แก้ bug ในส่วนการนับจำนวนผู้อ่านไปได้อีกหนึ่งตัว ส่วนนับจำนวนผู้ใช้นี่ทำยากครับ ทำให้ถูกต้องร้อยเปอร์เซนต์ก็กินทรัพยากรระบบ ทำให้ประหยัดทรัพยากรระบบก็ไม่ถูกต้อง ตอนนี้ถ้าให้คะแนนจาก 1-10 ระบบได้คะแนนประมาณ 5 คือถูกต้องพอประมาณและกินทรัพยากรไม่มากนักครับ
เช้าวันนี้ ตัวแทน รัฐศาสตร์จุฬารุ่น 17 โทรศัพท์มาขอให้ไปร่วมแสดง "ระบำสตวาร" ในโอกาสงาน ครบ 50 ปีรุ่นเข้าจุฬา 2507 เพื่อนชักแม่น้ำทั้ง 5 ว่า ข้าพเจ้ามีความเหมาะสมหลายอย่าง ทั้งรูปร่างหน้าตาเป็นไทยๆ หากใส่ชุดนางรำเครื่องประดับคงสวยงาม ไม่ขายหน้าเป็นตัวแทนรุ่น แต่ข้อสำคัญ เพื่อนไม่ถามสักคำว่า ข้าพเจ้ารำไทยได้หรือเปล่า ?
หลังจากปล่อยให้เพื่อนหว่านล้อมอยู่นานกว่าห้านาที ข้าพเจ้าได้บอก
ไปว่า ไม่ขัดข้องอย่างใด หากข้าพเจ้าสามารถรำไทยสวยงาม แต่
ประสบการณ์ที่ผ่านมา ไม่เคยรำไทย มือแข็ง แขนทื่อ ขาดความอ่อน
ช้อย โดนหยิกเข่นเคี่ยวจากครูละครเป็นประจำ เคยขึ้นเวทีละครไทยเป็น
ตัวพระที่ไม่ได้บทรำไทย เพราะเก่งแต่ละครพูด และที่ถูกเลือกไปแสดง
เพราะครูสอนละครบอกว่า เสียงดีมีอำนาจ เช่น ละครเรื่องพระมโหสถ
เล่นเป็นพราหมณ์เจ้าเล่ห์ชื่อเกวัฏ ครูละครให้เดินไปเดินมาตามจังหวะ
เพลง และผายมือไปตามบทพูด ไม่ต้องร้องรำไทยแต่อย่างใด จำได้ว่าเล่นละครเรื่องนี้อยู่ 3 รอบ3 วัน ที่เวทีหอประชุมคุรุสภา คนดูเป็นเพื่อนนักเรียนโรงเรียนราชินี และเพื่อนต่างโรงเรียนเกณท์มาดูเต็มหอประชุม ได้รับคำวิจารณ์ว่า ผู้ร้ายหน้าอ่อน ควรแต่งหน้าติดหนวดให้ดุเข้มกว่านี้
อีกครั้งหนึ่งในละครประจำปีของโรงเรียนราชินี คือ บทบาทหัวหน้า
เผ่าอินเดียนแดง (จำไม่ได้ว่าเผ่าอะไร) ต้องเต้นรอบกองไฟ และเชิด
หน้าโห่ตามจังหวะกลองรัวเร้าใจนักรบของเผ่า มีดวลขวานกันพอแก่
กำลัง จบลงด้วยการเจรจาสันติภาพ แบ่งทุ่งหญ้าและฝูงวัวกันทำกิน
อย่างสันติ
หลังจากบอกเล่าเก้าสิบถึงความหลังการแสดงบนเวทีเช่นนี้แล้ว
เพื่อนยอมถอยไปเกลี้ยกล่อมตัวเลือกรายอื่น ด้วยประการฉะนี้แล..
๒๔ มกราคม ๒๕๕๗
- วันนี้ทั้ง เช้า - บ่าย...จัดโต๊ะทำงาน + เก็บเอกสารเข้าตู้ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะนานแล้ว ไม่ค่อยมีเวลากับสิ่งต่าง ๆ
เหล่านี้เลย...
(ทำเสร็จ เล่นเอาโต๊ะทำงานเอี่ยมสะอาดตาไปเลย)...ความจริงต้องทำทุก ๆ วัน ๕ ส. (สะสาง สะอาด)
เมื่อวานเย็นกลับมาบ้านแม่ พี่สาวคนโตนัดไปแวะสวนทุ่งมน พี่ทำไก่ย่างรอ.
party รอบกองไฟ กินข้าวเหนียวไก่ย่าง
คุยกันสนุกสนานกับพี่น้อง 5คน
พี่ชายกำลังย่างไก่. จิบไวน์และคุยกันในวันที่อากาศหนาวเย็น
ก่อนที่พี่สาวคนโตจะกลับไปต่างแดนในวันอังคาร 28มกราคม2557
ขอบคุณชีวิตที่มีความสุข
แก้ว
"ศักดิ์ศรีและคุณค่าที่แท้จริง
ต้องเกิดขึ้นจากธรรมชาติ
มิใช่การสร้างภาพให้คนหลง
เพราะมายาภาพหาได้ยั่งยืน"
คุณครูธรรมทิพย์
๒๓ มกราคม ๒๕๕๗
| อนุทิน ... ๕๔๕๘ |
"ขอบคุณครับ"
ท่านอาจารย์ ไอดิน-กลิ่นไม้ ได้ให้เกียรติกล่าวถึงไว้ในบันทึก ชื่อ "IQ, EQ, AQ, และ MQ" ...สี่วิชาพึงเรียนรู้ เมื่อเตรียมสู่ "วัยผู้ใหญ่" ... ขอบพระคุณยิ่งครับอาจารย์ ;)...
๑๓/๐๑/๒๕๕๗
อนุทิน ๑๑๓.
“แนะนำ”
เมื่อวาน ๑๒ ม.ค.๕๗ เวลาประมาณ ๑๑ โมงเช้า มีส.อบต.หมู่ ๑๕ ท่านหนึ่งขับรถเครื่องมาจอดหน้าบ้าน เข้ามาถึงก็ทำมือกำกำปั้นใส่ปากถามว่า “หนาน แนะนำการพูดให้หน่อย” ผมเองก็งงก็ถามในลักษณะว่า “พูดอะไรเหรอ?” เขาบอกว่า “การจับไมค์พูดไง” ผมถึงบางอ้อ ส.อบต.ท่านนี้เป็นคนใหม่ที่ได้รับเลือกเข้ามา หลายคนว่าเขาการศึกษาน้อย แต่เป็นคนที่มีความพยายามที่จะเรียนรู้หลาย ๆ สิ่งเพื่อให้ตนเองได้ก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำ(ชาวบ้าน)อย่างภาคภูมิ ผมเองก็ชื่นชมในความไม่สันโดษในการแสวงหาความรู้ของเขามาก จึงได้แนะนำวิธีการฝึกพูดแบบกระชับ รวบรัดดั่งที่เคยเรียนมา เมื่อครั้งเรียน ป.ตรี กับ อ.วิเชียร เกษประทุม ที่นครสวรรค์ ท่านให้ท่องจำหลักว่า...”เตรียมตัวให้พร้อม ซักซ้อมให้ดี ท่าทีให้สง่า วางท่าให้สุขุม ทักที่ประชุมไม่วกวน เริ่มต้นให้โน้มน้าว เรื่องราวต้องกระชับ ตาจับที่ผู้ฟัง เสียงดังแต่พอดี อย่าให้มีเอ้ออ้า มีท่าทางประกอบ ตรวจสอบอารมณ์ขัน หมั่นดูเวลาพอครบ สรุปจบให้จับใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดการพูด”...
ซึ่งผมก็ให้คำอธิบายในแต่ละข้อความ ว่ามีความหมายอย่างไร จากนั้นก็ ลองให้เขากำหนดประเด็นว่าเราจะพูดเรื่องอะไร...ยกตัวอย่างเช่น จะถ่ายทอดความรู้ให้ชาวบ้านเรื่องใดเรื่องหนึ่ง...ก็ให้กำหนดประเด็นหลัก ๆ ง่าย ๆ เอาไว้ว่า ๑.ใคร ๒.ทำอะไร ๓.ที่ไหน ๔.เมื่อไหร่ ๕.อย่างไร เมื่อมีหนังสือมาจากอำเภอหรือ อบต.แจ้งมาก็ให้นำมาเข้ากับประเด็นดังกล่าวว่า...จะถ่ายทอดเรื่องดังกล่าวอย่างไร เช่น เรื่องภัยแล้งก็ให้อ่านทำความเข้าใจก่อนว่า...
- ทางอำเภอ นายอำเภอ หรือ นายก อบต.
- มีหนังสือแจ้งเตือนชาวบ้านเกี่ยวกับภัยแล้ง
- ว่าปีนี้มีภัยแล้งนาน จากเดือน ธันวาคม ถึงเดือน พฤษภาคม ๕๗
- รายละเอียดมีอย่างไร ให้มีการจัดเตรียมอุปกรณ์ใส่น้ำเก็บเอาไว้ให้พร้อมเพื่อรองรับภัยแล้งให้พอใน ระยะ ๕ เดือน ฯลฯ
- แล้วก็เอาแต่เนื้อความมาพูด ไม่ต้องไปอ่านเอกสารทุกตัวให้ชาวบ้านฟัง เขาจะเบื่อเซ็งเอาได้
โดยแนะนำขั้นตอนหลัก ๆ คือ
๑. ทักที่ประชุม กล่าวทักทายว่า สวัสดี... กราบสวัสดี... เรียน... คงไม่ต้องถึงกับกราบเรียนหรอก เพราะกราบเรียนปกติจะใช้กับระดับ สส. หรือ สว. ขึ้นไป
๒. แนะนำตัว... เกริ่นนำ... วันนี้เป็นวันอะไร... จะมีการประชาสัมพันธ์เรื่องอะไร...
๓. เนื้อเรื่องที่จะนำมาถ่ายทอด ตามเบื้องต้น...และอย่าลืมสรุปสั้น ๆ อีกครั้ง...ปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติ วันเวลาที่ชัดเจน
๔. ตอนท้ายก็บอกว่ามีเรื่องที่จะชี้แจงให้ฟังและปฏิบัติตามเพียงเท่านี้
*แนะนำข้อสังเกตการพูด คือ อย่าพูดออกนอกประเด็น หรือนอกเรื่องโดยไม่จำเป็น เช่น พูดเรื่องคนอื่น ใครทำงาน ใครไม่ทำงาน เรื่องตนเอง วันนี้จะทำอะไร จะอยู่หรือไม่อยู่ ไม่ต้องไปพูด พูดตามขั้นตอน จบแล้วจบเลย อย่าเหิรแบบเครื่องบินที่ลงสนามบินไม่ได้เพราะสภาพรันเวย์ไม่เอื้ออำนวย
ผมปริ้นท์เอกสารหลักการพูดหรือขั้นตอนการเตรียมตัวพูดให้หนึ่งแผ่น ด้านหลังก็เขียนหลักการพูดดังกล่าวเบื้องต้นให้เขา... เขาก็ถามว่า “เอาเท่าไหร่เนี่ย?” ผมบอก "ไม่ต้องหรอกให้เป็นวิทยาทานก็แล้วกัน หากจะหาหนังสือไปอ่านก็คงจะเสียเวลาทำมาหากินมากอยู่นะ...ทำตามที่แนะนำให้ได้ก็แล้วกัน...ที่สำคัญต้องมีความมั่นใจในตนเอง...อย่ากลัว...พอแล้ว" ...คุยกันอยู่ประมาณ ๑ ชั่วโมง ...เขาพยักหน้ารับ ขอบคุณแล้วก็ขอตัวลากลับ...ก่อนกลับผมก็พูดว่า “อยากได้ความรู้อะไรต้องไปหาครูอาจารย์...อย่าให้ครูอาจารย์ไปหาลูกศิษย์ อยากได้ธรรมะต้องไปถามพระมันถึงจะถูกต้อง” “ถ้าอยากเรียนคอมหรือค้นข้อมูลก็มาจะแนะนำให้”...เขายิ้มพยักหน้ารับแล้วก็เดินออกจากร้านไป