กรดโฟลิคเป็นวิตะมินบีชนิดหนึ่ง ซึ่งมีในผักใบเขียว เช่น ปวยเล้ง บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง ฯลฯ ผลไม้ เช่น ส้ม ฯลฯ และธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ฯลฯ

ข่าวดีคือ มันมีอยู่ในพืชผักมากมาย ยิ่งกินพืชผักมากก็ยิ่งได้กรดโฟลิคมาก ข่าวร้ายคือ ร่างกายเก็บสะสมไว้ได้ไม่นาน... ต้องอาศัยกินบ่อยๆ หรือดีที่สุดคือ กินทุกวันจึงจะได้ผลดีที่สุด

คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ออกกฎบังคับให้เติมกรดโฟลิคในขนมปัง ซีเรียล(ผลิตภัณฑ์ธัญพืช) และพาสต้า เพื่อลดปัญหาความผิดปกติของทารกแรกเกิด

เด็กแรกเกิดอเมริกัน 1,000 คนจะมีความผิดปกติแรกเกิดจากท่อระบบประสาท (neural tube defect / NTD) 1 คน

อาการที่พบบ่อยที่สุดได้แก่ กระดูกสันหลังปิดไม่สนิท ทำให้เกิดถุงน้ำ หรือไขสันหลังยื่นออกไปทางด้านหลัง (spina bibida) ซึ่งพบได้ 1 ใน 2,000 คนในเด็กแรกเกิดอเมริกัน

ความผิดปกติอื่นๆ ที่พบได้น้อยลงไปก็มี เช่น สมองใหญ่หายไป (anencephaly) ฯลฯ

ภาวะนี้มองจากภายนอกจะดูคล้ายกะโหลกส่วนเหนือระดับตา-หูหายไป สมองใหญ่หายไป... เด็กจะตายตั้งแต่แรกคลอด

อาจารย์ดอกเตอร์โดนัลด์ อาร์. แมททิซันกล่าวกว่า การให้กรดโพลิคเสริมช่วยลดความผิดปกติเหล่านี้ได้ถึง 70%

การศึกษาอื่นๆ พบว่า กรดโฟลิคอาจช่วยลดความผิดปกติอื่นๆ เช่น ปากแหว่ง เพดานโหว่ ฯลฯ ลงได้ถึง 50%

สำนักงานบริการสาธารณสุขอเมริกันแนะนำให้ผู้หญิงที่อาจตั้งครรภ์ อายุ 18-45 ปีกินกรดโฟลิควันละ 400 ไมโครกรัม

ดีที่สุดคือ ให้กินกรดโฟลิคทุกวัน หรือเริ่มกินตั้งแต่ 1 เดือนก่อนตั้งใจมีลูก

อาจารย์ดอกเตอร์แคเธอรีน ทัคเคอร์ แห่งมหาวิทยาลัยทัฟส์ สหรัฐฯ กล่าวว่า

จากการศึกษาฟรามิงแฮม (Framingham Heart Study) พบว่า คนที่กินอาหารที่มีกรดโฟลิคน้อยที่สุดมีระดับสารโฮโมซิสเทอีนสูงที่สุด

ภาวะสารโฮโมซิสเทอีนสูงอาจมีความสัมพันธ์กับโรคเส้นเลือดอุดตัน เช่น โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ ได้

การกินข้าวกล้อง ผัก และผลไม้ให้มากพอทุกวันมีส่วนช่วยให้ได้รับกรดโฟลิกเพียงพอทุกวัน

ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์อาหาร ยา(วิตะมิน) หรือเครื่องดื่มอะไร... ถ้าอ่านฉลากอาหารก่อนซื้อทุกครั้งจะช่วยให้เราเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าได้ดีขึ้น

การที่จะทำให้เด็กทารกแรกเกิดมีสุขภาพดียังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง เช่น การไปฝากครรภ์ที่อนามัย หรือโรงพยาบาลสม่ำเสมอตั้งแต่ช่วงแรก การไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นรุนแรง (เช่น หนังอิจฉาริษยา ไม่ควรชมข่าว 4 จังหวัดภาคใต้ก่อนนอน ฯลฯ) ฯลฯ

ถึงตรงนี้... ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้อ่านทุกท่านที่กินข้าวกล้อง ผัก และผลไม้ทุกวันครับ...

    แหล่งที่มา:

• ขอขอบพระคุณ (courtesy of) > Foliac acid: A "Family Values" Vitamin. Brigham and women’s hospital Health e-newsletter > http://www.brighamandwomens.org/newsletter/enewsletter.aspx > January, 2007.
• ขอขอบพระคุณ (courtesy of) > Folic acid > http://www.cdc.gov/ncbddd/folicacid > January 7, 2007.
• ขอขอบพระคุณ > โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี + อาจารย์เทวินทร์ อุปนันท์ IT + หน่วยรังสีกรรม > สนับสนุนทางเทคนิค + อินเตอร์เน็ต.
• ขอขอบพระคุณ > ศูนย์มะเร็งลำปาง + อาจารย์ ณรงค์ ม่วงตานี และอาจารย์เทพรัตน์ บุณยะประภูติ IT + กลุ่มงานรังสีวินิจฉัย > สนับสนุนทางเทคนิค + อินเตอร์เน็ต.
• นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ จัดทำ > ๗ มกราคม ๒๕๕๐.