โอ้ชีวิต คิดไป กระไดสูง
ต้องใฝ่ฝัก ชักจูง ให้สูงขึ้น
พอสูงสุด ก็รวดร้าว หนาววันคืน
ต้องยอมฝืน ปีนป่าย กระไดลง
---คนถางทาง...เม.ย. ๖๐
ไม่มีความเห็น
การทำวิ- ปัสนา สมาธิ
จิตต้องดิ่ง มีสติ ที่มุ่งมั่น
เจิดแสงจ้า ฝ่ากิเลส สาระพัน
เพื่อให้มัน หลุดพ้น จนนิพพาน
---คนถางทาง....เม.ย. ๖๐
ไม่มีความเห็น
คนเป็นครู เป็นผู้ มีพระคุณ
ต้องการุณ ต่อเด็กโง่ อ่ีกฉ้อฉล
พร่ำสอนไป เหนื่อยยาก ลำบากล้น
แต่สู้ทน สอนไป อยากให้ดี
---คนถางทาง..เม.ย. ๖๐
ไม่มีความเห็น
กว่าจะก้าว เข้ามา เป็นคุณครู
ต้องอดนอน ใฝ่รู้ อ่านหนังสือ
ต้องค้นคิด ให้ลุ่มลึก ต้องฝึกปรือ
ทนทุกข์เพื่อ ให้โลกลือ ฉันคือครู
---คนถางทาง..เม.ย. ๖๐
ไม่มีความเห็น
ทุกเวลา เข็มนาที กระดิกไป
ชีวิตก็ เลื่อนไหล ไปเอื่อยเอื่อย
เดินเส้นทาง ชีวิต ไปเรื่อยเรื่อย
ไม่รู้เหนื่อย จนกว่า ชีวาวาย
---คนถางทาง ประพันธ์ ...มีค. ๖๐
ปล..จู่ๆ ก็คิดกลอนนี้ขึ้นมาโดยไม่มีปี่ขลุ่ย ยกเว้นเสียงนกร้องและฝนตกริมหน้าต่าง ชายป่ากระมัง
ไม่มีความเห็น
ข่าวน่าเศร้ามากในวันนี้ที่ได้ยินคือ บัณฑิตไทยที่จบการศึกษามาด้วยการยืมหนี้จากกองทุน กยศ. พอจบแล้ว มีงานทำ มีเงินเดือน กลับเบี้ยวหนี้ ไม่ยอมจ่ายกว่า ๕๐ ปซ. คิดเป็นเงินปีละประมาณ ๔.๕ หมื่นล้านบาท...
.
ทำให้เราหวนคิดว่า บัณฑิตนั้น ภาษาบาลีเขาแปลว่าผู้รู้ ปัญญาชน และ อังกฤษเขาแปลว่า pundit..แต่ถ้าปรับพยัญชนะนิดเดียว กลายเป็น bandit แปลว่า มหาโจร ..
.
อนิจจาอนาคตประเทศไทยเรา น่าเป็นห่วงมาก ที่เจียดเงินภาษีของคนดีๆ ไปสร้างมหาโจรเต็มประเทศไปหมด
---คนถางทาง ..มีค. ๖๐
เมื่อทุกอย่างได้มาด้วยความง่ายดาย ... คุณค่าของเงินก้อนนี้จึงดูไร้ค่าไปในทันที
การสืบประเวณี กับ การสืบประเพณี เป็นเรื่องเดียวกัน มันสำคัญทั้งสองเรื่องเสียด้วย ....ว กับ พ ผันอักษรกันได้ เช่น พิเศษ เป็น วิเศษ พิจิตร เป็นวิจิตร พิจารณ์ เป็นวิจารณ์ เป็นต้น
---ดร. รากหญ้า..มีค. ๖๐
ปล.สรุปคือ "การทำรัก" กันเป็นการสืบประเพณีที่ดีมาก ไม่งั้นหมดทายาท
ไม่มีความเห็น
พระไทยวันนี้ชอบสอนให้เรา "มองด้านใน" แต่เราค้านว่า "มองด้านนอก" น่าดีกว่า เพราะเราเอาโลกเป็นตัวตั้ง แทนที่จะเอาด้านในของเราเป็นตัวตั้ง...มองด้านนอกให้มากๆ และคิดสะท้อนกลับในทุกด้าน มันก็จะเห็นด้านในของเราได้เอง ไม่ต้องเหนื่อยนั่งหลับตาทำสมาธิให้ยุ่งยาก
---คนถางธรรม ..มีค. ๖๐
วันนี้เรามองด้านนอกไม่เห็นชัด...แล้วจะมองเห็นด้านในได้อย่างไร...เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ
ครูไทยวันนี้ สอนเด็กนร. นศ. ไว้มาก แต่ลืมสอนตัวเอง..เวลาว่างๆ แทนที่จะคิด ศึกษา หาความรู้ เพื่อเอาไปสอนให้ดีขึ้น แต่กลับเอาไปฝึกตีกอล์ฟ
---ดร.รากหญ้า...มีค. ๖๐
ก็เห็นแบบนั้นจริง ในมหาวิทยาลัย ;)...
ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกนี้สำหรับปีนี้ที่ได้รับการโหวตจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลกคือ สวิสเซอร์แลนด์ ...ประเทศเล็กมากในยุโรปที่ไม่มีชายหาดขาวและทางออกทะเล (land locked)
.
ส่วนไทยเราไม่ติดอันดับเลย แต่น่าถามว่า ทำไมผัวฝรั่งแก่ๆ นิยมมาอยู่ไทยกันมาก (รวมทั้งพวกสวิสด้วย) โดยเฉพาะอีสาน และมักเลือกแต่เมียแก่ๆ เตี้ยๆ ล่ำๆ ดำๆ
---คนถางทาง..มีค. ๖๐
ถามมาแล้วอาจารย์..เอาใจเก่ง..มรดกก็โอนให้ดูแลแม่ผัว พ่อผัวดีครับ
หลวงพ่อเงื่อม แห่งวัดธารน้ำไหล สุราษฎ์ฯ ท่านถามมานานปีแล้วว่า "คนเราเกิดมาเพื่ออะไร"...แล้วท่านก็ถามเองตอบเองอยู่นั่นแหละ...ในที่สุดท่านถามว่า "คนเราได้เกิดมาแล้วแน่หรือ"....
.
สำหรับผมก็มีคำตอบไว้มากหลาย เขียนหนังสือเป็นเล่มได้เลย หนึ่งในนั้นคือผมตอบว่า "คนเราเกิดมาเพื่อแก้ปัญหา"
.
ไม่เชื่อลองสังเกตสิ เด็กเกิดใหม่ตกฟากก็ต้องร้อง "อุแว้" แล้ว เพื่อแก้ปัญหาเสลดจะติดคอตาย....พอเป็นใหญ่ก็ต้องแก้ปัญหาเพื่อไต่เต้า หรือ ดำรงตำแหน่ง ...พอตายยังต้องมีพวงหรีดประดับหน้าศพ ...ก็แก้ปัญหากันไปตามเวลาชีวิตที่ผ่านไป.....ชาติหน้าค่อยว่ากันอีกที
---คนถางทาง...มีค. ๖๐
ปล. เราเรียก ลพ.เงื่อม แต่คนส่วนใหญ่มักรู้จักกันในนาม พุทธทาสภิกขุ
ไม่มีความเห็น
พระสมัยนี้หลายท่านทำเก๋ สอนให้เราอย่าคิดอะไรมาก ให้มีชีวิตอยู่กับ"ปัจจุบัน" นี่ไปลอกคำสอนของเซ็นมาแท้ๆ (แต่อาจไม่รู้ตัว เพราะอ่านมาอีกที) ....ถามว่า ถ้าเจ้าชายสิทธัตถะ อยู่กับปัจจุบัน จะหนีออกบวชหรือ นี่แสดงว่าท่านคิดถึง"อนาคต" อยากตรัสรู้ หนีความทุกข์ ใช่ไหม เราเลยได้มีพพจ. เป็นเจ้าศาสดา
---ดร. รากหญ้า (คนถางทาง)..๘ มีค. ๖๐
ไม่มีความเห็น
ไปฟังการสวดพระอภิธรรมศพ อย่าหาว่าเป็นเรื่องเบื่อหน่าย เราสามารถกำหนดสมาธิในระหว่างฟังสวดได้ดีมาก อย่างน้อยก็ได้คิดว่าคนเราเกิดมาก็ตายกันหมด อีกไม่นานเราก็ต้องไป เหมือนศพด้านหน้าเรานั่นแหละ....
.
คำสวดยังเค้นเอามาแต่หัวใจศาสนา เป็นพระอภิธรรมขั้นสูงสุด ..เช่นวลีว่า อวิชชาปัจจะยาสังขารา ...แค่นี้ก็คิดกันจนหัวผุแล้ว
---ดร.รากหญ้า ..๗ มีค. ๒๕๖๐
ไม่มีความเห็น
ชีวิตคนอุปมากับการเดินทางจากเปลนอน สู่เชิงตะกอน (ฝรั่่่่งว่า from womb to tomb) เพียงแต่ว่าเส้นทางแต่ละคนเลือกทางเดินต่างกัน บ้างราบเรียบ บ้างมีเนินเขา แม่น้ำมากั้นไว้ ก็ต้องลุยกันไป จนกว่าวาระสุดท้ายก็ไปจบที่เดียวกัน
---ดร.รากหญ้า ..มีค. ๖๐
ไม่มีความเห็น
วันนี้ผม "กำลังคิดอะไรอยู่" ไม่สำคัญนักหรอก เพราะเป็นเพียงครูบ้านนอกหลังเขาใหญ่...ที่สำคัญกว่านั้นมากคือ พวกนักการเมืองระดับใหญ่ๆน่ะ พวกเขา"กำลังคิดอะไรอยู่" คิดถูกหรือคิดผิด เป็นเรื่องสำคัญมาก .. ถ้าไม่รู้มาถามได้ สิบ่่อกไห่ ไม่คิดค่าเหนื่อยด้วยนะจะ๊
.
เราคิดรอบด้านมานานปีมาเพื่อใช้หนี้แผ่์นดิน ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ยันอวกาศ ไม่ได้คิดรวกๆ พอพ้นวาระทางการเมืองไปวันๆ
---ดร.รากหญ้า...๗ มีค. ๖๐
ไม่มีความเห็น
หลักจากที่รัฐบาลสั่งปิดไปนาน ผมตัดสินใจไปเปิด fb อีกครั้งที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=1000154720... แต่ยังจะมาเขียนที่ กทน. อีกนะครับ ยังไม่ทิ้งหรอก เพราะรักและคิดถึงเพื่อนๆที่มีคุณภาพที่นี่ทุกคน ความจริงแล้วอยากเจอหน้า เจ๊าะแจ๊ะ คุยกันมาก
---ดร.รากหญ้า (คนถางทาง)..มีค. ๖๐
ขอบคุณอาจารย์ครับ..จะเข้าไปติดตามทางfb
วันวานหลังจากสอบวิทยานิพนธ์นศ.ป.เอกเสร็จก็ไปเดินเล่นในตรอกคนเดินริมข้างอาคารพญาไทยพลาซ่า เดินดูศึกษาสัมภาษณ์คนไปเรื่อยๆ พร้อมโปรยยิ้มยังกะประกวดคนแก่..ไปสุดก้นตรอก เหนื่อย ก็เลยหยุดหาซื้อเครื่องดื่มกิน คนขายเป็นหญิงแก่มาก ร้านขายก็ซอมซ่อมาก เลยสัมภาษณ์เสียนาน ....ได้ความว่าอายุ ๗๗ แล้ว ผัวก็ตายนานแล้ว ลูกหลานก็ไม่มี วันนี้อยู่คนเดียว
.
เมื่อนานปีก่อนพอขายได้ แต่วันนี้ยอดขายทรุดลงมาก เพราะเซเว่นมาเปิดกักดักคนไว้หน้าตรอก แต่ก็พอขายได้พอประทังชีวิกไปวังๆ (สำเนียงจีน) พร้อมว่ามันคงเป็น "พมลิขิก"
.
ผมฟังแล้วน้้ำตาจะไหลเสียให้ได้ เหลียวมองดูประตูเลื่อนแบบเหล็กถักหน้าตึกเล็กๆที่แสนซอมซ่อ แกจะเปิดปิดคนเดียวไหวไหมเนี่ย..คงทุลักทุเลพอควร
.
เรื่องนี้น่าทำเป็นสารคดีชีวิต"คนต้องสู้"ได้เลย
---คนถางทาง..มีค. ๖๐
ทุนผูกขาดๆๆๆๆๆๆๆๆครับ
อากาศเมืองโคราชเช้ามืดนี้ประมาณ ๒๒ อศ. ได้กระมัง หนาวกลังดี ออกไปสัมผัสแล้วได้เวทนาเข้ามากระทบสู่จิต เป็นการบำเพ็ญสมาธิอย่างหนึ่ง
---คนถางทาง.มีค.๖๐
ขอนแก่นมีลมพัดเย็นสบายๆครับ
ความกลัววันนี้มันแพร่กระจายมาก ....กลัวกระทั่งจะให้ดอกไม้ในบทความที่มีความกล้า ๕ห้าฮ่า....
.ชาติใดที่ไม่มีความกล้าและความรู้ อย่าหวังเลยว่าจะเจริญ อย่างมากก็แค่นำไปสู่บันได "สู่จุดศูนย์" แล้วก็มาพร้อมกับเสียงปรบมือสนั่น เมื่อการปราศรัยสิ้นสุด
ไม่มีความเห็น
ขำขันโกทูโนว ๑๕.
ทำไมคนมีอำนาจมากในรัฐบาล... แทนที่จะกลัวอาวุธสงคราม กลับกลัวอำนาจของปากกาด้ามเดียว จากมือของคนไร้อาวุธใดๆ
---คนถางทาง.กพ.๖๐
กลัวสื่อนั่นเองครับ
คนมีอำนาจมักโง่...คนฉลาดมักไม่มีอำนาจ...บ้านเมืองเลยละส่ำละสายมานานจนถึงวันนี้...จะทำงัยดี
...อะ๊ๆ ห้ามตอบว่าให้สร้างระบบให้คนฉลาดมีอำนาจครองเมืองนะ ฟังมาจนเมื่อยหูแล้ว มันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะคนฉลาดที่แท้นั้น เขาไม่อยากมีอำนาจหรอก สิบ่อกไห่ ...มีแต่คนโง่เท่านั้นที่อยากมีอำนาจ..ตามทันไหมจ๊ะ
---คนถางทาง..กพ.๖๐
ปล. ไม่เชื่อลองคิดถึง พพจ. ฉลาดมาก นุ่งเพียงผ้าสามผืน แล้วมีอำนาจสั่งตัดคอ หรือ ปิดเฟสบุคใครได้บ้างไหม
พยายามจะตามให้ทันนะคะ ๕ ๕ ๕
สุดยอดครับอาจารย์
คนดุด่า เกรี้ยวกราด ต่างจากคน ปากพล่อย มาก ..น่ี่ว่าเฉพาะคนทั่วไป ...ถ้าจะลากให้ยาวมันจะไกลไปถึงหัวหน้ารัฐบาลก็ยังได้..
.ดังนั้น"สติ"คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้การดุด่า มันต่างจากการ ปากพล่อย ..
.อ้อ..ต้องมีความรู้ประกอบการดุด่าด้วย ..ไม่ใช่ดุด่าแบบ "พล่อยๆ"...ตามทันไหมจ๊ะ
---คนถางทาง..กพ.๖๐
กว่าจะดุด่าได้ ทั้งสติ และความรู้ .... ยากพอควรนะคะ อ.
เธอเยาว์ เธอเขลา เธอทลึ่ง
ครูจึง มาให้ ความหวัง
ครูเตรียม ครูสอน แบบบ้าพลัง
สุดท้าย เธอนั่ง จูบกระดาษ..เพียงม้วนเดียว
---คนถางทาง..กพ.๖๐
โดนเลย สอนไปทำไม เลิกสอนค่ะ หันมาฝึกผู้เรียนให้เกิดทักษะให้มากๆ ดีกว่า จะได้จูบกระดาษแบบเต็มใจหน่อย
ทำไมคนเราเป็นห่วงสุขภาพ..ตอบว่า "กลัวตาย".. พวกหมอ พยาบาล ทหาร จะเป็นพวกกลัวตายที่สุด
อยู่ใกล้เหลือเกินนี่คะอาจารย์ ไม่ชินสักที
คำว่า "บุญคุณ" คืออะไร...เช่น ถามว่าพ่อกะแม่ (หรือแม่กะพ่อก็ได้) ใครมีบุญคุณต่อลูกมากกว่ากัน ...ห้ามตอบว่าเท่ากัน และห้ามเอาความรู้สึกประสบการณ์ส่วนตนมาตอบ เพราะนี่คือคำถามทั่วไป GNET...ตามทันมั๊ยจ๊ะ
---คนถางทาง..กพ.๖๐
ข้อสอบอย่างนี้ไม่เป็นกลางครับ คนไหนมีประสบการณ์แบบหนึ่งอาจตอบคนละอย่างก็ได้ครับ