ภาพที่สร้างไม่ได้ ทั้งลบออกก็ไม่ได้ คือ ความจริงที่ปรากฏ
คุณภาพของคน มิใช่วัดกันที่ รูปธรรมเก่งงาน หรือ เพียงเห็นคุณภาพงาน
คุณภาพของคน หากคือ ความมั่นคงทรงคุณธรรมแห่งตนทั้งต่อหน้าและลับหลัง
คุณภาพในการสมาทาน ศีล ๕
คุณภาพในการสมาทาน ศีล ๘
คุณภาพในการสมาทาน ศีล ๑๐
คุณภาพในการสมาทาน ศีล สูงกว่านั้น
ผู้มีคุณภาพ จักมั่งคงในทุกสถานการณ์
ผู้มีคุณภาพ จักมั่งคงในทุกสถานที่
ผู้มีคุณภาพ จักมั่งคงในทุกหน้าที่ และ ในทุกอาชีพ อย่างตรงสัมมา ฯ
ไม่มีความเห็น
” โลกุุตระ ทำเหมือนโลกียะแต่ไม่มีกิเลสปน “ พ่อท่าน ๓๐ พ.ย. ๒๕๕๔
ไม่มีความเห็น
เมื่อบุคคล หรือ กลุ่มบุคคล เจออคติ คือ ความลำเอียง ครอบงำจิตใจ อันคือ
ในใจ ใครใด มีอคติอย่างไร...ต่อใคร ก็ย่อมแสดงออก...ตามสัมมาปัญญา ตามมิจฉาปัญญา ตามที่ตนมีอคติ...
เมื่อแสดงออกไปแล้ว ตัดสินใจไปแล้ว จะเสียใจภายหลัง หรือจะอย่างไรต่อไป นั่นก็จะคือ มโนธรรมสำนึกแห่งตน จะค่อย ๆ บอกตน สอนตนให้รู้ ให้ตื่น ให้เบิกบาน หรือ คงหลงทางต่อไป
เมื่อได้ชัดแท้ในจิตแน่ ๆ แล้วว่า กิจใด ๆ ที่กระทำอยู่ จิตของเรา ทั้งเจตนาที่เป็นกุศลของเราต่องานนั้น ๆ ต่อการกระทำนั้น ๆ ที่จะมีผลต่อบุคคล ต่อกลุ่มบุคคล กระทำอยู่เหนืออคติ...โดยแเท้แน่แล้ว ก็พึงประมาณโดยสัปปุริสธรรมให้จงดี และมีความมั่นคงเท่าที่เรามีสมรรถนะ ความสามารถ
นมัสการครับพระคุณเจ้า
ใช้กับครูอาจารย์ได้เลยครับ ;)...
เมื่อบุคคล หรือ กลุ่มบุคคล เจออคติ คือ ความลำเอียง ครอบงำจิตใจ อันคือ
ในใจ ใครใด มีอคติอย่างไร...ต่อใคร ก็ย่อมแสดงออก...ตามสัมมาปัญญา ตามมิจฉาปัญญา ตามที่ตนมีอคติ...
เมื่อแสดงออกไปแล้ว ตัดสินใจไปแล้ว จะเสียใจภายหลัง หรือจะอย่างไรต่อไป นั่นก็จะคือ มโนธรรมสำนึกแห่งตน จะค่อย ๆ บอกตน สอนตนให้ตื่น ให้รู้ ให้เบิกบาน หรือหลงทางต่อไป
หากชัดแท้ในจิตแน่ ๆ ว่า กิจใดที่กระทำอยู่ จิตของเรา เจตนาของเราอยู่เหนืออคติ...โดยแท้แล้ว ก็พึงประมาณโดยสัปปุริสธรรมให้จงดี และมั่นคงเท่าที่เรามีสมรรถนะ ความสามารถ
ไม่มีความเห็น
เพราะใจที่ซื่อ ตรงไปตรงมา อาจจะไม่เหมือนใครด้วยเป็นบุคคลส่วนน้อยของสังคม หากก็จักคือ ประกายแห่งความสดใสเป็นประกายแห่งบุคคลศีลธรรมที่พึงให้เกิดมีในสังคม...แม้อาจมีคนเข้าใจผิดไปมากบ้าง น้อยบ้าง
กว่าแต่ละคนจะเรียนรู้ว่า การแสดงออกของตน ในแต่ละช่วง ๆ หากเบื้องหลัง ก็คือ...
คนมีกิเลส กามราคะ ก็จะเพ่งโทษคนนั้น คนโน้น ในเรื่องที่ตนเอาเรื่อง ด้วยสายตาคนมีราคะ
ตอนมีกิเลส โทสะ ก็จะเพ่งโทษคนนั้น คนโน้น จ้องเอาเรื่อง ด้วยสายตาคนมีโทสะ
ยามที่คนมีกิเลส โมหะ ก็จะไม่รู้สึกกระทั่งตนเพ่งโทษคนนั้น เอาเรื่องคนนี้ ด้วยสายตาคนโมหะ
ด้วยเราจะไปบังคับทิศทางความคิดใครไม่ได้ แม้เราเอง
กว่าจะชัดเจนในบทเรียน... ตนของตนก็ต้องพัฒนาตน มีศีล ซื่อ สดใส ฯลฯ เรื่องของใคร ก็ของใคร โดยเราไม่มีอะไรที่เป็นภัย กับ ใคร แม้ที่ผ่าน ก็อาจจะเคยเป็นภัย ที่ผู้รู้ เข้าใจ และอภัย
ไม่มีความเห็น
คนธรรมดานั้น หากมีศีลเป็นอยู่อย่างขยัน ร่าเริง เบิกบาน สดใส พัฒนาตนจนเบาบาง จาง คลายจากกองกิเลส ก็มีสิทธิ เป็นอาริยะชนคงประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน คุ้มครองตนทั้งมีส่วนช่วยงานบริหารประเทศได้
ไม่มีความเห็น
คนธรรมดา ๆ หากมีศีลเป็นอยู่โดยปราศจาคกองกิเลส ก็มีสิทธิ เป็นอาริยะชนได้แน่
ไม่มีความเห็น
คนทำผิดมักจะรู้สึกว่ามีคนมาจ้องจับผิดตนหากในความจริงไม่มีใครที่จะคอยตามจับผิดใครหรอกความผิดของคนผิดนั่นต่างหากที่ติดตามและจับผิด ความผิดนั้น
เจ้าของชีวิตสะอาดทุกผู้… ย่อมทำความปรากฏเบื้องหน้า ในความสดใส สะอาด และเป็นไท..แม้ต้องฝ่าด่าน กำแพงบาป สาดใส่ จมโคลน
ไม่มีความเห็น
ทุกเหลี่ยมมุมของแต่ละชีวิตต่างมองกันและกัน ทั้งสรุปกัน ด้วยฐานที่แลด้วยสายตา… เสมอว่า ตนอ่านทะลุปัญหา ในฐานะเจ้ากรมข้อมูลชีวิตตัดสินสรุปคน
ไม่มีความเห็น
ใช้ สัมมาปัญญาแก้ปัญหา จักพัฒนาตน…ช่วยแท้ มหาชน… หากใช้ อารมณ์ เอาแต่ใจ ในการแก้ปัญหา จักคือ ยิ่งทำร้ายตนและทำลายมหาชน
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ
คมบาดขนาดเน้อ ^___^
น้ำ…ยัง งง !!!
เจ้านาย ของน้ำ หลายคนจึงต้อง หลงวน ไม่จากหายน้ำ…งง คำสั่ง ใครต่อใครชาวบ้าน จึงได้ ทุกข์ ถ้วน หน้า แท้.
ไม่มีความเห็น