“ไหว้คนไข้ก่อน” แม่ทำได้แล้วลูก !!!!


“ไหว้คนไข้ก่อน”  แม่ทำได้แล้วลูก !!!!

            การไหว้  ในความรู้สึกและเข้าใจ  ของข้าพเจ้านั้น คือการแสดงการทักทาย  เริ่มแรกที่พบเจอกัน  หรือก่อนจะลาจากกัน   การแสดงความรู้สึกขอโทษ สำนำผิด ที่มากกว่าการกล่าวคำว่าขอโทษ  แสดงการขอบคุณที่มากกว่าการกล่าวขอบคุณ หรือการแสดงความนอบน้อม  เคารพที่ผู้น้อยมีต่อผู้ที่อาวุโสกว่า  ซึ่งข้าพเจ้ามักยึดปฏิบัติมาตลอด  อีกทั้งมักสอนไจ่ไจ๋(ลูกสาว) เสมอ  เมื่อเวลาพบเจอผู้ที่อาวุโสกว่า  เพื่อแสดงให้เห็นถึงความนอบน้อมมีมารยาท  

            ช่วงนี้โรงเรียนปิดเทอม  ไจ่ไจ๋มักขอตามแม่มาที่ รพ.เสมอๆ  สิ่งที่ไจ่ไจ๋มักบ่นคือ  การไหว้ เพราะเธอต้องยกมือไหว้เยอะมาก ทุกคนที่เธอเจอ  มีอยู่ครั้งหมวยน้อยถามว่า  ทำไมต้องไหว้เยอะแยะขนาดนี้ด้วย ( ไจ่ไจ๋อายุ  5.11ปี)  ข้าพเจ้าเห็นว่าลูกยังเล็กมาก จะอธิบายการไหว้ ให้ลูกเข้าใจทั้งหมด  ก็ดูว่า จะลำบาก ก็เลยอธิบายเพียงว่า เราเป็นเด็กกว่าก็ต้องไหว้ผู้ใหญ่ ทุกคนที่เราเจอ  ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่คิดว่า  ลูกจะเก็บประเด็นความสงสัยไว้ในใจ  แล้วถามคำถามกลับข้าพเจ้า แบบรู้สึกอายลูกสุดๆ  นั่นคือ  ในขณะที่ข้าพเจ้านั่งซักประวัติคนไข้อยู่นั้น  มีคุณยายอายุประมาณ 70  กว่าๆ  มานั่งซักประวัติ พร้อมยกมือไหว้ข้าพเจ้า   ไจ่ไจ๋ซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ  รีบบอกคุณยายว่า 

            “คุณยายแก่แล้ว  ไม่ต้องไหว้แม่ก่อน “  หันมาทางแม่ “แม่ไหว้คุณยายหรือยัง” พร้อมกับยกมือไหว้คุณยายเป็นตัวอย่างให้แม่

            คุณยายหัวเราะชอบใจ  บอก แม่เป็นหมอไม่ต้องไหว้ยายหรอก  ยายเป็นชาวนา ต้องไหว้แม่  ไจ่ไจ่ทำหน้า งง??  ข้าพเจ้าต้องรีบตัดบท ให้ไจ่ไจ๋ไปเล่นอีกทาง

            แต่ในความรู้สึกตอนนั้นข้าเจ้ารู้สึกชาที่หน้า คล้ายถูกตบหน้าอย่างแรก  อาบแทบไม่อยากนั่งซักประวัติตรงนั้นเลยทีเดียว  คิดในใจลูกนะลูก ทำแม่ได้ 

            พอเลิกงาน  ข้าพเจ้าจึงมานั่งทบทวนตัวเอง ว่า ที่ผ่านมาข้าพเจ้ารับราชการ  20  นั้น  ข้าพเจ้าเคยไหว้คนไข้ก่อนหรือเปล่า  คำตอบที่ได้คือ  “ ไม่ “  ทั้งๆที่คนไข้ส่วนใหญ่ที่มานั้นล้วนอาวุโสกว่าข้าพเจ้าทั้งสิ้น  ถึงจะเป็นคนไข้เด็กอย่างน้อยผู้ปกครองก็อาวุโสกว่า  แล้ว ข้าพเจ้าเคยไหว้เขาเหล่านั้นก่อนมั๊ย  ???  คำตอบใช่เลยเช่นเดิม “ไม่”  อย่างงี้ข้าพเจ้ายังมีหน้ามาสอนลูกให้ไหว้ผู้อาวุโสอีกหรือ ???  อายลูกมั๊ยล่ะนี่  จุกที่คอเลย 

            เหตุใดข้าพเจ้าถึงไม่ไหว้เขาเหล่านั้นก่อน ในเมื่อการพบกันนั้น เราควรทักทายกันด้วยการสวัสดี และผู้น้อยควรแสดงการนอบน้อมด้วยการไหว้  ข้าพเจ้าคิดอะไรอยู่    ใช่แล้ว  “การมีทิฐิ ยึดมั่นในอัตตา แห่งตนนั่นเอง  มันจึงทำให้ข้าพเจ้าแสดงกิริยาที่สวนทางกับการสอนลูก ข้าพเจ้า คิดตลอดว่า  ฉันเป็นพยาบาล  ฉันสูงส่งยิ่งใหญ่ กว่าทุกคนที่เป็นคนไข้  ต่อให้คุณที่เป็นคนไข้ จะอายุเฉียด 100  ปี  คุณก็ต้องไหว้ฉัน  เพราะคุณเป็นแค่คนไข้ ชาวไร่ชาวนา  ตาสีตาสานั่นเอง  อย่าว่าแต่คนไข้เลย  เวรเปล คนงาน  คนสวน รพ. ข้าพเจ้าก็ไม่เคยไหว้เขาเหล่านั้นก่อน  เพราะข้าพเจ้าคิดว่าตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการนี่ยิ่งใหญ่เสียเต็มประดา

            คิดถึงตรงนี้แล้วให้อายยิ่งนัก  อายลูก  ละอายความรู้สึกของตัวเอง  ตำแหน่งฉันนี่มันยิ่งใหญ่  ขนาดนั้นเชียวหรือ  ใหญ่จนทำให้เราลืมสำมาคารวะ ความนอบน้อม ที่เราพึงปฏิบัติอย่างนั้นหรือ  ยังมีหน้าไปสอนลูกให้ตายเถอะ 

            วันนี้ข้าพเจ้าไปทำงานตอนเช้า  และตั้งใจว่า ข้าพเจ้าจะไว้ผู้อาวุโสทุกคนไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือแม่แต่คนไข้ก็ตาม และแล้ว  ข้าพเจ้าก็ทำ  ขณะที่ซักประวัติเบาหวาน ข้าพเจ้ายกมือไหว้ทักทายคนไข้ก่อนทุกคน  คนไข้ทำหน้างง?  ยกมือไหว้ข้าพเจ้าแทบไม่ทัน  น้องพยาบาลที่นั่งข้างๆหันมาทำหน้างง ?? แต่ไม่พูดอะไร  ความรู้สึกแว๊บแรกของข้าพเจ้าเมื่อทำ มันขัดเขิน  ไม่จริงใจ ใช่ข้าพเจ้ายังทิ้ง  ทิฐิ   อัตตา  แห่งตนไม่ได้  ค่อยทำไปเรื่อย  จากคนที่ 1   2   3.....10.....20 ..... จน  56  คน  หมดแล้วข้าพเจ้ารู้สึกเบาสบาย  ไม่ขัดเขิน  ไม่กังวล ไม่มีตัวตนแห่งหัวโขนที่สวมใส่  มีเพียง คนๆหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นพยาบาล  ที่มีอาวุโสน้อยกว่าผู้ป่วยที่มารับบริการ  ข้าพเจ้ารู้สึกโล่งสบายใจอย่างบอกไม่ถูก  มีความสุข   อยากกลับไปไหว้ขอบคุณลูกที่ทำให้แม่ ละกิเลส ได้อีกอย่าง 

“ไหว้คนไข้ก่อน แม่ทำได้แล้วลูก !!!!!”  เย้ เย้ เย้

 

ชลัญธร

26/10/56

หมายเลขบันทึก: 551754เขียนเมื่อ 26 ตุลาคม 2013 04:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 ตุลาคม 2013 04:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
  • เมื่อเห็นเด็กนักเรียนไหว้ผู้ใหญ่ ที่ไม่ใช่ครูในโรงเรียน จะรู้สึกชื่นชม เสมอ ว่าเด็กนั้นมีสัมมาคาระ และชื่นชมไปถึงโรงเรียนและบ้านว่า ให้การอบรมดี เมื่อวาน เห็นเด็กสองคนจากหมู่บ้านอื่น ตามผู้ปกครองไปที่ฟาร์มเพื่อรับงานทำประตูสวนยาง เมื่อไอดินฯ เดินออกไปทักทายพูดคุยกับเด็กๆ เด็กทั้งสองก็ยกมือไหว้ ทำให้รู้สึกดังที่กล่าวมา แค่เห็นบ้านและโรงเรียน ทำให้เด็กมีสัมมาคาระได้ ก็พอใจในคุณภาพการจัดการศึกษาระดับหนึ่งแล้ว
  • หลายสิบปีก่อนลูกสาวไอดินฯ ก็เคยบ่นเหมือนกับไจไจ๋ ว่า ไม่อยากไปที่ทำงานแม่ เพราะต้องไหว้คนเยอะแยะไปหมด
  • ปกติไอดินฯ จะแทบไม่ได้ใช้บริการตรวจรักษาจากคุณหมอเพราะเป็นคนสุขภาพดี มีตอนที่เกษียณใหม่ๆ เกิดอาการโรคกระเพาะ (เพราะเทอมสุดท้าย ทุกวันจันทร์จะสอนจาก 08.00-16.20 น. โดยไม่พักทานมื้อเที่ยง เพราะตรวจงานและเตรียมสอนต่อ ไปทามื้อเที่ยงนตอนประมาณ 17.00 น.ทุกวันจันทร์) เลยต้องไปพบหมอตามนัด ซึ่งก็ทำตามที่เคยปฏิบัติมา คือยกมือไหว้หมอก่่อน (หมอที่ไหว้อายุน่าจะใกล้เคียงกับลูก) และหมอก็ไม่ได้รับไหว้ ทำให้แว้บหนึ่งคิดไปถึงการอบรมจากบ้านและสถานศึกษา เพิ่งเข้าใจว่า เหตุที่หมอไม่รับไหว้ คงจะเกิดจากความคิดแบบเดียกับคุณชลัญธร 
  • ชื่นชมในความเฉลียวฉลาด และความเป็นอิสระทางความคิดของไจไจ๋ ที่ไม่ติดในกรอบว่า "ผู้ใหญ่เท่านั้นที่จะสอนเด็กได้ เด็กสอนผู้ใหญ่ไม่ได้" ทำให้เธอกล้าที่จะสอนแม่ และก็ชื่นชมแม่ด้วยที่ลดอัตตา ยอมเปลี่ยนความรู้สึกนึกคิดและเปลี่ยนพฤติกรรมตามที่ลูกสอน...เป็นปรากฏการณ์ที่ประทับใจมากค่ะ ขณะนี้ไอดินฯ กำลังเตรียมต้นฉบับบันทึกว่าด้วยการยกระดับคุณภาพในการจัดการศึกษา ซึ่งจะกล่าวถึงบทบาทของครอบครัวด้วย ขออนุญาตนำเหตุการณ์ "เมื่อลูกสอนแม่ให้มีสัมมาคาระได้สำเร็จ" ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ  

"...ความรู้สึกแว๊บแรกของข้าพเจ้าเมื่อทำ มันขัดเขิน..."

เป็นความรู้สึกที่หลายๆคนเป็นอย่างนั้น ผมเคยบอกลูก บอกลูกน้องบ่อยๆว่า คนไทยเป็นคนขี้อาย ขี้เกรงใจ อายที่จะแสดงออกในหลายๆด้าน แต่..

...การแสดงน้ำใจ การทำความดี ไม่ควรอายที่จะแสดงออก...

ผมเคยถูกแพทย์ยกมือไหว้ก่อนบ่อยๆจนคิดวาตัวเองแก่ขนาดนั้นเชียวหรือ...555

เพิ่งกลับมาจากเกาหลีครับ...(ไปทำหน้ามาครับ)

อ่านข่าวหนังสือพิมพ์เช้าวันนี้...

อดห่วงเพื่อนรัก...คนพิมายไม่ได้ครับ

ให้ส่งถุงยังชีพไปให้ป่าวครับ?

ฝากกอดน้องไจ่ไจ๋ด้วยครับ

 

 

สรุปโรงพยาบาลน้ำไม่ท่วมใช่ไหม

กลัวลอยน้ำ

ไจไจ๋น่ารักมาก ไหว้เป็นด้วย

ผมไหว้ผู้ปกครองก่อนทุกครั้งเหมือนกั ถึงจะเป็นคนงานก็ไหว้ครับ

 

คิดถึงจัง เย็นๆ จะโทรหานะคะ

 

-สวัสดีครับ

-อ่านบันทึกแล้วประทับใจมาก ๆครับ

-การไหว้เป็นการแสดงออกถึงความเคารพ..

-ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ สำหรับ"การไหว้"นะครับ

การอ่อนน้อมเป็นเครื่องประดับที่ดีของคนเราค่ะ ครูนกก็สนับสนุนเด็กๆ พร้อมกับตนเองก็ทำเช่นกันค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่มาให้กำลังใจค่ะ มันเป็นเรื่องที่ชลัญมองข้ามมานาน หากหมวยน้อยไม่มาสะกิด นี่คงยังไม่ได้คิด  

ครั้งนี้รู้สึกขอบคุณลูกจริงๆ  บางครั้งการพูดจาของเด็กที่เกิดจากความรู้สึกที่บริสุทธิ์ไม่มีนัยยะนี่ ก็ดีเหมือนกัน 

หากผู้ใหญ่อย่างเราจะกลับไปคิดทบทวนพฤติกรรม ที่ผ่านมาของตัวเราเอง  ว่า มีปากสักแต่ว่าสอน หรือเปล่า 

หากเราไม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้เขา  เขาก็คงค้านในใจว่า  ทีผุ้ใหญ่ยังไม่ทำ นั่นเอง

ึคิดถึง เป็นห่วงจ้่า ดูแลตัวเองดีนะ

ไปมา ลาไหว้ น้อมจิตด้วยเมตตากรุณา ย่อมสุขสงบอย่างยั่งยืน

พี่โอ๋ก็เป็นคนมือแข็ง นานๆจะไหว้สักทีเหมือนกันค่ะ พอมาถึงตอนนี้ที่ค่อนข้างอาวุโสกว่าคนอื่น โอกาสจะได้ไหว้ก็ยิ่งน้อยลงเสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้รักษาวัฒนธรรมที่น่ารักนี้ของเราเท่าไหร่ ได้เห็นลูกชายที่เป็นนักไหว้ตัวยง และอีกสองหนุ่มก็เป็นแต่น้อยกว่าพี่ชาย เห็นได้ชัดเลยค่ะว่า การไหว้ ความนอบน้อมเป็นเสน่ห์ คนที่ทำได้อย่างจริงใจ จะเป็นคนที่ดูดีเสมอ และสังเกตว่ายิ่งคนใหญ่โตขนาดไหน ถ้ามีความอ่อนน้อมจะยิ่งเป็นที่รักนะคะ ชื่นชมน้องไจ๋ไจ๋และคุณแม่โจ้ค่ะ ขอให้เจริญๆ 

สวัสดีค่ะน้องชลัญธร

  • พี่ก็ไหว้คนไข้ก่อนค่ะ ทำมานานจนชินแล้วค่ะ
  • ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆให้ชื่นหัวใจค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท