ภาษาไทย : ภาษาชาติ กับการพัฒนาทักษะการเขียนใน GotoKnow


ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่รักภาษาไทย ซึ่งแสดงออกโดยการพูด การอ่านและการเขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง และพยายามพัฒนานักศึกษาที่เรียนกับผู้เขียนทุกรายวิชา ให้ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องทั้งในการพูดการอ่านและการเขียน ในด้านการเขียนนั้น เมื่อพบใครเขียนผิด ก็หาผู้แก้ไขให้ถูกต้องหน้าชั้น เพื่อให้ทุกคนเรียนรู้คำที่ถูกต้องไปพร้อมๆ กัน

ภาษาไทย :: ภาษาชาติ

                               ภาษา เป็น เครื่องมือ ใช้สื่อสาร 

                               ไทย   ลูกหลาน ต้องตระหนัก ช่วยรักษา

                             ภาษา คือ  วัฒนธรรม จงนำพา

                             ชาติ  วัฒนา “ภาษา” ชี้ นี่คือ “ไทย”

 

                             ใช้     อ่าน-เขียน เรียนรู้ ครูพร่ำสอน

                             ให้     สังวร   ใช้ภาษา อย่าเหลวไหล

                             ถูก    อักขระ เหมาะวัฒนธรรม จำใส่ใจ

                             ต้อง  คงไว้ ภาษาชาติ บทบาทเรา

                      (บัวทอง สุตะภักดิ์ [พี่สาว] และ วิไล แพงศรี ประพันธ์)

        “ภาษาไทย เป็นภาษาทางการของประเทศไทย และภาษาแม่ของชาวไทยคำว่า ไทย หมายความว่า อิสรภาพ เสรีภาพ หรืออีกความหมายหนึ่งคือ ยิ่งใหญ่ เพราะการจะเป็นอิสระได้จะต้องมีกำลังที่แข็งแกร่งกว่า เพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึก คนไทยเป็นชนชาติที่นับถือว่า ภาษาบาลี ซึ่งเป็นภาษาที่บันทึกพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นภาษาอันเป็นมงคล เมื่อคนไทยต้องการตั้งชื่อประเทศว่า ไท ซึ่งเป็นคำไทยแท้ จึงเติมตัว ย เข้าไปข้างท้าย เพื่อให้มีลักษณะคล้ายคำในภาษาบาลีสันสกฤต เพื่อความเป็นมงคลภาษาไทยจึงหมายถึงภาษาของชนชาติไทยผู้เป็นไทนั่นเอง"

(http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2)

        จากบทความเกี่ยวกับ “วันภาษาไทยแห่งชาติ” ของ kapook.com (http://hilight.kapook.com/view/26275) สรุปสาระสำคัญได้ว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 เห็นชอบให้วันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปีเป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ…ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธานและทรงร่วมอภิปราย ในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 โดยทรงเปิดการอภิปราย ดำเนินการและสรุปการอภิปรายในหัวข้อ "ปัญหาการใช้คำไทย" ที่แสดงถึงพระปรีชาสามารถ และความสนพระราชหฤทัย รวมถึงความห่วงใยในภาษาไทย …พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยะภาพในการใช้ภาษาไทย ทรงรอบรู้ปราดเปรื่องถึงรากศัพท์ของคำไทย คือ ภาษาบาลีและสันสกฤต ทรงพระอุตสาหะวิริยะ แปลและเรียบเรียงวรรณกรรมภาษาต่างประเทศ เป็นภาษาไทยที่สมบูรณ์ด้วยลักษณะวรรณศิลป์ มีเนื้อหาสาระที่มีคุณค่า เป็นคติในการเสียสละเพื่อส่วนรวม และเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนในการใช้ภาษาไทย ดังจะเห็นได้จากพระราชนิพนธ์แปล เรื่อง นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ ติโต พระราชนิพนธ์แปลบทความเรื่องสั้นๆ หลายบท และพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก เป็นต้น

        วัตถุประสงค์ที่สำคัญ ในการจัดวันภาษาไทยแห่งชาติ คือ “เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงเป็นนักปราชญ์และนักภาษาไทย รวมทั้ง เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ได้ทรงแสดงความห่วงใย และพระราชทานแนวคิดต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทย เพื่อกระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของคนไทยทั้งชาติ ให้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของภาษาไทย ตลอดจนร่วมมือร่วมใจกันทำนุบำรุงส่งเสริม และอนุรักษ์ภาษาไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และเป็นสมบัติวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ ให้คงอยู่คู่กับชาติไทยตลอดไป เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการใช้ภาษาไทย ทั้งในวงวิชาการและวิชาชีพ รวมทั้งเพื่อยกมาตรฐานการเรียนการสอนภาษาไทย ในสถานศึกษาทุกระดับ ให้มีสัมฤทธิผลยิ่งขึ้น” ประโยชน์สำคัญที่คาดว่าจะได้รับ จากการมีวันภาษาไทยแห่งชาติ คือ “บุคคลในวงวิชาชีพต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาไทย โดยเฉพาะในวงการศึกษาและวงการสื่อสาร ช่วยกันกวดขันดูแลให้การใช้ภาษาไทยเป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสม มิให้ผันแปรเปลี่ยนแปลง จนเกิดความเสียหายแก่คุณลักษณะของภาษาไทย อันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ”

       ในปัจจุบัน ผู้เขียนเห็นทั้งครูอาจารย์และนักจัดรายการโทรทัศน์จำนวนไม่น้อย ที่ออกเสียง ตัว "ร" เช่น โรงเรียน รุนแรง ฯลฯ และคำควบกล้ำ "คร" เช่น เครียด ครอบครัว ครบเครื่อง "ปร" เช่น ปรับปรุง ประปราย ฯลฯ และคำควบกล้ำอื่นๆ ไม่ถูกต้องเป็นจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ก็ออกเสียงคำว่า "พุทธศักราช" เป็น "พุด-ทะ-สัก-กะ-หลาด" ทุกคำ ในการกล่าวคำถวายรายงานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เขียนเองออกเสียง "ร" และคำควบกล้ำให้ถูกต้องจนติดเป็นนิสัย เวลาให้ทายว่า ระหว่างวิชาเอก สังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ที่เปิดสอนในวิทยาลัยครูอุบลฯ ในอดีต นักศึกษาทายว่า อาจารย์เรียนวิชาเอกใด เพราะเหตุใด (ในกิจกรรมวิเคราะห์คน) นักศึกษาทุกรุ่น ทุกหมู่เรียน (Sections) ส่วนใหญ่จะทายว่า ผู้เขียนเรียนวิชาเอกภาษาไทย โดยให้เหตุผลว่า เพราะออกเสียงอักขระได้ถูกต้องชัดเจน และเน้นให้นักศึกษาพูด อ่าน เขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง รองลงมาทายว่า วิชาเอกสังคมศึกษา เพราะมีความรู้รอบตัวดี วิทยาศาสตร์ เพราะพูดจาเป็นเหตุเป็นผล คณิตศาสตร์ เพราะทำงานเป็นระบบ และมีผู้ทายว่า ผู้เขียนเรียนวิชาเอกภาษาอังกฤษน้อยที่สุด โดยผู้ที่ทายถูกให้เหตุผลว่า "เพราะอาจารย์อ่านชื่อวิชาที่เป็นภาษาอังกฤษได้ดี" ที่มีส่วนน้อยและบางห้องไม่มีใครทายว่าผู้เขียนเรียนวิชาเอกภาษาอังกฤษเลยนั้น นักศึกษาบอกว่า เพราะในอดีตภาษาอังกฤษน่าจะไม่เป็นที่นิยม ที่ผู้เขียนรู้สึกขำก็คือ แม้แต่คนขับรถแท็กซี่ (ชาวกรุงเทพฯ) ยังถามว่า "พี่เป็นครูใช่ไหม" (ขอบคุณที่เรียกพี่แทนป้าหรือยาย) ผู้เขียนงงว่าเขารู้ได้อย่างไร เขาบอกว่าไม่เคยเห็นใครพูดเหมือนพี่ อ๋อ! คงเป็นเพราะผู้เขียนออกเสียง "ร" และคำควบกล้ำต่างๆ อย่างถูกต้องชัดเจนนั่นเอง    

         

        ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่รักภาษาไทย ซึ่งแสดงออกโดยการพูด การอ่านและการเขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง และพยายามพัฒนานักศึกษาที่เรียนกับผู้เขียนทุกรายวิชา ให้ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องทั้งในการพูดการอ่านและการเขียน ในด้านการเขียนนั้น เมื่อพบใครเขียนผิด ก็หาผู้แก้ไขให้ถูกต้องหน้าชั้น เพื่อให้ทุกคนเรียนรู้คำที่ถูกต้องไปพร้อมๆ กัน อาจจะมีคนตั้งข้อสงสัยว่า รักภาษาไทยทำไมจึงเรียนวิชาเอกภาษาอังกฤษ ก็ต้องขอชี้แจงว่า เหตุที่ผู้เขียนเรียนวิชาเอกภาษาอังกฤษนั้น อาจเป็นเพราะได้คะแนนดีที่สุดในวิชานี้  ประสบการณ์ครั้งแรกที่ผู้เขียนจากชนบทเข้าไปเรียน ป.5 ในเมืองนั้น "ท่านอาจารย์ทองใบ ชายทวีป" อาจารย์ภาษาอังกฤษท่านแรกของผู้เขียน สอนโดยการนำสระมาผสมกับพยัญชนะ แล้วให้นักเรียนตอบว่า แต่ละคำอ่านออกเสียงว่าอย่างไร ปรากฏว่าทั้งห้องมีผู้เขียนตอบอยู่คนเดียว เมื่อเข้าเรียนที่วิทยาลัยครูอุบลราชธานีในอดีต ก็ได้รับการคัดเลือกให้เรียนต่อ ในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ.สูง) ประเภทเรียนดีในวิชาเอกภาษาอังกฤษ และเมื่อสำเร็จการศึกษา วิทยาลัยครูอุบลราชธานี ก็ได้คัดเลือกให้ผู้เขียนไปเรียนต่อในหลักสูตรการศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) วิชาเอกภาษาอังกฤษในประเภทเรียนดี ที่วิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม) อีก โดยมีนักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกจากวิทยาลัยครูในกรุงเทพฯ ทุกแห่ง ทั้งวิทยาลัยครูสวนดุสิต สวนสุนันทา จันทรเกษม ฯลฯ และวิทยาลัยครูในภาคอีสานทุกแห่งร่วมเรียนด้วย แม้จะไม่ได้เรียนวิชาเอกภาษาไทย แต่อาจารย์ที่ปรึกษา ก็กำหนดให้เรียนวิชาโทภาษาไทย ในระดับปริญญาตรี เพราะเห็นว่าเข้ากันได้กับวิชาเอก ทั้งที่ผู้เขียนแจ้งความจำนงที่จะเรียนวิชาโทวิทยาศาสตร์ เพราะชอบเรียนเรื่องที่เป็นกฎเกณฑ์และมีการคำนวณในวิชาฟิสิกส์ มากกว่าวิชาที่ต้องท่องจำในเรื่องที่ (ขณะนั้น) เห็นว่าไม่ได้นำไปใช้ เช่น รากศัพท์บาลีสันสกฤต (แต่ในภายหลังก็ได้นำไปใช้ในการตั้งชื่อลูกสาวโดยวิธีสมาส คือ การนำคำบาลี-สันสกฤตมาเชื่อมกัน ได้คำว่า "ปราณสลิล" แปลเอาความว่า "น้ำหล่อเลี้ยงชีวิต" : ลูกสาวที่ยืนข้างแม่ และเจ้าของลายมือในภาพประกอบบันทึกบนสุด) 

     ในวิชาภาษาไทยนั้น ผู้เขียนคงจะถนัดด้านการเขียนพอสมควร เพราะในการเรียนวิชาการเขียนที่วิทยาลัยครูอุบลฯ ซึ่งต้องเรียนร่วมกับนักศึกษาวิชาเอกภาษาไทย "ท่านอาจารย์ธวัช ปุณโณทก" อาจารย์ผู้สอนได้ให้ผลการเรียน “ก” (ปัจจุบัน คือ A) แก่ผู้เขียนเพียงคนเดียว (ขณะนี้ ผู้เขียนรู้สึกภาคภูมิใจมากที่อ่านพบว่า ปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ และได้รับการเชิดชูเกียรติให้ได้รับรางวัลปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย ในวันภาษาไทยแห่งชาติปี 2554) และตอนเรียนปริญญาตรีวิชาเอกภาษาอังกฤษ ที่วิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม เพื่อนที่เรียนวิชาเอกภาษาไทยจากวิทยาลัยครูอื่น ได้ให้ผู้เขียนช่วยแต่งกลอนให้ ผู้เขียนบ่นว่า ไม่ถนัดภาษาไทยแล้วทำไมจึงเรียนวิชาเอกนี้ เธอก็บอกว่า “อยากเรียนกับเพื่อนที่รักที่สุดโว้ย” เธอใช้สำนวนภาษานั้นจริงๆ เพราะเป็นคนที่พูดจาแบบมึงมาพาโวย แต่ในภายหลัง เธอก็ได้เป็นผู้ตรวจผลงานทางวิชาการ สาขาวิชาภาษาไทย ของครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้เขียนรู้สึกชื่นชม ที่คนไทยมักเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน คนทุกระดับการศึกษาสามารถคิดคำคล้องจองได้ ดังที่เรามักจะเห็นคำคล้องจองปรากฏที่ท้ายรถบรรทุก มีวันหนึ่งในอดีต ขณะนั่งรถส่วนตัวไปเยี่ยมลูกที่เรียนแถวลาดกระบัง ผู้เขียนเห็นคำคล้องจองท้ายรถบรรทุกที่วิ่งอยู่ข้างหน้า ความว่า “ดีใจจังคันหลังก็ลาว” ผู้เขียนรู้สึกขำมากและได้พูดกับคนขับว่า “เขารู้ได้ยังไงว่าคันหลังก็ลาว เดี๋ยวขับรถตามไปให้ทัน ไปทักทายคนบ้านเดียวกันหน่อยนะ”

การพัฒนาทักษะการเขียนใน GotoKnow

 

       สำหรับสาระสำคัญเกี่ยวกับการเขียนนั้น วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ได้ให้ “ความหมายของการเขียน” ไว้ว่า “การเขียน คือ การสื่อสารชนิดหนึ่งของมนุษย์เรา ที่ต้องอาศัยความพยายามและฝึกฝน การเขียนเป็นการแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึก ความต้องการ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้ผู้รับสารสามารถอ่านได้เข้าใจ ได้ทราบความรู้ ความคิด ความรู้สึก ความต้องการ แล้วสามารถนำมาบอกบอกต่อกับบุคคลอื่น ให้ได้ความรู้ที่ผู้รับสารได้รับ เครื่องมือในการเขียน เช่น ดินสอ ปากกา สี พู่กัน กระดาษ กระดาน ฯลฯ การเขียนจะต้องเขียนเป็นภาษาซึ่งอาจเขียนเป็นภาษาเดียวหรือหลายภาษาก็ได้(http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99)    

      ประโยชน์ของการเขียน มีกล่าวไว้ในในบทความเรื่อง “ประโยชน์ของการเขียนมีมากกว่าที่คิด” ที่ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เขียนไว้เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2555 ซึ่งสรุปประโยชน์ทั่วไปของการเขียนได้ 6 ประการ ได้แก่ 1) การเขียนเป็นกระบวนการเปลี่ยนความคิดของบุคคล 2) การเขียนช่วยให้ไม่ลืม 3) การสื่อสารด้วยการเขียน ช่วยให้คนรับสารได้ถูกต้องมากกว่าสื่อสารด้วยการพูด 4) อาชีพการเขียนทำให้มีอิสระในการใช้ชีวิต  5) การเขียนทำให้ประเทศเกิดการพัฒนา ก้าวหน้าขึ้น เพราะจะช่วยให้ประชาชนในประเทศนั้นๆ มีนิสัยในการรักการอ่าน รักการเรียนรู้ มากขึ้น เมื่อประชาชนรักการอ่าน ก็จะทำให้เกิดความคิด ปัญญา มันสมอง ที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้นสืบไป และ 6) การเขียนช่วยในการจัดการองค์ความรู้ และได้ให้ข้อคิดทิ้งท้ายที่ตรงใจผู้เขียนมากว่า “ถ้าไม่ได้เป็นนักอ่าน    ไม่ควรคิดเป็นนักเขียน และหากเป็นนักเขียน ก็ควรเขียนเพื่อพัฒนาสังคม” (http://www.oknation.net/blog/markandtony/2012/07/20/entry-1)  และในด้านการนำการเขียน ไปใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนนั้น Wasawat Deemarn ได้เขียนบันทึกใน GotoKnow เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2554 ระบุว่า ท่านได้นำ "การเขียน" ไปใช้ในกระบวนการเรียนการสอนของตนเอง เพื่อ เป็นการดึงอะไรบางอย่างออกมาจากใจของผู้เรียน และเพื่อให้ผู้เรียน ได้มีโอกาสพิจารณาทบทวนตนเองอยู่เสมอ (http://www.gotoknow.org/blogs/posts/437450)

       สำหรับผู้เขียนเอง ได้ให้ความสำคัญต่อทักษะการเขียนของนักศึกษา เพราะเห็นว่า นักศึกษาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ทั้งในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน การเรียน การสมัครงาน การทำงาน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตน จึงได้กำหนดไว้ในขอบข่ายของกิจกรรมการพัฒนาตนของนักศึกษา โดยเริ่มจากการตรวจสอบทักษะพื้นฐานของผู้เรียน ด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนสื่อความ โดยการให้กรอกข้อมูล ในแบบสำรวจข้อมูลพื้นฐานของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ซึ่งมีส่วนที่ให้ผู้เรียนวาดภาพสัญลักษณ์ ที่แสดงถึง "ตนตามที่ตนรับรู้ (Perceived Self)" พร้อมเขียนคำอธิบาย ซึ่งก็พบทั้งผู้ที่ทำได้ดี และผู้ที่มีปัญหาการเขียนสะกดคำไม่ถูกต้อง และต่อมาก็ได้ให้ใบงานที่กำหนดให้นักศึกษาอ่านบทร้อยกรอง ที่มุ่งสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเอง แล้วให้เขียนสื่อความถึงความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้น หลังการอ่าน ซึ่งก็พบทั้งผู้ที่เขียนได้ดี และผู้ที่มีปัญหาการเขียนเช่นกัน

        นอกจากนั้น ผู้เขียนยังได้ให้นักศึกษาใช้ IT เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนสื่อความ โดยการสมัครเป็นสมาชิก GotoKnow.org แล้วเข้าไปอ่านบันทึก ของผู้เขียนท่านต่างๆ ตามที่อาจารย์เสนอแนะ และตามความสนใจ รวมทั้งให้เขียนบทความตาม "โครงการ สรอ.ขอความรู้" และตามความถนัดและความสนใจของนักศึกษา ซึ่งจากการติดตามผล พบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ยังจำเป็นจะต้องได้รับการพัฒนาในเรื่องนี้อีกมาก ผู้เขียนจึงเขียนบทความนี้ขึ้น โดยมีจุดประสงค์ประการหนึ่งคือ ให้คำแนะนำนักศึกษาเพิ่มเติม ในเรื่องการสร้างสมุุด การเขียนบทความ และการเขียนอนุทิน

การสร้างสมุดใน GotoKnow

      อาจารย์เข้าใจว่า นักศึกษาจะตั้งชื่อสมุด (Blog) โดยดูจากตัวอย่างสมุดใน GotoKnow ของอาจารย์ ซึ่งได้สร้างสมุดชื่อ "Learntoknow : ประสบการณ์/แนวคิดด้านการจัดการศึกษา" แล้วก็เขียนบันทึกหรือบทความในชื่อเรื่องต่างๆ ในสมุดเล่มเดียวกันนี้ ดังภาพ

       แต่อาจารย์กลับพบว่า นักศึกษาตั้งชื่อสมุดตามชื่อบันทึก และมีการเปลี่ยนชื่อสมุดไปตามชื่อบันทึก ดังตัวอย่าง 

  

        อาจารย์ได้บอกไปในบันทึกที่แล้วว่า ให้ทุกคนตั้งชื่อสมุดของตนว่า "บันทึกของ....." หรือ "งานเขียนของ..." หรืออะไรทำนองนี้ ตัวอย่างเช่น "งานเขียนของ 02 แสงสุวรรณ 1124 T3" และเมื่อเขียนบันทึกครั้งใด ก็ต้องเลือกชื่อสมุดเดิมนี้

        มีนักศึกษาที่ได้แก้ไขแล้ว แต่ยังไม่ถูกต้อง คือใช้หัวสมุดดังภาพล่าง คำว่า "บันทึกของฉัน" ไม่รู้ว่า "ฉัน" คือใคร

        ตัวอย่างที่อาจารย์ให้ทำ คือ ต้องมีภาพและข้อมูลบุคคลในหัวสมุด ดังตัวอย่าง 

  

ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนบทความ

      อาจารย์ขอทบทวนข้อกำหนด ที่อาจารย์ได้แจ้งไว้ในบันทึกเรื่อง "การใช้ IT เพื่อพัฒนาสมรรถภาพในการเรียนรู้ตลอดชีวิต" สร้าง ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2555 คือ นักศึกษาทุกคนจะต้องเขียนบันทึกหรือบทความใน GotoKnow อย่างน้อย 1 เรื่องภายในเดือนสิงหาคม ณ ขณะนี้พบว่าบางคนเขียนไปแล้ว 3 เรื่อง บางคนยังไม่ลงมือเขียนเลย และขอทบทวนว่า ในการเขียนบันทึก ต้องมีส่วนประกอบครบ 3 ส่วน แต่ละส่วนแยกเป็นแต่ละย่อหน้าให้เห็นชัดเจน และต้องค้นคว้าและนำมาอ้างอิงอย่างน้อย 1 แหล่งพร้อมทั้งแสดงการอ้างอิงโดยให้ Link ตามรูปแบบต่างๆที่อาจารย์ให้ไว้ในบันทึกนี้และบันทึกอื่นๆ ซึ่งสามารถ Click เข้าไปดูแหล่งที่มาได้ ถ้าใครไม่เขียนให้ถูกต้อง ตามข้อกำหนดเบื้องต้นดังกล่าว จะไม่ได้รับการตรวจประเมิน และให้ศึกษาเนื้อหาข้างล่างเพิ่มเติม เพื่อนำไปประกอบการเขียนบทความให้มีคุณภาพ 

    การเขียนบทความที่ดี ควรมีลักษณะ 4 ประการ ดังนี้ (http://courseware.payap.ac.th/docu/th203/content/aticle.htm)   

       1) มีเอกภาพ กล่าวคือ เนื้อหาของบทความมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีทิศทางของเนื้อหาเป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อมุ่งสู่ประเด็นหลักที่ต้องการนำเสนอ

      2) มีสารัตถภาพ กล่าวคือ ผู้เขียนต้องเน้นย้ำประเด็นสำคัญให้ชัดเจนว่า ต้องการนำเสนอแนวคิดสำคัญอะไร ด้วยประโยคใจความสำคัญ หรือสาระสำคัญที่โดดเด่น เนื้อความตลอดเรื่องควรกล่าวย้ำประเด็นหลักของเรื่องเสมอๆ

        3) มีสัมพันธภาพ กล่าวคือ มีความต่อเนื่องสัมพันธ์กันโดยตลอด ทั้งในด้านการเรียบเรียงถ้อยคำ ข้อความ และการจัดลำดับเรื่อง ทุกประโยคในแต่ละย่อหน้า และทุกย่อหน้าในแต่ละเรื่องต้องเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ด้วยการใช้คำเชื่อมข้อความ ได้แก่ คำบุพบท เช่น กับ แต่ แด่ เพื่อ คำสันธาน เช่น และ รวมทั้ง ตลอดจน นอกจากนี้ คำประพันธสรรพนาม เช่น ที่ ซึ่ง อัน เป็นต้น

        4) มีความสมบูรณ์  กล่าวคือ มีความสมบูรณ์ในด้านเนื้อหา มีเนื้อความชัดเจนกระจ่างแจ้ง อธิบายได้ครอบคลุมความคิดหลักที่ต้องการนำเสนอ ข้อมูลที่นำเสนอเป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง หากเป็นความคิดเห็นต้องมีความสมเหตุสมผล นอกจากนี้ ต้องมีความสมบูรณ์ด้านการใช้ภาษา คือ  ต้องเลือกใช้ภาษา ให้เหมาะสมกับจุดมุ่งหมายการเขียน ประเภทของบทความ เนื้อหาบทความ และกลุ่มผู้อ่าน นั่นเอง

การเขียนอนุทิน

        ขอแนะนำให้เข้าไปอ่านอนุทินล่าสุดของ "คุณวศิน ชูมณี" ที่ Link ข้างล่าง ซึ่งจะได้ทั้งตัวอย่างการเขียนอนุทิน และตัวอย่างการพัฒนาตน ให้เป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพและคุณค่า คือ ทั้งดี ทั้งเก่ง และมีความสุขในชีวิตการเป็นนักศึกษา  

 http://www.gotoknow.org/journals/entries/110392

 

คำเตือน

      อาจารย์บอกไว้แล้วในท้ายบันทึกที่แล้วว่า บันทึกนี้จะเป็นการประเมินครั้งสุดท้ายของ "การประเมินเบื้องต้นการใช้ IT..." ถ้าใครเข้ามาแสดงตัวในบันทึกนี้โดยไม่ถูกต้อง 100 % จะได้แต้มการประเมินทั้งหมด 0 ทันที กวาดตาดูรู้สึกจะเห็นผู้ที่ได้ 0 ซึ่งเป็นหน้าเดิมๆ ที่เคยทำไม่ถูกต้องทั้งที่เตือนมาหลายครั้ง คนที่อาจารย์ไม่ได้เตือน ก็โปรดอย่าประมาทว่าตนถูกต้อง  อาจารย์จะให้โอกาสโดยจะยังไม่ตรวจในวันนี้ เพื่อให้โอกาสแก้ไข แต่ถ้าอาจารย์เข้ามาตรวจ 21.00 น.พรุ่งนี้ แล้วก็จะไม่มีการผ่อนผันใดๆ อย่าลืมว่า อาจารย์ไม่ได้รู้สึกสะใจและมีความสุขหรอกนะ ที่ได้ให้ใคร 0 ตรงกันข้ามจะเป็นทุกข์มาก พร้อมกับคิดในใจว่า ช่างน่าเป็นห่วงอนาคตของเขา/เธอเหล่านั้น และเป็นห่วงอนาคตของประเทศชาติ เหลือเกิน

 

 

 

        

 

หมายเลขบันทึก: 495896เขียนเมื่อ 24 กรกฎาคม 2012 23:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 สิงหาคม 2013 09:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน


ความเห็น

คำที่ผมพบบ่อยมากครับ

เขียน "โอกาส" ผิดเป็น "โอกาศ" (สงสัยเป็นญาติกับอากาศ)

แวะมามีส่วนร่วมด้วยครับ ;)...

  • ขอบคุณ "อาจารย์Wasawat DeemarnBlank" มากค่ะ ที่มาให้กำลังใจ นึกว่าจะมีแต่ผู้สูงวัยที่นอนดึก คนหนุ่มก็นอนดึกเหมือนกันนะคะ

  • และขอบคุณมากค่ะ ที่ช่วยชี้คำที่เขียนผิด น่ารักมากและนับเป็นความคิดสร้างสรรค์ของอาจารย์ทีเดียวที่ใช้คำว่า"สงสัยเป็นญาติกับ..."เพราะเป็นถ้อยคำที่ "มีภาพพจน์เห็นเป็นรูปธรรม" มากกว่าใช้คำว่า"การเขียนผิดอันเกิดจากการเทียบคำผิด"อ.วิขออนุญาตนำไปใช้ด้วยนะคะ

  • อีกสามคำที่ อ.วิเห็นเขียนผิดกันบ่อย คือ คำว่า "ผูกพัน" ที่เขียนผิดเป็น"ผูกพันธ์" เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นญาติกับคำว่า"สัมพันธ์" คำว่า"อนุญาต"ที่เขียนผิดเป็น "อนุญาติ" เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นญาติกับคำว่า"ญาติ" และคำว่า"ถั่วพู"ที่เขียนผิดเป็น "ถั่วพลู" เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นญาติกับคำว่า"พลู"  

  • "อาจารย์ Wasawat" ได้กรุณานำร่อง"การเขียนผิดเพราะความเข้าใจผิดว่าเป็นญาติกัน"ไว้แล้ว อ.วิอยากจะขอให้กัลยาณมิตรท่านอื่นๆ ช่วยเติมเต็มคำอื่นๆ ที่ท่านพบเห็นว่า มีการเขียนผิดในทำนองเดียวกันนี้ เพื่อช่วยกันสนับสนุนการเขียนภาษาไทยให้ถูกต้องกันมากขึ้น ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

  • และขอเรียน "อาจารย์ Wasawat" ด้วยนะคะ ว่า ช่วงที่สืบค้นประกอบการเขียนบันทึกนี้ อ.วิได้พบบันทึกของอาจารย์ที่ลงไว้เมื่อ 28 สิงหาคม 2554 ซึ่งจะนำมาอ้างอิงในเนื้อหาบันทึกนี้ด้วย แต่ยังไม่ถึงตอนที่จะอ้างอิง เพราะเขียนยังไม่เสร็จ แต่ลงก่อนเพื่อให้ได้วันที่สร้างเป็นวันที่ 24 ก.ค. 2555 ตามที่ได้แจ้งนักศึกษาไว้ค่ะ (ตอนนี้ได้นำไปใส่ไว้ในบันทึกที่เกี่ยวข้องแล้วค่ะ)

มาสารภาพครับคุณพี่

เขียนผิดเป็นประจำ

บางคำไม่ได้เห็นมาเกือบสามสิบปี

เกือบจะลืม  หรือลืมไปแล้วครับ

อาจารย์วิค่ะ...ขอบคุณค่ะ เห็นด้วยกับข้อเขียนในบันทึกนี้ ที่มีความสำคัญ ..ขอร่วมสนับสนุนการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องด้วยการส่งเสริมศิษย์ที่สอน ให้ใช้ภาษาไทยอย่างเหมาะสมตามบริทบทค่ะ

บางทีไม่มั่นใจว่าเขียนถูกหรือเปล่า จนต้องหาพจนานุกรมมาเปิดดูว่าเขียนถูกหรือเปล่าเหมือนกันค่ะ

  • ขอบคุณค่ะ "คุณน้องคนบ้านไกลBlank" มากค่ะ ที่แวะไปเยี่ยม
  • กรณีของคุณน้องนั้นน่าเห็นใจ เพราะไปอยู่อเมริกานานแล้ว ใช้แต่ภาษาอังกฤษ ไม่ทราบว่ายังพูดสำเนียงไทยชัดอยู่ไหมนะคะ
  • ไม่ร้องเพลงให้ฟัง ก็อยากฟังเสียงพูดคุยสนทนากันในครอบครัวตอนที่อยู่กันพร้อมหน้า แล้วลงในบันทึก ให้อ.วิได้ใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ "การฟังสำเนียงภาษาอังกฤษของคนไทยในอเมริกา" ก็จะได้กุศลจากวิทยาทานไม่น้อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ 
  • ขอบคุณ "ดร.kwanchaBlank" (ครูผู้ยิ่งใหญ่ในใจ อ.วิ และคงจะเป็นอาจารย์ที่เคารพรักศรัทธาของนักศึกษา มอ.วิทยาเขตปัตตานี ทุกคนที่ได้เรียนกับอาจารย์) มากนะคะ ที่แวะไปให้กำลังใจและบอกจะ "ขอร่วมสนับสนุนการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องด้วยการส่งเสริมศิษย์ที่สอน ให้ใช้ภาษาไทยอย่างเหมาะสมตามบริทบท" 

  • อ.วิเห็นว่า อาจารย์ทุกวิชาน่าจะต้องร่วมด้วยช่วยกันนะคะ เพราะลำพังอาจารย์ภาษาไทยเท่านั้นคงไม่เพียงพอ ที่จะสนับสนุนให้นักศึกษาของเราใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง  

ขอบคุณนะครับอาจารย์ ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีความสำคัญมากเเละมีคุณค่า

สวัสดีครับ

ระยะหลัง ผมสังเกตว่ามีการใช้ภาษาไทยแปลกๆ มากขึ้น ดังนั้น

 

การสะกด

1. สะกดผิด ใช้พยัญชนะผิดตัว ขาด/เกิน

2. ผันวรรณยุกต์ผิด

3. สะกดไม่ถูก (ข้อนี้หนักกว่า คือ คงจะไม่ทราบเลยว่าคำนี้สะกดอย่างไร จึงเขียนมั่วไป)

การใช้ภาษา การพูด

1. ร ล และ คำควบกล้ำ ผิดหรือไม่ใช้  แบบนี้พบมาก

2. ใช้คำฟุ่มเฟือย และเยิ่นเย้อ เช่น เข้ารับการสอบ (ฟัง/อ่านแล้วก็งง) เขาคงหมายถึง เข้าสอบ

3. ประดิษฐ์คำใหม่ แทนคำเก่าโดยไม่จำเป็น ทำให้เกิดความสับสน (พบในกลุ่มนักวิชาการ)

 

 

  • ขอบคุณ "คุณชาดา natadeeBlank" มากค่ะ ที่แวะมาให้กำลังใจทักทายพูดคุย อ.วิ อย่างสม่ำเสมอ
  • อ.วิเองต้องวางพจนานุกรมไว้ใกล้ตัวทุกครั้งที่เขียนบันทึกค่ะ เพราะมีหลายคำที่ไม่ค่อยได้ใช้ เลยไม่แน่ใจว่าจะเขียนได้ถูกต้อง เช่น คำว่า "อานิสงส์" ที่เห็นบางท่านเขียนผิดเป็น "อานิสงค์" คงเกิดจากความเข้าใจผิดว่าเป็นญาติกับคำว่า "ประสงค์" นะคะ 

หนูก็เป็นอีกคนที่ใช่ภาษาผิดบ่อยมาก คิดว่าตัวเองใช่ถูกแล้วแต่มันก็ไม่ใช่

ขอบคุณอาจารย์ค่ะ ที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง หนูเป็นอีกคน ที่เขียนผิดเป็นประจำ

ขอบคุณมากครับอาจารย์ที่ให้เกียรติครับ ...

ผมแวะมามีส่วนร่วมอีกครั้งครับ

 

เขียนคำถูก "โอกาส" ผิดเป็น "โอกาศ" (สงสัยเป็นญาติกับ "อากาศ")

เขียนคำถูก "ผูกพัน" ผิดเป็น "ผูกพันธ์" (สงสัยเป็นญาติกับ "สัมพันธ์")

เขียนคำถูก "อนุญาต" ผิดเป็น "อนุญาติ" (สงสัยเป็นญาติกับ "ญาติ")

เขียนคำถูก "ถั่วพู" ผิดเป็น "ถั่วพลู" (สงสัยเป็นญาติกับ "พลู")

เขียนคำถูก "อานิสงส์" ผิดเป็น "อานิสงค์" (สงสัยเป็นญาติกับ "ประสงค์")

 

ขอบคุณครับ ;)...

  • .เขียนผิดบ่อยๆ .พูดก็ยังไม่ถูกต้องนัก โดยเฉพาะ ร-ล ...เฮ้อ
  • แสดงว่า...ยังเรียนไม่จบ..ครับอาจารย์..555

สวัสดีค่ะทุกท่าน

ขอมาเรียนรู้ด้วยค่ะ เพราะที่ผ่านมาคงเขียนผิดเป็นประจำจนคิดว่ามันเป็นความถูกต้องไปแล้ว

ขอบคุณมากๆ ค่ะ

ทุกวันนี้คนมักใช้ภาษาวัยรุ่นมากเกินไปค่ะจนแยกไม่ออกว่าอันไหนเขียนถูกเขียนผิดหนูจะพยายามใช่ภาษาไทยให้ถูกต้องค่ะอาจารย์ ขอบพระคุณอาจารย์มากๆค่ะที่แนะนำในสิ่งที่ถูกต้อง

    จากข้อความที่ได้กล่าวมาข้างต้นแสดงให้เห็นถึง การเป็นคนไทยที่แท้จริงนั้น จะต้องใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ทั้งการสื่อสารด้วยการพูดและการเขียน หรือเป็นวัจนภาษาและอวัจนภาษาก็ตาม เพราะภาษาไทยนั้นเป็นภาษาประจำชาติของไทย แต่ในปัจจุบันมีการใช้ภาษาไทยที่ผิดเพี้ยนกันมาก เพราะปัจจุบันมีเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยกว่าสมัยก่อนซึ่งก็ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะเครื่องมือที่ทันสมัยเหล่านี้หรือเปล่า ที่เป็นตัวการที่ทำให้ภาษาไทยนั้นเริ่มเปลี่ยนไป ตัวอย่างนี้จะเห็นได้จากการสื่อสารกันทาง เฟคบุค มีการพิมพ์ภาษาไทยที่ผิด ๆ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ไม่ควรนำเอามาฝึกเป็นแบบอย่าง โดยส่วนตัวข้าพเจ้าเองก็ยังออกเสียงภาษาไทยได้ไม่ดี จึงอยากขอเชิญชวนคนไทยทุกคนให้หมั่นฝึกการใช้ภาษาไทยทุก ๆ วันให้ถูกต้อง เพื่อช่วยส่งเสริมความเป็นเอกราชของไทยเรา

ใช่ค่ะภาษาไทยเป็นภาษาที่มีคุณค่า

เรียน อ.วิ พ่อใหญ่ป๋าเดจะอ่านบล๊อคของท่านวันพรุ่งนี้..วันนี้จะนอนแล้ว..ขออภัยครับท่าน...

คำว่า "ผาสุก" ด้วยครับ มักเขียนว่า "ผาสุข" ถึงผาสุกจะมีความหมายไปในทำนองเดียวกันกับ ความสุข แต่คงไม่ได้เป็นญาติกันใช่ไหมครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์ จากที่ได้อ่านบันทึกนี้แล้วทำให้หนูมองเห็นไปถึงสภาพการณ์ในปัจจุบันนี้ที่ได้มีการพัฒนาภาษาต่างๆมากขึ้น เช่น ภาษาอังกฤษ แต่ว่าน่าสลดใจมากที่ทำไมภาษาไทยเรานั้นเริ่มถดถอยลงเรื่อยๆ ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยในประเทศไทยเราเพราะเป็นภาษาทางการของประเทศไทย ดังนั้นหนูขอเป็นอีกคนหนึ่งที่จะร่วมพัฒนาภาษาไทยไปกับอาจารย์นะค่ะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับบันทึกดีดีนี้ค่ะ

รับทราบค่ะอาจารย์หนูจะรีบไปแก้ไขค่ะ

ที่หนูเห็นบ่อยที่สุดคือคำว่า ศีรษะ เป็น ศรีษะ ค่ะ 

"เป็นคนไทยก็ต้องใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องคะ" ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูล

สวัสดีคะอาจารย์วิไล แพงศรี ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ "การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะเราเป็นคนไทยเราต้องอนุรักษ์ภาษาไทยและใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง"

สวัสดีคะอาจารย์วิไล แพงศรี หนูได้เข้าไปบันทึก "ปัญหาทางเทคโนโลยีการศึกษาและแนวทางการแก้ไขปัญหา" ขอรบกวนให้อาจารย์เข้าไปติชม และให้คำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณคะ

มาร่วมอนุรักษ์ภาษาไทย...สวัสดีครับ

เกิดอยู่ในประเทศไทยต้องรู้จักใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง และรู้จักอนุรักษ์ภาษา และวัฒนธรรมอีกดีงานเอาไว้ ขอบคุณครับสำหรับขอบมูล และสิ่งดีๆจากการบันทึกของอาจารย์ครับ

  •  นักศึกษา Section 02, 03, 04 อาจารย์ได้แจ้งเตือนในท้ายบันทึกนี้ ไว้ดังนี้

  • คำเตือน

         อาจารย์บอกไว้แล้วในท้ายบันทึกที่แล้วว่า บันทึกนี้จะเป็นการประเมินครั้งสุดท้ายของ "การประเมินเบื้องต้นการใช้IT..." ถ้าใครเข้ามาแสดงตัวในบันทึกนี้โดยไม่ถูกต้อง 100 % จะได้แต้มการประเมินทั้งหมด 0 ทันที กวาดตาดูรู้สึกจะเห็นผู้ที่ได้ 0ซึ่งเป็นหน้าเดิมๆ ที่เคยทำไม่ถูกต้องทั้งที่เตือนมาหลายครั้ง คนที่อาจารย์ไม่ได้เตือน ก็โปรดอย่าประมาท ว่าตนถูกต้อง อาจารย์จะให้โอกาสโดยจะยังไม่ตรวจในวันนี้ เพื่อให้โอกาสแก้ไข แต่ถ้าอาจารย์เข้ามาตรวจ 21.00 น.พรุ่งนี้ แล้วก็จะไม่มีการผ่อนผันใดๆ อย่าลืมว่า อาจารย์ไม่ได้รู้สึกสะใจและมีความสุขหรอกนะ ที่ได้ให้ใคร 0 ตรงกันข้ามจะเป็นทุกข์มาก พร้อมกับคิดในใจว่า ช่างน่าเป็นห่วงอนาคตของเขา/เธอเหล่านั้น และเป็นห่วงอนาคตของประเทศชาติ เหลือเกิน

  • ตอนนี้อาจารย์เข้ามาตรวจเบื้องต้น เวลา 17.00 น. พบผู้ที่ทำได้ไม่ถูกต้อง 100 % และถ้ายังไม่มีการแก้ไข ณ เวลา 21.00 น. จะได้คะแนนการประเมินเบื้องต้นการใช้ IT  = 0 ทันที (ประเมินจากความถูกต้องของ 1) ชื่อที่ใช้ใน GotoKnow 2) ภาพ 3) รหัสในภาพ 4) การกรอกข้อมูลส่วนตัว 5) ประวัติ)  ดังรายชื่อต่อไปนี้ ฤทธิพร, ทิฆัมพร, ปนัดดา, อรุณี, เชษฐ, พวงผกา, อริษา, อุไรวรรณ, พันพิลักษณ์, เมทีนี, พวงผกา

  • นักศึกษา Section 02, 03, 04

  • หัวสมุดที่อาจารย์กำหนดให้ทำ หน้าตาเป็นดังภาพข้างล่าง ที่สำคัญจะต้องมีภาพประจำตัวพร้อมรหัสส่วนตัวในภาพที่ถูกต้องชัดเจน จะเขียนบันทึกกี่เรื่อง กี่ครั้งก็ต้องใช้หัวเดิมนี้

  • สวัสดีครับอาจารย์แ่ม่
  • ช่วงหลังมานี้ผมมักตรวจสอบความถูกต้องของคำเวลาเขียนเสมอครับ
  • แต่ก็มีผิดพลาดบ้างบางครั้งครับ 
  • ผมมีพจนานุกรมภาษาไทย(เล่มเล็ก) อยู่ที่หอพัก บางคำหาไม่พบก็จะไปค้นหาในเว็บไซต์ของราชบัณฑิตยสถาน เพื่อค้นหาคำที่ต้องการครับ
  • http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp เว็บไซต์นี้เลยครับ เข้าไปใช้ประจำ
  • ตอนนี้เหลือฝึกฝนการพูดให้ถูกอักขระชัดเจน ไม่ให้ผิดเพี้ยนครับ
  • ปล. ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับที่อาจารย์แม่นำอนุทินที่ผมเขียนมามีส่วนร่วมในบันทึกนี้

สวัสดีคะอาจารย์หนูได้เข้าไปบันทึก "ปัญหาเทคโนโลยีการศึกษา"เสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ ขอให้อาจารย์เข้าไปอ่านและให้คำแนะนำในการเขียนด้วยนะคะ เพื่อเป็นการปรับปรุงแก้ไขต่อไปคะ

  • "Blank" อาจารย์ได้เข้าไปชี้แนะแล้วค่ะ
  • ขอบคุณ "คุณ ธ.วัชชัยBlank" มากค่ะ ที่ช่วยตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยของคนไทยในปัจจุบัน ทั้งด้านการเขียนและการพูดที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม
  • อยากจะเสริมในประเด็นการใช้วรรณยุกต์ที่ไม่ถูกต้องค่ะ ยกตัวอย่างจากนักศึกษาที่ใช้เวลาแสดงความเห็น ซึ่งพบตั้งแต่เริ่มแรกที่นักศึกษาเข้ามาแสดงความเห็นแล้ว ตัวอย่างเช่น "Blank" เขียนว่า "สวัสดีคะ (ค่ะ)อาจารย์หนูได้เข้าไปบันทึก "ปัญหาเทคโนโลยีการศึกษา" เสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ ขอให้อาจารย์เข้าไปอ่านและให้คำแนะนำในการเขียนด้วยนะคะ เพื่อเป็นการปรับปรุงแก้ไขต่อไปคะ (ค่ะ)
  • คำที่นักศึกษาใช้ที่อาจารย์ระบายสีเทาและขีดเส้นใต้ คือคำที่ใช้วรรณยุกต์ไม่ถูกต้อง และอาจารย์ได้แก้ไขให้โดยใส่ในวงเล็บและระบายสีเหลือง ส่วนคำที่ระบายสีฟ้าคือคำที่นักศึกษาใช้วรรณยุกต์ได้ถูกต้อง
  • นักศึกษาทุกคน เมื่ออาจารย์ได้ชี้แนะแล้ว ถ้าใครยังใช้วรรณยุกต์ผิดอีกในคำที่ได้แนะนำไปแล้วจะหักแต้มคำละ -1 นะคะ
  • ขอบคุณ "อาจารย์ "Wasawat DeemarnBlank" มากค่ะ ที่กรุณาสรุปบัญชีคำที่เขียนผิด ด้วยความเข้าใจผิดว่าเป็นญาติกัน "Blank" เพิ่มมาอีกคำ คือ คำว่า "ผาสุก" และเมื่อกี๊ อ.วิใช้คำว่า "สังเกต" จึงขอเพิ่มต่อท้ายบัญชีนะคะ แต่ขอเปลี่ยนข้อความในวงเล็บเล็กน้อย และเอาวงเล็บออกนะคะ

  • เขียนคำถูก "โอกาส" ผิดเป็น"โอกาศ" เพราะคิดว่าเป็นญาติกับ "อากาศ"

    เขียนคำถูก "ผูกพัน" ผิดเป็น"ผูกพันธ์" เพราะคิดว่าป็นญาติกับ "สัมพันธ์"

    เขียนคำถูก "อนุญาต" ผิดเป็น"อนุญาติ"เพราะคิดว่าเป็นญาติกับ "ญาติ"

    เขียนคำถูก "ถั่วพู" ผิดเป็น"ถั่วพลู" เพราะคิดว่าเป็นญาติกับ "พลู"

    เขียนคำถูก "อานิสงส์" ผิดเป็น"อานิสงค์"เพราะคิดว่าป็นญาติกับ "ประสงค์"                                                                                 เขียนคำถูก "ผาสุก" ผิดเป็น "ผาสุข" เพราะคิดว่าป็นญาติกับ "ความสุข"    เขียน คำถูก "สังเกตุ" ผิดเป็น "สังเกตุ" เพราะคิดว่าป็นญาติกับ "เหตุ"       

 

ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ หนูจะพยายามใช้ภาษาให้ถูกต้องค่ะ

ขอขอบคุณอาจารย์ วิไล แพงศรี มากนะครับที่นำความรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องมาให้กับนักศึกษาผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้ภาษาไทยไม่ค่อยได้ดี แต่ก็จะพยายามใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องทั้งพูด อ่าน และเขียนจะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไปครับ

  • ขอบคุณ "ท่านสามสักBlank" มากนะคะ ที่กรุณามาให้กำลังใจและทักทายพูดคุย
  • ท่านบอกว่า "เขียนผิดบ่อยๆ พูดก็ยังไม่ถูกต้องนัก โดยเฉพาะ ร-ล ...เฮ้อ แสดงว่า...ยังเรียนไม่จบ..ครับอาจารย์..555" ดูท่านเป็นคนอารมณ์ดี และมีอารมณ์ขันนะคะ ...การเรียนคงไม่มีวันจบหรอกค่ะ เพราะเราทุกคนคงต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิต
  • ประทับใจและขอบพระคุณมากนะคะ ที่ท่านให้ความใส่ใจตามไปดู "ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้" จนรู้คำขวัญเต็มๆ และบอกว่าชอบ ทั้งที่ อ.วิ ให้คำขวัญไว้เพียงประโยคเดียว 
  • ขอบคุณ "หนูปริมBlank" มากนะคะ ที่มาให้กำลังใจและร่วมเรียนรู้
  • กรณีของหนูก็น่าเห็นใจเหมือนกัน ที่เรียนในต่างประเทศและทำงานที่สิงคโปร์คงไม่ค่อยได้ใช้ภาษาไทยมานาน ยกเว้นการเขียนบันทึก
  • แต่เท่าที่อ.วิ ได้ติดตามอ่านบันทึกของหนู นอกจากจะไม่เห็นคำที่พิมพ์ผิดแล้ว ยังเห็นว่า หนูใช้ภาษาไทยได้ละ้มียดละไมไหลลื่น อ่านแล้วไม่รูสึกสะดุดเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ 
  • ขอบคุณ "ป๋าเดBlank" ค่ะ (ขอตัดคำว่า "พ่อใหญ่" ออกนะคะ เพราะดูไม่เข้ากับคำว่าป๋าและท่าเงื้อง่าด้วยมาดนักกีฬามืออาชีพของท่าน) ยังไม่อ่านบันทึก แต่แวะมาทักทายก็ดีใจแล้วล่ะค่ะ
  • ยังไม่ได้บอกท่าน ก็ขอบอกตอนนี้เลยแล้วกันนะคะ ว่า ได้รับข้อเสนอโครงการของท่านที่แนบไปทาง e-mail แล้ว ให้ลูกชายส่งให้เหรอคะ ไม่ได้อยู่ที่เดียวกันไม่ใช่เหรอคะ ทำได้ยังไงน้า

ขอบคุณค่ะ อาจารย์ที่ไห้คำแนะนำ

  • ขอบคุณ "คุณวศิน ชูมณีBlank" มากนะคะ ที่เขียนอนุทินดีๆ ให้อาจารย์แม่นำไปเป็นตัวอย่างในบันทึกนี้ อาจารย์แม่ได้ไปเก็บภาพจากบันทึก 2 เรื่องของคุณวศินมาประกอบด้วยค่ะ
  • คุณวศินบอกว่า "ผมมีพจนานุกรมภาษาไทย (เล่มเล็ก) อยู่ที่หอพัก บางคำหาไม่พบก็จะไปค้นหาในเว็บไซต์ของราชบัณฑิตยสถาน เพื่อค้นหาคำที่ต้องการครับ http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp เว็บไซต์นี้เลยครับ เข้าไปใช้ประจำ ตอนนี้เหลือฝึกฝนการพูดให้ถูกอักขระชัดเจน ไม่ให้ผิดเพี้ยนครับ" นับเป็นตัวอย่างของผู้ที่ใฝ่รู้ ต้องการทำงานให้มีคุณภาพ และมุ่งมั่นพัฒนาตนเอง ที่นักศึกษาควรนำไปเป็นเยี่ยงอย่าง
  • และขอบคุณมากนะคะที่ให้ Link ไว้ด้วย นักศึกษาเข้าไปศึกษาได้นะคะ

 

รับทราบครับอาจารย์ ....เขียนผิดตลอดเลยครับ จนจะเป็นครูอยู่แล้วครับ (เพราะ ผิดเป็นครูครับ)

ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีความสลับซับซ้อน บางคำ อ่านออกเสียงเหมือนกัน แต่สะกดไม่เหมือนกันและยังมีความหมายไม่เหมือนกัน และหลายคำที่มักเขียนผิดกันบ่อย เช่น ทะเลสาป ที่เขียนถูกคือ ทะเลสาบ ส่วนคำนี้ดิฉันเองก็มักจะเขียนผิดเป็นประจำ คือคำว่า ขะมักเขม้น(ถูก) แต่มักจะเขียนผิดเป็นอย่างนี้>> ขมักเขม้น(ผิด) ดิฉันคิดว่าการที่เราจะสามารถใช้คำที่ถูกได้ ควรจะต้องใช้การจำจด สังเกต และหมั่นฝึกฝนทักษะการเขียนอย่างสม่ำเสมอ

หากท่านใดสนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.royin.go.th/th/home/ มีข้อมูล ความรู้ที่น่าสนใจอีกมากมายคะ

  • ขอบคุณกัลยาณมิตร GotoKnow ทุกท่านมากนะคะ ที่กรุณาแวะมาให้กำลังใจ

  • ชีวิตช่วงนี้ของ อ.วิ หนักมากค่ะ เย็นวันพุธหลังเลิกงานต้องเข้าตลาดซื้อสะเบียงและของใช้แล้วเดินทางเข้าฟาร์มไปดูแลคนป่วย ล้างถ้วยชาม ซักผ้า ทำกับข้าว เช้าวันรุ่งขึ้นทำอาหารไว้ให้คนป่วย แล้วเก็บผลผลิตที่ฟาร์มไปให้แม่ค้าขายอาหารเจ้าประจำในเมือง เสร็จแล้วก็ไปทำงานราชการ เช้าวันเสาร์ก็เข้าฟาร์มอีก บางทีก็กลับเข้าเมืองเย็นวันอาทิตย์หรือเช้าวันจันทร์ นอนดึกตื่นเช้าประจำ จึงไม่ค่อยได้แวะไปเยี่ยมใน Blogs ของกัลยาณมิตร อาศัยที่เห็นบันทึกในหน้าแรกถ้าพอมีเวลาก็จะเข้าไปอ่านค่ะ

  • วันนี้ก็ได้ไปนิเทศการสอนภาษาอังกฤษของนักศึกษา 3 คนระหว่างเวลา 08.30-11.30 แล้วก็กลับไปพบนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยตามที่นัดหมายไว้ ตอนนี้พักทานข้าวกลางวันค่ะ พร้อมกับตรวจงานให้นักศึกษาที่จะไปรับคืนในช่วงบ่าย และ 14.00 น. มีประชุมเตรียมการอบรมครู เลิกประชุมมีนัดกับอาจารย์อีกท่านค่ะ หลังจากนั้นก็ไปธุระเรื่องลูก ธุระของคนป่วยคงไม่มีเวลาจัดการให้ตามเคย 

     

  • ขอบคุณ "ท่านแว่นธรรมทองBlank" ผู้เชี่ยวชาญภาษาไทย มากค่ะ ที่มาร่วมอนุรักษ์ภาษาไทย

  • เพิ่งไปอ่านบันทึก "ความอัดอั้นของลุงก้อม" ของท่านมา อ่านแล้วก็สงสารประเทศไทยค่ะ แต่ก็ยังดีที่ประเทศนี้มีคนอย่างลุงก้อม

  • เพิ่งเห็นว่า ท่่านเขียนบันทึกตั้งหลายเรื่องที่อ.วิไม่ได้อ่าน เพราะมัวแต่ยุ่งหลายเรื่อง ดูๆ แล้วก็น่าอ่านทั้งนั้นค่ะ

ภาษาไทยได้ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นชาติไทย ปัญหาต่างๆที่เกิดจากการใช้ภาษาไทยที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดความบอบช้ำจนเกินจะเยียวยาได้ ดังนั้นคนไทยทุกคนควรมีจิตสำนึก และตระหนัก ต่อการใช้ภาษาไทย เพื่อเป็นการอนุรักษ์ให้ภาษาไทยนั้นคงอยู่คู่ชาติไทยค่ะ

เราควรใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องคับ

สวัสดีครับท่านอาจารย์ ภาษาไทยมีความสำคัญต่อคนไทยมากเพราะเป็นภาษาประจำชาติที่ไม่มีใครเหมือนแล้วก็ไม่เหมือนใครด้วยเพราะเฉพาะนั้นเราควรอนุรักษ์ภาษาไทยไว้ตราบนานเท่าน ครับพี่น้อง

เรียน ผศ.วิไล -ลูกสาวอาจารย์แม่ลายมือสวยมาก....ป๋าเดตอนเรียนการช่างอุบลฯปี ๑๐-๑๒ มีความผูกพันกับโรงเรียนนารีนุกูลสมัยที่ตั้งอยู่ข้างทุ่งศรีเมือง....รวมทั้งคณะที่ไปเรียนต่อที่ วศ.มหาสารคาม...มันเนิ่นนานมาแล้ว...แต่มันเป็นพลังที่ทำให้ป๋าเดก้าวมาถึงจุด ๆ นี้........ -อ.ทองใบ ชายทวีป ท่านเสียชีวิตนานแล้ว..ท่านเป็นพ่อของพันเอกพิเศษประสิทธิ์ ชายทวีป อดีตเซ็นเตอฮาร์ฟ (เขียนถูกไหม?) ทีมเยาวชนชาติไทยรุ่นที่ไปแช่งชันที่ประเทศฟิลิปปิน ท่านเคยสอนตอนเรียน ม.ต้นที่โรงเรียนยโสธร...นานๆจะติดต่อกับท่านเพราะมีเบอร์ของท่าน...แฟนของท่านยังนึกชื่อไม่ออกแต่รู้สึกท่านจะสอนภาษาไทยนะ..... -อาจารย์แม่เก่งหลายอย่าง...เป็นห่วงเป็นใยลูกศิษย์ (ครูดีที่หายาก) มรภ.อุบลฯน่าที่จะให้สอนต่อ..........เป็นผู้ทรงคุณค่าในสาขาวิชาที่ขาดแคลน........ -ขออนุญาตถามว่าท่านพิมพ์งานในหน้าจอก่อนแล้วค่อยก๊อปปี้มาใส่ในบล๊อคถูกต้องใหม.....เพราะมันละเอียดมากนะ...(มีเพื่อนชาวGTWเคยบอกวิธีทำเพื่อป้องกันการผิดพลาด) -ถ้าท่านเป็นผู้ประเมินอภิมานของ สมศ. โรงเรียนที่ท่านอ่านสรุปรายงานของผู้ประเมินรอบสามหนาวแน่...เพราะท่านแม่นภาษาไทย รวมทั้งเรื่องอื่นๆ 555 (ปล.สมศ.เขากำลังรับสมัครนะถึงวันที่ ๔ ส.ค.นี้เข้าดู้ได้ใน google) -ดร.จันทวรรณ บอกมาว่า โครงการ"ชุมชนคน สมศ." อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สสส. หากได้รับการพิจารณาจะขอให้ อ.วิ ช่วยทำแบบประเมินโครงการให้......จะได้ไหมครับ (จองคนเก่งล่วงหน้าแต่ไม่มีมัดจำ) ทีมงานมี ๑๐ คน....... E-mail ป๋าเดส่งเองเป็นชื่อของลูกชาย (ตูนไปเรียน ป.เอก ที่ ม.เกษตรศาสตร์) E-Mail เดิมถูกบล๊อคโดยอัตโนมัติเลยทำขึ้นใหม่โดยตั้งชื่อ E-Mail.เป็นชื่อลูกชายคนโต..เคยส่งโครงการไปหาท่านสองครั้งแต่ท่านไม่ยอมตอบ.....

สวัสดีค่ะอาจารย์ ต้องขอขอบพระคุณอาจารย์มากนะคะที่นำความรู้ในเรื่องการใช้ภาษาไทยมาแบ่งปัน เพราะเราเป็นคนไทย ควรใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง มิเช่นนั้นชาติอื่นจะว่าเราได้

  • ขอบคุณ "ป๋าเดBlank" มากนะคะ ที่มาคุยด้วยยาวๆ รู้สึกเหมือนได้นั่งคุยกันเลยค่ะ
  • อ.วิรู้สึกอบอุ่นใจมากค่ะ ที่มีรุ่นพี่คนบ้านเดียวกัน และเคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน เข้ามาคุยด้วยอย่างสม่ำเสมอ รู้สึกว่า ท่านจะกล่าวยกย่องอ.วิมากเกินไปหรือเปล่าคะ แต่ยังไงก็ขอขอบคุณมากนะคะ ที่ท่านเสริมพลังใจให้อ.วิ
  • จริงๆ แล้วในมหาวิทยาลัย คงไม่มีใครรับรู้หรอกค่ะว่า อ.วิทุ่มเทให้กับการเรียนการสอนแค่ไหน 
  • ดีใจมากค่ะที่ได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับท่านอาจารย์ทองใบ และรู้ว่า "ป๋าเด" รู้จักท่านและครอบครัว "ป๋าเด" ถามว่า "เซ็นเตอฮาร์ฟ (เขียนถูกไหม?)...เกือบถูกค่ะ คำนี้มาจากภาษาอังกฤษ "Center Half" เพราะฉะนั้น ภาษาไทยต้องเป็น เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ" ค่ะ
  • อ.วิไม่ได้สอนภาษาอังกฤษนะคะ เห็นอาจารย์นอกสาขาภาษาอังกฤษที่เขาจัดให้ช่วยสอนภาษาอังกฤษนั้น ตอนที่เรียนปริญญาเอกที่ออสเตรเลียด้วยกัน น้องๆ บอกว่า ไม่รู้เลยว่าพี่เขาเคยเรียนวิชาเอกอังกฤษมาก่อน เพราะตอนเรียนภาษาอังกฤษขั้นสูงพี่เขาได้คะแนนต่ำกว่าหลายๆ คนที่จบสาขาอื่น และพูดไม่ค่อยได้
  • เขาให้อ.วิช่วยนิเทศการสอนภาษาอังกฤษเท่านั้น เสียดายมากที่ไม่ได้สอนภาษาอังกฤษ เพราะถ้าได้สอนคงช่วยให้นักศึกษาพัฒนาตนเองได้มาก เพราะ อ.วิบันทึกรายการที่จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษใน TV ทุกรายการ เป็น เทปโทรทัศน์ และเป็น DVD ที่สามารถใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี รายการที่เหมาะกับนักศึกษาสาขาภาษาอังกฤษมากที่สุด คือ "English Breakfast" ถามน้องๆที่สอนภาษาอังกฤษเขาบอกไม่เคยดู ตอนออกนิเทศเห็นนักศึกษาใช้ภาษาอังกฤษผิดมากทั้งการพูดและการเขียนแผน เลยค่อนข้างเสียดายที่ไม่ได้สอนพวกเขาและเธอ
  • อ.วิยินดีช่วยเหลือทางวิชาการนะคะ ถ้า "ป๋าเด" เห็นว่า "อ.วิ" มีศักยภาพที่จะช่วยได้ แต่ถ้าให้ไปร่วมงานนั้นน่าจะมีปัญหา พ่อใหญ่สอไม่เหมือนใคร...ไม่อยากพูดถึงผ่าน Blog ค่ะ เพราะฉะนั้น เรื่องที่แนะนำให้สมัครสอบผู้ประเมินของ สมศ. คงจะไม่ได้สมัครหรอกค่ะ เพราะถ้าสอบได้และจะต้องเดินทางไปประเมินที่นั่นที่นี่โดยมีทีมประเมินที่เป็นผู้ชาย พ่อใหญ่สอไม่ยอมแน่
  • สรุปว่า อนาคตจะเป็นเกษตรกรค่ะ
  • ขอขอบคุณ "ป๋าเด" แทนลูกเอ๋ด้วยนะคะ ที่ชมลายมือของเธอ
  • แรกๆ อ.วิพิมพ์ (จิ้ม) ใน Blog ทุกตัวเลยค่ะ ตอนหลังถึงร่าง (คร่าวๆ) จากข้างนอก แต่รายละเอียดทั้งหมดก็พิมพ์ใน Blog นะคะ อ.วิพิมพ์ช้ามาก แต่ก็ทำเอกสารที่ต้องใช้ในที่ทำงานทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะต้องการความถูกต้องและชอบพึ่งตนเองค่ะ
  • ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้ตอบ เพราะ e-mail อ.วิแต่ละวันเยอะมากจนเปิดเข้ามาแล้วไม่พบ e-mail "ป๋าเด" ค่ะ ตอนหลังถึงเห็นว่าส่งไปให้หลายครั้ง   

รับทราบค่ะหนูได้อ่านคำชี้แนะของอาจารย์แล้วนะค่ะ

รับทราบครับผมได้อ่านคำชี้แนะของอาจารย์แล้วนะครับ ผมจะนำเอาความรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องไปใช้พัฒนาตัวเองให้มากที่สุดครับ

  • นักศึกษาหญิง Section 02, 03, 04 อาจารย์ได้ 
  • ในวันที่ 26 ก.ค. เวลา 23.57 น. อาจารย์แจ้งว่า อยากจะเสริมในประเด็นการใช้วรรณยุกต์ที่ไม่ถูกต้องค่ะ ยกตัวอย่างจากนักศึกษาที่ใช้เวลาแสดงความเห็น ซึ่งพบตั้งแต่เริ่มแรกที่นักศึกษาเข้ามาแสดงความเห็นแล้ว ตัวอย่างเช่น "Blank" เขียนว่า "สวัสดีคะ (ค่ะ)อาจารย์หนูได้เข้าไปบันทึก"ปัญหาเทคโนโลยีการศึกษา" เสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะขอให้อาจารย์เข้าไปอ่านและให้คำแนะนำในการเขียนด้วยนะคะเพื่อเป็นการปรับปรุงแก้ไขต่อไปคะ (ค่ะ)

  • คำที่นักศึกษาใช้ที่อาจารย์ระบายสีเทาและขีดเส้นใต้ คือคำที่ใช้วรรณยุกต์ไม่ถูกต้อง และอาจารย์ได้แก้ไขให้โดยใส่ในวงเล็บและระบายสีเหลือง ส่วนคำที่ระบายสีฟ้าคือคำที่นักศึกษาใช้วรรณยุกต์ได้ถูกต้อง

  • นักศึกษาทุกคนเมื่ออาจารย์ได้ชี้แนะแล้ว ถ้าใครยังใช้วรรณยุกต์ผิดอีกในคำที่ได้แนะนำไปแล้วจะหักแต้มคำละ -1นะคะ

  • หลังจากนั้นก็พบผู้ที่ใช้ผิดอีก แสดงให้เห็นว่านักศึกษายังคงมีปัญหาไม่อ่านคำชี้แจง และไม่แก้ไขการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องดังนี้
  • "Blank" ได้แต้มการให้ดอกไม้ แสดงความเห็นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการเขียนภาษาไทยที่ถูกต้องและแหล่งเรียนรู้ รวม 3 แต้ม แต่เขียนวรรณยุกต์ไม่ถูกต้องว่า "...มีข้อมูล ความรู้ที่น่าสนใจอีกมากมายคะ (ค่ะ) ถูกหัก 1 แต้ม เหลือ 2 แต้ม
  • ใหม่ๆ หมาดๆ "Blank" เขียนว่า " รับทราบค่ะหนูได้อ่านคำชี้แนะของอาจารย์แล้วนะค่ะ (นะคะ) ถูกหัก 1 แต้ม ได้แต้มให้ดอกไม้และแสดงความเห็นรวม 2 แต้ม เหลือ 1 แต้ม 

ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆและข้อคิดดีๆนะคะอาจารย์ หนูจะนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาตนเองให้ได้มากที่สุดค่ะ

ผมแก้ไขแล้วนะครับ อาจารย์ตอนนี้กำลังศึกษาการเขียนบันทึกอยู่ครับ น่าจะออกมาเร็วนี้นะครับ

ในเรื่องภาษาไทยผมก็ไม่ค่อยใส่ใจเพราะมากเท่าไหร่นัก แต่พอมาอ่านบันทึกของอาจารย์มันทำให้ผมภูมิใจที่เรามีภาษาไทยเป็นภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ทำให้ผมรู้สึกรักในภาษาไทยมากขึ้น ผมจะรักษาและใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง

ขอขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆ ครับ

  • ดีแล้ว "Blank" อย่างที่อาจารย์บอกเมื่อวานนะคะ ว่า "ถือเสียว่า ผิดเป็นครู" แต่จะให้ถูกที่สุด สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษต้องมี s ด้วยนะคะ (Sciences) คำว่า วิทยาศาสตร์ไม่มี s แต่ชื่อวิชาต้องมี s ถ้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่อาจารย์บอกถูกต้องหรือไม่ ให้ตรวจสอบที่คู่มือนักศึกษานะคะ
  • บันทึกของ "Blank" อาจารย์จะอ่านภายหลังนะคะ
  • อาจารย์ดีใจ ที่บันทึกนี้ของอาจารย์ทำให้ "Blank" มีความภูมิใจในภาษาชาติ รักภาษาไทยมากขึ้น และสัญญาว่าจะใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง และความดีใจนี้ทำให้อาจารย์เข้าไปเขียนอนุทิน ที่ยังไม่ได้เขียนเลย นับตั้งแต่ได้ให้นักศึกษาพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์/สังเคราะห์ และเขียนสื่อความ ผ่าน Weblog "GotoKnow.org"
  • แต่เสียใจที่ "Blank" ไม่ได้เข้าไปอ่านสิ่งที่อาจารย์บอกมานานแล้วให้แก้ไข ทั้งบอกในชั้นเรียน และบอกใน Blog ว่า สาขาวิชา "วิศวกรรมเครือข่าย" ใช้คำภาษาอังกฤษว่า "์Networking Engineering" ไม่ใช่ "Computer Network Engineering) เพราะฉะนั้น อักษรย่อสาขาวิชาที่พิมพ์ในภาพประจำตัวของนักศึกษาสาขานี้ ต้องเป็น "์NE" ไม่ใช่ "CNE"
  • และ "Blank" จะยังไม่ได้แต้มใดๆ จากการพัฒนาตนใน Weblog "GotoKnow.org" จนกว่าจะแก้ไขชื่อสาขาที่เป็นภาษาอังกฤษในประวัติ และอักษรย่อสาขาในภาพประจำตัว ให้ถูกต้องตามที่อาจารย์แนะนำ  

สวัดีค่ะอาจารย์จากบทความของอาจารย์เกี่ยวกับภาษาไทยเเละการใช้ITทำให้หนูมีความรู้เพิ่มขึ้นหนูจะเป็นน้ำครึ่งเเก้วเพื่อที่จะได้รับความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอค่ะ ขอบคูณสำหรับความรู้ดีๆนะค่ะ

รับทราบครับ ผมแก้ไขเรียบร้อยแล้วนะครับ

  • "Blank" วันนี้อาจารย์เพิ่งยกตัวอย่าง การเขียน "นะค่ะ" ว่าผิดและจะถูกหักแต้ม และก็เ็ห็นหนูนั่งฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่แล้วหนูก็เขียนผิดว่า "ขอบคูณ (คุณ)สำหรับความรู้ดีๆ นะค่ะ (คะ)" -2 อาจารย์ผิดหวังมากนะ แสดงว่าหนูมีปัญหาการฟัง และที่สำคัญเรียนสาขาวิชาภาษาไทยไม่ควรเขียนผิดในคำง่ายๆ เช่นนี้

สวัสดีค่ะอาจารย์ หนูทำหัวสมุดเรียบร้อยเเล้วค่ะ ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังนะค่ะอาจารย์ต่อจากนี้หนูจะตรวจสอบการเขียนให้ดีก่วานี้ค่ะ

ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ สำหรับบันทึกดีๆค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์ หนูได้อ่านบันทึนแล้วนะค่ะมีประโยชน์อย่างมากค่ะเพราะเราเขียนภาษาไทยกันผิดมากต่อไปนี้เราคงจะเขียนภาษาไทยกันถูกต้องนะค่ะ

ขอบคุนสำหรับบันทึกดีๆนะค่ะอาจารย์

ภาษาไทยคือมรดกของชาติ เราคนไทยควรอนุรักษ์ไว้

อาจารย์ครับทำช้าดีกว่าไม่ทำใช่ไหมครับขออาจารย์เวลาเพื่อเขียนสมุดบันทึกหน่อย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท