กระบวนการพัฒนาจิตปัญญา ช้าลงคือเร็วขึ้น


เวทีแรกผ่านไปแล้วด้วยความสุขใจ ผมกลับกรุงเทพฯ ด้วยใจที่เป็นสุข อิ่มเอิบ ไม่ปรากฏความเหนื่อยจากการกรำงานทั้งสองวันหลงเหลืออยู่เลย บนเครื่องบินผมนั่งทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสองวันที่หาดใหญ่ ทำให้ผมยิ้มให้กับตัวเอง...และคิดว่าผมช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้มาร่วมรับรู้สิ่งดีๆเหล่านี้ด้วยตัวเอง ชั่วโมงกว่าๆ ถึงสนามบินดอนเมือง ผมก็ยังรู้สึกว่าตัวผมเบาๆมีความสุขครับ

ตลอดระยะเวลาสองวันที่อยู่ที่หาดใหญ่ (วันที่ ๖-๗ สิงหาคม ๒๕๕๑) เพื่อทำหน้าที่วิทยากรกระบวนการ (Facilitator)  ในเวทีพัฒนากระบวนการเรียนรู้จิตปัญญา พื้นที่ภาคใต้ ผมได้สังเกตผู้เข้าร่วมล้อมวงคุยเรื่องเล่า ผมเห็นทุกคนมีส่วนร่วมทั้งอารมณ์และความพึงพอใจ โดยผู้เข้าร่วมทั้งหมดอยู่ในเวทีตลอดตั้งแต่เริ่มจนจบกระบวนการ

ผมคิดว่า การที่คนเราจะมานั่งฟังเรื่องราวคนอื่นโดยใช้เวลายาวนานนั้น ทำได้ยาก และหากจัดการเวทีได้ไม่ดีก็น่าเบื่อ แต่การเล่าเรื่องจิตอาสาทุกคนจดจ่อกับสิ่งที่ได้รับฟัง เราต่างมีความปราโมทย์- ปีติ ชื่นชมในความดีงามของกันและกัน

โจทย์ที่ มูลนิธีสดศรี สฤษดิ์วงค์ ให้มาคือ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการพัฒนาจิต ถอดบทเรียน เรียนรู้จิตอาสาในตัวคน สร้างแผนที่ความดี และเรียนรู้การแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ของบุคคลและองค์กร  ทางแผนงานพัฒนาจิตเพื่อพัฒนาจิตระยะที่ ๒  ตั้งสมมุติฐานไว้ว่าบทเรียนเหล่านี้จะช่วยสร้างกิจกรรมที่คนส่วนใหญ่ในประเทศเข้าถึงได้แม้ว่าเราไม่ได้ลึกซึ้ง ทำความเข้าใจกับสุขภาวะทางด้านจิตวิญญาน ที่ประกอบไปด้วย มิติด้านคุณค่า(values)  จริยธรรม(ethics)  อุดมการณ์(idealism)  และเสรีภาพของความเป็นมนุษย์(freedom) และสุขภาวะทางจิตวิญานนั้นไม่ได้เกิดขึ้นด้วยตนเอง หากเกิดขึ้นในกระบวนการพัฒนาจิต อย่างมีพัฒนาการ สร้าง สะสม ตกผลึกจากทุนที่มีอยู่ หมายถึงรากฐานอันแข็งแรงของความดีงามที่เป็นทุน

และกิจกรรมที่เกิดขึ้นในเวทีที่ภาคใต้เป็นการเรื่องราวความเป็นมาของพัฒนาการก่อนที่จะเปลี่ยนวิธีคิด "ทำเพื่อคนอื่น" เหมือนอย่างที่ผู้เข้าร่วมเวทีทั้ง ๖ โรงพยาบาลในภาคใต้ได้ทำ พวกเขาผ่านเรื่องราวต่างๆมาอย่างน่าสนใจ และการก้าวผ่านของพวกเขาแสดงให้เห็นถึง กลไกการปรับเปลี่ยนวิธีคิดเชิงบวกจากข้างใน  เป็นคีย์เวิร์ดที่ผมต้องการให้ผู้เล่าเรื่อง อธิบายให้เห็นแบบละเอียดให้เห็นถึงความลึกของกระบวนการพัฒนาจิต

ด้วยวิชาชีพทางด้านสุขภาพ ที่มีโอกาสได้รับรู้สุขทุกข์ของเพื่อนมนุษย์ พวกเขามีโอกาสที่จะได้พัฒนาจิตสม่ำเสมอ นำไปสู่ ระบบการแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ (Humanized health care) : HHC ช่วยให้เราเข้าใจความเป็นองค์รวม (Holistic Care) มากยิ่งขึ้น เห็นความสำคัญของการมองผู้ป่วยเป็นคนทั้งคน และเห็นความสำคัญของความสามารถที่จะสัมผัสทุกข์ของผู้ป่วย เมื่อระบบการแพทย์มีมุมมองต่อคนป่วยตามความสามารถเหล่านี้ หมายถึงการเข้าไปรับรู้ว่าคนอื่นเขาคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร และนำไปสู่ความเห็นอกเห็นใจกันในที่สุด

ที่ภาคใต้  ผู้เข้าร่วมเวทีส่วนใหญ่ ๙๕ เปอร์เซนต์ มีจุดเริ่มและจุดเปลี่ยนจาก "บาดแผลในใจ" และ "สถานการณ์วิกฤติในพื้นที่" ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ยากต่อการทำใจให้ยอมรับ แต่พวกเขาต้องอยู่กับสถานการณ์วิกฤติให้ได้ พร้อมๆกับแปรพลังลบเหล่านั้นมาพัฒนาจิตเชิงบวก ส่งผลให้เกิด "จิตอาสา" และพร้อมที่จะทำเพื่อคนอื่น เมื่อคนอื่นมีความสุขนั่นหมายถึงพวกเขามีความสุขเช่นกัน บรรยากาศในวงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เราได้เรียนรู้การรับฟังเชิงลึก (Deep listening) เพื่อซึมซับเอาความรู้สึกที่ดีที่ทุกคนมีอยู่ ซึ่งการเรียนรู้แบบนี้จะทำให้เกิดความรักความเมตตา มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม และเป็นการร่วมสร้างสังคมพื้นฐานปัญญา (Wisdom-Based Society)

ในการเตรียมตัวของการทำกระบวนการของวิทยากรกระบวนการ ต้องละเอียดทั้งความคิดและกิจกรรมที่จะเอื้อให้เกิดการแลกเปลี่ยนอย่างมีความสุข นับว่าเวทีลักษณะนี้ท้าทายความสามารถของผมเป็นอย่างยิ่ง แต่ผมก็ไม่ได้เครียดมาก ทุกอย่างขับเคลื่อนไปอย่างเป็นธรรมชาติ เราต้องศึกษาธรรมชาติของทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว ผมเน้นความง่าย ความงาม และสอดคล้องกับจิตวิทยาพื้นฐานของมนุษย์  ความสบายใจของผมจึงถูกถ่ายทอดออกมาในกระบวนการ ทุกคนก็รับรู้ได้...

มีบางท่านถามว่า ทำไมเราใช้กระบวนการ KM มาใช้ในประเด็น “จิตปัญญา” ??

เรื่องของจิตเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การเปลี่ยนวิธีคิดของบุคคลก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนไม่ต่างกัน  

ดังนั้นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนที่เราถ่ายทอดสู่กันและกันนั้น จำเป็นอย่างยิ่งต้องสร้าง “บรรยากาศ” ของการเรียนรู้ที่เหมาะสม เป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายมีความสุข ความรู้สึกว่าทุกคนเท่าเทียมกัน และสิ่งที่ทุกคนเล่านั้นเป็นเรื่องราวที่มีความสำคัญที่สุด

ผมบอกให้ทุกคนในเวทีว่า เป็นเรื่องยากมากที่เราจะมีโอกาสได้มานั่งฟังเรื่องราวดีๆเหล่านี้จากปากของผู้เล่า เราไม่มีพื้นที่แบบนี้ แต่วันนี้เรามีขอเราช่วงชิงโอกาสแห่งการพัฒนาจิตตรงนี้ให้เต็มที่ขอให้เวทีนี้ เป็นเหมือนโอกาสในการปฏิบัตธรรม ชำระจิตใจให้ผ่องแผ้วด้วยเรื่องราวดีๆ จรรโลงใจ ทั้งผมและผู้เข้าร่วมต่างจดจ่อสมาธิกับเรื่องเล่า เรื่องแล้วเรื่องเล่าอย่างมีความสุข

ทั้งหมดคือคำตอบว่า ทำไมเราถึงใช้ กระบวนการ KM มาใช้สำหรับการดึง-ถอด บทเรียนที่ซ่อนในตัวคนออกมา

มีผู้ที่สงสัยถามต่อว่า หากต้องการผลลัพธ์แบบนี้แล้วน่าจะทำ การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) ดีกว่าหรือไม่?  ผมตอบว่า ทำได้และเราก็ได้กระบวนการแบบละเอียด แต่ กระบวนการเรียนรู้ร่วมกันนั้นไม่เกิด ผมคิดว่ากระบวนการเรียนรู้ที่จะผนึกลงในหัวใจของทุกคนคือ การได้ชื่นชมยินดีร่วมกัน(AI : Appreciative Inquiry) คุณค่าที่เกิดขึ้นควรจะเป็นคุณค่าร่วม(Common values) และผมยังเชื่อว่าเราได้เปลี่ยนแปลงภายในตลอดเวลาจากข้อมูลที่ได้รับ

กระบวนการเหล่านี้ พัฒนาแบบช้าๆ แต่ผมเชื่อส่วนตัวว่า “ความช้า” คือกระบวนการปกติของพัฒนาการทางจิต เมื่อไหร่ก็ตามที่ผลผลึกของปัญญามากเพียงพอ พัฒนาการทางจิตและปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว...มองโลกด้วยปัญญาที่รู้ความจริง และด้วยใจที่กว้างขวางและรู้สึกเกื้อกูล เป็นกระบวนการวิวัฒน์ทางปัญญาและพัฒนาการขั้นสูงของสุขภาวะทางจิตวิญญาน

เวทีแรกผ่านไปแล้วด้วยความสุขใจ ผมเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยใจที่เป็นสุข อิ่มเอิบ ไม่ปรากฏความเหนื่อยจากการกรำงานทั้งสองวันหลงเหลืออยู่เลย บนเครื่องบินผมนั่งทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสองวันที่หาดใหญ่ ทำให้ผมยิ้มให้กับตัวเอง...และคิดว่าผมช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้มาร่วมรับรู้สิ่งดีๆเหล่านี้ด้วยตัวเอ ชั่วโมงกว่าๆ ถึงสนามบินดอนเมือง ผมก็ยังรู้สึกว่าตัวผมเบาๆมีความสุขครับ

 


 

ถอดบทเรียน "จิตปัญญา" ภาคใต้

บันทึกที่เกี่ยวข้อง



ความเห็น (35)
  • ตามมาอ่านครับ
  • สบายดีไหมครับ
  • งานเยอะจัง
  • รักษาสุขภาพด้วยนะครับพี่ชาย

"การทำงานคือการปฏิบัติธรรม" 

ขอหยิบเอาคำคมๆจาก ท่านพุทธทาส มาฝากด้วยครับ

ขอบคุณครับน้องชาย ครูโย่ง หัวหน้า~ natadee  ผมสบายดีและงานเยอะครับ หลากหลายดีไม่เว้นแม้แต่วันหยุด แต่โชคดีครับที่ได้ทำงานและเป็นโอกาสที่ผมได้เรียนรู้ด้วย

ขอบคุณมากครับสำหรับความห่วงใยที่อบอุ่น :)

ผมรู้สึกดีและมีกำลังใจ

 

สวัสดีค่ะคุณจตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

  • แวะมาเก็บเกี่ยวความรู้
  • กระบวนการพัฒนาจิตปัญญา ช้าลงคือเร็วขึ้น ???
  • ..ข้อคิดดี ๆ อย่างนี้
  • แล้วจะแวะมาบ่อย ๆ
  • ขอบคุณค่ะ

การสะท้อนจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมผ่านกิจกรรมต้นไม้แห่งการเรียนรู้

เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หาดใหญ่ ครั้งที่1 (6-7 ส.ค. 51)

โดยให้ทุกคนเขียนข้อความบนกระดาษรูปใบไม้ ดอกไม้ และผลไม้

-------------------------------------------------------------

 

ใบไม้=ความรู้สึก

  • ประทับใจ
  • รู้สึกยินดีที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม ดีใจที่มีโอกาสดีๆ
  • ยินดี ดีใจ & สุขใจ จริงๆ
  • ยินดีที่ได้รู้จักคนดีๆๆๆ
  • มีความสุขมากที่ได้มาร่วมกิจกรรม
  • ดีใจที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม
  • ความรู้สึกดีที่มีคนที่เหมือนเราและดีกว่าเรา
  • ความรู้สึกดีๆ ในทุกอย่างที่เกิดขึ้น
  • ความรู้สึกดีของทุกคน
  • มีความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ได้ระบายความรู้สึก
  • ได้ระบายความรู้สึก
  • อิ่มใจ

 

 

 

ดอกไม้=ความรู้ที่ได้รับหรือสิ่งที่เรียนรู้

  • พื้นฐานชีวิต ความคิด ความรู้สึก
  • การจัดการกับอารมณ์
  • การจัดการความรู้สึก
  • การจัดการกับสิ่งร้ายๆ ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
  • ความรู้ในเรื่องการจัดการเกี่ยวกับความคิด
  • กระบวนการคิดพัฒนาจิต
  • การทำงานด้วยใจ ผู้นำที่ดี ประสบการณ์ดีๆ
  • ความพัฒนางานกระทำงานของทุกโรงพยาบาล
  • ได้รู้การทำงานในพื้นที่ด้วยความเอาใจใส่เสมือนญาติ
  • ความรู้ที่ได้รับ ความเสียสละของผู้อื่น ความมุ่งมั่นของคนอื่น
  • ประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลาย การปรับเปลี่ยนมากมายเรื่องราว
  • ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองไม่รู้
  • การทำกลุ่มของ KM

 

 

 

ผลไม้=การนำสิ่งที่ได้เรียนรู้นี้ไปใช้

  • ทดลองการจัดการความรู้สึกแบบต่างๆ
  • นำไปใช้ แก้ปัญหาที่พบเจอ
  • เอางานของทุกโรงพยาบาลไปพัฒนาของตนเอง
  • นำไปขยายผลโดยกระตุ้นให้น้องๆที่ทำงานเห็นถึงความมุ่งมั่นของคนทำงานที่เราได้รับทราบจากการมาครั้งนี้
  • พัฒนาจิตตนเอง+ คนรอบข้าง
  • นำไปปรับใช้กับตัวเองและกระจายไปผู้อื่นเรื่อยๆ
  • ถ่ายทอดประสบการณ์ทำงานของหน่วยงานอื่นให้น้องที่ทำงานอยากทำ
  • ตัวเองเกิด พลัง นำไปถ่ายทอดสู่น้องๆ + เพื่อนๆ
  • เข้าใจกันและกันมากขึ้น
  • ใช้จัดการกับตัวเองเมื่อเกิดอารมณ์ที่ไม่ดีตอน moody
  • ใช้ในการพัฒนางาน เป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป
  • มีพลังในการทำงาน
  • กลับมามององค์กรว่าจะเอา story telling ไปเล่าต่อ

ขอขยายความ

การฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening) ในที่นี้หมายถึง

 

๑.     การฟังอย่างมีสติ

๒.    การฟังอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน (ไม่มีตัวกูของกูขณะฟัง)

๓.    การฟังอย่างปราศจากอคติ (ไม่ลำเอียงด้วยรัก/ชัง/หลง/กลัว)

๔.   การฟังด้วยจิตที่ปรารถนาจะฟังความจริงตามที่มันเป็นจริง

๕.   การฟังด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ (ไม่คิดจะจ้องจับผิด หรือจ้องจดจำคำคม)

๖.    การฟังโดยปราศจากการประเมินค่า/ตีความขณะฟัง

๗.  การฟังด้วยท่าทีที่เคารพต่อผู้พูดอย่างจริงใจ

๘.    การฟังตั้งแต่ต้นจนจบกระแสความ

อ้างอิงจาก : http://jennykr.wordpress.com/2008/06/15/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87-deep-listening/

ขออนุญาตนำไปเผยแพร่กับงานของแม่พิมพ์ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

พี่นก NU 11
ครับ

ความจริงแล้ว กระบวนการ "จับจิต ด้วยหัวใจ" แบบนี้ ใช้ได้ในทุกอาชีพ

ผมชมภาพยนตร์เรื่อง "หนึ่งใจเดียวกัน"  แล้วคิดถึงคุณครูทุกท่านครับ

ขอให้กำลังใจแม่พิมพ์ของชาติทุกท่านครับ

สพท.กำลังจัด อบรม KMและการใช้บล็อก ให้กับคุณครูทุกๆคนค่ะ

ใบไม้=ความรู้สึก

ดอกไม้=ความรู้ที่ได้รับหรือสิ่งที่เรียนรู้

ผลไม้=การนำสิ่งที่ได้เรียนรู้นี้ไปใช้

กิจกรรมต้นไม้แห่งการเรียนรู้นี้ เป็นกิจกรรมที่น่านำไปปรับใช้มากค่ะ

วันที่ 29 - 31 นี้ มา กับ นักศึกษา สสสส 1 หรือเปล่า

พี่นก-NU 11

กิจกรรมต้นไม้แห่งการเรียนรู้ เป็น AAR. ฉบับย่อและ ช่วยสรุปการถอดบทเรียนในเวลาที่จำกัด

ใช้ได้ดี สนุกและเหมาะกับคนจำนวนมากครับ

ใบไม้=ความรู้สึก

ดอกไม้=ความรู้ที่ได้รับหรือสิ่งที่เรียนรู้

ผลไม้=การนำสิ่งที่ได้เรียนรู้นี้ไปใช้

 

สวัสดีครับ บังยุบ ครับ

ผมเดินทางมาเพื่อเก็บข้อมูลในพื้นที่ล่วงหน้าแล้วครับผม..เพื่อความเรียบร้อยของกิจกรรมทั้งหมด ต้องเตรียมงานแบบละเอียด

แล้วเจอกันครับบังครับ

๑.     การฟังอย่างมีสติ

๒.    การฟังอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน (ไม่มีตัวกูของกูขณะฟัง)

๓.    การฟังอย่างปราศจากอคติ (ไม่ลำเอียงด้วยรัก/ชัง/หลง/กลัว)

๔.   การฟังด้วยจิตที่ปรารถนาจะฟังความจริงตามที่มันเป็นจริง

๕.   การฟังด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ (ไม่คิดจะจ้องจับผิด หรือจ้องจดจำคำคม)

๖.    การฟังโดยปราศจากการประเมินค่า/ตีความขณะฟัง

๗.  การฟังด้วยท่าทีที่เคารพต่อผู้พูดอย่างจริงใจ

๘.    การฟังตั้งแต่ต้นจนจบกระแสความ

  • ขอนำความรู้จากบทเสริมเรื่องการฟังไปใช้ด้วยคนครับ
  • อ่านแล้วนึกถึงพุทธสุภาษิตบทนี้หนึ่ง ไม่รู้จะเกี่ยวกันหรือเปล่า
  • สุสูสัง ละภะเต ปัญญัง  ฟังให้ดี จะเกิดปัญญา
  • ไม่เพียงแค่หู แต่ฟังด้วยใจ ให้ถึงใจ-เข้าใจ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับครูข้างถนน / ขุนเขา ฯ

นอกจากความรู้เรื่องการฟัง...ความรู้อื่นๆที่ผมนำมาแลกเปลี่ยนหากมีประโยชน์นำไปใช้ แล้วนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับผม

การรับฟังเชิงลึก (Deep listening) เป็นการเปิดโลกทัศน์ของเรา

ชอบประโยคที่ครูเขียนครับ

"ไม่เพียงแค่หู แต่ฟังด้วยใจ ให้ถึงใจ-เข้าใจ"

:)

ขอบคุณครับ คุณสีตะวัน

ยินดีต้อนรับ สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้นะครับผม ผมเองได้เขียนมาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ถอดบทเรียนเล็กๆในการทำงานแต่ละครั้ง บางครั้งก็ละเอียดอ่อนตามเนื้อหาของงาน บางครั้งก็แข็งๆตามบริบทเช่นกันครับ

ขอบคุณมาก ที่มาเยี่ยม และเรียนรู้ร่วมกันครับผม

ขอบคุณครับ ครูนอกระบบบ้านโต้น

ยินดีต้อนรับสู่โลกของมิตรภาพและความรู้ครับ

----------------------------------------------------------------

ในวงการของการศึกษา มีเเง่มุมดีๆมากมาย อยากให้กำลังใจคุณครูในการบันทึกสิ่งดีๆเหล่านั้นออกมาเผยแพร่และแลกเปลี่ยนครับ อ่านเพิ่มเติมในบันทึก หมู่บ้านครูสอน KM นวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาระบบการศึกษาไทย

แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ....พัฒนาปัญญา เสริมสร้างคุณค่าให้กับสังคม

 

น่าสนใจมากค่ะ จะตามมาเรียนรู้เย็นนี้ค่ะ

ยินดีครับพี่ แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช     แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ประเด็น HHC. -(Humanized health care ผมคิดว่าพี่แก้วน่าจะมีมุมมองตรงนี้ได้ชัดเจนเลยทีเดียวครับ

 

ให้กำลังใจในการสอบวันนี้ด้วยครับ

  • ขออนุญาตเสริมว่า เวลาเรา "ฟัง" มันเหมือนกับว่า เราเป็นผู้รับสารนะครับ แต่จริงๆผู้ฟังเป็นทั้งผู้รับและผู้ส่งสาร คือมันเป็นการสื่อสาร เป็นปฏิสัมพันธ์
  • เข้าใจเอาเองแบบงูๆปลาๆนะครับ ว่า deep listening เป็นการฟังที่ส่งผลต่อดุลยภาพของอำนาจ คือเป็นการทำให้อำนาจของแต่ละฝ่าย (หมายถึงผู้ฟัง และผู้เล่า) มีความสมดุล หรืออย่างน้อย เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้อง (hamony) กัน ทำให้เกิดการรวมเป็นพลัง จากนั้น สุดแต่ว่าจะมีใครเอาพลังนี้ไปใช้อย่างไร จะเอาไปสร้างหรือทำลายโลกก็ได้ แต่ต้องมีเจ้าภาพจัดการ
  •  การวัดผลในขณะจัดเวทีก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนะครับ แต่ถ้าจะให้ดีก็ทำต่อเนื่องไปเลย คือติดตามดูว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันของกลุ่มหรือไม่ อย่างไร แต่ต้องใช้มือดี และใจที่เหนียวแน่นกับงานอย่างนี้ และยังต้องพัฒนาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
  • เนี่ย ถ้าผมเป็นกรรมการผู้อนุมัติงบล่ะก็ คุณเอกคงรับงบไปทำเรื่องนี้อย่างน้อยสามปีแน่นอนครับ :-)

ขอรายงานตัวในฐานะส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เป็นที่น่ายินดีจริงๆ ที่ได้ทำงานนี้ หลังจากวันนั้น ฝนได้นำผลที่ได้บางส่วนจากเวที เป็นผลไม้ที่ทุกๆ ช่วยกันเติมถ้อยคำลงไป ถอดคำเติมความคิดของตัวเองลงไปอีกหน่อย ผลไม้ที่พี่เอกเขียนด้านบน ฝนขอเติมเป็น ตะกร้าใหญ่ให้ทุกๆ ได้ชิมได้ชม ต่อไปนี้นะคะ

 

         การนำสิ่งที่ได้เรียนรู้นี้ไปใช้ เป็นการสะท้อนถึงความรู้สึกที่แสดงถึงการเรียนรู้ทั้งพลังกายและพลังใจของผู้เข้าร่วมกลุ่มทุกคน สิ่งที่ได้เรียนรู้สามารถจัดเป็นสามกลุ่มใหญ่คือ 1.นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปพัฒนาตนเอง 2.นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปพัฒนางาน 3.นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปถ่ายทอดสู่ผู้อื่น การนำสิ่งที่เรียนรู้ไปพัฒนาตนเองเป็นการพัฒนาด้านอารมณ์และความรู้สึก พัฒนาจิตของตนเอง และปรับใช้ในการจัดการอารมณ์ของตนโดยเฉพาะในยามที่ขุ่นมัว การเรียนรู้เรื่องการจัดการอารมณ์ของตนเองผ่านเรื่องเล่าของคนอื่น ทำให้เห็นถึงแรงผลักที่ยิ่งใหญ่ ที่จะส่งต่อพลังนี้ไปยังพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่ทำงาน เป็นการกระตุ้นทั้งตนเองและคนอื่นได้ในขณะเดียวกัน น่าปลื้มใจเหลือเกินว่าการฟัง มากกว่าพูด ทำให้เข้าใจกันและกันได้มากขึ้น

         หลายคนเขียนถึงการนำไปใช้ในการพัฒนางานเป็นการสะท้อนถึงผลงานที่สวยงามมาก การถ่ายโอนความรู้ทางคำพูดนี้ทำให้เห็นรายละเอียดเป็นขั้นเป็นตอน เห็นอารมณ์ของผู้เล่าได้ชัดเจน การขยายผลที่จะเกิดขึ้นในโรงพยาบาลต่างๆ จึงเป็นผลงานที่หลายคนเฝ้ารออย่างชื่นชม

         สิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เป็นการเรียนรู้เรื่องกระบวนการการเล่าเรื่อง มีหนึ่งข้อความเขียนว่าจะนำวิธีการนี้ไปใช้ต่อ จึงเป็นเรื่องที่ทำง่าย ใช้ง่าย และคาดว่าจะได้ผล เพราะสำหรับตนเองแล้วมีหลายคนถาม ว่าจะเล่าไปถึงเมื่อไร แล้วเล่าแล้วจะเห็นผลอย่างไร สิ่งที่ตนเองคิดและเชื่อนั้นว่าการพัฒนาจะต้องค่อยเป็นค่อยไป การซึมซับและเรียนรู้ก็เช่นกัน คงต้องให้เวลานานกว่าจะเห็นผล แต่ก็แอบหวังว่าคงจะไม่นานจนเกินไป

พี่ยอดดอย

งานนี้มีการประเมินอยู่หลายส่วน ซึ่งในความเป็นจริงประเมินยาก และมองในระยะสั้นว่าไม่น่าจะประเมินได้ด้วยซ้ำไป แต่ผู้ให้ทุนต้องการประเมินเราก็ต้องประเมิน (เป็นคนที่ทำงานที่ดี)

ผมไม่เชื่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นฉับพลัน เพราะเมื่อดำรงอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งก็หายไปเมื่อสถานการณ์นั้นคลายความเข้มข้นลงไป

ผมเคยเปรยๆเรื่องนี้ กับหมอสกล Phoenix อารมณ์ประมาณแบบนี้

http://gotoknow.org/blog/phoenix-mirror/202029#793879

ทุกอย่างคือการเรียนรู้ และผมก็คิดว่า เมื่อเราเรียนรู้ร่วมกันต้องให้เกียรติกัน รอคอยผลที่จะเกิดขึ้นด้วยความเข้าใจ

ขอบคุณครับที่พี่มาเติมเต็มรายละเอียด หากพี่เป็นผู้อนุมัติงบเพื่องานนี้ พี่อาจต้องใจกว้างๆนะครับ เพราะผมดื้อเหลือเกิน :)

ขอบคุณครับ

 

อ.น้ำฝน

ต้องขอบคุณที่มาช่วยเติมรายละเอียด มุมมองของคนทำงานร่วมกันครับ

เรื่อง กระบวนการทำงานต่างๆของ การถอดบทเรียนจิตปัญญา ผมไม่ห่วง เพราะงานเหล่านี้เราสามารถทำได้ ไม่ยากนักและก็มีความสุขที่ได้ทำ แต่ยังมีเงื่อนไขบางอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ประสานงานของมูลนิธิกับพวกเราคนทำงาน ทำให้ผมไม่ค่อยมีความสุขนัก

วันที่ ๔ ก.ย. ที่จะถึงนี้ผมคงต้องพูดถึงจุดยืนและกระบวนการทำงานในที่ประชุมให้ชัดเจนครับ

:)

พี่เอกเป็นคนเก่งและมีจิตวิทยาดีมาก ผมนับถือเลยครับ กิจกรรมที่ทำอ่านแล้วรู้สึกท้าทายดีนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้คนทำงาน ที่มากกว่าอุดมการณ์ เพราะสิ่งที่พี่ทำไม่ใช่แค่เพื่อสังคมแต่ผมมองว่ามันคืออนาคตของประชาชาติ ลงใต้เมื่อไหร่ ผมคงได้เจอพี่อีกนะครับ...น้องชาย

พี่เอกเป็นคนเก่งและมีจิตวิทยาดีมาก ผมนับถือเลยครับ กิจกรรมที่ทำอ่านแล้วรู้สึกท้าทายดีนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้คนทำงาน ที่มากกว่าอุดมการณ์ เพราะสิ่งที่พี่ทำไม่ใช่แค่เพื่อสังคมแต่ผมมองว่ามันคืออนาคตของประชาชาติ ลงใต้เมื่อไหร่ ผมคงได้เจอพี่อีกนะครับ...น้องชาย

ขอบคุณมากครับ น้องชายฟูอ้าทเสียงเล็กๆ  ครับ

เป็นการเรียนรู้ครับ ผมเองก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆจากคนที่เข้ามาในวิถีของผมเอง เมื่อผมเดินทางไปข้างหน้า ผมก็ได้โอกาสนั้นเรื่อยๆครับ

คำชมนี้เป็นการให้เกียรติผมมากครับ

กิจกรรมท้าทายมาก ที่ท้าทายมากกว่านั้นคือการจัดการกับ"คน" ที่ต้องใช้วิธีการที่ใจต้องเปิด ใจเย็น อดทน และมีมุมมองต่อปัญหาที่หลากมุม ...

ไม่ว่าปัญหาใดๆก็ไม่ได้ยากกว่าที่เราจะจัดการมีวิธีการแก้ไขปัญหาทุกประเด็นปัญหา แต่วิธีการที่ดีที่สุดนั้นเราต้องเรียนรู้

ผมศรัทธาในวิธีของ ฟูอ้าทเช่นกัน ขอให้น้องชายของผมมีความสุข และมีกำลังใจในการก้าวต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆครับ

พี่ชายครับ

 

สวัสดีค่ะพี่เอก งานเดียวกันเลย...กับงานที่พอลล่าทำ แต่ไม่ได้เจาะลึก เหมือนพี่ ใช้การขยายแนวคิดมากกว่าการเจาะลึก หรือถอดบทเรียน/ ประสบการณ์ ของคนเล่าความดีค่ะ เพราะเวทีแต่ละที่ที่จัดก็ 100 - 200 คน แต่วิธีการที่ใช้เหมือนกันค่ะ คือการฟังอย่างลึกซึ้งค่ะ ทำมาหลายพื้นที่แล้วค่ะ รู้สึกคล้ายๆอย่างที่พี่เป็น แต่คงไม่สามารถพอที่จะอธิบายมาได้เหมือนที่พี่เขียนค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ที่ทำให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติมค่ะ

แวะมาขอนแก่น อย่าลืมบอกนะ

พี่จะพาไปจิบกาแฟหรือจะไปกินส้มตำดีจ๊ะน้องเอก

น้องpaula ที่ปรึกษา~natadee ครับ

ผมจำเป็นต้องเจาะลึกครับ ทั้งในส่วนของกระบวนการที่ผมเขียนมาแล้วบ้างก่อนหน้านี้ และเขียนรายละเอียดกระบวนการคิดในบันทึกนี้

เข้าใจยากแต่หากเราพิจารณาผ่านตัวเราเองแล้ว ผมหมายถึงว่าเราใช้ตัวเราเองเป็นกรณีศึกษา เราพบว่า การพัฒนาจิตที่นำไปสู่จิตปัญญานั้น ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยฉับพลันแต่ใช้เวลายาวนาน และมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน

การทำกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ กระบวนการ KM ก็เป็นเวทีให้ทุกคนได้เล่าความเป็นมาเหล่านั้นออกมา ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากที่สุด ผมเชื่อว่าทุกคนอิ่มเอิบในการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ และเกิดประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนมุมมองต่อกัน...

สิ่งที่ผมเป็นห่วงคือ ความไม่เข้าใจของคนทำงานมากกว่า การทำงานที่เข้าใจแตกต่างและยึดเอาเหตุผลตัวเองเป็นที่ตั้ง มักมองแคบไม่เห็นวิธีการที่หลากหลาย...ส่งผลต่อกระบวนการเรียนรู้ที่เราจัดขึ้นด้วยครับ

ดังนั้นการทำความเข้าใจต่อธรรมชาติของการพัฒนาจิต ส่วนหนึ่ง การทำความเข้าใจต่อคนทำงานส่วนหนึ่ง ล้วนมีความสำคัญต่อการทำงานมาก

กระบวนการของผมก็ต้องแก้ไขในส่วนที่ว่านี้

ขอชื่นชมพอลล่านะครับ

ผมได้อ่านบันทึกการทำงานแล้ว แอบเรียนรู้กระบวนการดีๆจากบันทึกเหล่านั้นด้วย

มีประโยชน์มากๆครับ

ขอบคุณครับ

:)

 

พี่แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช

ทาง ดร.กะปุ๋ม ได้กรุณาแจ้งพี่แก้วได้ทราบ และผมก็ดีใจครับที่จะได้เจอพี่แก้วในโอกาสดีๆที่ขอนแก่น

ผมเดินทางวันที่ ๒ นี้ เที่ยวบินตอนค่ำ(ผมจะเเจ้งอีกที) ถึงขอนแก่นก็คงมืด จองที่พักไว้ที่โรงแรมในขอนแก่น ส่วนอีกวันก็จะเดินทางไป อำเภออุบลรัตน์ เพื่อไปเรียนรู้ร่วมกับ อบต.เขื่อนอุบลรัตน์ ลงพื้นที่และเก็บข้อมูล health Public policy ครับเสร็จแล้วบินกลับ กทม.วันเดียวกัน  หากมีโอกาสดี พี่มีเวลาว่าง เชิญไปเรียนรู้ร่วมกันนะครับ

ขอบคุณพี่แก้วมากครับ ความรู้สึกดีๆที่พี่แก้วบอกมานั้น ดร.กะปุ๋ม ได้ถ่ายทอดถึงผมแล้วครับ ผมรู้สึกมีกำลังใจและมีความสุขครับ

:)

มาเยี่ยม คุณจตุพร

เป็นการทำงานที่มีคุณภาพ คุณธรรมนะนี่

จงก้าวต่อไป ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นนะครับ

กลับมาแล้วจ้า กลับมาทำงานแล้ว พร้อมจะเติมเต็มความรู้แล้วนะจ๊ะ

อาจารย์ ดร.อุทัย -umi

งานที่ทำเป็นวิทยากรกระบวนการครับ...ถือว่าเป็นโอกาสที่ผมได้เรียนรู้ร่วมกับผู้คนที่เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงาม

โอกาสที่ดีนี้ ทำให้ผมได้ขัดเกลาตนเอง ขัดเกลาจิตใจ

ได้กำไรหลายต่อทีเดียวครับ

ขอบคุณมากครับ

ผมมีโอกาสไปสงขลาอีกไม่กี่วันนี้เพื่อไปเปิดเวทีเรียนรู้ต่อเนื่อง

 หากมีวาสนาต่อกันคงได้พบกันนะครับ

:)

น้องต่ายดอกไม้บานในใจเรา

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมบันทึกครับ ตั้งแต่ทราบข่าวอุบัติเหตุของน้องสาวแล้ว ตกใจมาก จนถึงวันนี้้ได้ถือว่าเป็นกุศลนะครับ

ขอให้กำลังใจ ในการสร้างสรรค์งานดีๆเพื่อชุมชนต่อเนื่องไปนะครับ

หากผมไปที่ มช.อีก ในคอร์สการเรียนการสอนนักศึกษาที่นั่น คงได้พบเจอกันครับ

ห่วงใยครับ

:)

 

ขอบคุณกรรณิการ์ วิศิษฏ์โชติอังกูร 
  มากครับ กำลังจะเปิดเวที ๒ ที่หาดใหญ่ อีกไม่กี่วันนี้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท