ประสบการณ์และความรู้สึกนึกคิดจากการไปสนทนากับชาวต่างชาติ
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2555 ข้าพเจ้าและเพื่อนอีก2คนได้นัดหมายกันที่บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อที่จะเตรียมตัวทำกิจกรรมสนทนากับชาวต่างชาติ ตามที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์วิไล แพงศรี เวลาประมาณ 13.00น. เพื่อนๆทุกคนมาพร้อมกัน แล้วก็เริ่มช่วยกันมองหาชาวต่างชาติกันว่าจะสัมภาษณ์คนไหนดี และแล้วเป้าหมายของเราก็เดิมผ่านมา พวกเราเลยตัดสินใจว่าสัมภาษณ์พี่คนนี้แหละท่าท่างน่าจะใจดี กลุ่มของพวกเราเลยเดินเข้าไปและขออณุญาตทำการสัมภาษณ์และถ่ายวีดีโอ ชาวต่างชาติท่านนี้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีพร้อมกับหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
พวกเราได้สัมภาษณ์ดังนี้ คือ
Where are you from?
What your name?
This is your first trip in Thailand?
How long will you stay in Ubon?
พอเราสัมภาษณ์ก็ขอบคุณพี่ชาวต่างชาติไปเรียบร้อย แล้วมานั่งดูคลิปวีดีโอที่ถ่ายกันเมื่อสักครู่ ปรากฎว่าไม่ได้ยินเสียงพูดเลยเนื่องจากเราไปยืนสัมภาษณ์ชาวต่างชาติที่ข้างๆบ่อน้ำพุนั่นเอง ซึ่งเสียงของน้ำพุดังเป็นอย่างมากทำให้ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงของน้ำพุ เพื่อนๆในกลุ่มเลยตกลงกันว่า เราต้องไปสัมภาษณ์คนอื่นแล้วแหละเพราะพี่ชาวต่างชาติท่านเมื่อสักครู่นี้ก็เดินหายไปไหนแล้วก็ไม่ทราบ กลุ่มของเราเลยออกเดินหาชาวต่างชาติท่านอื่นและบริเวณอื่นที่ไม่ใช่แถวๆบ่อน้ำพุนี้ และแล้วก็ไปเจอชาวต่างชาติท่านต่อมาซึ่งมากลับภรรยาชาวไทย กลุ่มของเราเลยรีบวิ่งเข้าไปขอสัมภาษณ์พี่ชาวต่างชาติท่านนี้พร้อมกับหาทำเลที่จะถ่ายวีดีโอให้ไม่มีเสียงรบกวนดดยใช้บทสัมภาษณ์เดิม และก็เป็นผลสำเร็จ กลุ่มของข้าพเจ้าสัมภาษณ์ชาวต่างชาติเรียบร้อยและคลิปวีดีโอก็ใช้ได้ ก็เลยแยกย้ายกันกลับบ้านในเวลาประมาณ 16.00น.
ความรู้สึกของข้าพเจ้าตอนที่สัมภาษณ์ชาวต่างชาติ ข้าเจ้ารู้สึกตื่นเต้นกว่าตอนที่ซ้อมเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าทำไมลิ้นเรามันแข็งจังพูดติดๆขัดๆ แต่ก็พอไหลไปได้ แต่ประสบการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นอะไรที่สนุกสนานมากเลยทีเดียวและได้ฝึกความกล้าแสดงออกมากค่ะ ขอขอบคุณท่านอาจารย์ วิไลเป็นอย่างสูงที่ได้มอบกิจกรรมนี้ไห้พวกเราทำและยังเป็นประโยชน์ต่อพวกเรามากมาย
ประสบการณ์และความรู้สึกนึกคิดจากการไปสนทนากับชาวต่างชาติ
วันพฤหัสบดี ที่ 2 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆอีก 7 คน ก็ได้นัดหมายกันไปทำกิจกรรมสนทนากับชาวต่างชาติ เวลา 18.00 น.ในงานประเพณีแห่เทียนพรรษา โดยในงานนั้นจะมีงานปั้นและแกะสลักเทียนนานาชาติ ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 7 แล้ว จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม 2555 ที่ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นประเพณีประจำจังหวัดอุบลราชธานี จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการแสดงศิลปะการแกะสลักเทียนและวัฒนธรรมการแห่เทียนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อที่จะได้เป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมที่มีความงดงามล่ำค่าไว้สืบเนื่องต่อกันไปสู่รุ่นลูก รุ่นหลาน เมื่อข้าพเจ้าได้รู้ว่าจะได้ไปทำกิจกรรมสนทนากับชาวต่างชาตินี้ ข้าพเจ้าก็รู้สึกตื่นเต้นและตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นเยาวชนคนอุบลราชธานีมากขึ้น เพราะการทำกิจกรรมนี้ก็เท่ากับว่าเราต้องไปเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมของเราด้วย ยิ่งทำให้ข้าพเจ้ากดดันมากขึ้นเพราะกลัวว่าจะทำไม่ได้ แต่ว่าในลึกๆของก้นบึ้งของหัวใจของข้าพเจ้าได้สั่งออกมาว่าจะต้องทำให้ได้ และต้องทำให้ได้ดีที่สุดด้วย เมื่อเป็นคำสั่งแล้วก็ทำให้ข้าพเจ้าต้องสู้ต่อไปเพื่อจะได้พบเจอกับความสำเร็จ พอถึง เวลา 18.00 น. พวกเราก็รวมตัวกันได้แล้วจากนั้นก็พากันเดินไปทักทายและสนทนากับชาวต่างชาติ
ในขณะที่ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ เดินหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะสนทนาด้วยนั้น ก็มีอุปสรรคมากเหลือเกิน เพราะเดินไปหาใครก็บอกว่ารีบๆๆบ้าง ไม่สะดวกบ้าง และอื่นๆ อีกต่างนานา ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ ก็ได้แต่น้อยใจ และคิดตั้งคำถามว่าเพราะอะไร ถึงได้มีอุปสรรคมากเหลือเกิน เพราะถามไปแล้ว 3-4 คน แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถสนทนาได้เลย จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ ก็ได้เจอกับชาวต่างชาติคนที่ 5 เธอเป็นผู้หญิง ที่น่ารักมากในสายตาของข้าพเจ้าและน่าจะเป็นคนใจดี ก็เลยคิดว่าคนนี้น่าจะสามารถสนทนากับกลุ่มของข้าพเจ้าได้ ก็เลยเดินไปหา ความรู้สึกตอนนั้นทั้งตื่นเต้นและเป็นกล้าๆกลัวๆ ที่จะสนทนากับเธอ "จะทำยังไงกันดีนะ" พูดกับเพื่อนๆ ข้าพเจ้าก็เลยตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปถามเธอ ข้าพเจ้าคิดอยู่ในใจว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แล้วพอเดินไปถึงเห็นเธอยืนอยู่กับคนไทย ก็เลยเข้าไปพูดคุยกับคนไทยนั้นก่อน จากนั้นคนไทยคนนั้นก็ได้สนทนากับเธอ แล้วเธอก็เลยมองมาที่พวกเรา ต่อจากนั้นพวกเราจึงได้สนทนากับเธอ และได้ขออนุญาตในการสนทนาเธอ เธอก็อนุญาตให้สนทนากับเธอได้เป็นไปอย่างที่ข้าพเจ้าคิดไว้ไม่มีผิดว่าเธอจะเป็นคนที่ใจดี หลังจากนั้นข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ ยิ่งพากันตื่นเต้นมากขึ้นกว่าที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ เพราะตอนนี้ได้อยู่และพูดคุยใกล้ๆกันกับชาวต่างชาติ บทสนทนาของกลุ่มพวกเราก็เป็นประโยคที่พื้นฐานทั่วไป เช่น
ขณะที่เราทำการสนทนานั้นก็ได้มีการบันทึกวิดีโอไว้ ความรู้สึกตอนที่บันทึกก็เป็นอีกสถานการณ์หนึ่งของพวกเราที่มีความรู้สึกตื่นเต้น และกังวลมาก แต่ก็คิดอยู่ในใจตลอดเวลาว่าจะต้องทำให้ได้ หลังจากที่ทำการบันทึกวิดีโอเสร็จแล้ว พวกเราก็ได้ร่วมกันถ่ายภาพกับเธอคนนั้น ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจมากอีกรูปหนึ่ง เพราะกว่าจะได้มาก็ต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคต่างๆมากมาย
หลังจากที่ได้ไปทำกิจกรรมสนทนากับชาวต่างชาติครั้งนี้ ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆก็ได้คำตอบที่น่าประทับใจมากจากเธอ คือ เธอชื่อ Diana. Washington-DC. America. เธอเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน เธอพักอยู่ที่อำนาจเจริญ และเธอบอกว่าเธอชอบศิลปะการแกะสลักเทียนและประเพณีการแห่เทียนของชาวจังหวัดอุบลราชธานีมาก เพราะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ตระการตาและสวยงามมาก โดยการไปสนทนาครั้งนี้ก็ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกภาคภูมิใจมากที่ได้เกิดเป็นคนไทย และคนจังหวัดอุบลราชธานีที่ได้เห็นประเพณีอันสวยงามและล่ำค่านี้ ซึ่งขณะนั้นก็ทำให้ข้าพเจ้าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย เพราะอย่างน้อยเราก็เป็นส่วนหนึ่งของเยาวชนที่ตระหนักและให้ความสำคัญกับประเพณีประจำจังหวัดอุบลราชธานี และจากที่ตื่นเต้นและกลัวๆนั้นก็หายไปหมดเลย ทำให้การสนทนาครั้งนี้ของกลุ่มข้าพเจ้าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ขอขอบคุณ ผศ. วิไล แพงศรี มากนะค่ะที่ได้ให้ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ ได้ทำกิจกรรมดีดีนี้คะ
ข้อมูอภาพจาก @Chadarutalbum : Thursday 2th August 2012
ประสบการณ์และความรู้สึกนึกคิดจากการมีส่วนร่วมในวันอาสาฬหบูชา
ในวันอาสาฬหบูชาที่ผ่านมาดิฉันและเพื่อนสามคนพากันตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปทำบุญตักบาตรกับชาวบ้านวัดหนองบัวพากันซื้อข้าวสารอาหารแห้งแล้วเดินทางไปยังวัดหนองบัว ซึ่งเป็นวันแรกที่ได้ตื่นมาทำบุญแต่เช้าที่วัดหนองบัวเพราะปกติจะมากราบไหว้พระธาตุเจดีย์ก็ช่วงตอนบ่าย การตื่นนอนแต่เช้าทำให้รู้สึกดีได้รับบรรยากาศที่สดชื่นบริสุทธิ์ทำให้เรามีความสุขมากๆ และการได้เห็นชาวบ้านมีแรงร่วมใจมาทำบุญพาลูกหลานมาตักบาตรในวันสำคัญทางศาสนาทำให้มีความรู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยที่ยังไม่ลืมพระพุทธศาสนา ถึงแม้ช่วงบรรยายกาศตอนเช้าจะมีฝนเล็กน้อยก็ยังพากันสวดมนต์และยืนเข้าแถวรอใส่บาตรด้วยใจที่ศรัทธา
ในช่วงค่ำของวันอาสาฬบูชาก็มีการเวียนเทียนด้วยดิฉันและเพื่อนสองคนพากันขี่รถเพื่อเดินทางไปเวียนเทียนอย่างสงบเรียบร้อยเมื่อเดินครบสามรอบก็พากันปักรูปเทียนตามสถานที่ที่เขาได้เริ่มไว้แล้วพากันทางเดินปัยเที่ยวงานแห่เทียนพรรษาต่อ การทำอะไรบ้างอย่างทางศาสนาสามารถทำให้เรามีความสุขและจิตใจสงบมากและการเปลี่ยนบรรยากาศการทำบุญสถานที่อื่นก็สามารถฝึกให้เรามีการปรับตัวเข้าหาคนอื่น ดังนั้นวันอาสาฬหบูชานี้ทำให้ดิฉันและเพื่อนๆมีความสุขมากค่ะ
โครงการนิทรรการสัญจรกฎหมายที่ควรรู้สู่เยาวชน
เมื่อวัน 4 กันยายน พ.ศ. 2555 ที่ผ่านมาผมและเพื่อนๆในคณะนิติศาสตร์ได้ออก โครงการนิทรรการสัญจรกฎหมายที่ควรรู้สู่เยาวชน นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี โดยทางคณะได้มีคำสั่งจากอาจารย์ในคณะนิติศาสตร์ให้จัดทำโครงการให้ความรู้กฏหมายสู่เยาวชน โดยการจัดโครงการครั้งนี้ทางคณะให้นักศึกษาปี 2 คณะนิติศาสตร์ออกโครงการให้ความรู้สู่เยาวชน ผมเเละเพื่อนๆก็ได้มีการเตรียมงานเเละวางเเผนในการที่จะออกไปอบรมกฏหมายให้กับโรงเรียนดอนมดแดงวิทยาในครั้งนั้น โดยมีการเขียนโครงการนำเสนออาจารย์ทางคณะก่อนว่าเราจะออกไปอบรมในเรื่องกฏหมายแบบไหน ทางกลุ่มผมก็นำเสนอเรื่องกฏหมาย ละเมิด เเละ กฏหมายเอกเทศสัญญา 1 / 2 ในการที่จะออกไปให้ความรู้ในครั้งนี้ ครั้งแรกที่นำโครงการไปเสนอทางอาจารย์ก็ไม่ให้ผ่านเพราะเนื้อหาที่เอาไปนำเสนอไม่ชัดเจนพอ เเละปัญหาอีกอย่างคือค่าใช้จ่ายต่างๆที่ได้ของบประมาณไปนั้นก็ถูกตัดเหลือน้้อยลงทุกทีจากขอ งบประมาณไป 15000 ลดเหลือ 12000 บาท ทางกลุ่มผมพากันกลุ้มใจมากเพราะงบน้อยเกินไปเพราะจำนวนนักเรียน ที่ตั้งไว้ในการเข้ารวบอบรมในครั้ง 300 คน เเละทางกลุ่มผมได้จัดอาหารว่าง และอาหารกลางวันไว้ครบทุกอย่าง และก็ต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากมหาลัยไปโรงเรียนดอนมดเเดงวิทยาอีก ทางกลุ่มผมก็ได้แก้ไขปัญหาใหม่โดยที่งบไม่พอ เราจึงพากันเก็บเงินคนในกลุ่มเพิ่มอีกคนละ 200 บาท การทำโครงการในครั้งนั้นเป็นอะไรที่ยากลำบากมากเพราะกว่าโครงการจะผ่าน ไหนจะงบไม่พอทำเอาพวกเราปวดหัวไปตามๆ กันเลยทีเดียว จนสุดท้ายโครงการกลุ่มผมก็ผ่าน ในครั้งนั้นผมและเพื่อนๆ ดีใจมากที่โครงการผ่านและได้ออกไปอบรมกันสักที เราได้นำเสนอให้ความรู้ในเรื่องกฏหมายที่เข้าใจง่ายให้กับน้องๆ และก็ได้มีการสันทนาการในการอบรมครั้งนี้ด้วย เป็นอะไรที่สนุกสนานมากและประสบการณ์ที่กลุ่มผมได้ออกไปให้ความรู้เกี่ยวกับกฏหมายในครั้งนั้นพวกเราได้ประสบการณ์ที่ประทับใจสุดๆเรามีความสัมพันธ์ที่ดีจากน้องๆทีมาร่วมอบรม น้องๆให้ความร่วมมือดีมากสนใจฟัง และมาครบตามเป้าหมายที่เราได้ตั้งเป้าไว้เเต่เเรก และท้ายสุดโครงการที่กลุ่มผมได้ออกไปให้ความรู้เกี่ยวกับกฏหมายให้กับน้อง โรงเรียนดอนมดเเดงในครั้งนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดี รวมภาพกิจกรรมที่กลุ่มผมได้ออกไปทำโครงการนิทรรการสัญจรกฎหมายที่ควรรู้สู่เยาวชน https://www.facebook.com/media/set/?set=a.382251528510727.90490.1000017
ประสบการณ์และความรู้สึกนึกคิดจากการไปสนทนากับชาวต่างชาติ
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2555 ข้าพเจ้าและเพื่อนอีก2คนได้นัดหมายกันที่บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อที่จะเตรียมตัวทำกิจกรรมสนทนากับชาวต่างชาติ ตามที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์วิไล แพงศรี เวลาประมาณ 13.00น. เพื่อนๆทุกคนมาพร้อมกัน แล้วก็เริ่มช่วยกันมองหาชาวต่างชาติกันว่าจะสัมภาษณ์คนไหนดี และแล้วเป้าหมายของเราก็เดิมผ่านมา พวกเราเลยตัดสินใจว่าสัมภาษณ์พี่คนนี้แหละท่าท่างน่าจะใจดี กลุ่มของพวกเราเลยเดินเข้าไปและขออณุญาตทำการสัมภาษณ์และถ่ายวีดีโอ ชาวต่างชาติท่านนี้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีพร้อมกับหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส พอเราสัมภาษณ์ก็ขอบคุณพี่ชาวต่างชาติไปเรียบร้อย แล้วมานั่งดูคลิปวีดีโอที่ถ่ายกันเมื่อสักครู่ ปรากฎว่าไม่ได้ยินเสียงพูดเลยเนื่องจากเราไปยืนสัมภาษณ์ชาวต่างชาติที่ข้างๆบ่อน้ำพุนั่นเอง ซึ่งเสียงของน้ำพุดังเป็นอย่างมากทำให้ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงของน้ำพุ เพื่อนๆในกลุ่มเลยตกลงกันว่า เราต้องไปสัมภาษณ์คนอื่นแล้วแหละเพราะพี่ชาวต่างชาติท่านเมื่อสักครู่นี้ก็เดินหายไปไหนแล้วก็ไม่ทราบ กลุ่มของเราเลยออกเดินหาชาวต่างชาติท่านอื่นและบริเวณอื่นที่ไม่ใช่แถวๆบ่อน้ำพุนี้ และแล้วก็ไปเจอชาวต่างชาติท่านต่อมาซึ่งมากลับภรรยาชาวไทย กลุ่มของเราเลยรีบวิ่งเข้าไปขอสัมภาษณ์พี่ชาวต่างชาติท่านนี้พร้อมกับหาทำเลที่จะถ่ายวีดีโอให้ไม่มีเสียงรบกวน และก็เป็นผลสำเร็จ กลุ่มของข้าพเจ้าสัมภาษณ์ชาวต่างชาติเรียบร้อยและคลิปวีดีโอก็ใช้ได้ ก็เลยแยกย้ายกันกลับบ้านในเวลาประมาณ 16.00น.
ความรู้สึกของข้าพเจ้าตอนที่สัมภาษณ์ชาวต่างชาติ ข้าเจ้ารู้สึกตื่นเต้นกว่าตอนที่ซ้อมเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าทำไมลิ้นเรามันแข็งจังพูดติดๆขัดๆ แต่ก็พอไหลไปได้ แต่ประสบการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นอะไรที่สนุกสนานมากเลยทีเดียวและได้ฝึกความกล้าแสดงออกมากครับ