจ สิทธิ โดยสงบของประชาชน ทั้งวิปฏิสาร...


เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องยุติการชุมนุมกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ชี้ไม่ปรากฏมูลเหตุล้มล้างการปกครอง


“เสธ.อ้าย” ส่งตัวแทนและทนายความแจงวัตถุประสงค์ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ย้ำไม่เคยพูดแช่แข็งประเทศไทย แต่แช่แข็งนักการเมืองชั่ว ยันใช้สิทธิ์ตาม รธน.ทุกประการ

ฤา ครั้งนี้ ที่สุด การป้องกัน.. จน ป้องเกิน..

เมื่อ ศาล รธน.ไม่รับคำร้อง
มิใช่ เห็นพ้อง หากเสมือนป้องเจตนาการชุมนุม คือ ชุมนุมโดยสงบทำได้..ไม่ผิด
เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับประกาศใช้ พรบ.มั่นคงก่อมลพิษ
ผล คือ ประชาชนรถติดเดือดร้อน กรรมย้อนศร ทั้งที่ผู้ชุมนุมโดยสงบยัง ไม่มา 

นี้ จึงคือมัดตราสังข์ การกระทำตน โดยตน ของเหล่าเจ้าหน้าที่ พนักงานรัฐ ฯ ชัดเจนแท้


***********************************************************************************************************


งานแผ่นดิน ครั้งนี้ จักได้พิสูจน์คำสอน ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัส ฯ สอนพระภิกษุ โดยเราสามารถนำบูรณาการใช้กับสถานการณ์ครานี้ว่า.. ” ผู้ใด โกรธตอบ ผู้โกรธก่อน ให้ถือว่า…ลามก หรือ เลวร้ายกว่าผู้โกรธก่อน ”


ปรากฏการณ์ ครานี้ ทั้งแผ่นดินจะเห็นว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่… กับ ประชาชนผู้เดินทางมาโดยสงบ ใครจะโกรธใครก่อน หรือหากจะดีที่สุด ไม่มีใครโกรธต่อกันโดยต่างคนต่างทำหน้าที่ ผลดีก็จะเกิดกับแผ่นดินโดยแท้

ด้วยเพราะพลังสงบที่มากมาย ครั้งนี้ ก็เพียงพิสูจน์ ถาม รัฐบาลเป็นหลัก จากที่นำพาแผ่นดินเสียหาย…หลายด้าน ให้รับผิดชอบ หรือควรถอนตัวออกไปเสีย… ฯลฯ


เบื้องต้น… ฟังถ้อยคำ ประชาชนที่เดือดร้อนบ่นเข้ามาให้ฟัง… บัดนี้ มีผลกระทบเกิดแล้ว นั่นคือ ม็อบตำรวจจำนวนมาก กว่า สองหมื่นนาย เข้ามาปิดเส้นทางสัญจรของประชาชนทั้งที่ยังไม่มีม็อบเกิดขึ้น ดังนั้น ภาคประชาชน จะต้องประกาศ ใช้ พรบ.ฉุกเฉินฉบับประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับกฏหมายรัฐธรรมนูญ โดย ห้ามตำรวจชุมนุม หรือ รวมกลุ่มกันเกิน ๓ นายขึ้นไป

ด้วยถือว่า… ที่ปรากฏ ณ บัดนี้คือ ความเดือดร้อนวุ่นวาย และ ขัดขวางสิทธิการสัญจรของประชาชนโดยสงบ…และ หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายใด ฝ่าฝืน จะถูกจับติดคุก ขี้แมวซะ ( รับรอง เหม็นกว่าคุกขี้ไก่อีกนะ…)



.





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ


มองแกนนำ พธม. สัมผัสว่า เป็นแกนแห่งความไม่ประมาทในความสำคัญ โดย หมายสานต่อ หรือ โดยสามารถพิจารณาช่วยไปตามสถานการณ์ดังบทเรียนที่สะสมอย่างพร้อมรับผิดชอบ

โดย แถลง ท่าทีเห็นด้วย อย่างไม่ประมาท
การทำงานเพื่อชาติ ต้องแจ่มชัดหนอ
ความเป็นลูกผู้ชาย ตรงไปตรงมา ไม่ยั้งรอ
เป็นลูกต่อ หากพลั้ง จาก กังฉิน

การไม่ประกาศร่วมเป็นทางการ หากเห็นด้วย
จักได้ช่วย เป็นทัพเสริมเล่นงานกังฉิน ให้สิ้น
ถึงเวลาประชาไทยกวาดทุนนิยมสามานย์ ให้หมดแผ่นดิน
ครานี้ ทุกถ้วนถิ่น ร่วมรู้รักษ์สามัคคี พร้อมมีสติ ฯ ตรงสัมมา ฯ เต็มที่เทอญ

***********************************************************************************************************

ลักษณะผู้ใหญ่ที่ดี ก็ต้องเป็นผู้ใหญ่ที่เดินตรงทาง.. และสามารถบอก สอนคนอื่นให้สามารถเดินตรงทาง โดย ไม่ทำเป็นเลียนแบบ ปู... ที่แม่ปู เดินไม่ตรงทาง แล้วจะบอก จะสอนลูกปู ให้เดินตรงทาง ย่อมมิใช่ ฐานะ ย่อมเป็นผู้ใหญ่ที่ดีไม่ได้... ดังเช่น นิทานที่อ่านมาแต่เด็ก แม่ปู สอนลูกปู


เมื่อในนิทานแม่ปู นำหญิงปู..มาอยู่ผิดที่
จักต้องจับ ปูนารี คืนที่หมาย
ถิ่นของเจ้า ที่ใด ?
เดินกลับเอง เป็นไหม ? ฮึ !!! เจ้าปู..

เจ้ามีปกติ เดินไม่ตรง
มหาชนทั้งแผ่นดิน จักต้องไปส่ง ถึงที่อยู่
สำนึกถึงถิ่นเถิด เจ้าปู
ถึงเวลาลงรู ไปได้แล้ว

๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ จับปู กลับทะเลกว้าง หรือ คืนพื้นทุ่งนาอย่างเมตตา



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ







ขอบ่น ซะหน่อย... 

เหตุเกิด ที่ วิทยุธรรมะ ศูนย์เตือนใจ มีใบอนุญาตออกอากาศ จ.นครสวรรค์ คลื่น ๙๑.๐๐ เมกกะเฮิร์ต ทำงานมาเกือบ ๑๐ ปี มาเจอปัญหา เมื่อวิทยุจากศูนย์เตือนภัย ทับ


คลื่นศูนย์เตือนภัย ทับ คลื่นศูนย์เตือนใจ 
เกิดผลกระทบใจ เต็ม ๆ ใจรู้
ทั้งคลื่นศูนย์เตือนภัย มีโฆษณามาก มอมเมา ฯ ประชาชน

ศูนย์เตือนใจ ก็ต้องหยัดกู้ แผ่นดินใจ ฝึกฝนตลอดเวลา...


ความสำคัญที่ขาดแคลนของโลก คือ การให้คนได้เกิดมีภูมิคุ้มกันใจ เพื่อให้จิตใจมั่นคง มีศีล มีอาริยะทรัพย์ นี้คือ คุณค่า และคือ ความสำคัญสูงสุด 

หากแผ่นดินนี้ ไร้ผู้บริหารที่เป็นบัณฑิต ไร้สัมมาทิฐิ โลกทุกวันนี้ จึงเดือดร้อนเต็มไปด้วยปัญหาทุกหย่อมหญ้า...



ความเห็น (2)

หากไม่มีไฟจี้ก้น หรือ สั่นคลอนตำแหน่งหน้าที่...ก็คงรั้น ไม่ฟังเจตนาที่ห่วงใย


เจ้าคนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ แทนที่จะกตัญญู - กตเวทีโลก หากเนรคุณต่อโลก จนพระแม่ธรณี ดิน น้ำ ลม ไฟ ธรรมชาติแปรปรวนไปหมด ก็แน่นอน เมื่อต่างได้หลงทำผิด ทำร้ายธรรมช

าติ ธรรมชาติก็ย่อมย้อนกลับมาลงโทษ

เมื่อเจ้าคนทำผิดธรรมชาติจนธรรมชาติสะท้านสะเทือนแล้ว เหล่าเจ้าคนจอมเนรคุณพยายามจะสร้างศูนย์เตือนภัย...ที่เพียงหมาย จ้องงาบใช้งบประมาณเป็นการแฝง ในใจอีกชั้นหนึ่ง... โดย หมายให้เจ้าคนจอมเนรคุณหนีทัน 

แต่อีกด้านของพฤติกรรมเจ้าคน ก็คงทำลายธรรมชาติต่อไม่มีหยุดหย่อน 

ดังนั้น ความสำคัญที่ยิ่งกว่า " ศูนย์เตือนภัย " จึงคือ " ศูนย์เตือนใจ "

โลกและแผ่นดินต้องมี "ศูนย์เตือนใจ" ความขาดแคลนที่ต้องเร่งสร้างให้เกิด ให้มี จึงคือ คุณธรรมที่แต่ละศาสนาจักต้องช่วยกัน มิใช่ ปล่อยให้ทุนนิยมสามานย์ลากถูลู่ ถูกังแบบนี้ ทั้งรู้...

หากสถานการณ์บ้านเมืองพ้นจากมือกังฉิน หน่วยงานที่ดูแลสื่อแผ่นดินจักได้ยินเสียงบ่นจากเจตนาที่ห่วงใยซะที

กสทช.เริ่มบิดประเด็นบกพร่องจากที่ไม่ปรากฏมีหลักฐานการสมยอม หรือ ฮั๊วประมูลจากเอกชนเพียง ๓ ราย ที่เข้ามาประมูล โดย จุดนี้ มิใช่ปมแห่งปัญหาที่สังคมเขาทักท้วงมาแต่ต้น  

 

หากการออกกติกาประมูลที่สังคมรู้แล้วว่า เอกชนที่จะมา มีสามรายเท่านี้แหละ... การที่มีคนแม้ ใน สำนักงาน กสทช.เอง นั่นแหละ ก็รู้สึก และท้วงติงแบบรู้แก่ใจแล้วต่าง เพื่อการออกกติกาประมูลที่เหมาะสมกว่าที่กระทำนั่นต่างหาก ที่ทำให้ชาติต้องสูญเสียผลประโยชน์และรายได้...

 

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

ยุทธวิธี ๘ ขั้นแห่งการเป็นผู้พิชิต 

(พาหุง ๘ ที่พิสูจน์ได้)  http://asoke.info/09Communication/DharmaPublicize/Book/bhahung.html



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

 คำว่า " ความรับผิดชอบ ต่อส่วนรวม ต่อแผ่นดิน " จักต้องมีวุฒิภาวะ ฯ ที่จะบริหารราชการแผ่นดิน อย่างเสียสละ ทุ่มเท ฯ  ล้วนเป็นเรื่องที่ ผู้ ปฏิบัติ จักต้องมีภูมิธรรมตามจริง ตรงจริง และ พึงปฏิบัติได้แท้ ตามที่อาสา ทั้งกล่าวปฏิญาณผ่านพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ มิใช่ คือ กระทำเล่น ให้เกิดผลเป็นที่ประจักษ์ มิใช่ เพียงลมปาก ทั้งกระทำตรงกันข้าม ดังที่เป็น ๆ กันมา แล้ว โกหก สีขาว ต่อแผ่นดิน ฯลฯ

มิฉะนั้นแล้ว ผลแห่งวิบากกรรมที่ก่อ จะย้อนสนองกลับเป็นร้อยเท่า ทวีคูณ จะสำนึกก็สายเกินแก้แล้ว


ตัวอย่าง คำปฏิญาณตน


คำปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล

ข้าพเจ้า (เอ่ยยศ นาม และนามสกุล) ขอกระทำสัตย์ปฏิญาณว่า

ข้าพเจ้า จักยอมตาย เพื่ออิสรภาพ และความสงบแห่งประเทศชาติ

ข้าพเจ้า จักอยู่ในศีลธรรมของศาสนา

ข้าพเจ้า จะเทิดทูนและรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า

ข้าพเจ้า จักรักษาไว้ ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ข้าพเจ้า จักเชื่อถือผู้บังคับบัญชา และปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ทั้งจักปกครองแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความยุติธรรม

ข้าพเจ้า จะไม่แพร่งพรายความลับของราชการทหารเป็นอันขาด


การปฏิญาณตนครั้งแรกของสมาชิกรัฐสภา

การปฏิญาณตนของสมาชิกรัฐสภาเริ่มขึ้นครั้งแรกในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ ๑/๒๔๗๕ ในวันอังคารที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕ ซึ่งเป็นการปฏิญาณตนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีหลวงประดิษฐ์มนูธรรม เป็นผู้นำปฏิญาณ ดังนี้

“ข้าพเจ้า (ออกนามผู้ปฏิญาณ) ขอให้คำปฏิญาณว่าจะซื่อสัตย์ต่อคณะราษฎรและจะช่วยรักษาหลัก ๖ ประการของราษฎรไว้ให้มั่นคง

๑. จะต้องรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลาย เช่น เอกราชในการเมือง ในทางศาล ในทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ของประเทศไว้ให้มั่นคง

๒. จะรักษาความปลอดภัยในประเทศให้การประทุษร้ายต่อกันลดน้อยลงให้มาก

๓. จะต้องบำรุงความสมบูรณ์ของราษฎรในทางเศรษฐกิจโดยรัฐบาลใหม่จะพยายามหางานให้ราษฎรทำโดยเต็มความสามารถจะร่างโครงการณ์เศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก

๔. จะต้องให้ราษฎรได้มีสิทธิเสมอภาคกัน

๕. จะต้องให้ราษฎรได้มีเสรีภาพมีความเป็นอิสสระ เมื่อเสรีภาพนี้ไม่ขัดต่อหลักการ ๔ ประการ ดั่งกล่าวแล้วข้างต้น

๖. จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร” 


ปัจจุบัน ( ข้อมูล จาก นสพ.แนวหน้า)

๑. คำปฏิญาณของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก ซึ่งต้องกระทำในที่ประชุมต่อพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัว ก่อนปฏิบัติหน้าที่ด้วยถ้อยคำว่า

“ ข้าพเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ ” (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๒๓)


๒. คำถวายสัตย์ปฏิญาณของคณะรัฐมนตรีก่อนรับตำแหน่ง ซึ่งกระทำต่อหน้าพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้

“ ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ของถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฎิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๗๕)


๓. คำปฏิญาณของคณะตุลาการก่อนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งกระทำต่อหน้าพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเช่นเดียวกัน ด้วยถ้อยคำว่า

“ ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ในพระปรมาภิไธยด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยปราศจากอคติทั้งปวง เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ประชาชน และความสงบสุขแห่งราชอาณาจักร ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมายทุกประการ ” (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐)

๔. คำปฏิญาณของทหารในวันกองทัพไทย พิธีกระทำกันในวันที่ ๒๕ มกราคม ของทุกปีซึ่งเป็นวันกองทัพไทย โดยมีถ้อยคำว่า

“ ข้าพเจ้า (ชื่อและนามสกุล) ขอกระทำสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจักยอมตายเพื่ออิสรภาพและความสงบแห่งชาติ ข้าพเจ้าจักรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ข้าพเจ้าจักอยู่ในศิลธรรมของศาสนา ข้าพเจ้าจะเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพเจ้าจะเชื่อถือผู้บังคับบัญชาและปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัด ทั้งจักปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาโดยยุติธรรม ข้าพเจ้าจะไม่แพร่งพรายความลับของทางราชการทหารเป็นอันขาด ”


ที่มา... จาก หนังสือพิมพ์ แนวหน้า ฉบับวันอังคาร ที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕ 

( ฉบับนี้ ได้เขียน นสพ.แนวหน้า สะกด เดือนผิด เป็น วันอังคาร ที่ 06 พฤสจิกายน พ.ศ. 2555 )


.




ความเห็น (1)

สื่อสร้างสรร..  ขยัน ช่วยสังคม..  ระดมบุญคุณธรรม..



http://www.boonniyom.com/RadioOnline.aspx

http://asoke.info/pacradio.html

 

 

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

เห็นข่าวพายุ ถล่มอเมริกา ในใจ คิด สงสารประชาชน  หากในแว๊บหนึ่งของความคิด ใยจิตหวลคิดถึงนาซ่า ณ สนามบินอู่ตะเภา เมื่อภัยธรรมชาติโถมเจ้าแห่งทุนนิยมสามานย์ ผู้อวดเก่ง ต้องรับวิบากกรรม นำให้ประชาคมโลกตื่นรู้ความจริง ในการป้องกันได้แท้ หรือไม่...


วิบากกรรม สั่งสอน คนอวดเก่ง

นึกว่า ตนเจ๋ง แผ่อำนาจทั่ว

มาขอสนามบินอู่ตะเภา ตรวจอากาศ เร่งระรัว

แผ่นดินตัว โดน ภัยธรรมชาติ แฉ..แหล..ใครต่อใคร


ประชาชน เป็นผล ต่างเดือดร้อน

คนอวดเก่ง โดนธรรมชาติสั่งสอน ป้องไม่ได้ เรื่องใหญ่

การไม่เคารพธรรมชาติ ที่เป็นไป

ควรป้องภัย ที่ตนจนเกิดผล อย่าแฝงปนความร้าย อยากใหญ่ เหนือแผ่นดินใคร ฯลฯ 


ยิ่งนานวัน สังคมโลกยิ่งเห็นว่า...ได้เสียเวลาไปมาก ถึงงเวลา ที่ต้องมาแก้ปัญหา ที่ต้นตอ... โดยธรรม

เพราะ...

ศีลธรรม ไม่กลับมา โลกาจักวินาศ

ตราบที่การศึกษา ไม่เป็นไปเพื่อการลด ละ กิเลส กู้ประเทศไม่ได้







ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

หากประเทศ มีผู้นำ ฯ ที่สัมมาทิฐิ ย่อมจะพยายามให้เกิดมี "ศุนย์เตือนใจ" ก่อเกิดมาก ๆ เพราะจะช่วยสร้างสำนึก เกิดคนดีมีศีล ช่วยให้คนลด ละ เลิกความเห็นแก่ได้ ความเห็นแก่ตัว เกิดการเสียสละเกิดผลดีแก่โลก แก่แผ่นดิน โดยแท้


ด้วยประเทศ มีผู้นำ ฯ ที่.. มิจฉาทิฐิ เพราะนอกจากจะไม่สร้าง "ศุนย์เตือนใจ" แล้ว ยังพยายามลดจำนวนลง ทั้งตั้งใจบั่นทอน สถานีศูนย์เตือนใจ และ หันไปสนับสนุนสถานีมอมเมาให้คนหลงทางหนักขึ้น 

ก่อเกิดความโลภ ความเห็นแก่ได้ ความเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ โดย ใช้ภาษาที่โก้ หรู เสมือนดูดี ว่า... นี้ เป็นการส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันเสรี ฯลฯ  หากโดยแท้ นี้คือ การทำร้ายตนเอง ทำร้ายแผ่นดิน และทำร้ายโลก อย่างถาวรและไม่บันยะบันยัง





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ครูบาบินก้าว
เขียนเมื่อ

มาช่วยกันเพิ่ม สัมมาทิฐิให้สังคม...

" ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมืองและคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ "

พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๖ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๑๒


******************************************************************************************************

ลักษณะตัวอย่าง การไม่เอื้อ ให้เกิดการส่งเสริมให้เกิดคนดี

******************************************************************************************************


เมื่อบรรดาองค์กรอิสระ และผู้บริหาร ฯ ระดับต่าง ๆ  ใน สังคม ยังขาดซึ่งสัมมา... บรรดารัฐบุรุษ - รัฐสตรี ที่มีสัมมาปัญญาแจ่มชัด ก็จักต้องช่วยกัน ทุ่มเท เพิ่มสัมมาปัญญาให้สังคมอย่างต่อเนื่อง...


ตัวอย่างองค์กรอิสระ ที่เป็น กลไกของการดูแลสื่อ ให้เกิดคุณธรรม โดย สังคมแห่งสื่อคุณธรรม ในฝ่าย ศาสนจักร ที่ได้ขวนขวาย ก่อเกิด และ มุ่งทำงานนำร่องมาก่อนจะมีหน่วยงาน ที่ชื่อ กสทช. ที่เข้ามาดูแล โดยตรง กว่า ๑๐ ปี


ครั้นมี กสทช. กลับไม่คิดสานต่อ หากกลับเริ่มคิดใหม่ ทำใหม่ ที่ทิ้งน้ำหนัก โดย ให้ความสำคัญ โดย เห็นเพียงทุน เห็นยอดเพียงกำไร โดย ไร้การส่งเสริมให้เกิดสัมมาปัญญา โดย กำหนดให้ใช้สเป็คสื่อคุณธรรม..เสมอเดียว...กับ...สื่อมอมเมาไร้สาระ เฉกนี้  สังคมนี้ แผ่นดินนี้ จึงขาด "ศูนย์เตือนใจ "  นี้เพราะ ใน กสทช. ไร้ซึ่งบัณฑิต จึงไม่เห็นความสำคัญ ในการนำปฏิบัติ เพื่อพัฒนาคน  พัฒนาทรัพยากรมนุษย์  ดังเช่น พระราชดำรัส ฯ ข้างต้น...

**********************************************************************************************************




ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท