GotoKnow

อนุทินล่าสุด


ปภังกร
เขียนเมื่อ

วันนี้พนักงานธนาคารกรุงเทพ ได้พร้อมเพรียงกันมาถือศีล ปฏิบัติธรรม เพื่อให้ธนาคารดีขึ้น "การที่จะดีขึ้นนั้น พนักงานทุกคน ต้องปฏิบัติธรรม..."

เริ่มต้นตั้งแต่กิริยามารยาท การอ่อนน้อมถ่อมตน พูดจาไพเราะ บริการทั้งในสถานที่และนอกสถานที่ คำพูดเพื่อให้กำลังใจ ต้องใช้กิริยามารยาทที่ดีทั้งต่อเพื่อนร่วมงานและประชาชนที่เราเกี่ยวข้อง อย่าให้มีการทะเลาะกัน เพราะว่าทำงานส่วนใหญ่ ส่วนรวม มันต้องเอาส่วนรวม อย่าเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง อย่าเอาเรื่องส่วนตัว

ต้องทำงานให้มีความสุข ให้คิดว่าเราจะช่วยเหลือบุคคลอื่นช่วยเหลือประเทศไทย เราจะไปรวยเฉพาะตั้งแต่ธนาคารนั้นไม่ได้ ประชาชนต้องได้ดีด้วย

..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/590080

ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น
ปภังกร
เขียนเมื่อ

คนเราจะมีความสุขท่ามกลางเศรษฐกิจกระแสหลักได้ ต้องมีความขยัน และอดทน "ร่างกายสุขภาพต้องดี"

คนเราถ้าสุขภาพร่างกายไม่ดี ใจจิตก็อ่อนแอ และซวนเซ ถ้าสุขภาพดี เราก็สู้ทนกับอุปสรรคต่าง ๆ นานาได้

เพราะการดำเนินชีวิตตามกลางเศรษฐกิจกระแสหลัก ซึ่งแทบทุก ๆ ย่างก้าวต้องมีคำว่า "เงิน" เข้ามาเกี่ยวข้อง ร่างกายของเราต้องรับภาระหนัก ทั้งจากการสู้ทนทำงาน ทั้งจากมลพิษ ทั้งจากสิ่งแวดล้อม หู ตา ก็เสพสื่อ ลิ้นก็สัมผันสิ่งที่ชวนหลง จมูกก็สูดดมทั้งของหอมและละอองแห่งมลพิษ จิตใจก็ถูกมอมเมาด้วยความสุข ความสะดวกสบาย

คนที่ดำเนินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ ผู้ที่เดินทวนกระแสสังคม เขากินมาก เรากินพอเพียง เราเสพสุขมาก เราก็เสพพอเพียง เราต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง ซึ่งซ่อนอยู่ในร่างกายที่มีพลัง

ชีวิตเราต้องก้าวไปด้วยความดี ขาเราต้องมีแรง แขนเราต้องมีพลัง เพื่อที่จะถึงฝั่งแห่ง "ความพอ..."

..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/589767


ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น
ปภังกร
เขียนเมื่อ

ทีม "ใจดี ใจสบาย"

ผู้อำนวยกาโรงเรียนอนุบาลบวร จังหวัดนครราชสีมา นำคณะครูมาปฏิบัติธรรม สร้างความดี สร้างบารมี อบรมบ่มอินทรีย์ วันนี้พากันสกรีนเสื้อ "ใจดี ใจสบาย..."


ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น
ปภังกร
เขียนเมื่อ

การทำความดีเป็นการอัพเกรดชีวิต

ชีวิตเราทุก ๆ คนเกิดมาต้องทำความดี ต้องเสียสละ

ถ้าเราเกิดมาแล้วหลงอยู่ หลงกิน หลงนอน ชีวิตนี้ไม่มีค่าอะไรเลย มีแต่ที่จะตกต่ำไปเรื่อย ๆ

ชีวิตของเราต้องพัฒนาขึ้นทุกวัน ๆ และการพัฒนาชีวิตที่ยั่งยืนนั้นต้องพัฒนาด้วยความดี...


ความเห็น

for far
เขียนเมื่อ

^_^ พัฒนาด้วยความดี

ปภังกร
เขียนเมื่อ

ความดีเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจคน คนที่มีความดีหล่อเลี้ยงจิตใจ คนนั้นจะมีจิตใจที่เข้มแข็ง เพราะความดีเปรียบเสมือนน้ำทิพย์คอยชะโลมใจ มีไว้เพื่อนชำระล้างกิเลสและตัณหาที่คอยเกาะกินหัวใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จิตใจของคนเรานั้นประภัสสร แต่มีกิเลสจรเข้ามาถึงทำให้เศร้าและหมอง

ความดีนั้นและเป็นธรรมะภาคปฏิบัติที่จะชำระล้างกิเลสและอาสวะที่ปกคลุมจิตใจของเราได้

เราจะพัฒนาคนให้เป็นคนดี เราต้องพัฒนาด้วยความดี

ต้องสร้างสรรค์กิจกรรมดี ๆ เพื่อให้คนมีความดีไว้หล่อเลี้ยงหัวใจ

for far
เขียนเมื่อ

สาธุนะค่ะ

ปภังกร
เขียนเมื่อ

เมื่อคนเราได้ร่วมทุก ร่วมสุขกัน จะเห็นใจซึ่งกันและกัน

ในปัจจุบันนักศึกษาของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ (ส่วนใหญ่) พักอยู่ในหอพักนอก ซึ่งนักศึกษาจะได้มาแค่ "ร่วมกิจกรรม" ซึ่งมหาวิทยาลัยจัดไว้

ไว้ว่าจะเป็นกิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมเสริมต่าง ๆ แต่นั่นมันก็เป็นเพียง "กิจกรรม"

กิจกรรม เป็นสิ่งที่ "จัดขึ้น" แต่ก็ไม่ซึ้งเท่าสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

เพราะคนที่จะต้องอยู่ร่วมรวมกัน จะต้องรู้และสัมผัสนิสัยใจคอซึ่งกันและกัน

ในระหว่างกิจกรรมเราอาจจะเสแสร้ง แต่งสี เติมเพิ่ม สิ่งที่แสดงออกมาได้ แต่เมื่อใครต่อใครได้มาอยู่ร่วมรวมเป็นแรมเดือน แรมปี อุปนิสัย อุปกิเลส และ "สันดาน" จะปรากฏออกมาให้ทุกคนได้เห็นและสัมผัส

ความจริงใจเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต้องสร้างให้เกิดมีขึ้นจิตใจของนักเรียนนักศึกษาไทย

ความจริงใจนำเป็นสู่ความเป็น มิตรที่ดี มิตรที่ประเสริฐ จะจูงมือกัน ร่วมแรงร่วมใจกันทำความดี เพื่อชีวิตนี้และสังคมไทยให้ก้าวหน้าอย่างสดใสและยั่งยืน...

..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/589422


ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น
ปภังกร
เขียนเมื่อ

การสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งคือการนำเสนอในสิ่งที่ดี

ทุก ๆ คนในปัจจุบันเรียนรู้เป็น

เพราะเรามีตา มีหู มีจมูก มีลิ้น มีกายและมีใจ หรือแม้แต่บุคคลผู้ซึ่งพิการมาตั้งแต่กำเนิด เทคโนโลยีก็ช่วยเสริมอายตนะ ให้เขาเรียนรู้ได้

สิ่งที่ต้องคิดต่อและเติมให้เต็ม คือเราจะเอาอะไรใส่ไปในอายตนะเหล่านั้น

ปัจจุบัน "สื่อ" ถูกครอบครองด้วย "ผลประโยชน์"

ทุก ๆ อย่างที่บอก ที่สอนกัน ก็ล้วนแต่มีผลประโยชน์แอบแฝง

สิ่งดี ๆ สิ่งที่บริสุทธิ์จึงมีน้อยมากที่จะให้เราได้เรียนรู้

สิ่งที่ดี ๆ บางครั้งมันก็ไม่ตื่นเต้นเหมือนกับสิ่งที่ร้าย ๆ เพราะเมื่อนำเสนอคราวหน้าก็กระตุ้นหัวใจคนและสังคมได้เหลือคณา

ดังนั้นผู้ที่จะนำเสนอสิ่งดี ๆ ต้องหนักแน่น เข้มแข็ง และอดทน เพราะบางครั้งอาจจะไม่มีคนที่มาสนใจในสิ่งที่เรานำเสนอเลย

แต่นั้นก็ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะการทำดี สิ่งที่ได้กลับมาก็คือได้ "ทำดี"

เราต้องก้าวผ่าน "โลกธรรม" เสียงชม เสียงสรรเสริญ ดอกไม้ กำลังใจ เราก้าวข้ามผ่านและพ้นไป ขอให้จิตใจตั้งมั่นในความดี...


ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น
ปภังกร
เขียนเมื่อ

ช่วงนี้กำลังสกัดชีวิตความพอเพียง ๘ ปีแห่งความเพียงพอ

คนเรามีชีวิตอยู่ได้แบบสบาย ๆ ถ้าเรากลับมาแก้ที่จิตที่ใจ

ความหลง ความโลภ เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องแก้ไข เพราะถ้าไม่ได้ตามที่หลงและโลภ ความโกรธก็จะเข้ามาเยี่ยมเยือน

ปัญหาหลักของชีวิตคือสามตัวนี้ "หลง โลภ และ โกรธ"

ถ้าไม่หลงในวัตถุเสียได้ ก็จะเข้าใกล้ความพอเพียง

ถ้าไม่โลภในวัตถุเสียได้ ก็จะใกล้ชิดความพอเพียง

ถ้าเราไม่โกรธใคร ๆ หรืออะไรต่ออะไร ก็ปลดเปลื้องความทุกข์ไปได้อีกอักโข

ชีวิตนี้หันกลับมาเล่น ๓ เรื่องนี้ก็พอ (ความหลง ความโลภ และความโกรธ)

โจทย์ต่อไป จะทำอย่างไรให้ความรู้ที่เรามี และชีวิตที่เหลืออยู่นี้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด..?



ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น
ปภังกร
เขียนเมื่อ

มีความสุขเท่านี้ก็พอแล้ว ได้กินข้าวให้อิ่มท้อง ไม่ได้กินของแพง ของมีราคา กินของที่ใช้เชิดหน้าชูตา

มีบ้านสักหลัง ที่มีความรัก ความเมตตา ความอบอุ่น ให้แก่กันและกัน

ทายกายภาพของบ้าน ป้องกันแดด กันฝน กันภัยอันตรายต่าง ๆ ได้

ถ้าจิตใจของคนรู้จัก "พอ" อยู่ที่ไหนก็มีความสุข

ที่เราไม่พอ เพราะชอบจับจ้องมองดูผู้อื่น คนดีกว่า รวยกว่า สวยกว่า ดีกว่า เมื่อเรานำเราไปเปรียบเทียบ ความสุขก็เกิดทุกข์

คิดว่าเราดีกว่าเขาก็หลง คิดว่าเราด้อยกว่าเขาก็ทุกข์ หรือแม้แต่คิดว่าเสมอเขาก็ยังอยากจะดีจะเด่นกว่า

การแสวงหาวัตถุ หาเท่าไหร่ก็ไม่พอ ถมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม

เราต้องนำสมาธิมาถมใจของเรา ใจของเราถึงจะเต็ม เต็มอิ่มด้วยความพอ แล้วเราจะมีความสุขที่ "พอเพียง"

สมาธิต้องฝึกทุกวัน ในหนึ่งวันต้องฝึกหลาย ๆ ครั้ง แต่ทุก ๆ ครั้งต้องตั้งใจ

การเจริญสติสัมปชัญญะเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เพราะเราจะไปปฏิเสธสิ่งแวดล้อมไม่ได้ ปฏิเสธสังคมไม่ได้

รูป เสียง กลิ่น รส ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นสิ่งธรรมดาของโลก เมื่อเราอยู่ในโลกมันก็ต้องเจออย่างนี้ จุดสำคัญก็คือ เราจะอยู่ในโลกนี้อย่างไร ไม่ให้โลกนี้ทำร้าย ทำลายเราได้

สิ่งภายนอกทุกอย่างนั้นไม่มีปัญหา ถ้าใจของเราไม่มีปัญหา

ต้องฝึกใจ พัฒนาใจ ใช้สติ ใช้สมาธิ ที่แข็งแกร่ง แข็งแรง แล้วเราจะอยู่ในโลกนี้ได้อย่างมีความสุข


ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น
ปภังกร
เขียนเมื่อ

จิตใจของผู้ให้เป็นจิตใจที่สูงส่ง

จิตใจของผู้ให้เป็นจิตใจที่มีความสุขกว่าผู้รับ

จิตใจของผู้ให้คือจิตใจที่รู้จักว่า "อภัย"

อภัยทานจึงเป็นทานที่สูงค่ากว่าอามิสทาน...


ความเห็น

prayat duangmala
เขียนเมื่อ

เห็นด้วยอย่างยิ่งใจสุขกายสุข อนุโมทนาสาธุ

ปภังกร
เขียนเมื่อ

อิทธิพลต่อชีวิตและจิตใจคนในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ "สื่อ"

จิตใจคนที่อ่อนแอ ย่อมพ่ายแพ้แรงกระตุ้นและปลุกเร้าจากสิ่งภายนอกที่มากระทบ

อายตนะทั้ง ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เมื่อใดเราอ่อนแอ เมื่อนั้นก็ย่อมถูก "โจมตี"

สื่อพาให้เราโลภ สื่อพาให้เราโกรธ สื่อพาให้เราหลง เราคงจะไปปิดกั้นสื่อไม่ได้ เราจะเกิดมาหรือไม่เกิดมา โลกเขาก็เป็นอยู่อย่างนี้ แต่สิ่งที่เราจะทำได้ คือพัฒนาใจของตัวเองให้เข้มแข็ง มีเกราะป้องกันสิ่งภายนอกที่จะมากระทบ

กระทบแล้วก็ให้แล้วไป เห็นแล้วก็สักแต่ว่าเห็น ได้ยินแล้วก็สักแต่ว่าได้ยิน กินแล้วก็สักแต่ว่าได้กิน ให้สิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาเป็นแต่เพียง สักว่า ๆ เท่านั้น...

ทำอย่างไรจึงจะเข้มแข็ง ทำอย่างไรจะเกิดคำว่า "สักว่า ๆ" ในจิตในใจ

สมาธิ เป็นสิ่งที่สำคัญ คนเราถ้ามีสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์ ก็ไม่มีอะไรที่จะมาทำให้จิตใจของเรากระทบกระเทือนได้


ความเห็น

prayat duangmala
เขียนเมื่อ

ขออนุโมทนากับการปฏิบัติธรรมครับ ถ้ารู้ทันกับกิเลสชนะแน่อบจ อะไรกระทบก็ไม่หวั่นไหว

ปภังกร
เขียนเมื่อ

คนเราจะมีเศรษฐกิจพอเพียงได้ พื้นฐานที่สำคัญที่สุดคือการฝึกใจให้พอเพียง

การฝึกใจนั้นเป็นภาคปฏิบัติ จะคิดเอาคำนวณเอาไม่ได้

เป็นลาภอันประเสริฐที่เราได้มาเป็นมนุษย์และได้พบคำสอนของพระพุทธเจ้า

การฝึกใจให้พอเพียง เริ่มต้นตั้งแต่การให้ทาน

การให้ทานเริ่มต้นตั้งแต่การให้แบบง่าย ๆ คือการให้วัตถุสิ่งของ การให้นั้นเป็นการฝึกละความโลภ เมื่อให้มาก ๆ ความโลภของเราจะน้อยหลง เราจะรู้จักเผื่อแผ่เจือจานบุคคลอื่นมากขึ้น

การให้ระดับที่สูงขึ้นมา คือการอนุโมทนายินดีกับบุคคลอื่น

การยินดีกับคนอื่นนั้น ทำให้เราลดความ "ริษยา" หรือจะเรียกง่าย ๆ ว่า เราไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร ไม่ต้องไปอวดไปโชว์กับใคร ใครมีอะไรก็ยินดีกับเขา เขามีบ้านสวย มีรถหรู เราก็ยินดีอนุโมทนากับเขา ถ้าเราทำใจอนุโมทนายินดีกับเค้าได้ เราก็ไม่ต้องไปลุ่มร้อน หาเงินหาเงินมาซื้อวัตถุแข่งขันกัน...


ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น
ปภังกร
เขียนเมื่อ

คุณครูเป็นผู้ประเสริฐ... (ให้โอวาทคณะคุณครูจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั่วประเทศ)

http://www.gotoknow.org/posts/568378


ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น
ปภังกร
เขียนเมื่อ

 

ฟื้นฟูจิตใจ : โรงพยาบาลเซนต์เมรี่ รุ่นที่ ๑/๒๕๕๗

http://www.gotoknow.org/posts/565218


ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น
ปภังกร
เขียนเมื่อ

วิถีแห่งความดี : การท่าเรือแห่งประเทศไทย รุ่นที่ ๒

http://www.gotoknow.org/posts/564966


ความเห็น

กุหลาบ มัทนา
เขียนเมื่อ

อนุโมทนาสาธุค่ะ

ปภังกร
เขียนเมื่อ

โครงการวิถีแห่งความดี โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย รุ่นที่ ๑

๑๙ - ๒๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๗

http://www.gotoknow.org/posts/564944

 


ความเห็น

ทิมดาบ
เขียนเมื่อ

อนุโมทนาบุญครับอาจารย์

กุหลาบ มัทนา
เขียนเมื่อ

อนุโมทนาสาธุค่ะ

ปภังกร
เขียนเมื่อ

AAR : บัณฑิตแพทย์ มหาวิทยาลัยบูรพา

AAR : บัณฑิตแพทย์ มหาวิทยาลัยบูรพา


ความเห็น

ธิ
เขียนเมื่อ

ดีมาก ๆ ค่ะ ดูสงบจิตใจเตรียมไว้ให้พร้อมมาทำงาน

ปภังกร
เขียนเมื่อ

วันงานกฐินสามัคคีประจำปี ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างมุ่งมาเพื่อที่จะถวายผ้าพระกฐิน 

แต่หากเรามีโอกาสมองย้อนกลับไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง คนกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่งผู้ซึ่ง "ปิดทองหลังพระ" เป็น "ผู้อำนวยความสะอาด" ช่วยให้คนทั้งหลายที่มาในงาน "ปลดทุกข์" ได้อย่างสบายใจ คนกลุ่มเล็ก ๆ นี้จึงเป็นคนที่คนยกย่องและสรรเสริญ...  คอมฯศึกษา มรอ. สานต่อ "จิตสาธารณะ..."


ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย