คนเราทุกข์กันไปคนละแบบ...
เธอ...นั่งอยู่ใต้สะพานข้ามถนนวิภาวดี ในระยะไม่ถึงสามสิบเมตร ผมเห็นสายตาเธอแอบมองผมอยู่ก่อนแล้ว
ใต้สะพานข้ามทาง ต้นไม้ครึ้ม ถือจุดที่ลับตาพอสมควร สายตาเธอจับจ้องผมจนผมรู้สึก ผมคงเป็นเป้าหมายสักอย่างของเธอแน่ๆ
เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้...(ผมรู้สึกหวาดๆอยู่บ้าง) ขณะที่จะเดินขึ้นสะพานเพื่อข้ามไปอีกฝั่งของถนน
เธอ...รีบเดินมาประชิดตัว
“พี่คะ...หนูขอเงินสักสิบบาท!!! ได้ไหมคะ ไม่มีค่ารถกลับบ้าน”
ในระยะประชิดทำให้ผมได้มองเห็น เธอได้อย่างชัดเจน
เธอ...ผู้นั้นน่าจะเป็นสาวประเภทสอง ที่มีลักษณะเป็นผู้หญิงค่อนข้างมาก ร่างผอมบาง มีหน้าอก ดูจากรูปร่างก่อนหน้านั้นเธอน่าจะเป็นคนสวยพอสมควรเลยทีเดียว
แต่สภาพวันนี้ เธอดูทรุดโทรม ปากแห้งผากที่ทาลิปสติกสีแดง หรือว่าปากเธอแตกเป็นร่องและมีเลือดไหลซึม ผิวพรรณยังดูเนียนคล้ายหญิงสาว มีตุ่มขนาดใหญ่ หลายเม็ดผุดขึ้นบริเวณแขนข้างหนึ่งของเธอ
...ท่าทางเธอคงกำลังไม่สบาย
สายตาเธอคู่นั้น ดูเศร้าสร้อยเสียเหลือเกิน...
ผมติดอยู่ในภวังค์...กำลังคิดว่าจะรีบเดินจากไป หรือจะหยุดเพื่อจะหยิบเงินให้เธอ
เสียงในใจบอกว่า...ช่วยเธอเถอะ..!! หากเรายังพอช่วยเหลือเธอได้บ้าง...
ผมหยิบเงินให้เธอ เธอไหว้ขอบคุณ แล้วกลับลงไปนั่งที่ฟุตบาธเหมือนเดิม
ผมเดินขึ้นสะพาน ยังแอบมองเธออยู่ไกลๆ เธอยังคงต้องขอเงินอีกสักพัก หากครบจำนวนที่เธอต้องการเธอก็คงไป...(ไหนไม่รู้)
ผมรู้สึกสลดใจในชะตากรรมของเพื่อนร่วมโลกที่เจอตลอดเวลาที่อยู่ในเมืองหลวงที่มีทุกอย่างพร้อมพรัก ชีวิตของผู้คนที่นี่หลากหลาย และแตกต่างกันราวฟ้าและดิน มีให้เห็น ให้เรียนรู้
หลายครั้ง...ผมรู้ว่าโดนหลอกบ้าง จากการที่ให้เงินผู้คนที่ขอเงินรายทาง...แต่ก็ให้ไป ให้ไปเพราะไม่ได้คิดอะไรมากมายก็แค่แบ่งปัน…ไม่เป็นไร
ก็ยายแก่ๆที่ป้ายรถเมล์ที่ศาลายา นั่นยังไงเล่า...
ยายทำเป็นวนเวียน ถามเส้นทางใครหลายๆคน พร้อมกับบอกว่า ไม่มีเงินพอ จากนั้นก็จบลงด้วยการให้เงินยายเป็นค่ารถ...
เวลาผ่านไปอีกไม่นาน...ยายคงจำผมไม่ได้แล้ว
วันหนึ่งยายมาประชิดตัวผมเหมือนเคย ยายเอ่ยปากไถ่ถามเส้นทางเดิมๆ จบลงตรงประโยคที่ว่า “ยายเงินไม่พอ ขอเงิน”
ในใจตอนนั้นรู้สึกหงุดหงิดในใจขึ้นเล็กน้อย...แต่เมื่อมาคิดทบทวนหลายครั้ง...ไม่มีใครที่อยากใช้ชีวิตเช่นนั้น ไม่มีใครอยากจะแบกหน้าแบมือขอเงินจากใคร ...เหมือนกับ ว่ามีเหตุ มีปัจจัย ที่เราอาจไม่ได้ฟังจากปากของพวกเขา...
โอ...ชีวิต มันยิ่งกว่านิยายเสียอีก
ไม่มีใครที่อยากมีชีวิตแบบนั้น...คนเราต่างก็ทุกข์กันคนละแบบ
วันนี้ขอทำหน้าที่มนุษย์ของตนเองให้ดีที่สุดครับ
หากไม่มีอะไรที่เดือดร้อนตัวเองมาก การแบ่งปันไม่ว่าเงื่อนไข และเหตุผลใด เราพอทำได้ เราก็ทำ ทำในหน้าที่ในฐานะมนุษย์ที่ว่ายเวียนบนกองทุกข์ที่ดีที่สุดแล้ว...ในเวลานั้น
หากในอนาคต ได้เขียนหนังสือวิชาการไปแล้ว
แต่อยากเขียนหนังสืออีกสักเล่มที่เป็น "มุมมอง"
โปรดนำบันทึกนี้ไปรวม เป็นหนังสือใหม่เถอะครับ
เขียนได้ดีเลยล่ะ คุณเอก ;)...
ป.ล. นี่คือ สถานที่ที่ผมใช้ชีวิตอยู่ครึ่งชีวิต
กำลังอ่าน เเละยิ้มกับบันทึกเเมวของ อ.วัส พอดี
อาจารย์ก็โผล่มาเคาะประตูที่บ้านผม
สวนทางกัน!!!
ความจริง ผมมีมุมด้านนี้เยอะ กรุงเทพฯ หรือ วิถีชีวิตประจำวันที่นี่ มีเรื่องราวมากมายให้ได้เรียนรู้...
ผมมีความสุขนะ สุขที่ได้เรียนรู้ทุกขณะที่นี่
พุดน้ำบุศ ใช่ไหมคะ ที่บ้านกำลังออกดอกพราวค่ะ
ดอกที่เพิ่งออกใหม่ ๆ จะสีขาวครีม เวลาผ่านไปไม่ถึงวัน สีดอกจะเข้มขึ้นอีกทีละเล็กละน้อย จนสีออกส้มหรือแสด
ชอบชี้ชวนให้ลูกชายดูค่ะ
สำหรับบันทึกนี้(พูดเรื่องดอกไม้เพลิน) พี่มีคคห ส่วนตัวว่า ถ้าใครไม่เข้าตาจน คงไม่"ขอ"
สำหรับพี่ พี่ให้ตลอดค่ะ ไม่มาก อยากมีส่วนช่วย ซ้ำ ๆ คน ซ้ำ ๆ เหตุผล ก็ ...น่านะ ให้เถิดค่ะ
ขอโทษ ย่อรูปไม่ได้ค่ะ ทำไมไม่ทราบ;P
ไม่ต้องย่อครับ ภาพสวย ควรจะนำเสนอเต็มๆ 55+
พี่เล็กครับ..
สังหรณ์ใจอยู่ว่า คนที่จะเข้ามาเยี่ยมบ้านผมเป็นคนที่สอง คือพี่เล็ก...
เเละก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
ขอแก้ไขนิดหน่อย เป็นดอกปีบครับ ดอกที่กำลังจะร่วงหล่นสู่ดิน เเต่ดอกไม้น้อยๆดอกนี้ยังสวยงาม เเละกลิ่นหอมอยู่นะครับ
ไม่มีใครที่อยากมีชีวิตแบบนั้น...คนเราต่างก็ทุกข์กันคนละแบบ
วันนี้ขอทำหน้าที่มนุษย์ของตนเองให้ดีที่สุดครับ
หากไม่มีอะไรที่เดือดร้อนตัวเองมาก การแบ่งปันไม่ว่าเงื่อนไข และเหตุผลใด เราพอทำได้ เราก็ทำ ทำในหน้าที่ในฐานะมนุษย์ที่ว่ายเวียนบนกองทุกข์ที่ดีที่สุดแล้ว...ในเวลานั้น
โดนใจมากค่ะ
มีโอกาสอยากให้เขียนบ้าง...เขียนเรื่องราวที่เจอเเต่ละวัน
เเล้วมาถกกับความคิดตัวเอง...เงียบๆ
ได้เรียนรู้มากมายเลยครับ
งานวิจัยของมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน เปิดเผยว่า หลายๆ คนสมัครใจเป็นขอทาน เพราะรายได้ใน กทม เฉลี่ยวันละ 3,000 บาท
ขอทานนี่อีกแบบหนึ่ง...เเต่ผมก็ให้ตามเหมาะสม
อย่าง Case กรณีที่เล่า ไม่น่าจะใช่ขอทานโดยอาชีพ
ความเคอะเขินที่ซ่อนในดวงตาเศร้าของ เธอ คนนี้ ผมดูว่า
เธอทุกข์ เเละ ข่มใจบางอย่างพอสมควร
"ไม่มีใครที่อยากมีชีวิตแบบนั้น...คนเราต่างก็ทุกข์กันคนละแบบ
หากไม่มีอะไรที่เดือดร้อนตัวเองมาก การแบ่งปันไม่ว่าเงื่อนไข และเหตุผลใด เราพอทำได้ เราก็ทำ ทำในหน้าที่ในฐานะมนุษย์ที่ว่ายเวียนบนกองทุกข์ที่ดีที่สุดแล้ว...ในเวลานั้น"
สวัสดีค่ะ ชอบจังค่ะและเห็นด้วยกับประโยคข้างบนเป็นอย่างยิ่งค่ะ...
แม้จะเชื่ออยู่เสมอว่าในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรามันเป็นเรื่องธรรมดาที่วันหนึ่งเราจะเป็นผู้ขอความช่วยเหลือ วันหนึ่งเราจะเป็นผู้รับความช่วยเหลือ และอีกวันหนึ่งเราจะเป็นผู้ให้การช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม ชีวิตจึงจะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่เราได้มีโอกาสเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ วันนี้เราอาจเป็นผู้รับจากสังคมคนรอบข้าง แต่วันข้างหน้าเราจะเป็นผู้ให้ที่เข้าใจผู้รับอย่างแท้จริง
แต่หากต้องเป็นคนขอจริงๆ คิดว่าคงต้องอยู่ในสภาพที่เลือกไม่ได้จริงๆ
สวัสดีค่ะ
"คนเราต่างก็ทุกข์กันคนละแบบ "
ชื่อบันทึกสื่อความ แล้วนะคะ
ให้เถอะถ้าเราพอแบ่งปันได้ สำหรับคนที่อ่อนแอ และทุกข์ร้อนจริง
ขอบคุณค่ะ
ขอชื่นชมค่ะใจดีเกิ๊น
แต่ความสงสารบางทีอาจเป็นช่องทางให้คนจิตต่ำใจคอโหดร้ายเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัวเช่นพวกค้ามนุษย์
ไปหลอกไปจับตัวเด็ก ผู้หญิง คนชรา มาเป็นเหยื่อบังคับขู่เข็ญทำร้ายใช้ให้ไปเป็นขอทาน
เงินที่ได้มาก็ไปตกอยู่ในกระเป๋าของคนพวกนั้น
เงินที่ได้มาง่ายๆใครๆก็อยากได้เน๊าะ
ขอมั่งดิ5555
ในมุมที่ละเอียดอ่อน จากมุมที่มองนั้น จะมีใครสักกี่คน...ที่จะสัมผัสความรู้สึกร้าวรานของผู้คนได้ ............. เราต่างก็ทุกข์...ทุกข์จนลืมใส่ใจความทุกข์ของผู้คนที่อยู่ลึกลงไปจากสิ่งที่เห็น
ก็ในเมื่อเราพอจะให้ได้ ถ้าให้ด้วยใจ ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก การให้เป็นสิ่งที่ดีเสมอค่ะ..
คนเราก็ทุกข์กันคนละแบบ ..รับรู้ได้ แต่ก็อย่าไปทุกข์กับเขานะคะ..
...
....หากมีเวลา การทักทาย ถามไถ่ นอกจากให้ตังค์เฉย ๆ บางทีก็อาจช่วยให้เธอ เขา หรือ ...
รู้สึกดี เหมือนมีคุณค่าขึ้นมาบ้างก็ได้นะคะ..
หรือหากเขาคิดจะหลอกลวง เมื่อเราใส่ใจห่วงใยเขา เขาก็อาจจะคิดได้ และเลิกพฤติกรรมนี้ก็ได้..ว่าไหม?
ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ประจำวันค่ะ ..^_^
พี่จะไม่ให้เฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่ที่พาเด็กมานั่งแถวสะพานลอย และพาเด็กเดินขอตามร้านอาหาร
นอกนั้นให้หมดค่ะ บางทีให้มากกว่าจำนวนที่ขอ
ขอบคุณ คุณ ...ปริม ทัดบุปผา... ชอบความคิดเห็นของคุณปริมครับ...
หากเรามีโอกาส...เราควรให้นะครับผม
คุณ ลำดวน
เป็นหน้าที่ของพวกเราด้วย...หากเรามีโอกาส เราพอช่วยเหลือใครสักคนได้ โดยไม่ทุกข์ร้อนอะไร ...
ขอบคุณครับ
ยายแก่ๆ เป็นบุคคลที่พี่ให้..ประจำ ถ้ายายมาขอ
ทานคือเต็มใจให้ค่ะ ไม่ปรารถนาสิ่งตอบแทน
เป็น อมตะวาจา จริง ๆ
ที่สุพรรณยังมีเลย ขณะขับรถจะเลี้ยวสะพานมียายแก่ๆ คนหนึ่งวิ่งมาตัดหน้ารถขอเงิน 20 บาท บอกว่าไม่มีตังกลับบ้าน ก้อให้ไปนะ อีกอาทิตย์ต่อมา ก้อที่เดิม ยังเจอยายขอเงินอีก ก้อให้ไปอีกนะ แต่ครั้งนี้ให้ 10 บาทค่ะ
อันที่จริงคิดออกตอนขับรถกลับบ้าน ว่าใจเรากำลังคิดถึงแต่หล่อน..พุดน้ำบุศย์ จึงเห็นอะไร ๆ เป็นพุดน้ำบุศย์ แถมสะกดผิดด้วย ฮา(ปรูฟฟ์ตัวเอง)
จำนวนกลีบดอกต่างกันเยอะ ปีบที่บ้านพี่แรก ๆ ออกดอกดกมากตอนนี้ชะงักงัน ไม่รู้ได้น้ำมากไปหรือเปล่า ที่คล้ายกันจากภาพนี้คือ ดอกตูมน่ะค่ะ เรามัวแต่มองดอกตูม (ไม่วายแก้ตัว)
แก้ตัวอีกครั้งว่า กำลังจะเขียนพุดน้ำบุศย์ให้ิอ่านค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ
ดอกปีบ คือ กาสะลอง แห่งเมืองเหนือครับ
เพลงที่ ลานนา คัมมินส์ ร้องอ่ะครับ ;)...
เพราะบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย บ้านเมืองไทยอ่อนแอแผ่ปัญหา
แก้ไม่ยากยากหากเพื่อนไทยได้ปัญญา เปลี่ยนระบอบเผด็จการนั้นมาประชาธิปไตย
เหมือนญี่ปุ่นอเมริกามหาอำนาจ นานาชาติแบบอย่างทางสดใส
สแกนดิเนเวียนอังกฤษคิดมองไป แค่เปลี่ยนไทยประชาธิปไตยให้เป็นจริง
ขอบพระคุณทุกท่านครับ ที่มาเติมเต็มบันทึก วันสบายๆของกระผม
ชื่นชมกับการเขียนได้ดีจังค่ะ
ชื่นชมกับการแบ่งปัน
ความสุขของผู้ให้ คือการให้โดยไม่ต้องคิดอะไร และไม่หวังสิ่งตอบแทนคือการให้ที่มีความสุขที่สุดของผู้ให้แล้วครับ
ชอบมากครับ.....แค่อยากให้ บางครั้ง แค่เรารักษาความกรุณาในใจเรา ไม่ให้เหือดแห้งไปกับการดำรงชีวิต....