ผมอยากจะลาออกจากการรับราชการครู


ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ..บันทึกเรื่องนี้ เป็นบันทึกที่ ๓๐๐ ของผม..ผมเขียนด้วยความรู้สึกที่เสียใจ..กับการรับการประเมินจาก สมศ.(รอบ ๓)ในวันแรก..ที่ดูเหมือนโรงเรียนของผม จะไม่มีอะไรดีสักอย่าง โดยเฉพาะด้านการเรียนการสอน ที่เรียกว่างานวิชาการ

ผมบอกตามตรงเลยว่า..ไม่ได้เสียใจที่คณะกรรมการตำหนิ..ความไม่สมบูรณ์ของเอกสารและการตอบคำถามของครู..เพราะผมทราบดีว่าเรามีมากน้อยแค่ไหนและเป็นอย่างไร?

แต่เสียใจที่..ทำไมก่อนหน้านี้..เราถึงไม่ทิ้งเด็กให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราว สัก ๕ เดือน เมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมา เหมือนโรงเรียนหลายๆแห่งที่เขาทำกัน หันมาปั้นแต่งเอกสารใส่แฟ้ม ไม่มีก็ทำให้มันมี ใช้หรือไม่ใช้ก็สร้างกันไว้ก่อน ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน ให้ถูกใจกรรมการ เด็กจะอย่างไรก็ช่าง..อย่างนั้นใช่ไหม

แล้วเมื่อมันมีเอกสารอย่างสมบูรณ์เช่นนั้น ใครจะตอบคำถามผมได้ว่า...เด็กผมจะดีเลิศประเสรฺิฐศรี มีผลสัมฤทธิ์ที่ดีตามเป้าหมาย อ่านคล่องเขียนคล่อง และผ่านเกณฑ์การทดสอบระดับชาติ มันไปด้วยกันได้จริงหรือ

ความจริงก็คือ...วันนี้เด็กผมอ่านได้เขียนได้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนค่อนข้างดี บางชั้นติดระดับท๊อบเท็นของเขตพื้นที่ด้วยซ้ำ นั่นหมายถึงว่า..ครูคนหนึ่งที่สอนสองชั้น ต้องทำงานหนักมาก... ต้องเสียสละเวลาและใช้วิธีสอนทุกรูปแบบ บนพื้นฐานของความยุ่งยากและความไม่รู้ของเด็ก ตลอดจนสภาพชุมชนที่ยากจนที่ผู้ปกครองแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย..

แต่ผมก็ดีใจนะ..ที่ได้ครูดี ที่มีด้วยกัน ๕ คน มีความสามัคคีและรับผิดชอบกันทุกคน เราทำงานเดินหน้าเพื่อแก้ปัญหานักเรียนอ่านไม่ออกคิดคำนวณไม่ได้ จนลืมเอกสารและเครื่องมือบางตัว เรารู้ปัญหาความแตกต่างระหว่างบุคคล เรารู้ปัญหาว่าเราจะแก้ไขเขาอย่างไร ด้วยการซ่อมเสริมและสอนซ้ำ รวมทั้งมอบความรักความอบอุ่นให้เขา... แต่เราก็ลืมบันทึกเป็นเอกสารที่สอดรับกับมาตรฐานและตัวชี้วัด

วันแรก..ผ่านไป ผมประชุมสรุปงาน..ผมขอโทษครูที่เป็นผู้นำทางวิชาการที่ไม่ดี ครูทำดีที่สุดแล้ว..ถ้าเราจะไม่ผ่านการประเมิน..ไม่ได้รับรองมาตรฐาน ก็ขออย่าได้โทษครูคนหนึ่งคนใด ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว...ผมทิ้งท้ายกับครูไว้แค่นี้

สิ่งที่ผมไม่ได้บอกครูก็คือ..ผมทำสุดความสามารถแล้วครับ บนพื้นฐานของความรักความเข้าใจครูและเด็ก ผมเป็นภารโรงได้ทุกวัน ผมทำงานสัปดาห์ละ ๗ วัน ปิดเทอมก็เหมือนว่าไม่ได้ปิด เพื่ออยากเห็นโรงเรียนสะอาด ร่มรื่น สวยงามและมีความปลอดภัย ทำงานไปก็ไม่เคยคิดถึง สมศ เลย ชีวิตที่เป็นปัจจุบัน สำคัญที่สุด โดยเฉพาะการสร้างแหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม ที่ต้องการให้เป็นเครื่องมือสอนทักษะชีวิตให้เด็กและสร้างบ้านของเราที่เป็นสถานที่ราชการให้น่าอยู่น่าเรียน

ครูครับ..ผมจะดึงดันเพื่อเอาผลเลิศกว่านี้..ผมก็อาจจะทำได้ ด้วยใช้อำนาจวาสนาที่ผมมีอยู่ แล้วครูจะอยากอยู่โรงเรียนเล็กๆไหม แล้วครูจะมีหัวจิตหัวใจมีเรี่ยวแรงสอนเด็กไหม ในเมื่อครูเองก็ประสบการณ์น้อย ไม่ได้จบวิชาเอกหลักๆ ป่วยก็บ่อย คนหนึ่งก็ท้องนอกมดลูก เป็นโรคไต อีกคนเป็นหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นไทรอยด์และภูมิแพ้ ...ผมยังอยากเห็นเด็กลูกหลานชาวบ้านมีครู ครูยังสำคัญสำหรับโรงเรียนนี้..ที่ผมต้องดูแลประคับประคองให้โรงเรียนอยู่รอดและยั่งยืน

อย่าได้คิดอะไร..กับกรรมการของ สมศ.แต่จงคิดว่า..ข้อแนะนำดีๆมีมากมายที่เราต้องนำมาปรับใช้กับวิชาชีพครูและทำงานเพื่อศิษย์ อย่าคิดว่าต้องผ่านการประเมินเสมอไป บริบทมันแตกต่างกัน บางแห่งทำปีเดียวผ่าน ถ้าเราจะต้องทำไปอีก ๓ปี ๕ ปี ถึงจะเรียกว่าผ่านและได้มาตรฐาน..ก็คงไม่สายและอาจจะยั่งยืนด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่ผมอยากรับผิดชอบ ณ เวลานี้ ก็คือ ผมอยากลาออกจากราชการ ถ้าทำโรงเรียนแล้วไม่ผ่าน จะอยู่ต่อไปทำไม ให้คนอื่นที่ดีมีความสามารถมาพัฒนาน่าจะดีกว่า ลูกๆก็มีงานทำแล้ว ออกตอนนี้ก็มีสิทธิได้รับบำนาญ พออยู่พอกิน คือมองว่าถ้าทุ่มสุดตัวแล้วเขามองว่าไม่ใช่..เราจะอยู่ทำไม

ปรึกษาคนที่บ้านที่เป็นครูด้วยกัน..เธอบอก"ไม่ต้องเลยพ่อ แม่ยังสนุกกับงาน..และสมศ ก็ไม่ใช้เจ้าชีวิตเรา เรายังทำประโยชน์ให้เด็กและโรงเรียนได้อีกเยอะ..สู้ต่อเลยพ่อ..."

                                                                                          

                                                                                           ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

                                                                                          ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗

 

 

หมายเลขบันทึก: 569159เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2014 20:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม 2014 22:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)

ขอให้กำลังใจค่ะ คิดถึงเด็กๆเถอะค่ะ เพียงแต่แบ่งเวลามาเขียนนวนิยายให้ สมศ. อ่านเพิ่มขึ้นอีกหน่อยก็น่าจะดีนะคะ

อาจารย์ผมบอกว่า "สมศ.ได้ความดีความชอบ จากการเหยียบย่ำคนอื่น"

ผมกำลังคิดว่า มันเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว

ปีนี้ ... ตั้งเกณฑ์เท่านี้

ปีหน้า ... ตั้งเกณฑ์ให้มากขึ้นอีก

แต่ระหว่างปี ลืมให้เขากลับมาทบทวนตัวเองว่า ต้องปรับอะไรก่อนไหม

มันเป็นเรื่องจริงครับ ...

ก่อนลาออกขอถามสักสองข้อนะ

1.  ทำไมจึงเป็นครู

2  จุดยืนของการเป็นครู...อยู่ที่ นักเรียน  หรือ  สมศ.

หากเป็นครู  และจุดยืน  เพราะต้องการผ่านการประเมินจาก  สมศ. ก็ลาออกเถอะ  ไม่ทักท้วงอะไร

แต่ถ้า...ไม่ใช่....ก็ขอให้ถามตัวเองว่า ....ที่ทำงานอย่างทุ่มเททุกวันนี้  เพราะต้องการเอาใจ สมศ. หรือ???

อย่าให้การประเมินของ  สมศ. มาเป็นเจ้าชีวิต  มาเป็นตัวกำหนด  ค่าของความเป็นครู...เลิกคิดได้เลย

เขามาแค่  3   วัน จะรู้เท่ากับตัวเรานั้น....เป็นไปได้หรือ  ????  จะผ่านการประเมินหรือไม่  ก็ไม่ใช่

การกำหนดว่า  เราทำหน้าที่ของครูได้สมบูรณ์หรือไม่....หายใจลึก ๆ  แล้วยิ้มให้กับคนที่ให้คุณค่าของกระดาษ

มากกว่าความเป็นจริง.....เดินหน้า  ห้ามถอย  ถ้าเราทำเพื่อ  ลูกศิษย์...!  

มาให้กำลังใจ ท่านผอ.

ในวงการครู  มี สมศ.

ในวงการสาสุขมี HA 

มาตรฐานและคุณภาพ ที่คนทำงานไร้สุข

...สมศ.ตกใจ เพราะเห็นแฟ้มเอกสารหริอเปล่าค่ะท่านผอ...

ทองแท้ย่อมไม่กลัวการพิสูจน์ ขอให้สนุกกับงานต่อไปครับ สมศ ช่างหัวมัน

อย่าลาออกนะคะเพื่อเด็กและครูค่ะ ท่านควรอยู่เพื่อที่จะบอก สมศ. ว่าด้วยวิธีการของโรงเรียนนี้ทำให้เด็กอ่านออก เขียนได้ และมีผลสัมฤทธิ์น่าพอใจแล้ว ให้เขากลับไปทบทวนวิธีประเมินใหม่ดีกว่า....

.......เหมือนโรงเรียนหลายๆแห่งที่เขาทำกัน หันมาปั้นแต่งเอกสารใส่แฟ้ม ไม่มีก็ทำให้มันมี ใช้หรือไม่ใช้ก็สร้างกันไว้ก่อน ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน ให้ถูกใจกรรมการ เด็กจะอย่างไรก็ช่าง..อย่างนั้นใช่ไหม.....

เมืองไทยนี่มีคนโกงอยู่ทั่วหัวระแหง ทำไงดี คนที่มาปราบโกง ก็เป็นคนโกงตัวพ่อตัวแม่ก็มี

เคยคุยกับผู้ทรงคุณวุฒิท่านหนึ่งระหว่างเดินทางไปศึกษาดูงานด้วยกันครั้งหนึ่ง ท่านพบด้วยตนเองว่าโครงการสำคัญประเภทฟาร์มตัวอย่างของเจ้า  ส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยง แพะ แจกพันธุ์ให้เลี้ยง ส่งเสริมทุกอย่าง ตอนเสด็จเยี่ยม ปลูกผักชีกันยกใหญ่ ทำแม้กระทั่งขอยืมแพะมาเล็มหญ้าให้ชม... 

เป็นกำลังใจให้อาจารย์ค่ะ ในมุมบวกดิฉันมองว่าอุปสรรคที่เข้ามา ทำให้เราได้เรียนรู้ตนเอง เรียนรู้ศรัทธาที่เรามีอยู่ เมื่ออุปสรรคนี้ผ่านพ้นไป ยังมีสิ่งดีๆ รออาจารย์อยู่ค่ะ ความสุขของครู คือวันที่เราได้เห็นลูกศิษย์ของเราเป็นคนดี มีคุณภาพไม่ใช่เหรอคะ? ไม่ใช่หน้ากระดาษหนาๆ ที่วางอยู่...

ให้กำลังใจครับ...
ขณะหนึ่งกรรมการเองก็ไม่เข้าใจบริบท-สภาวะการณ์แห่งเราหรอกครับ
สู้ๆ ครับ

ระบบการศึกษาไทยมันผิดหัวผิดหางไปหมดครับ ยิ่งนานก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมองเห็นแต่ปัญหาใหญ่ไม่เห็นปัญหาเล็กเพราะชีวิตเขาไม่เคยเจอประสบการณ์ตรงด้วยตัวเองครับ ผมได้เห็นเด็ก ป.6 ในโรงเรียนกลางหัวเมืองใหญ่ของไทยอ่านหนังสือไม่ค่อยออกแล้วเศร้าครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ ผอ. ในการทำงานโดยให้พัฒนาการของเด็กเป็นจุดศูนย์กลางครับ


เห็นด้วยกับคุณครู มะเดือ  ค่ะ .....  ต้องเอาเด็กเป็นศูนย์กลาง ... ค่ะ 

...ความดีที่เราทั้งหลายประพฤติปฏิบัติแล้ว ฉะนั้น มันจึงปราศจากซึ่งลาภหรือยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์ ไม่มีที่ลับ ทำดีมันได้ดี ทำชั่วมันได้ชั่ว อันนี้มัน เป็นความจริง แม้พระพุทธองค์ท่านตรัสอยู่อย่างนั้น ท่านทำความดี ท่านละความชั่ว ท่านออกไปบำเพ็ญ ท่านนั่งหลับหูหลับตา ที่ไหนไกลรูป เสียง กลิ่น รส ท่านก็ยังมีความดี สาวกทั้งหลายก็เป็นอย่างนั้น

แต่ว่าคนเราทุกวันนี้จิตใจไม่แน่นอน ไม่มีศรัทธาอย่าง เป็นจริง ทำอะไรที่เป็นความดี อยากจะให้คนเห็น ถ้าคนไม่เห็นแล้วก็ไม่ค่อยสบายใจ...อย่างนี้ ทำความชั่วก็เหมือนกัน ไม่ให้ คนเห็น ถ้าคนเห็นแล้ว ดูเหมือนมันเป็นยังไงก็ไม่รู้ ทำความชั่ว ที่คนไม่เห็นน่ะ มันดี อย่างนี้

ไอ้ความเป็นขโมยในตัวของเราอย่างนี้ ตลอดกาล ตลอดเวลานั้น คนเราจึงไม่พบความจริง คือธรรมะ ความ เป็นจริงธรรมะนั้นมันมาตกลงอยู่ที่จิตของเรา อย่างการกระทำ บุญน่ะ กระทำบุญอยู่ทุกขั้นทุกส่วนนั้นน่ะ เพื่อให้จิตเราเป็น บุญ ถึงคนอื่นไม่เห็นมันก็เป็นบุญ คือความเห็นชอบอยู่ตรงที่จิตใจของเรา การทำบุญทั้งหมดนั้นต้องการให้จิตเรามัน เป็นบุญ ถ้าจิตเรามันเป็นบุญแล้ว อยู่ที่ไหน ทำบุญที่ไหน บุญ มันจะเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ ไม่ต้องฉลอง ไม่ต้องให้คนรู้ ไม่ต้องให้คนเห็น ไม่ต้องมีอะไรไปเพิ่มเติมมันเถอะ ก็กำลังจิตใจเรา เชื่อมั่นในความดีแล้ว เราก็ทำไปเท่านั้นแหละ

ฉะนั้น พระอริยะทั้งหลาย ท่านถึงทำความงาม คุณงามความดีของท่านน่ะอยู่ที่ไหน ท่านก็ทำของท่าน ใครจะว่าไม่ดีสักแค่ไหน มันก็ดีอยู่นั่นแหละ...

คำสอนหลวงปู่ชา

http://www.ubu.ac.th/wat/ebooks/chahthai/The_Essen...

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะท่าน

"วันนี้เด็กผมอ่านได้เขียนได้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนค่อนข้างดี บางชั้นติดระดับท๊อบเท็นของเขตพื้นที่ด้วยซ้ำ" นี่คือความสำเร็จที่แท้จริง การวัดผลโดยดูที่ผลสัมฤทธิ์ที่ตัวผู้เรียน คือการวัดผลเชิงประจักษ์ที่ดีที่สุดค่ะ 

โรงเรียนที่ลูกชายเรียนอยู่ก็ถูกประเมินว่าอ่อนในเรื่องที่เป็นจุดเด่นของโรงเรียนค่ะ แต่ครูใหญ่ก็ไม่สนใจค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้กับครูดีๆที่นับว่าจะมีจำนวนน้อบลงทุกทีค่ะ...

อ่านแล้วก็อึ้งค่ะ  ในฐานะที่ตามอ่านบันทึกท่าน ผอ. มาได้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจมากมายของท่านนะคะ  อยากให้กำลังใจจริงๆ  ยังไงๆ ก็สู้กำลังใจจากคนที่บ้านท่านผอ.ไม่ได้นะคะ  ขอสนับสนุนตามนี้เลยนะคะ

"ไม่ต้องเลยพ่อ แม่ยังสนุกกับงาน..และสมศ ก็ไม่ใช้เจ้าชีวิตเรา เรายังทำประโยชน์ให้เด็กและโรงเรียนได้อีกเยอะ..สู้ต่อเลยพ่อ..."

เชียร์ๆๆๆ ค่ะ

อีก  10  ปี อีเรียมจะไปสมัคร เป็นผู้ประเมินภายนอก  รอหน่อยนะ...ทีนี้ละ....จะให้ดี  เยี่ยมๆๆๆ ทุกตัว

ขอให้กำลังใจ ผอ

สมศ ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด

ในต่างประเทศเขาไม่ประเมินบ้าดีเดือดแบบประเทศไทยหรอกครับ

ถ้าทำได้น่าจะยุบหน่วยงานนี้ครับ

ไม่มีอะไรดีขึ้นมา

ขอให้เอาคำแนะนำที่เราเห็นว่าเราขาดมาปรับโรงเรียนต่อไปครับ

สู้ๆครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ ที่ให้กำลังใจ ผมเริ่มจะปลงได้ และรู้ถึงซึ่งคำว่าพอกับอานิสงส์ของลาภยศและผลแห่งความสำเร็จนานา สิ่งที่คิดได้ ณ เวลานี้ คือ การตั้งหลักทำตามคำแนะนำของ สมศ โดยเลือกเอาข้อที่ตรงกับปัญหาและบริบทของโรงเรียน โดยไม่เบียดเบียนตัวเองและครูมากเกินไป ขณะเดียวกันก็ต้องไม่เบียดบังเวลาเรียนของเด็ก ด้วย..ครับ

ยังมีอะไร ๆ ให้เราต้องผจญอีกมากนัก   คำว่า  " ปลง "  เก็บใส่ลิ้นชักไว้ก่อน....

คุณมะเดื่อผจญกับพิษสงของระบบงานมามากมาย  ทั้ง รู้ตัว  ทั้งไม่รู้ตัว  

ทั้งคิดเผื่อไว้แล้ว  และไม่คิด ไม่ฝันมาก่อน....รู้สึกเหมือนวิ่งร้อยเมตร เกือบจะแตะเส้นชัยตรงหน้า

จู่ ๆ  ก็ไม่รู้ว่า  ผีห่าซาตานที่ไหน  โผล่มายกกำแพงขวางหน้าอย่างกะทันหัน

เราจึงชนกำแพงอย่างแรง  ดวงอาทิตย์ทั้งดวง ดับพรึ่บ...! ทันทีทันควัน....คำว่า  " ปลง "  ยังน้อยเกินกว่า

ที่จะใช้กับความรู้สึกตรงนั้น......แต่วันนี้....มองทะลุกำแพงไปแล้ว.....คำว่า  ปลง  โยนใส่ลิ้นชัก

ลั่นกุญแจปิดตาย  โยนลูกกุญแจลงทะเล......หมู  หมา  กา  ไก่  หรือ  ช้าง  ก็อย่าขวาง....!!!

คิดใหม่ว่า.....เส้นชัย  มิได้มีเพียงเส้นเดียว   มีมากมาย  ให้เราเลือก ด้วยซ้ำ....คิดใหม่ ทำใหม่

ไม่ต้อง ...ปลง....ลุย...!  นะท่าน ผอ.คนเก่ง

<p> ดอกไม้เหล่านี้..จะไม่งดงามและเบิกบานในสวน..หากขาดคนดูแล..ที่มีใจ..(เขาเหล่านั้นไม่เคยได้รับคำชม)แค่เพียงค่าจ่้างถูกๆซ้ะด้วย..เจ้าค่า…นักเรียนที่อ่านออกเขียนได้นั้น..คือโล่ห์ตรา..ที่เป็นจริงเจ้าค่ะ…</p>

  • ขอเป็นกำลังใจให้ท่าน ผอ.สู้ๆๆ เพื่อเด็กๆ ต่อไปเถอะครับ

คนทำดีย่อมมีแต่สิ่งดีๆตอบแทนเสมอไม่ช้าก็เร็ว ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ให้กำลังใจ อย่าท้อนะค้ะท่านผอ.

แวะมาเป็นแรงใจให้คุณครูชยันต์ สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ครูเสมอครับ

https://www.youtube.com/watch?v=HaMg8j05wMk

เป็นอย่างไรบ้างครับ คุณครูชยันต์ จากวันนั้นถึงวันนี้ .................. :) 

ยัง สู้ๆ อยู่เน้อ.............. :)

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท