ทั้งจากประสบการณ์ตัวเอง คำวิพากษ์ของเพื่อนครู รวมทั้งข่าวสารข้อมูลจากสื่อ พูดเป็นเสียงเดียวกัน งานของครูที่โรงเรียนมีมากมาย จนเวลาไม่พอ นอกจากงานสอน ครูยังต้องทำงานพิเศษอื่นๆ บางคราวต้องทำงาน หรือมีกิจกรรมร่วมกับชุมชน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยิ่งในปัจจุบันการประเมินตัดสินคุณภาพโรงเรียน และคุณภาพครู มักวัดกันด้วยเอกสาร ภาระงานครูจึงเพิ่มเป็นทวีคูณ
ผลที่ตามมามีมาก ที่สำคัญ น่าจะเกี่ยวข้องกับคุณภาพการจัดการศึกษา ตามที่องค์กรระหว่างประเทศเฝ้าติดตามวัดผลประเมินผลในหลายแห่ง รวมทั้งประเทศไทยเรา อาทิ
การจัดอันดับของ International Institute for Management Development (IMD) ปี 2553 ซึ่งมี 58 ประเทศทั่วโลกเข้ารับการประเมิน ในภาพรวมของไทย พบว่าอยู่ในอันดับที่ 47 เท่ากับปี 2552 เมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินเดีย และอินโดนีเซีย ประเทศไทยเรามีอันดับอยู่เหนือเพียง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอินเดีย
ภาระงานที่รับผิดชอบของครูมากกว่าเวลา(ทำงาน)ที่มีอยู่ น่าจะเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่ง
ครูส่วนใหญ่สอนไม่ต่ำกว่า 1 รายวิชาอยู่แล้ว บางโรงที่มีขนาดเล็กอาจสอนถึง 5-6 รายวิชา ยิ่งนับรวมกิจกรรมต่างๆเข้าไปด้วย ซึ่งทุกโรงต้องจัดตามหลักสูตร ทั้งชุมนุม จิตอาสา ลูกเสือ-เนตรนารี ยุวกาชาด หรือผู้บำเพ็ญประโยชน์ ครูแต่ละคนอาจสอนถึง 8-9 รายวิชาเลยทีเดียว
สำหรับชั่วโมงสอนแต่ละสัปดาห์ โรงเรียนที่มีครูมากหรือเกินเกณฑ์ ซึ่งในปัจจุบันน่าจะหายาก เพราะอัตรากำลังครูตกอยู่ในภาวะขาดแคลนอย่างหนัก แม้แต่โรงเรียนขนาดใหญ่ก็เถอะ อย่างไรก็ตามโรงเรียนที่มีครูเกิน ชั่วโมงสอนอาจน้อย แต่โดยเฉลี่ยก็น่าจะเริ่มกันตั้งแต่ 10 ชั่วโมง/สัปดาห์ขึ้นไปด้วยกันทั้งนั้น ขณะที่โรงเรียนขนาดเล็ก ครูมีน้อยคน ชั่วโมงสอนอาจสูงถึง 20-30 ชั่วโมง/สัปดาห์ ระดับประถมยิ่งซ้ำร้าย เพราะครูสอนประจำชั้น สอนทุกวิชาทั้ง 8 กลุ่มสาระ ต้องอยู่กับเด็กตลอดทั้งวัน มิหนำซ้ำบางโรงครูขาด ครูคนเดียวต้องสอน 2-3 ระดับชั้นพร้อมๆกัน
หากเฉลี่ยวันหนึ่งทำงาน 7 ชั่วโมง หนึ่งสัปดาห์ทำ 35 ชั่วโมง ทดลองคิดจากชั่วโมงสอนครู 10-30 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดูเหมือนเวลายังเหลืออีกมาก แต่ไม่ใช่แค่นั้น ครูจะสอนแต่ละครั้ง ต้องเตรียมสอน เตรียมเนื้อหาสาระ เตรียมสื่อ-อุปกรณ์ หรือเตรียมอะไรอื่นๆอีก หลังจากสอนแต่ละครั้ง ครูต้องประเมินผลการเรียน อาจตรวจจากชิ้นงาน ตรวจสมุด แบบทดสอบ แบบฝึกหัด ใบงาน และ/หรือกิจกรรมต่างๆที่นักเรียนปฏิบัติ
ฉะนั้น การจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ การสอนในชั้น 1 ชั่วโมง ครูควรจะมีเวลาเตรียม 1 ชั่วโมง และตรวจงานอีก 1 ชั่วโมง หมายถึง สอน 1 ชั่วโมงจะมีภาระงานรวม 3 ชั่วโมง หากเวลากับภาระงานสอดคล้องความเป็นจริง ปัญหาการจัดการศึกษาต่างๆ อาจไม่ลุกลามเช่นทุกวันนี้
ไม่ต้องถึงกับสอน 1 ชั่วโมง คิดเป็นภาระงาน 3 ชั่วโมงก็ได้ ลองคิดแค่ 2 ชั่วโมงก็พอ ครูสอน 10 ชั่วโมงจะมีภาระงาน 20 ชั่วโมง ครูสอน 20 ชั่วโมงจะมีภาระงาน 40 ชั่วโมง บางคนสอนมากถึง 30 ชั่วโมง ภาระงานจะสูงถึง 60 ชั่วโมงเลยทีเดียว คิดแค่ชั่วโมงสอนเท่านั้น ภาระงานครูก็มากเกินเวลาที่มีอยู่ในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งมีเพียง 35 ชั่วโมงแล้ว
นอกจากสอน ครูยังต้องทำงานพิเศษอื่นๆด้วย อาทิ งานธุรการ พัสดุ การเงิน ทะเบียนนักเรียน วัดผลประเมินผล ดูแลช่วยเหลือ กิจกรรมนักเรียน งานอนามัย โภชนาการ อาคารสถานที่ งานกลุ่มสาระ งานแผน งานประกันคุณภาพ สารสนเทศ ฯลฯ แต่ละงานใช้เวลาทำไม่น้อย อย่าเข้าใจว่า ก็แค่คนละงาน โรงเรียนใหญ่อาจเป็นอย่างนั้น แต่โรงเรียนเล็กเป็นอย่างนั้นไม่ได้ เพราะจำนวนงานมีเท่ากัน ขณะที่โรงเรียนเล็กมีครูน้อยกว่า แต่ละคนจึงต้องทำงานพิเศษหลายงาน บางโรงอาจมากเป็น 4-5 งานเลยก็ได้
ในแต่ละสัปดาห์ ลองเฉลี่ยอย่างต่ำว่า 1 งานต้องใช้เวลาทำ 2 ชั่วโมง ถ้า 2 งานก็เพิ่มภาระงาน 4 ชั่วโมง ถ้า 3 งานก็ 6 ชั่วโมง ถ้า 5 งานภาระงานจะเพิ่มขึ้นถึง 10 ชั่วโมง บ้านเราโรงเรียนขนาดเล็กมีมากกว่าโรงเรียนขนาดใหญ่อยู่แล้ว ดังนั้น ครูที่พบอุปสรรคอย่างนี้ จึงมีทั่วทุกหัวระแหง
นอกจากงานสอนและงานพิเศษอื่นๆ ตามที่กล่าวมาแล้ว งานหรือกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกับชุมชน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังมีให้เป็นภาระงาน(จร)ของครูตลอดทั้งปี ไม่ขาดระยะ แน่นอนว่าแต่ละงาน ครูต้องถูกแต่งตั้งให้เป็นคณะทำงาน มีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะกิจอย่างทั่วหน้า ภาระงานส่วนนี้หากนับละเอียดๆ ใช้เวลาไม่ใช่น้อยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา แม้จะมีเสียงบ่นบ้าง ตัดพ้อบ้าง แต่เพื่อนครูไม่เคยเกี่ยงงอน หรือปฏิเสธภาระงานที่มีอยู่อย่างมากมาย แต่คุณภาพนักเรียน โรงเรียน หรือคุณภาพการจัดการศึกษา ซึ่งถูกฟ้องด้วยผลประเมินต่างๆอยู่เนืองๆล่ะ เราจะทำอย่างไรกัน
แค่ข่าวคราวอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน ทุกสายตา ทุกคำครหา ก็มักเล็งมายังครูก่อนใครๆเสียแล้ว จำเลยของสังคมแทบทุกครั้งคือครู ยิ่งผลประเมินคุณภาพการศึกษาเป็นเช่นนี้ ปีแล้วปีเล่า คุณภาพครูยิ่งเป็นที่น่าจับตา หรือติฉินนินทา โครงการครูพันธุ์ใหม่ โครงการครูยุคใหม่จึงถือกำเนิด เพื่อให้เป็นรูปธรรมในการขจัดปัดเป่าปัญหาตามสไตล์ของนักการเมือง
ลองช่วยกันพิจารณาภาระงานของครูอย่างจริงๆจังๆสักหน่อยเป็นไร
ไม่ใช่อะไรดอก ครูเจ็บปวดเหมือนกัน ที่เอะอะอะไรก็คุณภาพครู
(พิมพ์ในมติชนรายวัน , 20 ธันวาคม 2553)
อ่านบันทึกนี้แล้ว เข้าใจหัวอกครูอย่างสุดซึ้ง
งานที่ได้รับมอบหมายนอกจากงานสอนแล้ว ทุกงานล้วนเกี่ยวข้องกับตัวครูและตัวเด็ก
ดังนั้นจึงมีความสำคัญและสัมพันธ์กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สิ่งที่มีมาเพิ่มภาระงานครูอีกอย่างคืองานจากภายนอกที่ต้องอาศัยครูเป็นตัวเชื่อม แต่...ผลงานที่ออกมาจะไปปรากฎอยู่ที่คนภายนอก ( ไม่ได้โจมตีใครนะคะ ) หากผลงานดีก็เสมอตัว หากผลงานไม่เข้าตากรรมการ ครูก็โดนเละอีก...
ทุกวันนี้ครูจึงมีแต่งาน งาน และงาน ที่ป้อนเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ (ทำไมอย่างอื่นไม่ป้อนเข้ามาสม่ำเสมอบ้างนะ )
ร่วมด้วยช่วยกันบ่นตามประสาคนมีประสบการณ์ค่ะ อิๆๆๆ
จำเลยของสังคมแทบทุกครั้งคือครู ยิ่งผลประเมินคุณภาพการศึกษาเป็นเช่นนี้ ปีแล้วปีเล่า คุณภาพครูยิ่งเป็นที่น่าจับตา
ชอบปรโยคทองข้างบนครับ เราทำหน้าที่กันเต็มที่แล้ว ตอนนี้หันกลับมาสอบเพื่อสอบ ไม่ใช่สอบเพื่อสอน ทุกอย่างกำลังกลับมาสู่ระบบสอบเพราะเป็นตัวชี้วัดที่ง่ายและเห็นปริมาณ แต่ไม่วัดที่ความเป็นคนสักเท่าใดนักซึ่งเป็นแก่นคุณภาพ ผลงานจึงเป็นกระดาษมากกว่า
สวัสดีค่ะ
มาอ่านรับทราบเจตนาของน้อง ขอให้กำลังใจครูดีทั่วประเทศไทยค่ะ ตอนนี้พี่คิมอยู่ที่ "ค่ายวัยใสใฝ่อาสา" ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๓ นครไทย จัดขึ้นที่โรงเรียนบ้านห้วยกอกพัฒนา ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทอำพลฟู๊ดค่ะ
โรงเรียนบ้านห้วยกอกมีครูเพียง ๓ คนรวมทั้งผู้อำนวยการ แต่ทั้งคณะก็มีความตั้งใจว่า "แม้ว่าจะอ่อนด้อยไปเสียทุกเรื่อง แต่ขอสู้เรื่องการสอนเด็กให้เป็นคนดี" ค่ะ
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ...เพราะการที่คนเรามีภาระความรับผิดชอบหลายอย่าง...แล้วกะจะให้งานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายนั้นมีคุณภาพทุกงาน...ย่อมเป็นไปไม่ได้...วงการนี้ควรจะให้พ้นจากสภาพ"งานล้นคน"ได้แล้ว...
*** ครูคือผู้สร้างสรรค์ ธรรมนั้นเป็นเทียนส่องชีวิน
*** ขอให้พลังแห่งธรรมคุ้มครองครูดีๆ ที่ทำดีต่อวิชาชีพด้วยจิตวิญญาณ
*** ครูที่ทำงานหนัก เหนื่อยและท้อ ก็ขอให้คิดว่าความดีมีตัวตน...ผลแห่งความดีจะตอบแทนด้วยสิ่งดีๆ...ทางใดทางหนึ่งเสมอ
*** ขอเพียงยังศรัทธาในอาชีพครู
ครูครับ...
ผมชอบอ่านบันทึกครูธนิตย์ครับ ไม่เพียงเฉพาะมุมมองของการศึกษา เเต่หมายถึงมุมมองทางสังคมด้วย
เมื่อวานนั่งฟังคุณหญิงกษมา ก็เข้าใจครูในหลายๆมิติ ...หากจะเขียนตรงนี้ก็คงยาวมากๆครับ ... เรายังมีครูกลุ่มหนึ่งที่ทำหน้าที่คนจุดเทียนที่มุ่งมั่น มีพลัง ปฏิรูปการศึกษาไม่ใช่มองเเค่การศึกษา เเต่มองทุกมิติของสังคม
เเละผมมีโอกาสคุย(โม้)ในเวที ศึกษาศาสตร์ ที่ งานประชุมวิชาการมหิดล ผมได้นำเเนวคิดของ ศ.นพ.วิจารณ์ ไปพุดคุย เชื่อมโยงครูเพื่อศิษย์ด้วย หากโอกาสดีได้ขับเคลื่อนครูเพื่อศิษย์อีกครั้ง อาจต้องไปเยี่ยมเยียนถึงที่ครับ
ด้วยจิตคารวะครับครู
ปล. ภาพสวยมากๆครับ :)
ทุกครั้งที่มาบ้านพี่สาว
กองหนังสือที่สุมไว้ กระดาษโน๊ต อุปกรณ์ทางการสอน บอกให้รู้ว่า...พี่สาวแคร์ความรู้สึกของนักเรียนแค่ไหน
ความสุขของการได้เกิดมาเป็นครู เป็นได้ทุกสิ่งทุกอย่างเลย นะครับ อาจารย์
แรงบันดาลใจ ความฝัน...ที่จะสร้างฝันให้กับศิษย์
ภาระงานของครู ผมอาจประมาณค่าไม่ได้ แต่ผมเห็นพี่สาวของผมแล้ว ผมรู้ว่า คำว่าครูนั้น ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะตอบว่าภาระงานของครูนั้นหนักแค่ไหน
น้องอาจารย์ลดความเครียดมาเที่ยวพักผ่อนสมองที่ลานสกา "ดินแดนอากาศดีและบริสุทธิ์ในประเทศไทย " กันดีกว่า ...ส่งความสุขปีใหม่มาให้น้องและครอบครัวด้วยค่ะ
ในศุภวาระดิถีขึ้นปีใหม่ พี่ขออารธนาบารมีพระบรมธาตุ องค์จตุคามรามเทพ พรพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ จงโปรดดลบันดาลให้น้องและครอบครัว จงประสบแต่ความสุข ความเจริญและสัมฤทธิ์ผล ในสิ่งอันพึงปราถนาทุกประการ เทอญ
สวัสดีค่ะอาจารย์ธนิตย์ เป็นครูภาระมากมาย เพราะสอนหลายวิชา เห็นใจกันนะคะ ยิ่งวันนี้ไปสอบวัดผลฯของ สทศ. เด็กยิ่งจะเจอข้อสอบพิสดารไปเรื่อยๆนะคะ กำลังบ่นว่า โอเน็ตปีนี้ ม. 3 สาระการงานฯ ออกแค่ 7 ข้อ จะเป็นรูปแบบไหนสุดจะเดาจริงๆค่ะ ยิ่งเป็นรายวิชาสุดท้ายในภาคบ่าย แล้วคะแนนออกมาคงจะกราวรูดอีกแน่ๆๆ บ่นๆๆ อิอิ
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา แม้จะมีเสียงบ่นบ้าง ตัดพ้อบ้าง แต่เพื่อนครูไม่เคยเกี่ยงงอน หรือปฏิเสธภาระงานที่มีอยู่อย่างมากมาย แต่คุณภาพนักเรียน โรงเรียน หรือคุณภาพการจัดการศึกษา ซึ่งถูกฟ้องด้วยผลประเมินต่างๆอยู่เนืองๆล่ะ เราจะทำอย่างไรกัน ......เพิ่มเติม...นอกจากนี้เรายังต้องหนักใจกับครูรุ่นใหม่ๆบางคนที่ยังไม่มีจิตวิญญาณของความเป็นครูเท่าที่ควร..สังคมของการศึกษาจึงต้องมีปะปนกันของความเป็นครูดี ครูธุรกิจ ครูสอนไปวันๆอยู่เนืองๆ...อยู่ที่ว่าปริมาณไหนจะมากน้อย ถ้าโรงเรียนไหนเจอครูดีในปริมาณมาก ก็เป็นความโชคดีของเด็กไป... .......
สวัสดีค่ะ...
สวัสดีวันหยุดอีกวันนะคะ มาชมเด็กน้อยๆที่ถูกบันทึกชัดแจ่ว สังเกตเห็นน้ำมูกเปื้อนแบบะรรมชาติจริงๆ ขอแบ่งปันนะคะเก็บใน pic จนล้นๆๆ อิอิ ขอบคุณค่ะ
ผมว่าเขาหวังอะไรต่อมิอะไรให้เกิดกันตัวนักเรียนมากได้ โดยฟันธงว่าครูต้องทำได้ รายงานได้ เรามีทั้งงานเสริม งานช่วย แต่ละเลยจุดมุ่งหวังของเด็ก ในปัจจุบันเด็กต้องแข่งขันกันมากมาย งานที่ครูสั่งก็มากมาย ผมยังจำตอนฮิตทำ Port กัน ทุกวิชาให้นักเรียนมี port หมด มีประวัตินักเรียนหมด 10 วิชา 10 port มีประวัติทั้ง 10 port (งงมาก) ประเมินตามสภาพจริง ครูก็หางานให้เด็กทำ ค้นคว้ากันเป็นกระบุงโกย เสร็จแล้วตกแต่งชิ้นงาน พิมพ์รายงาน เด็กก็ต้องจ้างร้านพิมพ์บ้าง ขอตังค์พ่อแม่ซื้อคอมฯซื้อเครื่องพิมพ์ ต่อเน็ต ไม่รู้อะไรกัน คนไทยใช้คอมกันเหมือนเครื่องพิมพ์ดีด เราสอนคนไทย ผิด ๆ หรือเปล่า ICT เราได้เตรียมอะไรไว้ให้เขา หรือมีแต่คอมฯ มีใครเป็นเจ้าภาพที่จะพัฒนาสื่อ ICT บ้าง ผมเห็นมีแต่จะผลักภาระให้ครู ที่แย้คือเร่งอบรม ส่งงานแลกใบประกาศ งานก็ก๊อบ ๆกันส่ง บางทีเนื้อหาก็ผิด ยิ่งคุณครูที่มีปัญหาทางสายตา อายุมาก ไม่ค่อยจะรู้อะไรกับคอมฯยิ่งน่าสงสาร ผมเคยคุมสอบคุณครูเยียวยา บางท่านเลื่อนเมาส์ไปชี้ยังไม่เป็นเลย อย่างนี้จะให้ครูไปพัฒนาสื่อ ICT ยากส์ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีฝ่ายพัฒนาสื่ออย่างจริงจัง อย่าให้เป็ภาระครูมากเลย หน่วยงานอื่น ๆ ก็เห็นใจครูบ้างเถอะ เอาง่าย ๆ เรื่องทำประเมิน EQ และ SDQ ทำทุกเทอม สิ้นปีก็ชั่งกิโลขาย ผม ว่า อีกไม่นาน IQ จะตามมา เยี่ยมบ้านนักเรียนถูกหมาไล่ฟัดกันมาก็หลายคนแล้ว หน้าฝนก็รถติดแถวป่าอ้อยก็ไม่น้อย
อีกเรื่อง ก็การประเมิน ชอบมาประเมินกันโรงเรียนเล็ก ๆ กลาง ๆ เอาเป็นเอาตาย แต่ โรงเรียนใหญ่ ๆ มีเด็กเก่งๆ เข้าไปเรียน ก็ไม่ได้ประเมินอะไรนักหนา พูดง่าย ๆ แทบไม่ดูอะไรเลย ทำไมแบ่งชนชั้นครูขนาดนี้ ครูที่สอนเด็กบ้านนอกก็รับภาระมากพอแล้วที่พยายามจะทำให้เด็กสู้เด็กในเมืองให้ กลับต้องเป็นภาระประเมิน จัดกิจกรรมสารพัดอย่าง (โอ้ผมบ่นอีกแล้วหรือนี่ จบดีกว่า) ....ขอบคุณครูธนิตครับ
ไ้ด้อ่านในหนังสือพิมพ์มติชนแล้วครับ
ความจริงเหล่านี้ต้องเปิดเผยออกมามาก ๆ
ไม่ใช่ให้ครูกลายเป็น object เพียงอย่างเดียว
ที่ผ่านมาครูก็เป็นสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี เพียงพอแล้ว
แต่ไ่ม่เคยได้รับการแก้ปัญหาให้ตรงจุดอย่างนี้เสียที
อันนี้ยังไม่รวมเรื่องมิติของการเดินทางในดินแดน
ห่างไกลแล้วต้องทำงานอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กันด้วย
เชียร์ครูครับ
สวัสดีคะ
สวัสดีปีใหม่คะ
ผมชอบบทความนี้มากครับ
-สวัสดีครับอาจารย์...
-สบายดีนะครับ..
-แวะมาให้กำลังใจกับครูทุก ๆ ท่านครับ.....
-วันนี้อำเภอพรานกระต่ายมีกีฬาสัมพันธ์..
-เก็บภาพมาฝากครับ...
สวัสดีค่ะ..
ชื่นชมคนอาชีพครู.........
คุณสมบัติของครู
๑. มีความเมตตากรุณาอย่างแท้จริง
๒. มีความเป็นกัลยาณมิตรต่อศิษย์ตลอดชีวิต
๓. มีความซื่อตรงต่ออุดมคติของความเป็นครู
๔. อดทนและเสียสละ ไม่เห็นแก่ตัว
๕. เป็นเสมือนประภาคารหรือดวงประทีปของศิษย์
๖. เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ศิษย์
ครู...คือ..ผู้สร้างโลก
สวัสดีค่ะพี่ครู
มาให้กำลังใจค่ะ...
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
โชคดีมีความสุขตลอดปีและตลอดไปนะคะ
สวัสดีปีใหม่ครับ อ.ธนิตย์
ขอใหม่มีความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์ ทั้งกายและใจครับ
สวัสดีค่ะ..อ.ธนิตย์
พรใดที่ประเสริฐ..ขอพรนั้นสำหรับครูนะคะ
พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
"แม่รำเพย" ของชาวเทพศิรินทร์ค่ะ
อำลาปีเก่าสวัสดีปีใหม่ มีความสุขทุกปีไม่ว่าจะปีเก่าหรือปีใหม่
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณครูธนิตย์
สวัสดีค่ะ
นึกถึงสมัยเป็นครูใหม่ๆนะคะ สอนอย่างเดียว อย่างเดียวจริงๆ
ก็พอมีบ้างรายงานโน่นนี่ให้ครูใหญ่ส่งอำเภอ แต่เดี๋ยวนี้งานอะไรก็ไม่รู้มากมายไปหมด
ระยะทำใจจริงๆค่ะ ขอให้อ.ธนิตย์และครอบครัวมีความสุขนะคะ
ลองช่วยกันพิจารณาภาระงานของครูอย่างจริงๆจังๆสักหน่อยเป็นไร
อาจารย์คะ พี่เข้าใจ เห็นใจ และเห็นด้วยทุกประการค่ะ แต่เราจะเริ่มต้นตรงไหน อย่างไร ใครเป็นคนเริ่มละคะ
อ่านบันทึกนี้แล้ว พี่กำลังคิดว่า เป็นไปได้มั๊ยคะ ถ้าเราวิเคราะห์หลักสูตรดีๆ เราจะลดเนื้อหาที่สอนลงสักครึ่ง แล้วปลูกฝังความใฝ่รู้ วิธีเรียนรู้ ให้เด็กๆ เพื่อที่พวกเขาจะเติบโตเป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะนับวันความรู้ยิ่งมีมากมายมหาศาลขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเราใกล้แก่ขนาดนี้ยังรู้สึกว่าเรียนเท่าไหร่ อ่านเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ
อ่านบันทึกนี้แล้วแอบรู้สึกผิดนิดๆ ที่เคยเป็นส่วนหนึ้งที่ไปเพิ่มภาระงานให้ครูด้วยค่ะ
สวัสดีปีใหม่นะคะ
สวัสดีค่ะคุณครู
เห็นด้วยกับพี่หนุ่ย ค่ะ เน้นคุณภาพ ลดปริมาณ เลิกระบบวัดด้วย กระดาษหนา
แล้วมามองที่ ความสุข การพัฒนา ของเด็กๆ เวลาที่ให้กับการสอน ขอบคุณค่ะ
อากาศหนาวแล้ว รักษาสุขภาพ ส่งกำลังใจ ส่งท้ายปีเสือดุ ค่ะ :)
สวัสดีค่ะ อาจารย์ธนิตย์ สู้...สู้ ค่ะ
คนที่บ้านดิฉันก็เป็นครู เขาก็พูดเหมือนอาจารย์ค่ะ
ภารงานเยอะ แล้วยังส่งไปอบรม/ประชุม
ไม่ค่อยมีเวลาสอน ไม่ทราบเหมือนกันว่าเดินกันถูกทางรึปล่าว
เอกสารอยู่ที่ความสามารถในการทำ อยากตรวจประเมินอะไร ? ก็จัดให้
ปีใหม่หยุด 4 วัน พักเรื่องงานไว้ก่อน สลัดทิ้งไปก่อนชั่วคราว
ขอให้มีความสุขนะคะ กับครอบครัวญาติพี่น้อง
ขอบคุณภาพน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ก็เลยมีน้ำตกที่นี่มาฝากค่ะ
ครู คือ คนที่เกิดมาเพื่อประโยชน์สุขของสังคม.. สังคม ที่มีปัญหา จำต้องมี ครู ที่มีทั้งปัญญาและความเข้มแข็ง.. ความสุข ของ ครู คือ การได้เห็นความปรกติสุขและความเจริญพัฒนาของ คุณธรรมในสังคม.. ครู จึงไม่เหน็ดเหนื่อยในการปลูกฝัง คุณธรรม ความดีงาม ให้แก่ ลูกศิษย์ เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงให้แก่สังคม.. ..ขออาราธนาอำนาจแห่ง คุณพระศรีรัตนตรัย และ บุญบารมี ของ พระมหากษัตริย์ไทย ทุกพระองค์ จงดลบันดาล ครูธนิตย์ สุวรรณเจริญ ด้วย ปัญญา อายุ วรรณะ สุขะ พละ..ถึงพร้อมด้วยความเป็น ครูของลูกศิษย์ ทุกประการ เทอญฯ ..
สวัสดีค่ะอาจารย์ธนิต
พรใดที่ประเสริฐ พรใดที่ล้ำเลิศ สิ่งใดที่อาจารย์ปรารถนาจงเป็นของอาจารย์ตลอดไปนะคะ.....
โครงการคืนครูให้นักเรียน ครูธุรการ ก็ให้มาโรงเรียนละ 1 เทอม ลดภาระงานครูผู้สอนด้านงานธุรการได้บ้าง 1 เทอม แล้วอีก 1 เทอมครูก็ต้องทำเหมือนเดิม ครูเป็นทั้งแม่ครัว(อาหารกลางวัน) หมอ(รักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยเบื้องต้น) ผู้พิพากษา (ตัดสินคดีความ)เป็นพนักงานสอบสวน (กรณีฟ้องร้อง) เป็นนางฟ้าและเป็นนางยักษ์ (ฮ่าๆ)
สุขสันต์วันขึ้นปีใหม่ค่ะอาจารย์
อ่านบันทึกนี้แล้ว พี่กำลังคิดว่า เป็นไปได้มั๊ยคะ ถ้าเราวิเคราะห์หลักสูตรดีๆ เราจะลดเนื้อหาที่สอนลงสักครึ่ง แล้วปลูกฝังความใฝ่รู้ วิธีเรียนรู้ ให้เด็กๆ เพื่อที่พวกเขาจะเติบโตเป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะนับวันความรู้ยิ่งมีมากมายมหาศาลขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเราใกล้แก่ขนาดนี้ยังรู้สึกว่าเรียนเท่าไหร่ อ่านเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ
สำหรับ..ลองช่วยกันพิจารณาภาระงานของครูอย่างจริงๆจังๆสักหน่อยเป็นไร
สวัสดีปีใหม่ '2554 ครับ!
ขอให้ทุกๆท่าน มีความสุขยิ่งๆขึ้น ตลอดปีใหม่นี้และตลอดไป..
แวะมาส่งความสุขให้คุณครูค่ะ
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔ ปีกระต่ายทองค่ะ "อ.ธนิตย์"
สุขสันต์วันปีใหม่ ๒๕๕๔ ค่ะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
สุขสันต์ปีใหม่เอี่ยมคับ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ก็เราจัดการศึกษาแบบมักง่าย ก็งี้แหละครับ
ไม่รู้ว่าคมเป็นครู หรือถังขยะของสังคม
แก้ จาก คม เป็นผม นะครับ
สวัสดีปีใหม่กับทุก ๆ คนด้วยครับ
สวัสดีครับอาจารย์
สะท้อนปัญหาได้ตรงไปตรงมามากเลยครับ
ใคร ๆ เขาก็รู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ในกระทรวงทำอะไรอยู่
แวะมาทักทายด้วยความระลึกถึงครับ...
ถ้าเช่นดังที่ครูว่า ...นี่แหละคือต้นตอเรื่องคุณภาพของครูเลย ในราชภัฏ ปัญหาก็เป็นเช่นนี้
ฉันธะ
สรรพสิ่ง....ล้วนมีที่มา.....เราเลือกทางเดินมา....เช่นนี้...ต้องยอมรับสภาพ...เสียงสะท้อนของสังคม.....ให้กำลังใจครับ....
ตรงทุกอย่าง เมื่อผู้ใหญ่ไม่เป็นท่า(มาตั้งนาน) เรานี่แหละแก้มันเอง(ตามกำลัง) เล่าให้ฟังครั้งหนึ่งผ่านไปหน้าโรงเรียนมัธยมระดับอำเภอ ผอ.ดร.กำลังมอบและชมเชยนักเรียนที่มีผลงานดีเด่น สอบเข้าสถาบันชั้นนำของประเทศโดยมีครูที่ปรึกษาคอยลุ้นการประกาศชื่อนักเรียนของตน พอผ่านไปด้านห้องน้ำเพื่อจอดรถก็ไปเจอนักเรียนดีเด่นหลังห้องน้ำกลุ่มหนึ่งกำลังอัดบุหรี่ด้วยความพยายามและทุ่มเทเต็มกำลังก็เลยได้แนวคิดและแรงบันดาลใจที่จะเก็บขยะมารีไซเคิล
ผ่านมาแค่ 2 ปี ของบันทึกนี้ เห็นความจริงในระบบการสอบของทุกหน่วยงาน ยิ่งการสอบผู้บริหารการศึกษา เป็น ผอ. ขอให้เก่งสอบผ่าน แต่ไม่ต้องการความเชี่ยวชาญ และคุณสมบัติของความเป็นมือบริหารอาชีพตัวจริง ..แต่ครูของให้มืออาชีพ ... จากท่าน ผอ. พรชัยที่กล่าวมา...ระบบการสอบสำคัญที่สุด..