สำนักข่าวบีบีซี และสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลการศึกษาทบทวนผลการวิจัยจากทีมวิจัย มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก
คณะผู้ศึกษาวิจัยได้ทบทวนผลการศึกษาวิจัยเรื่องวิตะมิน (vitamins) และสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) 815 รายงาน
การศึกษาดังกล่าวทบทวนผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับวิตะมินยอดนิยมได้แก่ วิตะมินเอ วิตะมินอี วิตะมินซี และเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีคนกินกันทั่วโลกหลายสิบล้านคน
สถิติพบว่า คนในทวีปอเมริกาเหนือ(อเมริกันและแคนาดา) และทวีปยุโรป 10-20% หรือประมาณเกือบ 160 ล้านคนกินวิตะมินเป็นประจำ และมีแนวโน้มว่า จะมีคนกินวิตะมินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ผลจากการศึกษาทบทวน (review) พบว่า รายงานการศึกษา 815 รายงานมีเพียง 68 รายงานที่ใช้วิธีการวิจัย และจำนวนกลุ่มตัวอย่างถูกต้องทางสถิติ
เมื่อทำการทบทวนซ้ำ… คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนได้ตัดรายงานการศึกษาเรื่องวิตะมิน และสารต้านอนุมูลอิสระที่ขาดมาตรฐานออกไปอีก 21 รายงาน
ผลการศึกษาออกมาแบบนี้ครับ…
โบราณท่านว่า "ความวัวยังไม่หาย ความควายก็เข้ามาแทรก" ฉันใด เรื่องวิตะมินก็ฉันนั้น เพราะมีวิตะมิน (vitamins) และสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ที่เพิ่มอัตราตาย (death risk) มากขึ้นดังตาราง (ตารางที่ 1)
ตารางที่ 1: วิตะมินและสารต้านอนุมูลอิสระเสริมที่เพิ่มอัตราตาย (death risk)
วิตะมิน (vitamin) |
ร้อยละของอัตราตายที่เพิ่ม (%) |
เบต้าแคโรทีน (beta-carotene) |
7 |
วิตะมินเอ (vitamin A) |
16 |
วิตะมินอี (vitamin E) |
4 |
กล่าวโดยรวมแล้ว... คนที่กินวิตะมินและอาหารเสริมมีอัตราตายเพิ่มขึ้น 5 % เมื่อเทียบกับคนที่ไม่กิน
อาจารย์ดอกเตอร์แฟรงคี ฟิลลิปส์ แห่งสมาคมนักโภชนาการสหราชอาณาจักรกล่าวว่า "เรารู้แล้วว่า การกินวิตะมินและอาหารเสริมไม่อาจ (ไม่มีคุณค่าพอ) แทนที่อาหารที่กินสมดุลกันอย่างพอดีได้ (‘We already know that taking supplements isn’t in any way a replacement for a good balanced diet.’) <p>เดิมคนตะวันตกมักจะเชื่อว่า "มากไว้ละดี (The more, The better.)" เช่น กินเนื้อ กินนม กินไข่มากไว้ละดี ฯลฯ </p>
ต่อมาเมื่อพบโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน เส้นเลือดสมองตีบ-แตกตัน (อัมพฤกษ์-อัมพาต) ระบาดไปทั่วโลก…
ความนิยมสุดโต่งก็พลิกกลับไปอีกด้านหนึ่ง กลายเป็นความคิดที่ว่า "กินวิตะมิน กินสารต้านอนุมูลอิสระมากไว้ละดี" บริษัทยาและพ่อค้าแม่ค้าขายวิตะมิน-อาหารเสริมเลยรวยกันใหญ่
</font><p></p>คำแนะนำทั่วไปในการกินวิตะมิน (vitamins) และสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ได้แก่ ควรกินสารอาหารจากธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องไปกินสารอัดเม็ด หรือสารสกัดเข้มข้นอะไรเลย <p>การกินข้าวกล้องหรือขนมปังจากธัญพืชไม่ขัดสี (whole wheat / โฮลวีท) เป็นหลัก แถมด้วยผักมากน้อย ผักครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นครึ่งหนึ่งยิ่งดี…</p>
การกินอาหารให้หลากหลาย หมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันไปน่าจะดีที่สุด… กินให้ครบทั้งข้าวกล้อง ถั่ว งา ผัก และผลไม้ แถมปลาอีกสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
</font><p>ควรหลีกเลี่ยงการกินวิตะมินขนาดสูง โดยเฉพาะวิตะมินที่ละลายในน้ำมัน (A, D, E, K) ซึ่งร่างกายขับออกทางปัสสาวะไม่ได้</p><p></p>ถ้ากินวิตะมินรวม… ควรกินพร้อมอาหาร เนื่องจากวิตะมินหลายตัวต้องอาศัยน้ำมันในอาหารช่วยละลายวิตะมิน และช่วยในการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด <p>ทางสายกลางนั่นละดี… เพราะ "ดี" อย่างเดียวไม่พอ น้อยไปหรือมากไปมักจะไม่ดี ต้องขอ "พอดี" ด้วย…</p>
แหล่งที่มา:
</font>
ขอขอบคุณอาจารย์ขจิตและท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ต่อไปเป็นปริมาณวิตะมินซี (มิลลิกรัม) ต่ออาหาร 100 กรัม...
ความจริง...
ขอขอบคุณครับ...
ขอขอบคุณอาจารย์ Ranee และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
วิตะมิน หรืออาหารเสริม...
ขอขอบคุณครับ...
ขอขอบคุณ... คุณ Aj Kae และท่านผู้อ่านทุกท่าน
ทีนี้...
ขอขอบคุณครับ...
กราบสวัสดีครับอาจารย์
อาจารย์ครับผมมีคำถามจะถามนิดหนึ่งครับ คำถามผมคือว่าการวิจัยที่ลงวารสารแพทย์นั้นโดยเฉพาะทางตะวันตกนั้น คนที่มาร่วมในการวิจัยก็คงเป็นคนตะวันตก แต่กับคนตะวันออกนั้นผลการวิจัยมันจะสามารถใช้ได้เหมือนกันหรือเปล่าครับ ยกตัวอย่างเช่นยาบางชนิดใช้กับคนตะวันตกได้ดี แต่พอมาใช้กัยคนไทยแล้วอาจจะไม่ค่อยได้ผลนะครับ ในเมื่อคนตะวันออกกับคนตะวันตกนั้นทั้งลักษณะทางกายภาพของร่างกายนั้นต่างกัน สภาพภูมิอากาศที่ต่างกัน รวมไปถึงอาหารที่ต่างกัน ขอบพระคุณมากครับ
คุณหมอขา หนูกำลังคิดว่า
จะพกวิตะมินไปกินเมืองนอกพอดี
เพราะอยู่ที่นั่น อาหารการกิน ลำบากอยู่ค่ะ
เจ้าของบ้านเค้าไม่ค่อยกินผัก ...
กินแต่ของทอด Fish and Chips อาหารชาวกีวีน่ะค่ะ
หนูเอาไปกินได้แต่กินพร้อมมื้ออาหารน่าจะดีใช่ไหมคะ
...
อาจารย์หมอคะ
ขอขอบคุณ... คุณ "ไปอ่านหนังสือ" และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ตัวอย่าง...
ตัวอย่าง...
ขอขอบคุณครับ...
ขอขอบคุณอาจารย์ wwibul และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
วิตะมิน...
คุณแม่...
ขูดมดลูก...
ตัดมดลูก...
ขอขอบคุณครับ...
ขอขอบคุณอาจารย์อ้อมและท่านผู้อ่านทุกท่าน...
น้ำผัก-ผลไม้...
นิวซีแลนด์...
วิตะมิน...
ขอขอบคุณครับ
ขอขอบคุณอาจารย์กฤษณาและท่านผู้อ่านทุกท่าน...
บันทึก...
ขอขอบคุณ...
สวัสดีค่ะ ขอบพระคุณที่กรุณานำข่าวสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาฝากค่ะ
ในเมื่อมีท่านอาจารย์หมออยู่ตรงนี้แล้ว จะขอความกรุณาเรียนปรึกษาว่า น้องชายคนเล็ก เป็นภูมิแพ้ เป็นหวัดบ่อยมากๆๆ แทบทุกๆ วัน ตอนนี้ก็ทานนมสดแทนน้ำ แต่อาการเป็นหวัดก็ไม่ลดหายไปเลย ดังนั้นอยากจะเรียนถามว่า จะให้เค้าทานอะไรดีที่สามารถช่วยลดอาการภูมิแพ้ตรงนี้ได้
หมายเหตุ น้องชายหนูได้พยายามทานพวกวิตามินซีในรูปแบบต่าง ๆ มาบ้างแล้ว เช่นนมเปรี้ยวหรือวิตามินที่เป็นเป็นเม็ด ไม่ทราบว่านอกจากนี้จะมีวิธีใดที่ทำให้อาการภูมิแพ้นี้บรรเทาลงบ้าง
กราบขอบพระคุณค่ะ
ขอขอบคุณ... คุณพิชชาและท่านผู้อ่านทุกท่าน
บางเรื่อง...
แนะนำให้อ่าน:
ขอขอบคุณ... คุณจินตนาและท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ความไม่ลับ...
งดนม...
วิตะมิน...
ยา...
ออกกำลัง...
ลดฝุ่น...
โยคะ...
ครั้งหนึ่ง...
แนะนำ...
ขอขอบคุณ... คุณจินตนาและท่านผู้อ่านทุกท่าน
ถ้าไม่ดีขึ้น...
ขอขอบคุณครับ...