เป็นภาพถ่ายของแมวตัวจ้อย นอนหงายเก๋ง เอาอุ้งเท้าน้อยๆสีชมพูชี้ฟ้า นอนหลับตาพริ้ม
น่ารักไหมครับ?
ผมเชื่อภาพนี้มีพลังพอที่จะจุดประกายความคิด ให้เกิดขึ้นแก่ผู้ชมได้พอสมควร
จึงอยากเชิญชวนให้ท่านแสดงความรู้สึก ที่เกิดจากความประทับใจจากการดูภาพนี้
ท่านจะวิจารณ์ เป็น Comment สั้นหรือยาว ไม่เกี่ยงครับ
หรือหากนึกสนุก อยากแต่งเรื่อง เป็นเรื่องเล่าจากภาพตามจินตนาการของท่าน ก็ยิ่งดี
เป็นการฝึกให้เกิดสุนทรียภาพหลายทางครับ คือ
หนึ่ง ฝึกการดูสาร(ระ) จากภาพ
สอง ฝึกทักษะการเขียน
สาม เกิดความสุขใจ เกิดสุนทรียภาพในจิตของเราเอง
สี่ ก่อให้เกิดรอยยิ้ม และความสุขใจให้แก่ผู้อื่น
ห้า...เชิญเติมเองนะครับ
.........................................................................
.........................................................................
ขอบคุณที่รีบบอกครับ
จึงรีบแก้ทันที...เขิน เขิน
อ.ขจิตเป็นเสือปืนไวมาก ขอชมเชย
๒วันนี้ลุงปั๋นลาปวยครับอาจารย์ แต่ดูรูปน้องแมวแล้ว น้องแมวกำลังฝันครับ แต่ไม่รู้ฝันอะไร
รีบมาคอมเม้นต์เลยค่ะ จาการดูภาพถ่ายรูปนี้ หมอค่อยๆเลื่อนรูปลงมาช้าๆด้วยความสงสัยและอยากรู้ว่าอาจารย์เอาอะไรมาให้ดู
ตอนแรกเห็นผ้าสีฟ้าๆก็รู้สึกสบายๆตาค่ะ เลื่อนลงมาอีกนิดนึงเห็นหูแมว หน้าแมวเด็กหลับตาพริ้ม ปากเหมือนจะยิ้มนิดๆแต่ไม่แฝงความลึกลับเหมือนโมนาลิซ่า เอาเท้าคู่หน้ามาชิดกัน เท้าคู่หลังชี้ฟ้า หางลายเสือมาซุกปิดก้น นอนแบบผ่อนคลายมากบนผ้านุ่มๆอุ่นๆ สงสัยจะได้กินอิ่มก่อนนอนด้วยค่ะ ดูแล้วต้องเป็นแมวสุขภาพดีแน่ๆค่ะ ปากกะจมูกสีชมพู อุ้งเท้าชมพูสะอาด ขี้ตาไม่เกรอะกรัง
ถ้าให้จินตนาการ หมอคิดถึงโยคีตอนผ่านการฝึกสติมาทั้งวัน แล้วก็กำหนดอยากจะนอนหนอ เมื่อยล้าหนอค่ะ ฮิฮิแล้วก็กำหนดนอนหนอๆ ถูกหนอๆ นุ่มหนอๆ สุขหนอๆ ชอบนอนหนอๆ แล้วก็อยากหลับหนอๆค่ะ
ว่าแล้วก็เอาแมวมาฝากอีกตัวนึงค่ะ เป็นแมวผู้ใหญ่
สวัสดีค่ะ อาจารย์,
หนูดูแล้วจุดประกายให้นึกถึงรูปแมวอ้วนของตากล้องญี่ปุ่นคนหนึ่งใน flickr ที่หนูเคยไปเก็บเป็นภาพ favorite ในนั้นนานแล้วน่ะค่ะ เห็นแล้วเลยต้องไปงัดมาฝากอาจารย์เลย
คือหนูเป็นโรคไม่ชอบอะไรผอม ๆ น่ะค่ะอาจารย์ หนูจะถูกโฉลกกับอะไรอ้วน ๆ เช่น เด็กตัวแน่นๆ หรือแมวอ้วน ๆ เพราะฉะนั้น แมวผอมจะเห็นแล้วเฉย ๆ ค่ะ บางทีอาจจะรู้สึกว่าไม่น่ารักด้วยซ้ำไป แหะ ๆ
แมวตัวนี้ชื่อ ฟูวาริ ค่ะ แปลว่าพอง ๆ นุ่ม ๆ หรือไงเนี่ยน่ะค่ะ จำไม่ได้แล้ว เป็นแมวของคุณ จุงกุ
ต้องอ้วนอย่างนี้ค่ะ ถึงจะถูกใจหนู ฮิ ๆ ไม่รู้คุณจุงกุเลี้ยงด้วยอะไรหนอ
ชอบตรงที่สีหน้าและแววตามันช่างแสนรู้ และอยากรู้อยากเห็นนี่ล่ะค่ะ ดูมัน expressive ดี ไม่นับที่มันอ้วนน่าฟัดเหลือเกินน่ะนะคะ และหนูว่าแมวเป็นสัตว์ที่เย่อหยิ่งใช้ได้ ดูมีบุคลิกดี คือเรียกก็ไม่มาค่ะ ฮิ ๆ คือก็ไม่เคยเลี้ยงหรอกนะคะ แต่เคยไปบ้านไหนก็เห็นประมาณนั้น
เคยเห็นพวกแมวอ้วนเปอร์เชีย หรือลูกผสมเปอร์เชีย ไทย ที่เรียกว่า แมวหิมาลายา แล้วน่ารักมากเลยค่ะ สีเป็นสีสวาท คือ ขาว ใส่ถุงเท้าดำ หูดำ ตาฟ้า แต่อ้วนปี๋ ขนฟู ฮิ ๆ
สรุปว่าเลยไม่ได้ตอบคำถามอะไรอาจารย์เลย
นี่แหละน้า...Annais Nin นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสถึงบอกว่า You see things as you are, not as they are. ฮิ ๆ
ในทางธรรมก็มีเหมือนกันใช่ไหมคะอาจารย์ ยังไงบ้างคะ? แบบที่คนเราเห็นอะไรแล้วก็ไปเทียบเคียบตีความกับสิ่งที่ตนรู้จักคุ้นเคยหรือว่าชอบมาก่อนน่ะค่ะ อุปาทานหรือคะ? หรือว่าสัญญา?
ชอบเข้ามาอ่านบล๊อกอาจารย์ก็เพราะอย่างนี้น่ะค่ะ ได้ความรู้หลายขั้นตอนดี ขอบพระคุณค่ะ
ณัชร
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาคอมเม้นท์
ก็อาจารย์ถามแบบเปิดช่องไว้ไงคะว่า ดูแล้วจุดประกายอะไรบ้าง
คำตอบของหนูจึงเป็น จุดประกายให้นึกถึงเจ้าแมวอ้วนตัวนี้น่ะค่ะ
ส่วนเล่าเรื่องจากภาพ พยายามแล้วค่ะ แต่ไม่สำเร็จ จึงต้องบอกว่า ไม่มีคอมเม้นท์
ส่งกระดาษคำตอบเป็นรูปวาดแมวอ้วนแทน
นี่แหละน้า....เรียนศิลปะไม่รุ่งได้ ๒ ส่วน ๑๐ ก็เพราะอย่างนี้นี่เอง
วัตถุประสงค์ข้อแรกก็ตกแล้ว เพราะดูแล้วก็ไม่ได้อะไรนอกจากรู้ว่าเป็นแมวนอนหงาย
ข้อสองก็ไม่ผ่านอีกเพราะเขียนอะไรไม่ออกถ้าหัวข้อที่ต้องเขียนไม่บันดาลใจ ('ติ๊สท์ซะไม่มี)
ข้อสามก็เกิดความทุกข์อีกเพราะไม่ชอบแมวผอม แถมรู้สึกว่าอุ้งเท้าขยะแขยงน่ากลัวเหมือนเท้าสัตว์ประเภท rodent ไปนู่น
เพราะฉะนั้นถ้าพยายามฝืนเขียนออกมาคงจะไม่ก่อให้เกิดรอยยิ้มและความสุขกับคนอื่นดังวัตถุประสงค์ข้อที่สี่ของอาจารย์ แน่ ๆ สู้เอาความรู้สึกแรกที่จุดประกาย คือที่นึกถึงเจ้าอ้วนฟูวารินี้ดีกว่า แหะๆ
สี่ ก่อให้เกิดรอยยิ้ม และความสุขใจให้แก่ผู้อื่น
อุ๊ย...มือไวหนอ กดส่งไปแล้วหนอ ฮิ ๆ
สรุปว่า ถ้าอาจารย์จะให้เล่าเรื่องจากภาพของอาจารย์เป็นคำพูดจริง ๆ หนูคงเลี่ยงด้วยการขอยืมคำอมตะคุณ Annais Nin มาทำเป็นเขียน Quote ส่งอาจารย์เล่นแก้เก้อไปอย่างนั้นเองดีกว่ามั้งคะว่า
"...We see things as we are, not as they are...."
แปลเป็นไทยยังไงดีเอ่ย? อืมม
"...เราเห็นสรรพสิ่งอย่างที่เราเป็น หาใช่อย่างที่แท้จริงมันเป็นไม่..."
ประมาณนี้น่ะค่ะ
สวัสดีค่ะ,
ณัชร (ผู้สอบตกวิชาศิลปะมาตั้งแต่เล็กจนโต)
ป.ล. หนูได้ไปตอบที่อาจารย์คอมเม้นท์ไว้ พร้อมทั้งถามอาจารย์กลับเกี่ยวกับการเจริญสติไว้ในบล๊อกซามูไรของหนูแล้วนะคะ
ขอบพระคุณมากค่ะ อาจารย์,
ณัชร
เจ้าเหมี่ยวจอมซน
ขอร่วมแจมด้วยคนค่ะอาจารย์
แมวที่บ้านฉันตกลูก 2 ตัว
ตัวหนึ่งแม่ยกให้อาฉันไปเลี้ยง ส่วนอีกตัวฉันจึงยื่นคำขาดบอกแม่ว่าห้ามเอาไปให้ใครเป็นอันขาด
ฉันจึงได้มันมาและตั้งชื่อว่า ซน ซึ่งซนสมชื่อ
มันชอบปีนป่ายและไปคลุกกับกองหญ้าที่หลังบ้านบ่อยๆ ฉันจึงต้องจับมันมาอาบน้ำทุกวัน
ซึ่งมันก็ชอบด้วย แม่บอกว่ามันเป็นแมวที่แปลก
แล้วมันก็นอนหงายเก๋งอย่างที่เห็นในภาพนี่แหละ
ฉันจึงเรียกมันว่า "ซนหงายเก๋ง"
ดูภาพนี้แว็บแรกนึกถึงว่า ทำยังไงถึงจะถ่ายภาพแมวแบบนี้ได้บ้างน้า
แว็บต่อไปนึกว่า เอ...แมวมันจะนอนสบายจริงๆ รึเปล่าน้า เห็นหน้ายิ้มๆ แต่ตรงก้นอาจจะนั่งอยู่ หรือนอนอยู่กันแน่ ถ้านั่งอาจจะเจ็บก้นรึเปล่า รึว่าเป็นช่วงตอนบิดขี้เกียจแล้วสบายตัวเลยยิ้มออกมา ตอนแรกอาจจะนอนชูแขนชูขาอยู่ก็เป็นได้ เอ...ตกลงมันนั่งรึมันนอนอยู่กันแน่นะ
แว็ปที่สาม มองไปถึงผ้าข้างหลัง เห็นมันบุ๋มๆ เอ...ตากล้องจะให้ใครเอามือไปจับหลังเจ้าแมวแล้วถ่ายรูปรึเปล่าน้า
ฮ่าฮ่า ...แว็ปสุดท้าย มือกับตีน (เท้า) แมวน่ารักจัง
^_____^
555 ชอบจังเลยค่ะ อ่านหลายๆคอมเม้นต์แล้วได้ข้อ 4 เยอะแยะ ความคิดมนุษย์เรานี่ช่างหลากหลายจริงๆเชียว
ดูรูปแมวในนี้ มีความสุขทุกรูปเลยค่ะ แมวที่คุณณัชรเอามานี่ มันอ้วนมากจนหน้าเหลือนิดเดียวเองเนอะ หมอเคยเลี้ยงแมวได้อ้วนๆขนาดนี้อยู่สองสามตัวเพราะคุณแม่รักมันมากเลยปรนเปรอให้กินตับจนอ้วนตุ๊บ ขนเป็นเงาสวยมากเลยค่ะ เป็นแมวสีสวาดหรือวิเชียรมาศอะไรสักอย่างนี่แหละ แต่คุณแม่ดูจะมีความทุกข์มากกว่าความสุข เพราะต้องคอยระวังกลัวใครมาลักมันไป เพราะว่ามันสวยมาก ทำให้ไม่กล้าไปไหน555 คอยเฝ้าแมวค่ะ จนอยู่มาวันนึง มันแอบย่องออกไปเที่ยว คงไม่เคยเห็นรถยนต์ เพราะอยู่แต่ในบ้านตลอด เลยนอนให้รถทับไปซะงั้น ที่บ้านเศร้าสลดกันไปพักนึง แล้วก็มีมาให้เลี้ยงใหม่ คราวนี้ไม่เอาแล้วแมวสวยมากๆ คุณแม่จะเลี้ยงแบบตามสบายปล่อยมันไปเที่ยว มันกลับมาก็เอาอาหารให้กิน ความผูกพันนี่นำมาซึ่งความทุกข์นะคะ
อาจารย์คะ
เห็นแล้วประทับใจว่าเป็นแมวสะอาดค่ะ
ดูรายละเอียดเป็นลูกแมว แต่กะอายุไม่ถูก ที่กำลังอยู่ในผ้าฝ้ายสีฟ้า ลักษณะเหมือนอยู่ในอุ้งมือคน ทำท่าอย่างกับอาบน้ำมาใหม่ๆ และกำลังถูกเช็ดตัว ลูกแมวคงกำลังสบายกับการสัมผัสค่ะ
แมวน่ารักทุกตัวเลยค่ะ ดูแล้วคงตัวนุ่มๆดี
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาแสดงความเห็นครับ
คือ See things as they really are อาจารย์จึงชอบใจที่หนูวิจารณ์แมวผอมไงล่ะ ถึงขนหนูจะหยาบ ดุแข็งๆไม่นุ่มฟู คงเป็นเพราะหนูยังเด็กอยู่ และพึ่งถูกจับอาบน้ำมาใหม่ ช่วงบนแห้งแล้ว แต่ช่วงล่างหนูยังไม่ค่อยแห้งดี จึงดูกระโดกกระเดก รุงรังไปหน่อย ครับผม
สรุปได้ A เกือบทุกคน ยกเว้นหนูณัชร ที่อาจารย์แกล้งหวงคะแนน เพื่อจะได้พัฒนา ต่อไปจะได้ไม่ว่าฟ้องตกวิชาศิลปะอีก
อ๋อ...เข้าใจแล้วล่ะค่ะอาจารย์!
ถ้าอยู่กับเซนเซก็ต้องโค้งงาม ๆ แล้วบอกว่า ไฮ้! วาการิมาชิตะ! เสียงเข้มแข็ง เพื่อแสดงว่าเข้าใจจริง ๆ
การกำหนดเจริญสติ จะต้องฝึกกำหนดทุกอย่างที่มากระทบตามความเป็นจริง ไม่สามารถเลือกกำหนดเฉพาะที่เราชอบใจ และเลี่ยงไม่ยอมกำหนดสิ่งที่เราไม่ชอบใจได้นั่นเอง
โฮ้....เรียนกับอาจารย์ดีจังค่ะ ตอนนี้เข้าใจแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ได้ ๒ ส่วน ๑๐ เหมือนตอนอยู่ ป. ๕ เรียกว่าพอจะมีพัฒนาการขึ้นมาหน่อย ดีใจหนอ ๆ ๆ
ทำให้หนูนึกไปถึงตอนอยู่ในคอร์สพัฒนาจิตฯ ที่เชียงใหม่ ที่อาจารย์ถามในระหว่างการบรรยายตอนเย็น ในคืนวันที่ ๓ เรื่อง มารให้โอกาส ว่า หนูไปปฏิบัติเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว เพราะหนูไปติดต่อกันทุกเดือนช่วงนั้น
พอหนูชูนิ้วขึ้นว่าไป ๘ ครั้งแล้ว อาจารย์ก็พยักหน้าแล้วเปรยว่า "อืมม...สงสัยจะยังเห็นทุกข์ไม่พอ..."
ตอนนั้นโยคีทุกคนก็หัวเราะกันครืน หนูก็พลอยหัวเราะไปกับเขาด้วย
สองปีผ่านไปเห็นจะได้ ธรรมะที่อาจารย์ให้มาวันนั้น มันเริ่มมี dimension ที่ลึกซึ้งขึ้นอีกในความเข้าใจของหนูน่ะค่ะ หนูล่ะก็เซ็งในความโง่ของหนูมากทีเดียว แหะ ๆ ใช้เวลานานตั้งสองสามปีกว่าจะขบคิด "โคอัน" หรือปริศนาธรรมของอาจารย์ได้
คือ จริตหนูเป็นคนรักความเพลิดเพลิน มองโลกในแง่ดี เห็นแต่สิ่งที่สวยงาม ชอบอะไรสนุก ๆ สุนทรียภาพ และความรื่นรมย์ในชีวิต
ดังนั้น เวลาไปปฏิบัติแต่ละที หนูก็เลยจ้องแต่จะ "เสพ" อารมณ์นั้น แล้วก็จะจำ จะหน่วงเหนี่ยวมันอยู่นั่นแหล่ะ
สิ่งที่สำคัญกว่า ที่จะทำให้เกิดปัญญา คือตัวทุกข์ นั้น กลับไม่ค่อยจะรู้จัก ไม่ค่อยจะพยายามดูให้เข้าใจ พลอยมองไม่เห็นเสียดื้อ ๆ
ถึงได้กลับไปแล้ว กลับไปอีก อยู่หลายที ก็เพราะมันไม่เข้าใจใน "ทุกข์" อย่างที่มันเป็นเสียทีน่ะค่ะ แย่จริง
หนูถึงชอบธรรมะที่อาจารย์ให้ตรงนี้ คือ ลุ่มลึกมีหลายระดับดีมาก แล้วพอมาเข้าใจมากขึ้นวันหลังเอง ก็ถึงกับสะดุ้งไปหลายตลบ แล้วก็ต้องอนุโมทนาสาธุการกับอาจารย์ พร้อมกับอยากเขกหัวตัวเองไปด้วยในความโง่
ทุกข์นี้มันทำให้เข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่างจริง ๆ ด้วยค่ะ วันหลังหนูจะนำประสบการณ์ที่หนูไปผ่าเลสิกตอนที่ฮอร์โมนคอร์ติซอลต่ำชนิดเป็นสถิติโลกในการผ่าตามาเขียนเตือนคนในบล๊อกเสียหน่อยก็ดี หนูเป็นเคสประวัติศาสตร์ของรพ.เลยมั้งคะ เจ็บจนแทบขาดใจจริง ๆ ค่ะอาจารย์
ตอนนั้นเข้าใจแล้วว่าประสบการณ์เฉียดตายเป็นอย่างไร ถ้าไม่ได้วิชาที่อาจารย์สอนไว้ หนูคงตายไปแล้วแน่ ๆ คือมันเจ็บเสียจนอยากจะเลือกที่จะขอตายดีกว่าขนาดนั้นเลยน่ะค่ะ เพราะแก้ไขอะไรไม่ได้เลยหลังผ่าตัดอยู่ ๒๔ ชม. และเจ็บจนยานอนหลับกี่เม็ด ๆ ก็ไม่ทำให้หลับได้น่ะค่ะ สุดยอดที่สุดของชีวิต....โปรดติดตามตอนต่อไป....
สรุปว่าขอบพระคุณสำหรับทุก ๆ ธรรมะที่อาจารย์ให้ไว้นะคะ ได้ใช้ยามคับขันเฉียดเป็นเฉียดตายจริง ๆ ค่ะ
สวัสดีค่ะ,
ณัชร
อาจารย์ค่ะ หนูขอร่วมสนุกค่ะ
ผมชื่อ แซมครับ
พ่อชื่อขาวปรอดและแม่ชื่อน้ำตาล ออกผมมาจึงชื่อแซม(สีน้ำตาลแซมขาวไงล่ะ)
ผมมีพี่ชายอีกสองคน เอ้ย! ตัว แต่ไม่อยากพูดถึงเพราะเรื่องมันเศร้า เอาว่าเหลือผมตัวเดียวที่เป็นพระเอกในบ้านก็แล้วกัน
คนทั้งบ้านจึงรุมรักผม นับตั้งแต่คุณแมว(แต่เป็นคน)ที่เป็นเจ้านายโดยตรงของผม ที่ประกาศก้องบ้านว่าผมเป็นของเขาใครอย่าแตะ
แต่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของคุณแมวก็อดอุ้มผมไม่ได้ ทุกครั้งที่เห็นผม
พอผมเดินได้คล่องแล้ว ผมจึงทดลองออกจากกล่องในบ้าน ไปสำรวจภูมิประเทศนอกบ้าน จึงพลัดไปตกในแอ่งโคลนที่หมักปุ๋ยในสนามหลังบ้าน
กลิ่นมันหอมยวนใจผม แต่ผมไม่ชอบความเฉอะแฉะของมันเลย ทำให้ขนของผมชี้โด่งไปหลายทิศและความขาวของผมแทบไม่หลงเหลือ
พอคุณแมวเห็นผมเท่านั้น แกกริ๊ดซะขนผมตั้งชันขึ้นมาอีกสองร้อยแปดสิบองศา แล้วจับผมไปอาบน้ำและฟอกสบู่ ซึง่ผมว่าเหม็นยิ่งกว่ากองโคลนที่ผมไปคลุกมาอีก
ผมดิ้นและคอยกระโจนออกจากอ่างอาบน้ำ จนเหนื่อย พออาบเสร็จคุณแมวเช็ดตัวผมยังไม่ทันแห้งดี
ผมก็หลับปุ๋ยไป อย่างที่เห็นนี่แหละคร้าบ.
ได้คะแนนเท่าไหร่ค่ะ? ห้ามน้อยกว่าคุณณัชรด้วย!
ชอบหัวข้อนี้จังเลยหนอ หมอให้คะแนนหนูนา A+เลยละกันค่ะ เพราะขนตั้งชัน 280 องศานี่ จินตนาการยังไม่ถูกเลย555
เอาไปเลย หนูนา A+
จินตนาการสุดยอด รู้จักคิดและเล่าได้ดี
ลองดูในเรื่องวันที่เหงาและรอคอยนะ
ครับถูกจัดท่าโดยช่างภาพแน่นอน
เพราะช่างภาพเขามองเห็นภาพที่ต้องการสื่อออกมาได้ชัดเจน
สิ่งที่เราเห็นจึงเป็นการมองผ่านจากสิ่งที่ช่างภาพต้องการให้เราเห็น
ผมก็สุขใจพายิ้มกว้างไปด้วย
"__________________________"
สักขนาดนี้พอไหมครับ
สวัสดีค่ะ
สันนิฐานว่า
สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะ :)
แมว น่ารัก มาก ค่ะ