การสื่อสารเรื่องความตาย นับว่าเรามีความรู้อยู่น้อยมาก ทั้งความรู้ในเชิงเนื้อหาที่ได้ผล ไหนจะความรู้เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายที่เราจะสื่อสาร อีกทั้งกระบวนการสื่อสารเนื้อหา แถมความรู้ กระบวนการสื่อสารต่างๆ ก็ต้องมาขยำรวมกับการบริหารจัดการ และการเมืองของประเด็นความตายอีก ทั้งหมดนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องใหม่ และงานของเราก็นับว่าเป็นอะไรที่บุกเบิกอย่างน่าตื่นเต้น
เท่าที่ได้ยินได้ฟังมา มีคนให้ความเห็นทฤษฎีการทำงานสื่อสารเรื่องการเตรียมตัวตายอยู่หลายมิติด้วยกัน วันนี้ก็มาบันทึกไว้ก่อน
ิมิติประเด็นในการเตรียม เท่าที่จำได้ มีผู้เสนอไว้ 2 ท่าน
พระไพศาล วิสาโล ท่านให้ความเห็นเรื่องมิติในการตายดีไว้ 3 มิติ
การตายดี 3 มิติ ประกอบด้วย กาย สัมพันธภาพ และจิตใจหรือปัญญา
การตายดีทางกายเช่น ไม่ตายค่าท่อ ตายโดยอาการสงบ ไม่ตายฉับพลันทันที
การตายดีเชิงสัมพันธภาพ เช่น ตายท่ามกลางคนรัก ตายแบบมีคนจดจำ ตายไม่เป็นภาระของคนเบื้องหลัง
การตายดีเชิงจิตใจ เช่น บรรลุธรรม เห็นความจริงก่อนตาย ตายอย่างสะอาด สว่าง สงบ
มิตินี้ พระไพศาลได้จำแนกหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจนแล้ว เป็นแนวทางในการจัดกลุ่มตีความว่าเรากำลังมีท่าทีต่อการตายด้วยการเตรียมแบบไหน แต่คุณวรรณาก็ให้ข้อเสนอในเชิงปฏิบัติมากกว่า
ข้อเสนอของคุณวรรณา ก็คือ ประเด็นในการเตรียมเลย 4 มิติ
1. เตรียมพร้อมด้านการเงิน เช่น ซื้อประกันชีวิต
2. เตรียมพร้อมด้านสัมพันธภาพ เช่น ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนรอบข้าง
3. เตรียมพร้อมด้านสุขภาพ เช่น ดูแลรักษาสุขภาพ วางแผนการจัดการความป่วย
4. เตรียมตัวเอง เช่น เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น เข้าใจและยอมรับความจริง
นอกจากนี้ก็ยังให้มิติความเข้มข้นด้วย
1. เตรียมตัวตายเชิงความคิด ประกอบด้วยการวางแผน การ(คิดว่า)ปล่อยวาง เการเจริญมรณานุสติ
2. เตรียมตัวตายเชิงปฏิบัติ เมื่อคิดได้แล้วก็ลงมือปฏิบัติ เช่น ล้างจานทุกวันก่อนนอนเพราะไม่แน่ว่าพรุ่งนี้จะตื่นมาหรือไม่ การตัดสินใจทำสิ่งสำคัญในชีวิตทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน
วันนี้เอาเท่านี้ก่อนก็แล้วกันครับ เดี๋ยวจะมาเล่าใหม่ถึงแนวคิดการสื่อสารเรื่องความตายในมิติอื่นๆ อีก
...รอบคอบจนถึงวาระสุดท้ายนะคะ
น่าจะมีอีก..ซ้ะข้อ..นะ..แถมๆ..."อย่าลืม..ล้างก้น..ตน..ให้หมดจด..ก่อนเข้านอน..ด้วย"..แล้ว..จะฝันดี..อ้ะะๆๆ
ขอบคุณค่ะ กับ มิติการตาย .... อ่านแลัวดีจังเลยค่ะ