การคิดเชิงบวก
จากที่ได้อ่านบันทึกของคุณโสภณแล้วทำให้ดิฉันเข้าใจและรู้สึกว่าการคิดเชิงบวกเป็นเรื่องที่ดีมากทั้งต่อตนเองและคนรอบข้างเนื่องจากว่าการคิดเชิงบวกเป็นการคิดแต่ในเรื่องที่ดีๆ ทำให้เรามองเห็นถึงคุณค่าของตนเองและคนรอบข้าง ทำให้เรามีกำลังใจที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ออกมาดี อย่างที่คุณโสภณเล่าในบันทึกว่า ตนเองนั้นอยากเป็นหมอแต่ด้วยความที่เป็นคนเรียนหนังสือไม่เก่งอาศัยตรงที่เป็นคนขยันอ่านหนังสือ จด จำเอา และคิดในเชิงบวกเข้าไว้ว่าสักวันหนึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราประสบผลสำเร็จแล้วก็เป็นจริงดังที่คุณโสภณฝันคือได้เรียนในคณะแพทย์ นั้นก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เราเห็นว่าหากเราตั้งใจ ขยัน หมั่นเพียรและคิดในเชิงบวกเข้าไว้เราก็จะเกิดกำลังใจ หึกเหิม ผลที่เราหวังก็จะออกมาดีเอง แต่ก็นั้นละใช่ว่าทุกคนที่คิดในเชิงบวกแล้วจะประสบผลสำเร็จ ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ประสบผลสำเร็จแต่คนเหล่านั้นก็ยังคงจะมีกำลังใจและพยายามต่อไปเพื่อให้สมหวังดั่งปรารถนา ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการคิดในเชิงบวกทำให้เรามีแรงขับเคลื่อนที่จะสู้กับอุปสรรคเรียกได้ว่าการคิดเชิงบวกเป็นเกราะกำบังที่ดีให้กับเราเมื่อพบเจอกับปัญหาและความอยากลำบาก
ความคิดเห็นเกี่ยวกับเว็บไซต์หน่วยงานราชการ
ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีนับว่ามีความสำคัญมากสำหรับบุคคลทุกกลุ่มทุกอาชีพ เพราะการสื่อสารการให้ความรู้การประชาสัมพันธ์ต่างๆต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพราะเทคโนโลยีสามารถทำให้เราสื่อสารหรือกระจายความรู้ต่างๆได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จึงนับว่าเทคโนโลยีมีความสำคัญมากในการดำรงชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบัน
ปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่พบว่าในกลุ่มผู้พิการยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ต เนื่องจากเว็บไซต์ที่มีอยู่ยังไม่รองรับการใช้งานของผู้พิการข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขได้ประมาณการว่าไทยมีผู้พิการราว 1.8 ล้านคน หากคนกลุ่มนี้ได้รับโอกาสการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจะช่วยพัฒนาศักยภาพเป็นพลังในการช่วยเหลือสังคมได้ แต่จากการสำรวจพบว่า 90% ของเว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐ ยังไม่เอื้ออำนวยแก่ผู้พิการและผู้สูงอายุ เพื่อยก ระดับคุณภาพชีวิตของคนกลุ่มนี้ สสส.จึงได้พัฒนาเว็บไซต์ www.thaihealth.or.th ให้รองรับการใช้งานของผู้พิการทุกประเภทและผู้สูงอายุ ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึง
ดังนั้นทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ในการที่จะได้รับข้อมูลข่าวสารต่างๆผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นวัยใดก็ตาม คนปกติหรือคนพิการก็ตาม ฉะนั้นควรจะพัฒนาเว็บไซต์ในการรับรองการใช้งานของผู้พิการให้พวกเขาได้สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ เข้าไปเรียนรู้ข่าวสารต่างๆและสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ และยังยกระดับชีวิตของผู้พิการให้ดีขึ้นได้อีกด้วย เทคโนโลยีเมื่อใช้ได้ถูกวิธีก็จะเป็นประโยชน์แก่สังคม และตรงกันข้ามถ้าใช้ผิดวิธีก็อาจเป็นอันตรายต่อสังคมได้เหมือนกัน
ขอขอบพระคุณ สสส.ร่วมกับ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย บริษัท โอเพ่นดรีม จำกัด และสถาบันเชนจ์ฟิวชั่น ที่ทำให้คนปกติหรือคนพิการสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างเท่าเทียมกันค่ะ
เป็นบันทึกแรกของผมนะครับ เข้ามาอ่านหรือมาติชม และให้กำลังใจผมด้วยนะครับ เพราะบันทึกนี้ผมเขียนด้วยความรู้ที่ผมได้ไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ของหน่วยงานสถาบันการศึกษา ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านนะครับ