ดอกไม้


ไอดิน-กลิ่นไม้
เขียนเมื่อ

ความสุขในเดือนธันวาคม 2555

"เดือนธันวาคม"  แหล่งข่าวระบุว่า เป็นเดือนที่ ดัชนีความสุขของคนไทยมีค่าสูงสุด

"วันพ่อแห่งชาติ"  วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นเหตุปัจจัยของความสุขที่สำคัญที่สุด (ภาพเหตุการณ์ในวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมาเมื่อวานนี้ คงเป็นเครื่องบ่งชี้ความสุขของคนไทย โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายขยายความ) นอกจากนั้นก็จะมีวันส่งท้ายปีเก่า และอื่นๆ

ผู้เขียนเอง เป็นคนที่เกิดในช่วงปลายของเดือนธันวาคม มีความสุขอะไรบ้างในเดือนนี้ ของปีนี้

วันที่ 1 ธันวาคม สุขที่ได้เดินทางไปพบปะและพักกับครอบครัวของพี่สาวคนโต ที่ จ.ยโสธร พร้อมด้วยนำของฝากจากยุโรปไปมอบให้

วันที่ 2 ธันวาคม (กิจกรรมเยอะมาก เริ่มจาก 04.00-22.00 น.) สุขที่ได้ไปช่วยงานบุญ 100 วัน น้องสะใภ้ที่ อ.ค้อวัง ได้เห็นต้นมะกอกสูงใหญ่และลูกหล่นเกลื่อนพื้น ได้เห็นทุ่งนาและบัวแดงริมทาง ได้ขับรถพาพี่สาวทั้งสองคนไปทำบุญที่วัดพระพุทธบาทยโสธร อ.มหาชนะชัย ได้ขับรถรับส่งพี่สาวคนโตที่ จ.ยโสธร และพี่สาวคนติดกันที่ จ.อุบลฯ ได้มอบของฝากจากยุโรปให้น้องชายคนเล็ก และมอบสมุด 30 เล่มพร้อม ส.ค.ส.ปฏิทินปี 2556 (ทำเอง) ให้น้องชายนำไปเป็นของรางวัลในกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ (น้องเป็นครูสอนสังคมศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษา จ.ยโสธร) และสุขที่ได้ฟังการสนทนาธรรมทางโทรศัพท์เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากลูกสาวคนโตซึ่งเป็นนักปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง

วันที่ 3 ธันวาคม สุขที่ได้ปลูกและดูแลต้นไม้ พืชผักที่บ้านเรือนขวัญ

วันที่ 4 ธันวาคม สุขที่ได้เดินทางเข้าฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ และสุขที่ทราบว่า ลูกสาวได้เดินทางไปจับจองที่นั่งที่บริเวณลานพระบรมมหาราชวังตั้งแต่เวลาประมาณ 23.00 น. เพื่อรอแสดงความจงรักภักดีต่อพ่อหลวงในวันรุ่งขึ้น วันที่ 5 ธันวาคม

วันที่ 5 ธันวาคมสุขที่ได้ดูแลต้นไม้ใบหญ้าที่ฟาร์ม ปิติสุขที่ได้รับชมการถ่ายทอดงานพระราชพิธีวันพ่อแห่งชาติ และได้เห็นพสกนิกรจำนวนมากมายมหาศาล ที่ได้แสดงออกถึงความสำนึกในพระมากรุณาธิคุณของพ่อหลวงของชาติ

วันที่ 6 ธันวาคม สุขที่ได้อ่านบันทึกใน ฺBlog "รักในหลวง" ของอาจารย์ Wasawat Deemarn ซึ่งเป็นบันทึกที่แทนใจยายไอดินได้เป็นอย่างดี

สุขที่ได้รู้จักสมาชิก GotoKnow ที่เพิ่งเป็นสมาชิกเมื่อ 1 ธันวาคม 2555 คุณครูวิทวัส อันตาผล จากตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ในสาขาวิชาภาษาอังกฤษ จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต  ที่มีรางวัลและความภาคภูมิใจ ได้แก่

2554 นักศึกษารางวัลพระราชทาน (ชมเชยระดับภาคใต้) /สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา

2554 ผู้นำนักศึกษาดีเด่น 2554 /รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

2554 นายกสโมสรนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

2552 ยุวชนประชาธิปไตย เครือข่ายแห่งรัฐสภา

2551 สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดพังงา

เป็นเรื่องแปลกที่ตอนเย็นวันที่ 5 ธันวาคม ที่ยายไอดินขับรถเข้าเมือง ได้รับฟังรายการวิทยุสภา สนทนาสัมภาษณ์ ตัวแทนเยาวชนจากสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสมุทรสงครามหรือสมุทรสาครไม่แน่ใจ

ดูจากบันทึกล่าสุดของคุณวิทวัสแล้ว บ่งชี้ว่า ประเทศไทยจะมีคุณครูน้ำดีที่จะทำหน้าที่วิศวกรสังคมได้อย่างมีคุณภาพ อีกคนหนึ่ง เป็นความหวังของประเทศไทย ที่ทำให้ยายไอดินครูเกษียณได้สุขใจในวันนี้ วันที่ 6 ธันวาคม

Large_happiness2


 

10
9
ไอดิน-กลิ่นไม้
เขียนเมื่อ

"อยากเก็บงานเขียนดีๆ ไว้อ่าน และบอกผ่านไปยังผู้ที่สนใจ"

     หลังจากที่ผู้เขียนได้อ่านบันทึกของ "คุณสามสัก" เรื่อง "๔๖.ปู....นางฟ้าผู้อารี หรือนักฆ่านัยตาหวาน ????" ที่สร้างในวันที่ 9 กันยายน 2555 (http://www.gotoknow.org/blogs/posts/501708) ผู้เขียนได้แสดงความเห็นไว้ ดังนี้

    • อ่านบันทึกนี้ในเวลาที่ควรนอน ตอนเกือบตีสองหลังตรวจงานนักศึกษา

  • ชอบบันทึกนี้มากๆ เลยค่ะ

  • อ่านแล้วได้ความรู้ว่า ต้นที่ขึ้นเยอะมากที่ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้และถอนทิ้งประจำเรียกว่า "ต้นสาบแมว" เคยถ่ายรูปตอนที่เขาขึ้นเต็มสวนกล้วยและออกดอกเต็มสวยเหมือนกันค่ะ

  • ได้รู้จัก "แมงมุมปู (Flower Crab Spider)" ซึ่งรู้สึกว่าจะไม่พบแถวฟาร์มไอดินฯ และได้เรียนรู้เกี่ยวกับการหาอาหารของแมงมุมดังกล่าว

  • ได้เรียนรู้ว่า คุณสามสักมีความรู้เกี่ยวกับแมลงศัตรูพืชเป็นอย่างดี เป็นคนละเอียดอ่อน ช่างคิด และมีความคิดลึกซึ้ง จะเห็นได้จากการนำวิถีชีวิตของสัตว์มาเปรียบเทียบกับคนไทย ที่อยากให้คนไทยทั้งประเทศได้อ่านอย่างมีสติตระหนักรู้ จะได้ไม่หลงระเริงดังเช่นผึ้งที่หลงใหลในความงามและน้ำหวานของดอกสาบแมว

  • "คุณสามสัก" ทิ้งท้ายในบันทึกดังกล่าว ไว้ดังนี้   

    เฮ้อ..ช่างแสนเวทนาแมงมุมปูวัยเด็กและสงสารผึ้งตัวนั้นจริงๆ.......พอๆ กับการสงสารตัวเอง สงสารอนาคตของลูกหลานไทย .. ที่ถูกภาครัฐ กำลังเพาะบ่มพฤติกรรม "รอแลกแจกแถม อย่างไม่เห็นคุณค่า...ถูกหลอนให้หลงใหลได้ปลื้มกับความสุข ความสบายภายใต้นโยบายประชานิยมที่ขาดความสมเหตุสมผลที่ดี ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น มากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาทางการเมืองและทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว..เพราะรายได้ของประเทศ ได้ถูกนำเอามาใช้เพื่อเอาอกเอาใจประชาชน ให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง..จนกระเป๋าของชาติฉีกขาดอย่างต่อเนื่องยาวนาน ..

    เมื่อไม่มีก็ต้องกู้ ..หนี้เก่าเมื่อปี ๒๕๕๔ จำนวน ๔.๒๘ ล้านล้านบาท มาปีนี้ คงมีหนี้สะสมไม่น้อยกว่า ๕ ล้านล้านบาท.. ในขณะที่ทรัพยากรชาติ ก็ถูกล้าง ถูกผลาญ..ควบคู่ไปกับการเพิ่มขึ้นของหนี้สินภาคครัวเรือน จาก ๘ หมื่นบาทเศษ เป็น ๑๓๖,๕๖๒ บาทต่อครัวเรือน ในเวลาเพียงไม่กี่ปี..

    คนไทย จึงไม่ต่างกับผึ้งที่ถูกหลอนให้หลงระเริงกับความหวานและความสวยงามของดอกสาบแมว.รอเวลาที่จะถึงกาลเสื่อมถอย..แตกดับ...

    ในขณะที่ลาว พม่า เวียตนาม (เวียดนาม).. ซุ่มซ่อนลับคมเขี้ยวทางปัญญาให้แก่พลเมือง ให้รู้จักตนเองและก้าวเท่าทันโลกอย่างมั่นคง..พร้อมที่จะแซงพี่ไทย..ที่หลงระเริงความหวาน จนจะเป็นโรคเบาหวาน..ได้อย่างไม่ยากเย็น...

  • ถ้อยคำทิ้งท้ายของ "คุณสามสัก" ดังที่ยกมา ตรงใจผู้เขียนยิ่งนัก ที่รู้สึกนึกคิดเยี่ยงเดียวกัน ด้วยความห่วงใยใน "หายนะของชาติ" แต่ไม่อาจเขียนออกมาเป็นถ้อยคำ เมื่อได้พบกับงานเขียน "ค่าล้ำ" จึงขอนำมาบอกต่อ ขอให้คนไทยได้นำมาคิดไตร่ตรองกันดู จะปล่อยให้บ้านเมืองก้าวไปสู่หายนะเช่นนี้หรือไฉน...

     

30
6
03 ปฐมพงศ์ ศุภโกศล
เขียนเมื่อ

 

วันนี้จะมากล่าวถึงประสบการณ์การไปสนทนากับชาวต่างชาติ 

ผมและเพื่อน ๆ ได้ไป 2 วัน คือวันที่ 2 สิงหาคม และ วันที่ 3 สิงหาคม

วันที่ 2 สิงหาคม

พยายาม ตามหาศิลปินชาวต่างชาติที่มาแกะเทียนนานาชาติตามโจทย์ที่อาจารย์ได้ให้มา แต่ หายังไม่ก็ไม่เจอ จึงได้สอบถาม ประชาสัมพันธ์ เขาจึงชี้แจงว่า ในวันที่ 2 ทางจังหวัดอุบลได้ศิลปินแกะสลักเทียนไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดอุบลจะกลับมาอีกทีก็เช้าวันที่ 3 เลยทำให้งานในวันที่ 2 ไม่มีความคืบหน้าเลยแม้แต่น้อย

วันที่ 3 สิงหาคม

พยายามตามหา และรอศิลปินชาวต่างชาติ จนถึงเที่ยวก็ไม่มีวี่แวว เลยให้เพื่อนในกลุ่มโทรปรึกษาอาจารย์ว่าไม่สามารถตามหาศิลปินตามโจทย์ได้ เลยขอเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป หลังจาก ขอได้แล้ว ก็ ได้ เดินตามหากัน ราว ๆ 3 ชั่วโมง ไม่มี ชาวต่างชาติคนใด ให้สัมภาษณ์ เลยแม้แต่คนเดียว หลังจากที่จะหมดความหวัง ก็ มีความโชคดี หลังจากนั่งรอ กันเตรียมแยกย้าย  ศิลปิน ชาวต่างชาติ ก็ได้กลับมาที่ งาน เพื่อที่จะดู เทียนของตัวเอง ทั้งเพื่อน ๆ และ ผม จึงได้สัมภาษณ์ ตามโจทย์เดิมที่อาจารย์ตั้งไว้

ความรู้สึกและประสบการณ์การไปสนทนากับชาวต่างชาติ

โดยร่วม มีความสนุกดีครับ ศิลปินที่ไปสัมภาษณ์ก็ให้คำตอบในสิ่งถามได้ครบถ้วน ให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เขาสื่ออกมาในผลงาน ว่าแต่ละส่วนสื่อถึงสิ่งใดบ้าง แม้จะฟังออกบ้างไม่ออกบ้างครับ แต่ก็สนุกกับการได้สนทนากับ คุณ บ๊อกแดน เอเดรียน เลฟเตอร์ แต่ ที่ ไม่ค่อยเข้าใจคือ คติที่ชาวต่างชาติมองเรา จากการที่ไปขอสัมภาษณ์ เขาพยายาม ไม่สนใจคำพูดเรา เลย เลยคิดได้ว่า ไม่ใช่แค่ คนไทยเท่านั้นที่กลัวการสนทนากับชาวต่างชาติ แต่ ชาวต่างชาติก็กลัวที่จะสนทนากับคนไทยเหมือนกัน 

 

โดย วันที่ได้สัมภาษณ์คือวันที่ 3 สิงหาคม  2555

เวลา 17.12 

โดยศิลปินที่ผมได้ไปสัมภาษณ์คือ คุณ บ๊อกแดน เอเดรียน เลฟเตอร์

เป็นศิลปินชาว โรมาเนีย ครับ 

โดยชื่อผลงานของเขาคือ ดวงดาวแห่งชีวิต

5
1
04 พัณนิดา แก้ววิลัย
เขียนเมื่อ

 วันที่2เดือนสิงหาคม 2555เวลา 19.00น. ประสบการณ์ที่ได้ไปสัมภาษณ์กับชาวต่างชาติ 

  ที่ทุ่งศรีเมือง  ณ ลานศาลหลักเมือง  จังหวัดอุบลราชธานี  โดยข้าพเจ้าได้ไปสัมภาษณ์ Mr.Jane  เป็นชาวอเมริกา  มาเที่ยวจังหวัดอุบลเป็นครั้งแรก  จากข้อมูลการสัมภาษณ์  Mr.Jane  รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มาเที่ยวประเทศไทย  โดยเฉพาะงานแห่เทียนที่จังหวัดอุบล  โดยเขาคิดว่างานเทียนที่นี่สวยงาม และรู้สึกสนุกที่ได้ดูสิ่งต่างๆในงานแห่เทียน เขาชอบเมืองไทยมาก  อีกสองวัน  ก็จะเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดมหาสารคาม เขามาพักที่  UBON  HOTEL  ได้ประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว เขาได้ไปเที่ยวสถานที่ต่างๆในจังหวัดอุบล ไม่ว่าจะเป็น อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย และเขายังบอกอีกว่าอาจจะอยู่เมืองไทยอีกหลายเดือนอยู่เหมือนกัน  เพราะสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก

  จากประสบการณ์ที่ได้พูดคุยกับชาวต่างชาติในครั้งนี้  ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากและประโยคที่ข้าพเจ้าได้พูดคือ  Have you long been in  Thailand ?

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้สร้างความมั่นใจกับตัวเองได้มาก  และไม่อายที่จะพูดกับชาวต่างชาติอีกต่อไป 

3
2
04 จิราวุฒิ สมบูณร์ศรี
เขียนเมื่อ

วันที่ 2เดือนสิงหาคม 2555 เวลา. 10.00-12.00 น.ที่พิพิธภัณฑ์จังหวัดอุบลราชธานี ได้ไปสํมภาษณ์ชาวต่างชาติในงานแห่เทียนของชาวจังหวัดอุบลราชธานี รู้สึกตื่นเต้นและประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้พูดคุย. เขาเป็นชาวอเมริกัน. ชื่อ มาร์ค. มาอยู่เมืองไทยได้9 ปี. มาร์คบอกว่า เมืองไทยน่าอยู่ คนไทยน่ารัก. เขามาอุบลราชธานีเป็นครั้งแรก. เขาชื่นชอบงานแห่งเทียน เพราะเป็นประเพณีที่สวยงาม น่าสนใจและดีใจที่ได้มาจังหวัดอุบลราชธานี เขายังบอกอีกว่าชอบผู้หญิงไทย เพราะผู้หญิงไทยเอาใจเก่ง

2
1
04 ปนัดดา ศิลาเหลือง
เขียนเมื่อ

เมื่อวันที่ 2เดือนสิงหาคม 2555 เวลา. 10.00-12.00 น. ดิฉันได้ไปสํมภาษณ์ชาวต่างชาติในงานแห่เทียนของชาวจังหวัดอุบลราชธานี ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ. ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นและประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้พูดคุย เขาเป็นชาวอเมริกัน. ชื่อ มาร์ค. มาอยู่เมืองไทยได้9 ปี. มาร์คบอกว่า เมืองไทยน่าอยู่ คนไทยน่ารัก. เขามาอุบลราชธานีเป็นครั้งแรก. เขาชื่นชอบงานแห่งเทียน เพราะเป็นประเพณีที่สวยงาม น่าสนใจและดีใจที่ได้มาจังหวัดอุบลราชธานี เขายังบอกอีกว่าชอบผู้หญิงไทย

3
1
03 เกียรติศักดิ์ สุขเกษม
เขียนเมื่อ

จากการที่ได้ไปสนทนากับชาวต่างชาติ  ผมมีความรู้สึกตื่นเต้นมากตอนแรกเพราะผมไม่เคยได้ไปสนทนากับชาวต่างชาติ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้สนทนา ซึ่งชาวต่างชาติก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผมมีความประทับใจมากกับการที่ได้ไปสนทนากับชาวต่างชาติในครั้งนี้

4
1
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท