สวัสดีครับ
ต้องถือว่าบันทึกในบล็อกช่วยสังคมได้ราวกับ จส 100
ผมเข้าใจว่าสังคมทุกวันนี้พ่อแม่ต้องลงทุนวางแผนชีวิตให้ลูกด้วยการซื้ออนาคตให้ลูกตั้งแต่รู้ว่ากำลังอยู่ในครรภ์ เริ่มตั้งแต่การกิน การนอน และจิปาถะ โตขึ้นก็วิ่งหาโรงเรียนให้ลูก ๆ โตหน่อยก็หาครูสอนพิเศษ (จนบางทีก็ไม่เหลือเวลาให้เด็กได้วิ่งเล่น) แต่ดีหน่อยคือกลับบ้านมาแล้วพ่อกับแม่ไม่ต้องเหนื่อยกับการสอนการบ้าน เพราะครูพิเศษจัดการสอนและพาทำมาแล้วตั้งแต่ในโรงเรียน
เป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ปกครองที่มีความพร้อมต้นทุนทางการศึกษา จนสามารถเสาะแสวงหาสถานศึกษาที่มีคุณภาพให้กับลูกได้ แต่บางครั้งก็อดเห็นใจคนที่ขาดความพร้อม ต้องฝากชีวิตและอนาคตด้านการศึกษาไว้ตามมีตามเกิด
แต่ก็คงไม่แปลก เพราะในอดีต วัด ยังเป็นโรงเรียนดังเดิมของคนไทยเราเสมอ
..คนเก่ง คนดี ก็ไร้ประโยชน์ ถ้าการดำเนินชีวิตปราศจากความสุข
ขอบคุณบันทึกของอาจารย์ที่ช่วยเป็นสื่อกลางให้กับครอบครัวของคนที่ให้ความสำคัญของการศึกษา
ขอบคุณครับ
ขอฝากด้วยค่ะ โรงเรียนในลพบุรี นำ km เข้าไปในระดับนักเรียนและทำให้นักเรียนได้มีการช่วยเหลอ
ซึ่งกันและกัน ซึ่งคิดว่า ดีกว่าสอนให้เด็กมีคุณธรรมโดยวิธีการอื่น ๆ อยากให้
เผยแพร่ความคิดทั่วไป
ได้ข่าวว่า...โรงเรียน ลำปรายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ของสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนก็จัดกระบวนการเรียนการสอนเชิงคุณธรรมที่ได้รับการยอมรับติดอันดับโลกนะครับ...
ผมกะว่าจะชวนทีมงานไปดูให้ครบทุกแห่งเลยครับ...
รู้สึกดีที่ได้เห็นประกายแห่งคุณธรรมอันจะนำไปสู่สังคมแห่งความสุขกำลังสร้างแนวทางของตัวเองขึ้น แม้จะเป็นประกายที่ยังไม่ลุกโชน แต่คงต้องดำเนินและฝ่าฟันกันต่อไป จนกระทั่งประกายนั้นจะโชติช่วงด้วยพลังแห่งความดี .....สู้ สู้ ค่ะ....
พี่ที่ทำงานช่วงนี้ก็มีปัญหาเรื่องหาโรงเรียนให้ลูกเช่นกัน..โดยตอนแรกพี่เลือกให้โดยคิดในแง่ของความมีชื่อเสียงและการมุ่งเน้นเชิงวิชาการ..ในรอบแรกพี่เขาใช้วิธีการให้ลูกสมัครในโควต้าการมีความสามารถพิเศษซึ่งตอนแรกเด้กไม่อยากสมัครแล้วเพราะเหมือนมีการแกล้งหรือกรรมการคัดเลือกบางคนใช้วาจาที่รุนแรงและทำร้ายจิตใจเด็กแต่พี่ก็ใช้ลุกยุท้าทายจนสุดท้ายน้องไปสอบและแสดงความสามารถจนมีอจ.ท่านหนึ่งก็ชื่นชมและเชื่อว่าน้องน่าจะได้เข้าเรียนอย่างแน่นอน
แต่อจ.ก็ไม่รู้ว่าน้องตัดสินใจแล้วว่าถึงสอบได้แต่จะไม่เรียนที่นี่แม้ว่าจะเป็น รร.ดังและเก่าแก่ก็ตามแต่จะขอกลับไปเรียนต่อที่รร.เดิมเพราะเด็กรู้สึกได้รับความสนใจและใส่ใจรวมถึงการให้เกียรติแก่ตัวเขามากกว่า.
.พี่ก็คุยกับลูก(น้อง)ถึงข้อดีและข้อเสีย..สุดท้ายด้วยเหตุผลที่พี่ต้องยอมรับก็คือคนที่จะต้องเรียนคือลูกไม่ใช่แม่หากต้องฝืนใจไปเรียนในโรงเรียนที่เด้กรู้สึกหมดความสุขแล้วเด็กก็ไม่อยากไปเรียน..
ตอนนี้ที่แม่กลุ้มใจอยู่ไม่ใช่เรื่องที่ลูกเข้ารร.ดังไม่ได้หากแต่กลุ้มเพราะต้องอธิบายให้ผู้ที่รู้จักและไถ่ถามว่าเพราะอะไรจึงไม่ให้ลุกเรียนในโรงเรียนที่ดังและมีชื่อเสียงด้านวิชาการ รร.นั้น
พี่
บันทึกของพี่ที่พูดคุยเรื่องโรงเรียน ของท่าน ดร.อาจอง นั้นน่าสนใจมาก ผมเคยชมในโทรทัศน์ครับครั้งหนึ่ง
ผมชื่นชมผู้ปกครองท่านนั้นด้วยครับ ที่ดั้นด้นไปเพื่อที่จะพาลูกน้อย ไปในที่ๆดี เหมาะสมในการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ถือได้ว่าเป็นโอกาสของเด็กยุคนี้นะครับ
ตัวอย่างเหล่านี้คือ อานุภาพของ Blog
ผมก็เจอเหตุการณ์อานุภาพของ Blog บ่อยๆ ครับ
ใครรู้จักวรพิทยาครับ
สอบถามที่สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน จ.บุรีรัมย ได้กระมังครับ...ผมก็ยังไม่ได้ไปที่ลำปรายมาศเลย...
อยู่ใกล้ ๆ หาข้อมูลมาฝากด้วยนะครับ...