อนุทินล่าสุด


dejavu monmon
เขียนเมื่อ

ไม่มีใครสอนใครได้...การบรรยายคือวิธีหนึ่งของกิจกรรมการเรียนรู้...คนจะเบื่อหน่ายกับวิธีการซ้ำซาก...แต่หารู้ไม่ว่าวิธีการที่ซ้ำซากจะได้สิ่งที่ไม่ซ้ำซาก..หลายคนจึงต้องหาวิธีที่หลากหลายเพื่อไม่ให้ซ้ำซาก...เพราะสุดท้ายแล้ว คนคนนั้นเองที่จะสอนตัวเขาเอง คือการปรับตัวเพื่อการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิต



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

การเปิดชั้นเรียนในระดับอุดมศึกษา (มรภ.) หากเป็นเวลาเช้า เราต้องเริ่มที่การบรรยาย เพราะเป็นการรอคอยผู้ที่ทยอยในการเข้าชั้นเรียน เมื่อเวลาเลยมาในระดับหนึ่ง จึงเข้ากิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน เพราะถ้าเราเปิดกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ที่ต้องใช้สมาชิกกลุ่ม เราต้องเริ่มใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก กับการทยอยมาของผู้เข้าร่วมกิจกรรม



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

ลักษณะของว่าว กรณีหัวเบาพยายามป่ายขึ้นท้องฟ้า ถ้ากลางและหางหนัก ก็ยากนักจะฉลุย กรณีหัวหนัก กลางเบา หางหนัก ก็ยากเช่นกัน ส่วนอื่นๆเบา แต่หางหนัก ก็ยากเช่นกัน ถ้าทุกอย่างสมส่วน หัวปีนป่าย กลางโยกย้าย หางสบัด ชั่วพริบตาจะติดลมบน โดยไม่ต้องใช้กำลังดึงว่าวตัวนั้นอีก ... วงการศึกษา ถ้าหัวพุ่ง แต่ตัวและหางถ่วงน้ำหนัก ยากนักจะไปได้สวย ยิ่งหัวไม่เดิน ท้องโต หางไม่พริ้ว ยิ่งน่าอนาถใจ รอวันจมไปกับอดีตแน่แท้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

ชีวิตคือตัวตลก...ย้อนมองอดีต มีหลายเรื่องที่รู้ว่าฉันทำไปได้อย่างไร...ช่างตลกแท้..น่าขายหน้าจริงๆ..แล้วหัวเราะให้ตัวเอง...อันที่จริง อย่าไปสนใจอะไรมากมายกับอดีตเลย...เพราะเวลานี้ต่างหากที่ดูแล้วน่าสนใจกว่า



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

"ไอ้ชาติโง่..มันไม่รู้จักความถูกต้อง"...วันนี้ ผมนั่งฟังเทศน์จาก youtube เป็นคำเทศน์ของพุทธทาสภิกขุ ในหัวข้อดังกล่าว...ความรู้สึก ... ดีเหมือนกัน เป็นการพักผ่อนของผมเอง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

  ปัญหาในการเขียนบันทึกช่วงหลังมานี้พบว่า วงเล็บเปิดมักหายไป การแก้ไขที่เคยทำได้คือไม่มีการเว้นวรรคกรณีที่ใส่วงเล็บเปิดและฟันหนูก็เช่นกัน อันที่จริงน่าจะเว้นวรรคนะครับเพื่อจะได้ดูสวยงาม หรืออาจเป็นที่คอมพิวเตอร์ผมเครื่องเดียวก็ได้



ความเห็น (3)

เดี๋ยวผมจะทดสอบดูนะครับ ขอบคุณครับ

ขอบคุณท่านอาจารย์ธวัชชัยครับ

เห็นเหมือนกันค่ะ ตัวเลขก็หายด้วยค่ะ ช่วงนี้เลยพยายามเขียนเป็นตัวหนังสือ

dejavu monmon
เขียนเมื่อ
  • มหาวิทยาลัยก้าวหน้าขึ้น โดยให้เริ่มส่งเกรดออนไลน์ในภาคการศึกษานี้ แต่ยังไม่สมบูรณ์เพราะรายชื่อนักศึกษายังไม่ขึ้นให้เลย
  • ทราบว่ามหาวิทยาลัยได้ซื้อโปรแกรมนี้มาใช้เพื่อความสะดวกในการบริหารการจัดการ
  • ก่อนนั้นอาจารย์คอมฯท่านหนึ่งส่งโครงการวิจัยเพื่อจะพัฒนาเรื่องดังกล่าวนี้ แต่โครงการวิจัยไม่ผ่าน สิ่งที่ได้รับข้อมูลคือมหาวิทยาลัยได้ซื้อโปรแกรมมาแล้ว
  • สิ่งที่น่าเสียดายคือ มีทุนความรู้อยู่ภายในแต่ไม่ได้ใช้ทุนดังกล่าวนั้นให้สมบูรณ์ ทำไมเราต้องเจียดเงินไปซื้อจากภายนอก ผลิตขึ้นเองจะดีกว่าหรือไม่


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ
  • เราไม่สามารถจะเข้าใจคนอื่นได้หรอก ตราบเท่าที่เรายังเริ่มต้นด้วยการปฏิเสธความคิดของเขา
  • ทำไมเขาไม่เข้าใจเรา ? เราไม่เข้าใจเขาหรือเขาไม่เข้าใจเรา หรือว่าเราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่เข้าใจเรา


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

ไม่ต้องอ้างว่าคนโน้นทำ คนนี้ทำ เพราะเมื่อเข้ามาอยู่ในหน้าที่นี้แล้ว ก็ควรแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้หมดไป...ทำอย่างไรให้สิ่งที่เป็นปัญหาในอดีต กลายเป็นสิ่งที่ไม่เป็นปัญหา

หมายเหตุ ความคิดนี้เกิดขึ้นเมื่อพิจารณาการทำงานในหน่วยงานราชการ เรามักอ้างว่าเป็นปัญหาในอดีต ของคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง เป็นการบอกสังคมว่าไม่ใช่ความผิดพลาดของเรา จึงคิดว่า เปล่าประโยชน์กับการบอกอย่างนั้น สิ่งที่จะมีประโยชน์คือ ทำอย่างไรเราจึงจะจัดการปัญหาที่มีอยู่ให้กลายเป็นสิ่งที่ไม่เป็นปัญหาในอำนาจหน้าที่ที่เรามีและเราเ็ป็นอยู่



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

วันนี้สาวน้อยทางหาดใหญ่ส่งภาพกล้วยมาให้ดูทาง fb นี่คือผลของมันรอบสอง 

พื้นที่ปลูกเป็นแถบดินคูน้ำข้างบ้านติดกับถนนสาธารณะในซอย ผมไม่เคยปลูกอะไรขึ้นเลย นอกจากกล้วยที่เห็นนี้ นี่แหละหนา ชีวิตจึงเป็นชีวิตกล้วยๆ



ความเห็น (2)

ปลูกอะไรไม่ค่อยขึ้นเหมือนกันค่ะ แต่ ปลูกต้นกล้วย...ได้กล้วยมหึมาด้วยเวลา 2 ปี นะคะ เราน่าจะเป็นพวกเดียวกัน

 

  • เห็นทีผมคงต้องเดินทางสายกล้วยซะแล้วครับ
  • ผมว่ากล้วยทำประโยชน์ได้เยอะเลยนะครับ "ตลอดทั้งต้น"
dejavu monmon
เขียนเมื่อ

...ตำแหน่งบริหารไม่ใช่เครื่องประดับ...จะรับไว้ก็ดูก่อนว่าทำได้หรือไม่...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

อย่าเอาคนโง่มาบริหาร...เพราะคนโง่จะไม่รู้ตามสภาพที่เป็นจริง...ในการบริหารหากเราไม่รู้ตามสภาพที่เป็นจริง...ปัญหาจะเกิดขึ้นทั้งตัวระบบเองและพื้นที่ของระบบที่นำไปใช้(ความคิดนี้เกิดขึ้นเมื่ออ่านเอกสารผ่านการแนะนำของBนี้ผนวกกับการพิจารณาวิธีการบริหารของ...)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

เกษียณอายุปลอม...ใกล้เดือนตุลาอีกแล้ว เหล่าพี่ๆ ข้าราชการจำนวนหนึ่งต้องเกษียณอายุ หลายคน ออกไปทำหน้าที่แจกของส่องตะเกียง หลายคนออกไปหาสิ่งที่เตรียมไว้หลังเกษียณเช่น ปลูกผักปลูกหญ้า แต่หลายคน ไม่รู้จะไปไหน จึงเข้ามาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย (ซึ่งพนักงานมหาวิทยาลัยนี้ ก่อนนั้นตนเคยรังเกียจนักหนา) บางคนเข้าโครงการเออรี่ แ่ต่ก็ได้รับว่าจ้างจากมหาวิทยาลัยให้มาทำงานต่อ / คนมีความสามารถสูง มีประโยชน์ต่อสังคม ไปอยู่ที่ใดก็ไม่คลาดแล้วงาน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

คนเหนือคนทางวิชาการ - ผมนัี่งอ่านระเบียบปฏิบัติในการประเมินผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย ทำให้ได้ข้อคิดว่า นักวิชาการนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเสียแล้ว แต่เป็นคนเหนือคน เพราะบางคนรับเงิน ๓ ตำแหน่ง ตำแหน่งแรกคือ บริหาร ตำแหน่งที่สองคือ อาจารย์ ตำแหน่งที่สามคือ ทางวิชาการ ถ้าทำด้วยมันสมองและสองมือของตัวเองได้ เขาไม่ใช่คนธรรมดาเสียแล้ว เฉพาะงานวิชาการ ต้องผลิตตำรา เอกสารประกอบการสอน งานวิจัย บทความ งานแบบนี้ไม่ใช่งานฉาบฉวย - ผมคงต้องไปหัดตัดยางที่สงขลาซะแล้วละ เพราะผมไม่เก่งพอจริงๆ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

- นำเรื่องไม่จริง ไปใส่ไว้ในเกณฑ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจริง สรุปคือ ความไม่จริง

- ข้อความนี้เกิดขึ้นเมื่อคิดถึงระบบการประเมินการปฏิบัติงาน กิจกรรมจำนวนหนึ่งซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ต้องมีหลักฐานที่พร้อมจะตรวจสอบได้ว่าเกิดขึ้นจริง แล้วนำสิ่งดังกล่าวมาใส่ไว้ว่าเกิดขึ้นจริง ทั้งที่โดยสาระแล้วไม่ใช่เรื่องจริง ทั้งนี้เพื่อให้ได้รับคำว่า "ผ่าน" 

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

ในวันหนึ่งๆ เราพูดถึงความดีของคนอื่นมากน้อยเพียงใด...หากเราพูดถึงแต่ความไม่ดีของคนอื่น...แสดงว่า ในสมองของเรามีแต่ขยะ...นอกจากนั้น ทันทีที่เราพูดถึงความไม่ดีของคนอื่น ก็แสดงให้เห็นว่าเราไม่แตกต่างจากคนที่เราพูดถึงนั้นเลย..เพราะเราไม่ได้พูดดีและคิดดี

๕ ก.ย.๒๕๕๕

๑๘.๓๐ น.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

ระหว่างที่คุยกับเพื่อน และโยงไปถึงเพื่อนท่านหนึ่งในห้องเรียนที่ชื่อ "กิ๊ก" ทำให้ข้อความต่อไปนี้เกิดขึ้นมา


เมื่อมี "กิ๊ก" ให้จง "กั๊ก" ไว้เป็น "กุ๊ก" 
ครั้นได้ "กุ๊ก" อย่าให้ "โก๊ะ" จน "เกะกะ" 
"กุ๊ก" "เก๋ๆ" เท่ห์ "ก๋ากั่น" "กัน" นะนะ
นี่ "ก็กะ" จะหา "กุ๊ก" มาเป็น "กิ๊ก"

.....................................

นี่ "ก็" "กะ" จะหา "กุ๊ก" มาแทน "กิ๊ก"
.................................
นี่ "ก็" "กะ" จะลา "กิ๊ก" ไปหา "กุ๊ก"
-----------------------------------------
นี่ "ก็กะ" จะให้ "กุ๊ก" มา "กิ๊กๆ"


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

ผมอยู่ไกลจากพ่อแม่มาตั้งแต่อายุ ๑๓ ปี...เมื่อทุกข์รุมเร้า ซึ่งไม่ใช่อะไรอื่น หากแต่มันคือสิ่งที่เราเข้าไปยึดถือ ผมมักจะนึกถึงพ่อแม่...อยากกลับบ้าน...ไปนั่งทำอะไรแบบบ้านๆ...ไปพักใจ...คือชีวิตผมที่ผ่านมาและอยากจะทำอีกแล้วในวันนี้...โดยเฉพาะแม่...เป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้...แต่ผมจะไม่บอกแม่หรอกว่าผมทุกข์อย่างไร...สุดท้ายแค่ได้เห็นได้อยู่ใกล้ก็พอใจแล้ว

แล้วคนอื่นที่เขาไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว..เขาจะคลายทุกข์ที่ยึดถืออยู่นี้กับใคร...ผมควรทำความทุกข์นั้นให้สลายในใจตัวเองมากกว่า



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

คิดเสียว่ากำลังแสดงหนังหรือละครหน้าจอทีวี คนมีอัตตามาพบกับคนมีอัตตา ที่สุดคือเอาทิฏฐิ (มิจฉา) เข้าห้ำหั่นกัน เพื่อโลกที่สงบ คนมีอัตตาอาจเปลี่ยนท่าทีเพื่อ "มารยาท์" ทางสังคม เก็บอารมณ์อัตตาไว้ในตัว คิดเสียว่า กำลังแสดงละครเพื่อให้ได้รับตุ๊กตาทองคำ เพราะท้ายที่สุดแล้วมันไม่มีอะไรเลย



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

แค่นี้ก็รู้แล้วว่า...ลำเอียง... ผมเพิ่งนำเอาถุงเท้าที่ซักแล้วไปตากบนราว...ขณะที่ตากอยู่นั้น ตอนหนึ่งผมเลือกเอาถุงเท้าที่เก่าคู่หนึ่งไปตากไว้ริมนอก เพราะเกรงว่าลมจะพัด ถุงเท้าเก่านี้อาจถูกลมพัดตกได้ ดีกว่าให้ถุงเท้าใหม่ตก...แค่นี้ก็รู้แล้วว่าลำเอียง...ทำไมหรือ...ถุงเท้าเก่าไม่มีสิทธิ์จะอยู่ริมในหรือ

ลำเอียง ตรงกับ อคติ มี ๔ คือ ลำเอียงเพราะรัก ลำเอียงเพราะหลง ลำเอียงเพราะโกรธเคือง และลำเอียงเพราะอยากได้
 กรณีนี้คือ ลำเอียงเพราะรักถุงเท้าใหม่มากกว่าถุงเท้าเก่า...แค่นี้ก็รู้แล้วว่าลำเอียง...ผมไปปรับปรุงตัวเองใหม่ซะ


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

สูงอายุอย่างมีคุณค่า


  หลายบันทึกที่ผมอ่านจาก Gotoknow เป็นบันทึกจากผู้มีอายุมากกว่าผม และจำนวนหนึ่งเกษียณอายุไปแล้ว คนเหล่านี้ไม่ได้ทำตัวให้ว่างเปล่า หากแต่ยังศึกษาเรียนรู้และแจกของส่องตะเกียง ฮินดูเรียกภาวะแบบนี้ว่า "สันยาสี" เป็นวัยสุดท้ายสำหรับการให้แสงสว่างแก่รุ่นหลังก่อนจะละสังขารนี้ไป คุณค่านี้นอกจากเป็นแนวทางสำหรับสังคมแล้ว ยังสร้างจิตวิญญาณของ "สูงอายุอย่างมีคุณค่า" สำหรับคนรุ่นหลังด้วย เป็นการให้แบบให้เปล่า ความคิดแบบคริสต์คือ "Free Give"



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

มหาวิทยาลัยหน้าห้อง

- กล้าคิด กล้าทำ กล้าเสี่ยง

- กล้าปกป้อง กล้าแสดงความเห็น กล้ายอมรับความจริง

- พัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ

- แจกจ่ายความรู้อย่างไม่เอาคืนภายในห้อง

- ยอมเสียสละด้วยใบหน้าในการรับน้ำลายของครู/อาจารย์ที่บรรยายหน้าห้อง

- การเรียนรู้ หาความรู้ คือปัจจัยสำคัญ

- พร้อมจะปิดไฟ ปิดแอร์ และตรวจสอบความบกพร่องของห้องเรียน หลังเลิกชั้นเรียน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

มหาวิทยาลัยหลังห้อง

- ไม่ค่อยสนใจ/รับรู้ว่าโลกการศึกษาเป็นอย่างไร

- ทำกิจเพื่อตัวมากกว่าเพื่อภาพรวมของห้อง

- ทำเหมือนสนใจแต่ไม่รู้เรื่องที่ทำเหมือนสนใจ

- ไม่กล้าแสดงตัวออกสู่สาธารณะเพราะไม่ได้มีความสามารถพอ

- รอคัดลอกจากคนหน้าห้อง

- ตามหลังคนหน้าห้อง

- เรื่องสนุกฉันทำก่อนเรื่องมีสาระค่อยว่ากัน

- ถ้าเพื่อนหน้าห้องพลาด ค่อยหัวเราะและเหยียบซ้ำ

- หลบหลีกเมื่อมีภาระอื่นใดเข้ามา

- ขอเป็นผู้ตามมากกว่าเป็นผู้นำ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

ตรากฎเพื่ออะไร


- การถือปฏิบัติร่วมกัน

- การควบคุม

- เครื่องมือตัดสินผู้ไม่เห็นด้วยกับกฎ

๒๖/๐๗/๒๕๕๕



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

dejavu monmon
เขียนเมื่อ

- ผมสอนหนังสือครั้งแรกเมื่ออายุ ๑๕ ปี แต่แปลก...กับหัวข้อ "การศึกษาไทยในปี 2020" เป็นสิ่งที่ผมมองไม่ออกและเขียนไม่ได้เลย(ทั้งที่อยากจะมีส่วนร่วมแสดงความเห็นด้วยซ้ำ) นั้นเพราะเหตุว่า ผมไม่ได้ติดตามความก้าวหน้าของโลกเลย ข้อคิดสำหรับผมคือ อย่าเอาแต่สอนหนังสืออย่างเดียว ดูโลกบ้าง

- วันหนึ่งนำพานักศึกษาเอกสังคมศึกษาไปดูความก้าวหน้าของมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ หนึ่งในนั้นคือมหิดล ศาลายา หากเทียบก็น่าจะได้กับการที่มหิดลคือเมืองหลวง แต่มรภ.คือบ้านนอก ผมหัวเราะในใจเมื่อนักศึกษาแสดงความรู้สึกออกหน้าออกตาตื่นตาตื่นใจกับการได้เห็นห้องสมุดของมหิดล(เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง)(หมายเหตุ ผมก็บ้านนอกครับ) พวกเราถูกปรามจากเจ้าหน้าที่ เพราะเราไม่เงียบกริบ ถ่ายรูปด้วย(ห้องสมุดกลายเป็นที่ท่องเที่ยวไปแล้ว) ผมรู้ว่าเราขาดทักษะบางอย่าง

- วันเดียวกัน นำพานักศึกษาไปวัดพระปฐมเจดีย์ เขาเห็นพระเณรเรียนหนังสือภายในบริเวณพระปฐมเจดีย์(ทางเดินรอบพระปฐมเจดีย์) ซึ่งไม่มีอุปกรณ์ใดๆเลยนอกจาก นักเรียน(พระเณร) ครู(พระ) ช็อก และกระดานดำเก่าๆ นักศึกษาถามว่า พระเณรจะเรียนกันรู้เรื่องหรือ?(เพราะไม่เห็นมีเครื่องฉายข้ามศีรษะ แผ่นใส DVD ฯลฯ) 



ความเห็น (2)

ภาพบนจอแผ่นใส ภาพวีดีโอ ทั้งหมดมีอยู่ในจิตใจของพระ เณร แต่ละรูปแล้วครับ

สมัยพระพุทธเจ้าเทศน์ ยามค่ำทั้งพระและฆราวาสฟังเป็นพันๆ คน ท่านไม่ต้องใช้สื่อใดๆ เลย ไม่ต้องใช้เครื่องขยายเสียงด้วย แต่คนฟังที่มีสมาธิ ก็เข้าใจลึกซึ้ง เห็นแจ่มชัดในจิตของแต่ละคน ตามพื่นฐานแต่ละคน จนบรรลุธรรม เป็น พระอริยบุคคลขั้นต่างๆ ตั้งแต่ โสดาบัน ขึ้นไปจนถึง พระอรหันต์ ก็แยะ

ตอนผมไปเรียนอภิธรรมที่วัดมหาธาตุ หรือ วัดสามพระยา ในกรุงเทพฯ เสาร์ อาทิตย์ ท่านก็ใช้แค่ กระดานดำ และ ชอร์ก กับหนังสือคนละเล่ม

  • สวัสดีครับ ขอคารวะด้วยครับกับ "นักเรียนอภิธรรม" ซึ่งผมมองว่า คงยากน่าดู ที่ต้องใช้ใจเรียน
  • น่าแปลกใจนะครับ ครูอาจารย์เดี๋ยวนี้หากไม่มีสื่อจะพูดไม่ออก เราฝากข้อมูลไว้กับสิ่งอื่น ดังนั้น เราคงต้องใช้สิ่งอื่นตลอดไป
  • เป็นความจำเป็นของการต้องใช้สิ่งอื่น เพราะข้อมูลเยอะเหลืิอเกิน
  • ผมคิดว่า การศึกษาแบบเดิมๆ มันก็มีอะไรดีๆเยอะนะครับ เพียงแต่หากไม่พัฒนาก็คงไม่ทันโลก แต่เมื่อมองดูโลก ทำให้ผมมองไม่ออก
  • ทุกวันนี้ เห็นฝนตกยังนึกเสียใจครับ "ทำไมเราจึงไม่ดื่มน้ำฝนกันอีก" ขอบคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท