ประสบการณ์และความรู้สึกนึกคิดจากการไปสนทนากับชาวต่างชาติ
วันที่ 2 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมาข้าพเจ้ากับเพื่อนๆในกลุ่มได้นัดหมายกันว่าจะไปร่วมกันทำกิจกรรมการสนทนากับชาวต่างชาติ เวลา 18.00 น. ในงานแห่เทียนพรรษา ซึ่งได้จัดขึ้นทุกปีของช่วงวันเข้าพรรษา งานแห่เทียนถือเป็นเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดอุบลราชธานีจัดทำขึ้นเพื่อเป็นการแสดงศิลปะการแกะสลักเทียนและวัฒนธรรมการแห่เทียนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อที่จะได้เป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมที่มีความงดงามล่ำค่าไว้สืบเนื่องต่อกันไปสู่รุ่นลูก รุ่นหลาน และให้รู้จักวันสำคัญในทางศาสนา
กิจกรรมนี้ ข้าพเจ้าก็รู้สึกตื่นเต้นกังวลและความรู้สึกท้าทายในการสนทนาอย่างมาก และไม่รู้ว่าจะเกิดอย่างไรขึ้นบ้างกับการสนทนา หรืออาจเกิดอุปรรสค
ตอนเช้าอาจารย์โทรมาหาให้ไปแนะแนวน้องเกี่ยวกับการเรียนและการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยอย่างไรให้มีความสุขอย่างที่ผมเป็น ผมยินดีมากเลยครับที่จะได้ทำหน้าที่นี้ และประโยคที่ต้องการบอกกล่าวเล่าสู่น้องๆ ชั้นปีที่ 1 ว่าบางครั้งความรู้ที่ได้รับก็ไม่ได้เกิดจากห้องเรียนเพียงอย่างเดียว เพียงแต่เราต้องกล้าที่จะก้าวออกสู่สังคมกว้างเพื่อเปิดโลกทัศน์ และปัญหาที่แท้จริงจะมัวแต่ชมสิ่งสวยงามตามการสร้างบรรยากาศของมหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ต้องทิ้งเี้ืีรื่องเรียนไปโดยสิ้นเชิง (เพราะผมจะปิดท้ายด้วยการโชว์ว่าคนทำกิจกรรมก็เรียนไม่แพ้เด็กที่เรียนอย่างเดียวเหมือนกัน แต่เราได้เปรียบที่ประสบการณ์นั่นเอง)
พอช่วงบ่ายอาจารย์อีกท่านโทรมาหาให้ไปรับทราบเบื้องต้นว่าทางคณะได้ส่งผมเข้าคัดเลือกนิสิตดีเด่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้านผลการเรียนและกิจกรรมเสริมหลักสูตร ผลทันตาจริงๆ ครับ 555
ความคิดเห็นที่ได้จากการศึกษาบันทึก Positive Thinking ของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น
การที่เราจะทำอะไรหรือคิดอะไรก็ตามขึ้นอยู่กับจิตใจของเรา เพราะถ้าเรามีความเชื่อมั่นและคิดในทางที่ดี ก็จะทำให้เราสามารถทำสิ่งนั้นได้และทำออกมาได้ดีทีเดียว แต่ตรงกันข้ามถ้าเรามองในแง่ร้าย และคิดแต่ว่าเราทำไม่ได้ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลงมือทำเลย ก็จะทำให้เราไม่มีกำลังใจ ไม่กล้าที่จะทำ ไม่มีความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งนั้น
ดังนั้นการคิดถือว่ามีอิทธิพลมากต่อการปฏิบัติตนและการดำเนินชีวิตของเรา
ขอขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ ที่ใช้ในการเรียน การทำงาน และการดำเนินชีวิตของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นค่ะ