เข้าระบบ
สมัครสมาชิก
หน้าแรก
สมาชิก
namsha
namsha
ชูศรี ระย้า รักษา
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
namsha
พยาบาล
โรงพยาบาลแก่งคอย จ.สระบุรี
Username
gardenia
สมาชิกเลขที่
85615
เป็นสมาชิกเมื่อ
เข้าระบบเมื่อ
-
(ไม่มีตั้งแต่ พ.ศ. 2564)
สมุด
4
บันทึก
126
อนุทิน
119
ความเห็น
2,501
ดอกไม้
589
คำถาม
→
คำตอบ
ประวัติย่อ
กำพืด...
เป็นเด็กชนบท หรือที่บางคนเรียก บ้านนอก คำนี้ไม่เคยลืม บางคนให้นิยามว่าเฉิ่ม เชย ไม่ทันสมัย ล้าหลัง เมื่อก่อนฉันเคยอาย (แต่ปัจจุบันภูมิใจยิ่งนัก) ไม่อยากบอกว่าอยู่อำเภอแก่งคอย เพราะคำว่าบ้านนอก มีแต่ลาว ภาษาถิ่นที่คนส่วนใหญ่ 99.99 % ใช้สื่อสารกัน เดินออกไปไหนเห็นแต่ท้องไร่ เถียงนา ต้นข้าวตั้งแต่เขียวขจี จนออกรวงและรอเก็บเกี่ยว จากกระดูกสันหลังของชาติ ไม่เห็นจะมีควายเหล็กเข้ามาช่วยเหมือนปัจจุบัน
เข้าศึกษาในโรงเรียนวัดที่ใกล้บ้านที่สุด ต้องเดินไปกลับจากบ้านถึงโรงเรียนเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตรทุกวัน จักรยานมีเพียงคันเดียวในบ้านที่พ่อต้องใช้เมื่อออกไปรับจ้าง นอกฤดูกาลเก็บเกี่ยว ถนนลูกรังฝุ่นแดงตลอดเส้นทางฉันวิ่งไปมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาว่าจะเปื้อนมอมแมม เพียงแค่ปัดฝุ่นสีแดงออกจากเสื้อผ้าและผมเผ้าของฉัน บางครั้งเบื่อก็เดินวิ่งลัดทุ่งนา เพื่อเก็บพุดทราเปรี้ยว มะขามเทศฝาดที่ถือว่าเป็นอาหารข้างทางชั้นเยี่ยมของเด็กบ้านนอกอย่างฉัน เงาะเหรอ ฉันเคยกินแต่เงาะป่าหรือเงาะทุ่งนาลูกเล็กๆอมเปรี้ยวเล็กน้อย เก็บน้ำหวานจากดอกอินทนินดูดกินอย่างเอร็ดอร่อย แม้จะเพลิดเพลินกับสองข้างทาง แต่ก็ไปโรงเรียนทันทุกวัน เลิกเรียนวิ่งกลับบ้านแข่งกัน บางวันก็อยากทำตัวเหมือน "วัลลี" วิ่งกลับมาบ้านกินข้าวกลางวันเสร็จแล้วก็วิ่งกลับโรงเรียนให้ทัน ผีเสื้อนานาพันธ์ซึ่งตอนนันฉันเห็นจนชินตา มาบัดนี้แทบไม่มีให้เห็นต้องไปหาดูชมในฟาร์มผีเสื้อ แมลงปอตัวโตสีแดงบินเต็มท้องทุ่ง หลังฤดูเก็บเกี่ยวเก็บข้าวร่วงกลับบ้านสะสมไว้เพื่อนำไปขายเป็นค่าขนม จนจบป.6 แล้วเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนประจำอำเภอ ได้อยู่ห้องเด็กเก่งที่เขาเรียนกัน ยังไม่รู้จักคำว่าเกรด รู้จักเพียงแค่ว่าสอบได้กี่เปอร์เชน เมื่อมีรุ่นพี่มาถามว่าสอบได้เกรดอะไร ตอบไปว่า สามกว่าๆ ยังถามกลับอีกว่า กว่าเทาไร นึกในใจกะอีแค่จุดนี่จะถามทำไม่นะ ตอบไปว่า สามจุดเจ็ดเก้า โอ้โห เรียนเก่งนี่ เหรอนึกในใจ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เกรดสี่คือสูงสุด บ้านนอกมั้ยล่ะเรา ก็เรียนไปเรื่อยๆด้วยคะแนนรวมเป็นระดับต้นๆของมัธยมต้น จนมัธยมปลายได้คะแนนเฉลี่ยสูงสุดของทั้งระดับชั้นตลอดสามปี บางคนถามว่าเกรดขนาดนี้ทำไมเรียนแค่พยาบาล ตอบได้คำเดียวว่าบ้านฉันจน พ่อแม่ให้เรียนได้แค่นี้เพราะมีทุนให้เรียน สอบเข้ามหาลัยได้ก็ไม่ได้เรียน เพราะแม่บอกว่าไม่มีเงินส่งให้เรียน ได้เข้าเรียนในโควต้าหลายที่ ตามโครงการช้างเผือกแต่ก็หมดโอกาสและวาสนา เพราะแม่ยืนกรานกระต่ายขาเดียวว่าต้องเรียนพยาบาลเท่านั้น แอบร้องไห้และเสียใจเล็กๆ ไปเรียนตามคำสั่งแม่และคำขอร้องของพ่อที่ตามใจแม่
ชีวิตของนกน้อยในกรงทอง ต้องเรียนจนจบการศึกษาด้วยคะแนนไม่น้อยหน้าที่วิทยาลัยพยาบาลพระพุทธบาทสระบุรี เลือกทุนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี ด้วยหวังว่าจะได้อยู่ รพ.แก่งคอย ใกล้บ้าน โลกของฉันมีแค่นี้ จบแล้วหวังทำงานใกล้บ้าน ทุน รพ.พระพุทธบาท และ รพ.สระบุรี ยังไกลสำหรับฉัน จบแล้วต้องทำงานที่สถานีอนามัยทั้งที่ไม่อยากอยู่ แต่เป็นการตอบสนองแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 7 ที่ต้องมีพยาบาลอยู่ที่สถานีอนามัย เลือกไม่ได้แล้วแต่เขาจะส่งให้ไปอยู่ที่ไหนก็ไป
ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ทำงานรับใช้ที่สถานีอนามัย มีความสุขและความทุกข์ปะปนกัน ได้เรียนรู้ชีวิตอย่างมากมาย เปลี่ยนที่ทำงาน ถึง 3 แห่ง แต่ละที่ที่ย้ายไปไม่มีใครอยากไปอยู่ เราขอเสนอตัวเองทั้งนั้น และก็ไม่ผิดหวังสักที่ แต่ที่ที่ 4 ไม่ได้ขอแต่ได้ไป ทำงานไม่เคยว่าแม้จะหนักหนาและเดินทางไกล แต่ทำงานกับหัวหน้าที่นิสัยหญิงมันเหนื่อยใจและหน้าเบื่อยิ่งนัก (คิดในขนณะนั้น ไม่รู้ว่าเขาจะเบื่อเราบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้) จำต้องขอย้ายตัวเองเข้า รพ. แต่ขออยู่ 3 ครั้งเมื่อมีน้องพยาบาลมาทดแทนจึงได้ย้าย ไม่เป็นไร นับแต่วันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 15 ปีที่ร่วมทำงานที่ รพ.แก่งคอย ควบคู่กับทำงานโรงพยาบาลเอกชน เป็นที่รักใคร่ของเพื่อร่วมงาน(อันนี้คิดเองนะ) และของคนไข้ (อันนี้จริงแท้แน่นอน) ด้วยหน้าตาไม่ขี้เหร่นักจึงเป็นที่รักของคนไข้แขนหักคนนึง เขาแอบรักในลิฟท์ (ไม่ใช่หน้าที่ต้องส่งผู้ป่วยขึ้นไป Admit แต่ขณะนั้นไม่มีน้องผู้ช่วยเหลือคนไข้เลย เลยต้องไปส่งเอง คนไข้บอกว่าเห็นปุ๊บ รักเลยและเฝ้าเพียรพบ จนในที่สุดก็ตกหลุมรักเค้าด้วย)
เมื่อถึงวัยอันควรต้องออกเรือน จึงได้สมรสกับนักบินของ ทบ. (เพราะบ้านเราเป็นจังหวัดทหารบก) ก็คนไข้คนนั้นแหละ หลังสมรสได้ออกดอกออกผลได้กำไรมา 3 คน เป็นขวัญใจของครอบครัวปัจจุบัน
โครงการเพื่อนช่วยเพื่อน
แบบว่าเพื่อนแท้ เพื่อนตาย เพื่อนเจ็บฉันก็เจ็บด้วยประมาณนั้น เมื่อวัยฮอร์โมนสาวยังแรง แบบว่าสามีเพื่อนแอบมีกิ๊ก เพื่อนขอร้องให้ช่วยหน่อย...ได้เลยเพื่อน ฉันแอบสะกดรอยตามคำขอร้องของเพื่อน ลงทุนยอมเปลี่ยนรถ จนถึงแหล่งกบดาน ไม่มีอะไรมากแค่โทรไปกวนประสาท...สามีน่ะหาไม่ได้แล้วเหรอต้องมากินของคนอื่นด้วย แค่ฝากรอยประทับไว้ที่รถของเจ้าตัวดีสามีเพื่อน ทั้งภาพศิลปะบนรถ ทั้งรอยแกะสลัก สนุกไปเลยตอนนั้น ก็ร่วมกันกับเพื่อนนั่นแหละ และอีกมากมาย 555 สุดท้ายสามีเพื่อนกับกิ๊กก็เลิกกัน แต่ไม่ใช่ฝีมือเราหลอกเพราะพวกเขาเบื่อกันเอง
เพลงและดนตรี
อันนี้ฉันเป็นนักฟังที่ดี ชอบฟังเพลงทุกประเภท ที่ชอบมากสุดก็ประเภท Country เพลงเพื่อชีวิต ศิลปินที่ชอบมากที่คือ หน้าหงาคาราวาน อ.ไข่ มาลีฮวนน่า ปูพงษ์สิทธิ์ ป้าแดง วงโฮป เพลงใต้ดินก็ชอบหลายคน ตั้งแต่เป็นศิลปินใต้จนขึ้นมาบนดิน เช่น วงด้ามขวาน เพลงที่ชอบก็คือ กรรณิการ์ ที่ร้องได้ดีที่สุดคือเพลงลูกทุ่ง(แต่เสียงไม่ดี) เหมือนเด็กบ้านนอกทั่วไปที่ฟังทรานซิสเตอร์แล้วเพลงแรกๆที่ได้ยินคือ เพลงลูกทุ่ง ชอบฟังนวนิยายสมัยนั้นก็ "เกศทิพย์"
หน้าแรก
สมาชิก
namsha
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2024 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท