-ช่วงนี้บันทึกของผมจะเน้นเกี่ยวกับ"อาหาร"มากไปสักหน่อยนะครับ.....ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะช่วงนี้มีกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องของ"อาหาร"บ่อย ๆ โดยแต่ละเมนูที่ทำก็ล้วนแต่เป็นเมนูที่น่าเก็บภาพและบันทึกไว้เพื่อแบ่งปันให้กับมิตรรัก G2K ได้อ่านหรือบางท่านอาจจะนำเมนูนี้ไปทำดังกับที่ อาจารย์แม่ไอดิน ได้บอกไว้ 555 และที่สำคัญเป็นการบันทึกเก็บไว้เพื่อจะได้เก็บเอาเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของผมครับ.....เช่นเดียวกับบันทึกนี้ที่ภูมิใจนำเสนอขนมพื้นบ้าน"ขนมเตียนไส้บะถิม"ที่หลายท่านอ่านชื่อแล้วก็ยังดูจะไม่ค่อยคุ้นเคย แต่ผมรับรองได้ว่าหากท่านได้ติดตามบันทึกนี้ไปด้วยกันแล้ว ท่านก็จะถึงบางอ้อ.....ไปพร้อมๆ กันคร้าบ!!!
1.ก่อนอื่นต้องขอแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักชื่อของ"บะถิม"ก่อนครับ..."บะถิม"ก็คือ ถั่วเขียวกระเทาะเปลือกหรือรู้จักกันดีในนาม"ถั่วทอง" นั่นเองครับ แต่สำหรับบ้านผมแล้วเรียกว่า"บะถิม"ครับ 5555 ส่วน"เตียน"ก็มาจากคำว่า"เทียน"นั่นเองครับ...หรือหากจะเรีัยกชื่อขนมนี้ให้เป็นที่รู้จักกันดีก็จะเรียกว่า"ขนมเทียนแก้วใส้ถั่ว" นั่นเองครับ....หลังจากที่ได้ทราบถึงที่มาของชื่อขนมแล้ว ต่อไปก็มาดูเครื่องปรุงกันต่อครับ อย่างแรกที่ต้องเตรียมเลยก็คือ"บะถิม"นำไปแช่น้ำหรือทางเหนือเรียกว่า"หม่า"ก่อนหลังจากนั้นก็นำไปนึ่งให้สุก,กระเทียมพริกไทยรากผักชีโขลกละเอียด,ต้นหอมผักชีหั่นฝอยเตรียมไว้ครับ..
2.ได้เวลาทำการปรุง"ไส้บะถิม"แ้ล้วล่ะครับ....เจียวกระเทียมพริกไทยรากผักชีให้หอม นำ"บะถิม"ใส่ลงไปผัดปรุงรสด้วยเกลือ,น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบใจครับ เมื่อได้รสชาติตามต้องการแล้วก็ผัดต่อไปสักพักเสร็จแล้วก็ใส่ต้นหอมผักชีหั่นลงไปผัดให้เข้ากัน....เท่านี้ก็ได้"ไส้บะถิม"แล้วล่ะคร๊าบ!!!
3.ต่อไปก็มาช่วยกันเตรียม"ตัวแป้งขนมเตียนแก้ว"กันนะครับ บางท่านอาจจะเคยทำ"ขนมเทียน"แบบใช้แป้งข้าวเหนีัยว แต่สำหรับวันนี้"แม่นันทา"จะนำเสนอการใช้"แป้งมันสำปะหลัง,กับแป้งท้าวยายม่อม"ซึ่งจะทำให้ตัวแป้งมีัลักษณะใสกว่าการใช้แป้งข้าวเหนียวครับ...สำหรับสัดส่วนของแ้ป้งก็ 1 ต่อ 1 ครับ.....
4.น้ำตาลทราย 1/2 ส่วน น้ำ 2 ส่วน ผสมให้เข้ากัน เท่านี้ก็ได้ส่วนผสมของ"ขนมเตียนแก้ว"แล้วล่ะครับ...
5.หลังจากนั้นก็นำไปตั้งบนเตา ไปที่ใช้ต้องไม่แรงจนเกินไปนะครับ ใช้ไม้พายกวนไปเรื่อย ๆ สักพักแป้งจะเริ่มข้นและสุก หากลองจับดูแล้วมีลักษณะดังภาพ ก็ถือว่าได้ที่แล้วล่ะครับ ขั้นตอนนี้อย่าเผลอนะครับ หากเผลออาจจะทำให้แป้ง"ไหม้"ได้นะคร้าบ!!
6."ไส้บะถิม"พร้อม "แป้งขนมเตียน"พร้อม.....ก็นำไปห่อเป็นลูก ๆ เตรียมห่อต่อไปครับ....
7.สำหรับการห่อ ไม่มีอะไรยุ่งยากครับ ก็เจียนใบตองแบบใช้ห่อขนมเทียนทั่ว ๆ ไป ข้อดีของ"ขนมเตียนแก้ว"ก็คือ"ไม่ต้องนำไปตองไปทาน้ำมัน เพราะขนมเตียนแก้วจะไม่ติดใบตองเหมือน"ขนมเตียน"ที่ใช้แป้งข้าวเหนียวครับ...เหมาะสำหรับผู้ที่รักษา"สุขภาพ"มากทีเดียวครับ...
8.เสร็จแล้วก็ได้เวลา"นึ่ง"แล้วล่ะครับ...นึ่ง"ขนมเตียนแก้ว"ใช้เวลาไม่นานเหมือนกับ"ขนมเตียนที่ใช้แป้งข้าวเหนียว"เพราะว่าแป้งที่ห่อ"ขนมเตียนแก้ว"สุกแล้ว ดังนั้นจึงนึ่งพอให้ใบตองสุกก็พอแล้วล่ะครับครับ....เท่านี้ก็เตรียมตัว"อร่อย"ได้แล้วครับ...
9.และนี่ก็คือ"ขนมเตียนแก้วไส้บะถิม" ที่เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ แป้งขนมเตียนใสเป็นแก้วจนเห็นไส้บะถิมเลยใช่หรือเปล่า??? ขอบอกก่อนว่าสูตรนี้"แม่นันทา"ใช้แป้ง 2 ชนิด คือ"แป้งมันกับแป้งท้าวยายม่อม" คุณสมบัติของแป้งสองประเภทนี้จะทำให้ใสและเหนียวครับ แต่บางสูตร"ขมเตียนแก้ว"อาจจะมี"แป้งถั่วเขียว"ไปอีกอย่างหนึ่ง เพื่อให้ตัวขนมแข็งตัวขึ้นมาอีก เอาเป็นว่าจะ"สูตรไหนๆ" ก็ต้องลองทำกันดูก็แล้วกันนะคร้าบ!!!!
สำหรับวันนี้...ได้รู้จัก"ขนมเตียนแก้วไส้บะถิม"ในแบบฉบับของ"แม่นันทา"แล้ว....หากสนใจก็ลองทำได้นะครับ....แล้วอย่าลืมรายงานผลด้วยนะคร้าบ!!!!
สวัสดีครับ.......
เพชรน้ำหนึ่ง
26/07/2556
น่าทานมากครับ
ที่อีสานบ้านผม เรียกขนมเทียนว่า ขนมหมก
เรียกข้าวต้มมัด ว่า ขนมข้น หรือขนมต้ม...
อยากได้สักสิบห่อครับ...แป้งใสเห็นเนื้อน่ากินข้างใน..ไม่เคยชิมเลยครับ...ขอบคุณครับ
ปักต์ใต้เรียกขนมเทียนค่ะ
อร่อยดีค่ะ
ขอบคุณนะคะ วิธีการและขั้นตอนการทำชัดเจนค่ะ
น่ากินจริงๆครับ...
แวะมาขอชิมเทียนแก้วครับ คงจะอร่อยมากนะครับ
สว้สดีอาจารย์เพชร
-เห็นขนมแล้วอยากกินจัง..ขอบคุณความรู้ดีๆจากท่าน...วันหลังจะให้ อ.พิศาล ที่ รร.วัชรวิทยาไปขอขนมมากินกัน 555 (ล้อเล่นนะ)
ขอขอบคุณอีกครั้งนะคร้าบ....
น่ากินจัง น้ำยายหยัย คริ คริ
ได้ความรู้ใหม่ว่า ที่เห็นแป้งใสๆ นั้น เกิดจากการใช้ "แป้งมันสำปะหลังผสมกับแป้งท้าวยายม่อม" และแบบที่ไม่ใส เกิดจากการใช้ "แป้งข้าวเหนียว"
ขนมเทียนเป็นขนมที่อาจารย์แม่ไอดินชอบทานค่ะ ที่ทำและนำภาพมาให้ดูน่าทานมากนะคะ ตอนเด็กๆ เคยทำ แต่ตอนหลังมีแต่ซื้อทาน อยากทานแบบที่ใช้ "แป้งถั่วเขียว" ค่ะ เพราะชอบทานอาหารประเภทถั่ว
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันครับ
ห่อสวยอยากชิมมากเลย ทราบวิธีทำแล้วแต่พี่ดาคงไม่ได้ทำ (แอบบอกดังๆ..ใกล้บ้านพี่ดามีผู้ทำขายทำอร่อยค่ะ )ขอบคุณมากนะคะ
มีของหวานแล้ว วันนี้เอาเมนูอาหารคาวมาเสริฟอีกเมนูหนึ่งค่ะ
กับ แกงเขียวหวาน เห็ดเข็มทอง แวะไปชมไปชิมได้นะคะ ^^
-สวัสดีครับพี่หมอเปิ้น....
-ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับฮ่า ๆ
-ลองทำได้นะครับ..ง่าย ๆ อร่อยด้วยครับ
-สวัสดีครับคุณ พ.แจ่มจำรัส
-ขนมหมกแก้วใส้บะถิม ฮ่า ๆ
-ชื่อนี้น่าจะได้เหมือนกันนะครับ
-ขอบคุณสำหรับความรู้นะครับ
-สวัสดีครับคุณทิมดาบ
-ลองทำดูนะครับ
-ตามขั้นตอนเลยครับท่าน
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ
-สวัสดีครับคุณ Bright lity
-คนทั่วไปรู้จักในนาม"ขนมเทียน"ครับ
-บ้านผม"เรียกขนมเตียน"หรือ"เทียน"นั่นเองครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะครับ
-สวัสดีครับคุณลูกหมูเต้าระบำ
-ลองหาดูในตลาดนะครับบางทีอาจจะได้ชิม ฮา ๆ
-ขอบคณสำหรับกำลังใจที่มอบให้นะครับ
-สวัสดีครับคุณ nobita
-ต้องลองชิมครับพี่
-ลองทำได้นะครับ.ไม่ยากเลย..
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับ ผศ.เดชา
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมบันทึกนี้ครับ
-ยินดีหากมีคนมาเยี่ยมและชิมขนมครับ
-อ.พิศาล อยู่โรงเรียนวัชวิทยาเหรอครับ??ยินดี ๆ ครับ
-สวัสดีครับอ.อิงจันทร์
-ดีใจ ๆ เรียกความหิวได้ ฮ่า ๆ
-สวัสดีครับอาจารย์แม่ไอดิน
-หากมีเวลาลองทำดูนะครับ..
-บางทีอาจจะได้ระลึกความหลังครั้งก่อน
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมบันทึกนี้ครับ
เป็นขนมท้องถิ่นตามเทศกาลยอดนิยมนะคะ ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ
-สวัสดีครับครูวศิน
-เตรียมการสอนดึกเลยนะครับ
-ฝึกสอนสนุกไหมครับ??
-สวัสดีครับคุณเขียวมรกต
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมบันทึกนี้ครับ
-สวัสดีครับพี่กานดา
-ไม่ทราบว่าข้าง ๆบ้านที่ว่านี่ใช่บ้านของป้าอัมพรหรือเปล่าครับ??
-สวัสดีครับคุณ pro mushroom
-ขอบคุณที่นำของอร่อยจากเห็ดมาฝากนะครับ
ขนมจ๊อกไส้บะถิม...น่ากินขนาด
พี่ชอบขนมเทียนมาก
แต่มักโชคไม่ดี เวลามีเทศกาลขนมเทียนทีไรมักจะไอจนอดทาน
คราวนี้เห็นทีต้องหัดทำเองแล้วอ่านวิธีทำการผสมแป้ง
ก็คิดว่าต้องทำได้แน่ไม่ต้องรอหน้าขนมเทียน
ขอบคุณมากๆค่ะ
-สวัสดีครับท่านอักณิช
-น่ากินขนาดกาครับ ฮ่า ๆ
-ลองทำได้นะครับ..ไม่หวงสูตรครับ
-สวัสดีครับ krutoiting
-ดีจังครับ...ทีนี้ครูคงทำขนมเทียนได้แล้ว ฮ่า ๆ
-ลองทำดูนะครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมบันทึกนี้ครับ
ขนมจอกใส้เค็ม.....ล้ำเจ้า
ทำแล้วมันติดใบตองค่ะ ไม่ทราบว่าผิดสูตรตรงไหน?