ระวังกินไข่แมงดาผิดชนิด ถึงตายใน 6 ชั่วโมง


หลายคนมีความชื่นชอบและพิศมัยในเมนูที่ทำจากไข่แมงดามาก โดยเฉพาะยำไข่แมงดามีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ที่พบหนูน้อยวัย 8 ขวบเปิบไข่แมงดาเสียชีวิต สร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้กับ ผู้พิสมัยเมนูไข่แมงดายำ แต่ก็มีข้อถกเถียงกันอยู่มากมายว่า บางคนกินแมงดาทะเลมาเป็นเวลาเกือบสิบกว่าปีทำไมไม่ตาย จากประสบการณ์ที่เล่าต่อกันมาว่าวิธีการกินแมงดาทะเลให้ปลอดภัยคือต้องผ่าเอาเส้นเมาออกก่อนนำมา ปรุงหรือรับประทาน ถึงแม้ว่าจะทำตามขั้นตอนแล้วก็ยังมีข่าวว่า มีคนตายจากการกินแมงดาทะเลอยู่เรื่อยมา จึงมีคำถามที่สงสัยกันอยู่ว่า “จริงหรือไม่ที่กินแมงดาทะเลทำให้ตายได้” แล้วยังมีคำถามต่อไปอีกว่า “แล้วจะกินแมงดาทะเลดีไหม” เนื่องจากรสชาติของแมงดาทะเลโดยเฉพาะไข่ของมันนั้นขึ้นชื่อว่ามีความอร่อยมาก ทำให้คนที่นิยมยำไข่แมงดา มีความรู้สึกไม่มั่นใจในความปลอดภัย ดังนั้นต้องมาทำความรู้จักกับชนิดของแมงดาทะเล และพิษของมันว่าเป็นอย่างไร รูปร่างของแมงดาทะเล แมงดาทะเลเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างแปลก เหมือนชามกะละมังคว่ำ ทางด้านหัวโค้งกลม แมงดาทะเลมีเปลือกหนาแข็ง ห่อหุ้มอยู่ทั่วทั้งตัว มีหางแข็งยาว ปลายแหลม ยื่นออกมาหาส่วนท้ายของลำตัว สำหรับใช้ต่างสมอปักลงกับพื้นท้องทะเล เมื่อต้องการนอนนิ่งอยู่กับที่ แมงดาทะเลอาศัยอยู่ที่พื้นทะเลน้ำตื้น ๆ คลานหากินไปตามพื้นทราย กินหอยเล็ก ๆ ปูเล็ก ๆ เป็นอาหาร ศัตรูคือเต่าทะเลและฉลาม แมงดาทะเลตัวผู้กับตัวเมียมีรูปร่างคล้ายกัน แต่ตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่ามาก ไข่เป็นเม็ดกลมสีเหลืองขนาดเม็ดสาคู และมีจำนวนหลายร้อยฟอง

แมงดาทะเลมีกี่ชนิด

   แมงดาที่พบในทะเลไทยมีอยู่ 2 ชนิดคือ แมงดาจาน หรือแมงดาทะแลหางเหลี่ยม มีขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ตามพื้นทะเล วางไข่ตามริมชายฝั่งที่เป็นดินทราย และแมงดาถ้วย แมงดาทะแลหางกลม เห-รา หรือ แมงดาไฟ มีขนาดเล็กกว่า แมงดาจานและมีสีส้มหรือน้ำตาลเข้ม อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลนและตามคลองในป่าชายเลน

แมงดาชนิดไหนที่มีพิษ

    ไข่ของเห-รา หรือแมงดาถ้วย และมีพิษในช่วงเดือน กพ.-มิย.
พิษของแมงดาทะเลอยู่ตรงไหน


พิษของแมงดาถ้วยน่าจะมาจาก 2 สาเหตุคือ
1. ตัวแมงดาถ้วยไม่มีพิษแต่เกิดจากแมงดาถ้วยไปกินตัวแพลงก์ตอนที่มีพิษ หรือกินหอยหรือหนอนที่กิน แพลงก์ตอนที่มีพิษเข้าไป ทำให้สารพิษไปสะสมอยู่ในเนื้อและไข่ของแมงดาถ้วย
2. ตัวแมงดาถ้วยมีพิษซึ่งเกิดจากแบคทีเรียในลำไส้สร้างพิษขึ้นมาได้เอง
ความร้อนฆ่าพิษได้หรือไม่
    เมื่อนำไข่หรือเนื้อมาปรุงหรือผัดให้สุกโดยเชื่อว่าความร้อนสามารถฆ่าพิษได้นั้น ความจริงแล้วความร้อนไม่สามารถ ฆ่าพิษได้เลย เนื่องจากเป็นพิษชนิดที่มีผลต่อระบบประสาทที่ความร้อนไม่สามารถทำลายเชื้อได้
กินแล้วจะมีอาการอย่างไร
  อาการขึ้นอยู่กับปริมาณที่กินเข้าไปมากหรือน้อย มีอาการชาที่ริมฝีปาก มือและเท้า เวียนศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน เดินเซ แขนขาไม่มีแรง พูดไม่ออก กลืนลำบาก หายใจไม่ออก กล้ามเนื้อเกี่ยวกับการหายใจเป็นอัมพาต เนื่องจากพิษของ แมงดาทะเลเป็นพิษต่อระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ในเด็กเล็กจะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่
  วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงที่ไม่กินแมงดาทะเลเพราะอาจมีโอกาสเสี่ยงที่จะเจอแมงดาทะเลที่มีพิษได้ แต่สำหรับคนที่ชอบกินแมงดาทะเลแล้วถ้าพบว่าหลังจากการกินแล้วรู้สึกมีอาการชาที่ปาก หายใจไม่ออก ทำการล้างท้อง ล้วงคอทำให้อาเจียน แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด การใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นการรักษาอาการเบื้องต้น เพื่อช่วยให้คนไข้หายใจได้ หลังจากนั้นก็รักษาตามอาการ แบบเดียวกับการรักษาผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษโดยทั่วไป ในปัจจุบันยังไม่มียาแก้พิษจากแมงดาทะเล

แมงดาถ้วย เป็นแมงดาทะเลชนิดมีพิษเรียกอีกชื่อว่า เห-รา 

แมงดาถ้วย หรือ แมงดาทะเลหางกลม (อังกฤษ: Mangrove horseshoe crab; ชื่อวิทยาศาสตร์: Carcinoscorpius rotundicauda) เป็นแมงดาทะเลชนิดหนึ่ง จัดเป็นเพียงชนิดเดียวที่อยู่ในสกุลCarcinoscorpius มีรูปร่างกลมและกระดองนูนเหมือนชามหรือถ้วยคว่ำ ทางด้านหัวโค้งกลม หางเรียวยาวเป็นทรงกลม กระดองมีสีเขียวเหลือบเหลืองคล้ำ ใช้สำหรับปักลงกับพื้นท้องทะเล เมื่อต้องการนอนนิ่งอยู่กับที่ หรือใช้พลิกตัวเมื่อนอนหงายท้อง พบอาศัยในทะเลโคลนแถบป่าชายเลนหรือปากแม่น้ำ อาจพบได้ในเขตน้ำกร่อยหรือน้ำจืดได้ ขนาดเมื่อโตเต็มที่ยาวประมาณ 40 เซนติเมตร รวมหาง ในบางครั้งแมงดาถ้วยบางตัวและในบางฤดูกาล อาจมีสีกระดองสีแดงเหลือบส้ม และมีขนที่กระดองและบางส่วนของลำตัว ซึ่งแมงดาถ้วยแบบนี้จะเรียกว่า เหรา (/เห-รา/) หรือ ตัวเหรา หรือ แมงดาไฟ
จะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร พบกระจายไปทั่วในชายฝั่งทะเลอินเดียจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ในประเทศไทยพบได้ทุกจังหวัดที่ติดกับทะเล แมงดาทะเลชนิดนี้ทั้งเนื้อและไข่มีพิษทุกฤดูกาล จึงไม่ควรนำมาบริโภคอย่างเด็ดขาด สาเหตุของการเกิดพิษในตัวแมงดาทะเลนั้น สันนิษฐานว่ามาจาก 2 สาเหตุ คือ เกิดจากการที่ตัวแมงดาไปกินแพลงก์ตอนที่มีพิษเข้าไป ทำให้สารพิษไปสะสมอยู่ในเนื้อและไข่ และตัวแมงดาเองมีพิษซึ่งเกิดจากแบคทีเรียในลำไส้สร้างพิษขึ้นมาได้เอง โดยอาการเมื่อรับพิษเข้าไป คือ มีอาการชาที่ริมฝีปาก มือและเท้า เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เดินเซ แขนขาไม่มีแรง พูดไม่ออก กลืนลำบาก หายใจไม่ออก กล้ามเนื้อเกี่ยวกับการหายใจเป็นอัมพาต เนื่องจากเป็นพิษที่ผลต่อระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ในเด็กเล็กจะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

แมงดาถ้วยเป็นแมงดาทะเลชนิดมีพิษร้ายแรงมีลักษณะคล้ายกับแมงดาจานมาก ทำให้ผู้ที่ดูไม่เป็นหลงรับประทานจนเสียชีวิตมามากต่อมากรายแล้ว (วิธีสังเกตที่ง่ายที่สุดคือ แมงดาถ้วยเป็นชนิดมีพิษนั้นตัวจะเล็กมีลักษณะกระดอกกลมเป็นถ้วย และหางจะกลม ส่วนแมงดาจานเป็นชนิดที่กินได้ตัวจะใหญ่กว่าและกระดองจะแบนกว้างคล้ายจานหางจะเหลี่ยมนูนขึ้นมีหนามเล็กๆเรียงตามยาวตรงกลางด้านบนของหาง) แต่ที่พึงระวังอย่างยิ่งคือในท้องตลายมีการนำเฉพาะไข่แมงดามาบรรจุถุงขาย ยิ่งทำให้ไม่ทราบเลยว่าไข่แมงดานั้นเป็นไข่แมงดาชนิดใด เนื่องจากหากเป็นเฉพาะไข่จะมีลักษณะเหมือนจนไม่สามารถแยกได้


เครดิต 

http://www.med.cmu.ac.th/dept/...


คำสำคัญ (Tags): #kmanw
หมายเลขบันทึก: 543672เขียนเมื่อ 26 กรกฎาคม 2013 13:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม 2018 17:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

คนริมเล รู้จักแยกแยะ ไหนแมงดา ไหนเห-รา

ขอบคุณที่นำความรู้ดีๆในทักษะชีวิตมาบอกเล่า

ขอบคุณคุณ วอญ่าและคุณศุภรักษ์ คะ

วันนี้หนูเพึ่งกินแมงดาจาน

 

ผมเป็นชาวประมงโดยกำเนิด สืบทอดมาหลายชั่วคน ทุกวันนี้ยังมีความเข้าใจผิดกันมากเกี่ยวกับแมงดาทะเล แม้แต่นักวิชาการประมงนั่งเทียนเขียนหนังสือ จริงๆแล้ว แมงดา คนทะเลเค้าจะแบ่งเรียกเป็นสอง ชนิด คือ แมงดาถ้วยกับแมงดาจาน ชาวเลเรียกกันแบบนี้ ทั้งสองชนิดกินได้หมด แต่ที่กินไม่ได้คือเหรา ที่มีหางกลม แต่ถ้าทำเป็นกินไข่ได้ แต่เนื้อกินไม่ได้ ส่วนแมงดาถ้วยและแมงดาจาน ถ้าทำเป็นจะกินได้ทั้งตัวทั้งเนื้อทั้งไข่ ส่วนที่เป็นพิษของแมงดาหรือเหราก็คือ ท่อขี้ที่อยู่ในตัวมัน(ที่อื่นเรียกอะไรไม่รุ้ แต่แถวบ้านเรียกแบบนี้) ถ้าทำแบบสดคนทำต้องมีความชำนาญมากเพราะต้องระวังไม่ให้ท่อขี้แตก แต่ถ้าเราเอามาต้มหรือย่าง ท่อขี้นี้จะแข็ง และเอาออกได้ง่ายและปลอดภัยกว่า จริงๆแล้วที่กินแมงดาแล้วมีอาการมึนๆเป็นเพราะตอนที่ทำแมงดามีเศษจากท่อขี้ปนมาด้วย และที่พิษจริงๆของแมงดาคือท่อขี้นี้แหละครับ ไม่ใช่อะไรมากมายอย่างที่นักวิชาการประมงนั่งเทียนเขียนกัน และถ้าจะบรรเทาพิษแมงดามีเพียงต้นรางจืดเท่านั้นครับที่พอจะบรรเทาพิษได้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท