Recreation In Work


ต้องเอง

Recreation in Work

กิจกรรมนันทนาการ กับการทำงาน และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ 

มาแล้วครับ หลังจากที่อุตสาห์ จองที่เผื่อเอาไว้ก่อนแต่มีเพื่อนๆ มาต่อท้ายกันเพียบโดยที่เรายังไม่ได้ทำเลย คราวนี้ถึงตาผมบ้าง ซึ่งเรื่องที่ตัวผมจะศึกษานั้นก็เป็นเรื่องใกล้ตัวผมมากๆ อย่างน้อยก็ 4 ปีได้แหละครับ คือเรื่อง กิจกรรม “นันทนาการ” ในการทำงาน ที่สนใจทำเพราะมันเป็นเรื่องที่ตัวผมเองเรียนมาตลอด 4 ปีในปริญญาตรี เนื่องจากตัวผมเรียนจบจาก สำนักวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขา นันทนาการศาสตร์ มาครับ ซึ่งรุ่นพี่ และเพื่อนๆ ของผมก็มีที่ได้โอกาสไปทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบุคคล/ฝึกอบรม, ฝ่ายแรงงานสัมพันธ์, สนับสนุนการเรียนรู้ หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพของบุคคล โดยใช้วิชาความรู้ทางด้านนันทนาการศาสตร์เข้ามาประยุกต์ในการทำงานครับ ซึ่งตัวผมอยากนำความรู้(ที่พอมีอยู่บ้าง อิ อิ) มาแชร์กับเพื่อนๆ ครับ โดยในขั้นแรกเราจะมาทำความรู้จักกับคำว่า นันทนาการ(Recreation) กันก่อนนะครับ

ความหมายของนันทนาการ

นันทนาการ (Recreation) เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลและสังคม โดยใช้เวลาว่างหรือเวลาอิสระเข้าร่วมกิจกรรม ในรูปแบบที่หลากหลายตามความสมัครใจและสนใจ นันทนาการมีความหลากหลายประการ พอสรุปได้ดังต่อไปนี้

1.1 นันทนาการ หมายถึง การทำให้สดชื่นหรือการสร้างพลังขึ้นมาใหม่ (Re + Fresh, Re + Creation) เป็นความหมายเริ่มแรกที่ได้มีการอธิบายว่า  การที่บุคคลได้รับประทานอาหารเข้าไปแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงาน โดยแรงขับภายใน  จะทำให้เขาต้องใช้พลังงานในรูปแบบของการเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ  แล้วก่อให้เกิด        การเหนื่อย เมื่อยล้า ดังนั้น บุคคลจึงต้องการนันทนาการเพื่อสร้างพลังขึ้นมาใหม่ หรือสร้างความสดชื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หรือการที่บุคคลมีความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการเพื่อสร้างความสดชื่นและพลังงานขึ้นมาใหม่ในรูปแบบของการเล่น การแสดงออกในด้านกีฬา ดนตรี ศิลปะ งานอดิเรก หรือไปท่องป่า เป็นต้น ถือเป็นนันทนาการ 

1.2 ในความหมายที่สอง มีนักศึกษาและนักสังคมศาสตร์อธิบายไว้ นันทนาการ หมายถึง กิจกรรม (Activities) ซึ่งมีรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลาย การที่บุคคลหรือชุมชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมตามความสนใจของตน แล้วก่อให้เกิดผลการพัฒนาอารมณ์สุข สนุกสนาน และ/หรือสุขสงบ กิจกรรมในที่นี้หมายถึง กิจกรรมประเภทเกม กีฬา ศิลปะ ดนตรี การแสดงละคร การดินทางท่องเที่ยว การอยู่ค่ายพักแรม งานอาสาสมัคร งานอดิเรก กีฬาท้าทาย เป็นต้น        

1.3 ความหมายที่ 3 นันทนาการ หมายถึง กระบวนการ (Process) กล่าวคือ นันทนาการเป็น กระบวนการในการพัฒนาประสบการณ์ หรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลหรือสังคม โดยอาศัยกิจกรรมนันทนาการ ต่าง ๆ เป็นสื่อ ในช่วงเวลาว่าง เวลาอิสระ โดยที่บุคคลเข้าร่วมโดยความสมัครใจ หรือมีแรงจูงใจ แล้วส่งผลให้เกิด      การพัฒนาอารมณ์สุข สนุกสนาน และสงบสุข  

1.4 ในความหมายที่ 4 นันทนาการ หมายถึง สวัสดิการสังคม (Social Welfare) นันทนาการ คือสถาบันทางสังคม สวัสดิการทางสังคม ซึ่งรัฐบาลและฝ่ายบริหารท้องถิ่นจะต้องมีหน้าที่จัดการให้บริการแก่ชุมชน เพื่อสร้างบรรยากาศของเมืองและของประเทศให้น่าอยู่ มีความอบอุ่นใจ เช่น จัดอุทยานแห่งชาติ วนอุทยานแห่งชาติ   ศูนย์เยาวชน สวนสาธารณะ เป็นต้น                  

 ส่วนเนื้อหาที่เหลือของความหมายต่างๆ ของ “นันทนาการ”(Recreation) นั้นผมจะแนบไว้ที่ ไฟล์อัลบั้ม ในไฟล์ที่ชื่อว่า Recreation นะครับ ซึ่งอยากให้ทุกคนไปดูมากๆ ครับ http://gotoknow.org/file/neoindust/recreation.doc

ในตอนนี้คงสงสัยกันแล้วใช้ไหมครับว่า นันทนาการนั้นไปเกี่ยวกับการทำงาน ในตรงไหนบ้าง แง่ไหนบ้าง ซึ่งตัวผมคิดว่าทุกองค์กรนั้นน่าจะมี กิจกรรมนันทนาการ ประกอบในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในการพัฒนาบุคคลขององค์กรอยู่แล้ว หรือไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการให้แก่พนักงานในองค์กร ก็มีนันทนาการประกอบอยู่ โดยผมจะยกตัวอย่างกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรที่มี นันทนาการประกอบอยู่ให้นะครับ 

การปฐมนิเทศพนักงาน

-                   ในการปฐมนิเทศพนักงานนั้น มีจุดมุ่งหมายหลักในการให้พนักงานนั้นรู้จักข้อมูลขององค์กร กฎ ระเบียบ ข้อปฏิบัติต่างๆ ที่ต้องปฏิบัติในองค์กร เนื้องานที่จะต้องปฏิบัติ รวมไปถึงให้รู้จักกับผู้ร่วมงานทั้งที่เข้ามาใหม่ และพนักงานปฏิบัติงานมาก่อน ทั้งในฝ่าย และนอกฝ่าย อันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำงาน ซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีกิจกรรมนันทนาการเข้ามาในการทำกิจกรรม เพื่อเพิ่มความสนใจให้แก่ผู้เข้าร่วมการปฐมนิเทศ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมละลายพฤติกรรม ให้ผู้เข้าร่วมไม่เขินอายต่อกัน และมีโอกาสได้เริ่มทำความรู้จักกัน หรือการเยี่ยมชมทำความรู้จักกับสถานที่ต่างๆ ขององค์กร ก็อาจมีกิจกรรมนันทนาการเข้ามาเพิ่มสีสัน เช่น การจัด Walk Rally ในสถานที่ทำงาน เป็นต้น 

การฝึกอบรม

-                   ในการฝึกอบรมนั้น จะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับการพัฒนาความรู้ ความสามารถในการทำงาน และการพัฒนาบุคคลเป็นหลัก ซึ่งการนำเสนอข้อมูล ความรู้ ส่วนใหญ่จะเป็นการนั่งฟังบรรยาย ซึ่งอาจทำให้ผู้เข้าร่วมอาจเบื่อ หรือให้ความสนใจไม่มาก ดังนั้นอีกวิธีการนำเสนอที่ดีก็คือการนำกิจกรรมนันทนาการมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกอบรม เช่น การปฏิบัติกิจกรรม “เกม” ที่อาจให้ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมนั้น ได้เกิดการตื่นตัว ความสนุก ซึ่งการใช้กิจกรรมเกม มาประกอบนั้นควรให้สรุปถึงแง่คิดต่างๆ ที่ได้จากเกม อันจะนำมาเชื่อมโยงกับ สิ่งที่ต้องการนำเสนอในเนื้อหาของการฝึกอบรมได้ ถ้าการฝึกอบรมไหนมีการบรรยายอย่างเดียว ก็อาจมีผู้ช่วยวิทยากรมาขั้นรายการ และนำกิจกรรมนันทนาการ เพื่อผ่อนคลายผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมก่อนที่จะดำเนินการอบรมต่อ ซึ่งบางทีกิจกรรมนันทนาการจะเป็นสิ่งที่รวบรวม สมาธิของพนักงานก่อนมีการฝึกอบรมก็ได้ 

กิจกรรมประจำปีต่างๆ

-                   การจัดกิจกรรมที่ทำให้พนักงานมีความสุขเพิ่มขึ้นในการทำงาน เหมือนเป็นการทำให้พนักงานที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ได้มีโอกาสพัก และฟื้นฟูตัวเอง เพื่อสร้างพลังขึ้นมาใหม่ หรือสร้างความสดชื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง จะได้กลับไปทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง ตัวอย่างเช่น กิจกรรมปีใหม่ การสัมมนาประจำปีที่มีการท่องเที่ยวรวมอยู่ในโปรแกรม ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยทำให้บุคลากรลืมเรื่องการทำงาน ทำให้ร่างกาย และจิตใจสดชื่นขึ้น โดยตัวผมคิดว่าการที่คนจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่นั้นมาจากการที่ร่างกาย และจิตใจสมบูรณ์พร้อม และยังมีกิจกรรมกีฬาภายใน นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่ทำให้มีโอกาสรู้จักคนในองค์กรมากขึ้น ยังส่งเสริมการทำงานเป็นกลุ่ม พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง พัฒนาการทำงานเป็นทีม หรือส่งเสริมความรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยซึ่งกันและกัน อันจะมีส่วนที่นำไปใช้ในการปฏิบัติงานได้ด้วย 

กิจกรรมพิเศษเพื่อเพิ่มศักยภาพของพนักงาน และองค์กร

-                   กรณีนี้ผมได้ทราบมาจากหน่วยงานหนึ่งว่ามีการรวมกลุ่มตั้งชมรมต่างๆ ในองค์กร โดยเป็นการรวมคนที่มีความสนใจในสิ่งๆ เดียวกันมาพบปะกัน อันจะมีผลให้เกิดการปฏิสัมพันธ์กันในแต่ละฝ่าย ในแต่ละตำแหน่ง เพื่อที่จะมีส่วนในการเพิ่มความเข้าใจในการสื่อสาร ปฏิสัมพันธ์กันในแต่ละฝ่าย และแต่ละคน ยังมีกรณีที่น่าสนใจอีกที่ผมพบมา มีการนำกิจกรรม “เกม” มาใช้ในการพัฒนาคน เช่น เกม “ต่อติด คิดค้น” เป็นเกมที่พนักงานจะนำเสนอกิจกรรมที่จะมีผลต่อการพัฒนาการดำเนินการขององค์กร ซึ่งจะมีการให้คะแนนจากพนักงานทุกคน และมีของรางวัลในการจูงใจพนักงานให้เข้าร่วมในการเล่นเกม และที่กิจกรรม “เกม” ที่ผมได้รู้มาอยากนำเสนออีกก็คือ กิจกรรมเกมเพื่อสะสมคะแนนเพื่อแลกของรางวัล โดยมีเงื่อนไขต่างๆ เช่น การนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่องค์กร, การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างดี โดยมีผู้บริหารเป็นคนให้คะแนนสะสมทันที่ที่เห็น หรือได้พบ, การได้รับคัดเลือกเป็นพนักงานตัวอย่าง เป็นต้น หรือจะเป็นกิจกรรมพิเศษที่รณรงค์กัน เช่น สัปดาห์ความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการทำงาน ซึ่งมีกิจกรรมการประกวดคำขวัญ, ประกวดจัดบอร์ด, แข่งตอบปัญหาสุขภาพ, ซ้อมอพยพหนีไฟ เป็นต้น 

สวัสดิการพนักงาน

-                   จากความหมายของนันทนาการที่ว่า นันทนาการ หมายถึง สวัสดิการสังคม ก็เหมือนกับว่าการที่พนักงานได้มาอยู่ในองค์กร องค์กรก็เปรียบเหมือนสังคมหนึ่ง ฉะนั้นพนักงานก็ควรได้รับสวัสดิการที่ดีจากองค์กรด้วย เช่น การมีห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ ห้องออกกำลังกายรวมถึงกิจกรรมการออกกำลังกาย เช่น แอโรบิค เป็นต้น หรืออาจมีสวัสดิการให้พนักงานทุกคนเป็นสมาชิกของสโมสรกีฬาฟรี โดยที่ตัวผมเคยทราบมาบางองค์กรมีห้องคาราโอเกะให้พนักงานด้วย ไว้ผ่อนคลายความตึงเครียดจากการทำงานของพนักงาน การให้พนักงานมีโอกาสไปศึกษาดูงานต่างประเทศก็เป็นสวัสดิการหนึ่งที่น่าสนใจ และดึงดูดใจพนักงานซึ่งนอกจากไปดูงานแล้วยังมีโอกาสไปท่องเที่ยวอีกด้วย  

หลังจากนี้เพื่อนๆ คงรู้จักคำว่า “นันทนาการ” มากขึ้น ซึ่งกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในองค์กร หรือในการใช้ชีวิตของพวกเราทุกคน กิจกรรมพวกนี้แหละจะมีส่วนช่วยเพิ่ม และสนับสนุนประสิทธิภาพของการทำงานของพนักงานได้อย่างดีเลย ซึ่งเพื่อนๆ ทุกคนก็คงเคยผ่านกิจกรรมเหล่านี้มาบ้างใช้ไหมครับ หรือถ้าเพื่อนๆ คนไหนยังไม่ได้มีโอกาสผ่านกิจกรรมบางอย่างก็สามารถ นำไปใช้ในองค์กรของเพื่อนๆ ได้เลยและหวังว่ามันจะเป็นส่วนเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากรและองค์กรได้จริงนะครับ         แต่กิจกรรมเหล่านี้ก็ล้วนมีเรื่องการเงินงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับนโยบาย และขนาดองค์กรที่จะสามารถจัดกิจกรรมนันทนาการเหล่านี้ได้หรือไม่ เพราะบางกิจกรรมต้องใช้งบประมาณสูงมาก หรือบางกิจกรรมที่พนักงานน้อยเกินไปก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่นกีฬาภายใน โดยทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหาร หรือเจ้าขององค์กรด้วยว่ามีความเห็นอย่างไรกับกิจกรรมเหล่านี้

 อา...จบแล้วครับ สำหรับความรู้ต่างๆ ที่ผมจะนำเสนอให้กับเพื่อนๆ(อาจจะมาเพิ่มเติมนะครับ)  

 ส่วนเพิ่มเติม(ต่อ)

หลังจากที่ได้ทำการไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อยเกี่ยวกับบริษัทที่มีการจัดการแรงงานสัมพันธ์ที่ดีอย่าง KTC ความรู้สึกแรกเลยคืออยากไปเป็นพนักงานที่บริษัทนี้จังเลย หรือไม่ก็อยากทำงานด้านแรงงานสัมพันธ์ของ KTC ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เพราะน่าสนใจ ปนกับน่าสนุกจริงๆ ครับ เดียวเรามาดูตัวอย่างกิจกรรมกันนะครับ

โดยเรามาเริ่มจากแนวทางการทำงานของ HR ในบริษัท KTC กันก่อนนะครับ

เป้าหมาย 5 อย่าง คือ 1. Modern มีความทันสมัย 2.dynamic สามารถปรับตัวให้ทันกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป 3.professional เป็นมืออาชีพ 4.simple เรียบง่ายทั้งวิธีการทำงานและสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ในการทำงาน และ5. fun มีความสนุกสนานในการทำงาน 

จากคำกล่าวของคุณ "มานะ บุญคุณรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC  

“นอกเหนือHR ทั่วไป ซึ่งตามปกติของโครงสร้างงานมี 3 ส่วน คือ 1.งานสรรหา 2.งานพัฒนา และ3.งานรักษาให้พนักงานดีๆ อยู่กับองค์กรนานๆ
       

         แต่สิ่งที่เคทีซีการ์ดเพิ่มเข้ามา คือ ส่วนที่4.ความสนุกสนาน เพราะมองว่าถ้าให้เลือกทุกคนอยากทำงานอย่างมีความสุข เพราะฉะนั้น "นโยบายของงาน HR" ที่นี่ จึงชัดเจนว่า "หน้าที่ไม่แตกต่างจาก HR อื่น แต่มุมมองคือต้องพยายามสนับสนุนให้ทรัพยากรมนุษย์ขององค์กรทำงานให้สำเร็จ ทำงานให้สนุก ไม่เครียด มันค่อนข้างฉีกแนวกว่าคนอื่น เพราะเอชอาร์สมัยโบราณทำตัวเหมือนผู้คุ้มกฎ เป็นยักษ์ที่คอยลงโทษ จับผิด ทำให้พนักงานไม่กล้ามาคุยหรือปรึกษาปัญหา"
       
         "บุคลิกคน HR" โดยเฉพาะทีม "ER" ที่นี่ซึ่งแปลกแหวกแนว จึงเป็นคนสนุกสนาน ใจกว้างพร้อมฟังความคิดเห็น และพร้อมจะเปลี่ยนแปลงเร็ว ตามลักษณะของธุรกิจการเงินที่ต้องปรับตัวเร็ว "ความท้าทายของ HR" ที่นี่ จึงมุ่งมั่นอยู่ที่ "ทำอย่างไรให้ทรัพยากรมนุษย์ขององค์กรมีคุณค่า มีความสามารถเพิ่มขึ้น และเหนือกว่านั้น คือ ทำอย่างไรให้ทำงานอย่างมีความสุข อยากอยู่กันนานๆ ตื่นเช้ามาแล้วอยากมาทำงาน" 

            ซึ่งในส่วนงาน Employee Relation(ER) จะมีหน้าที่หลักในข้อที่สาม และสี่ ซึ่งตัวผมเองคิดว่าสำคัญมากในการที่จะทำให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข และจะนำมาซึ่งการทำงานอย่างเต็มที่มีประสิทธิภาพ และเป็นแรงจูงใจให้พนักงานรักองค์กร อันจะลดปัญหาการลาออกได้มาก สำหรับหน่วยงานที่มีการจัดการทางด้าน ER ที่ดี โดยทาง KTC เองนั้น ได้กำหนดคุณสมบัติของ Employee Relations Team ว่าเป็นการรวมพลคนร่าเริง พร้อมกับความคิดสร้างสรรค์แปลกๆ ใหม่ๆ ที่มาจากความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ส่วนตำแหน่งหัวหน้าทีมนั้นในอดีตก็เคยเรียกเสียงฮือฮาได้เลย เพราะมีชื่อตำแหน่งว่า “Fun Manager” ซึ่งปัจจุบันนั้นเปลี่ยนมาเป็น ER Manager ตามเดิมแล้ว  

ตัวอย่าง กิจกรรมที่ส่งเสริมความสนุกของพนักงานที่ผ่านมา 

กิจกรรม Thanks God it’s Friday

 -          เป็นกิจกรรมที่จัดทุกคืนวันศุกร์ สิ้นเดือน  โดยแล้วแต่เดือนนั้นว่าฝ่าย ER จะจัดเป็นกิจกรรมอะไร ซึ่งที่ผ่านมาก็มีทั้ง กิจกรรมร้องคาราโอเกะ, กินหมูกระทะ หรือเป็นกิจกรรมดูภาพยนตร์ โดยใช้งบทั้งหมดเป็นงบของ ER โดยตรง โดยผู้ที่เข้าร่วมแต่ละครั้งก็เป็นหลักร้อยทั้งนั้น 

และยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่บริษัททั่วไปมีเช่น  การแข่งขันกีฬา, การแข่ง Rally เพื่อสังคม, งานเลี้ยงฉลองปีใหม่ให้กับพนักงาน เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ก็ล้วนเป็นกิจกรรมที่เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับนันทนาการทั้งสิ้น และนอกจากนี้ KTC ยังเน้นการพัฒนาและเพิ่มแรงจูงใจในการทำงานให้แก่น้องๆ นักศึกษาฝึกงาน โครงการ Learn&Earn@KTC ที่มาร่วมงานกับ KTC ด้วย ซึ่งเป็นกิจกรรมนอกเหนือจากการฝึกงานกับ KTC เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต เช่น

 Field Trip1 “คุยกับคุณโชค บูลกุล เกี่ยวกับการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสของฟาร์มโชคชัย

Field Trip 2 “ปลูกป่าให้สัตว์ป่ากับ Mr. Edwin Wiek มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า จ.เพชรบุรี

Field Trip 3 “Fight a Fire : เรียนรู้การป้องกันและเอาตัวรอดจากอัคคีภัยเบื้องต้นกับศูนย์ฝึกดับเพลิงราชประชา อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมนันทนาการ เพื่อเพิ่มความสุข และยังพัฒนาความรู้อีกด้วยนะครับเพื่อนๆ  น่าสนใจมากเลย            

 ในส่วนของ TK park องค์กรของผมเองนั้นก็มีการจัดกิจกรรมนันทนาการเหมือนกัน 

          ดังที่กล่าวตอบ โบว์ ไว้ในความเห็นท้ายๆ นะครับ ว่าภายในองค์กร TK park นั้น การจะจัดกิจกรรมนันทนาการที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ของพนักงาน จะเป็นการวางแผนโดยฝ่าย HR แต่คนที่คิดกิจกรรม และดำเนินกิจกรรมนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายของผมเอง (ฝ่ายกิจกรรม) ซึ่งที่ผ่านมาก็จะมีกิจกรรมดังนี้ 

กิจกรรมปีใหม่

มีการเล่นเกมจับฉลากของขวัญ, ประกวดแฟนซี(ซึ่งผมได้รางวัลด้วยแหละ อิๆ ไปดูได้ที่ HI5 รูปแรกเลย), มีการประกวดการแสดงของแต่ละฝ่าย, การจับของรางวัลพิเศษจากผู้บริหาร (มือถือ,สร้อยทอง) และรวมถึงอาหารยี่ห้อดังที่ให้รับประทานกันอย่างไม่อั้น วันนั้นก็มีความสุขสนุกสนานกันไปทุกคน ซึ่งกิจเหล่านี้ก็ช่วยๆ คิดกันทุกคนละครับ เน้นการเข้าร่วมมากกว่าการแข่งขัน แต่ประกวดแฟนซีนี้ผมหวังรางวัลแล้วก็ได้ด้วย อิ อิ 

กิจกรรมสัมมนาประจำปี            

        จะเป็นการนำเอาพนักงานทุกคนของ TK park ไปท่องเที่ยวที่ต่างจังหวัดกัน 3 วัน 2 คืน โดยเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ของพนักงานในองค์กร กิจกรรมนี้จะเน้น กิน เที่ยว สนุกเท่านั้น โดยกิจกรรมผจญภัยต่างๆ หรือเป็น Walk Rally นั้นเราก็จ้างหน่วยงานอื่นมาทำให้ เพราะต้องการให้พนักงานทุกคนได้สนุกด้วยกัน โดยมีกิจกรรมในช่วงกลางคืนไม่ว่าจะเป็น การกิน และดื่มอย่างไม่อั้น (เช่นเคย) มีการร้องเพลง และไปท่องเที่ยวในจุดต่างๆ ระหว่างทางอีกด้วย โดยจะไปเที่ยวที่ไหน และอยากทำไรก็จะมีการสอบถามความคิดเห็นของพนักงานก่อนทุกครั้ง 

กิจกรรมศึกษาดูงานต่างประเทศ

             จะเป็นการนำพนักงานออกไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับงานห้องงสมุด,กิจกรรมการเรียนรู้ ที่ผ่านมาก็ได้พาไปทั้ง สิงค์โปร์ ดูห้องสมุดแห่งชาติสิงค์โปร์ ,ฝรั่งเศส ศึกษาดูงานพิพิธภัณฑ์ และห้องสมุดชั้นนำของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งที่กล่าวมาหมดนั้น ผมยังไม่เคยได้ไปเลยสักงานเพราะเข้ามาทำงานที่นี้ไม่ทันตอนเขาไปกัน แต่ก็เกือบจะได้ไปญี่ปุ่นกับเขาแล้วเชียว แต่เนื่องจากมีเหตุการณ์ทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องซะก่อนเลยอดไปเลยครับ ฮือๆ  โดยงบประมาณทั้งหมด ทั้งค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าเบี้ยเลี้ยงประจำวัน ทางบริษัทก็เป็นภาระออกให้ทั้งหมด ดีจังแต่ยังไม่มีโอกาสกับเขาเลย  

สรุป 

ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่จะจัดกิจกรรมนันทนาการเหล่านี้ได้ สิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆ นั้นก็น่าจะเป็นความสนใจของผู้บริหาร ว่าให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสุข และสนุกในการทำงานมากน้อยเพียงใดโดยใช้กิจกรรมนันทนาการต่างๆ เป็นเครื่องมือในการพัฒนา เพราะการจะจัดทำกิจกรรมเหล่านี้ล้วนต้องใช้งบประมาณที่มากพอสมควร ซึ่งการมีกิจกรรมที่ส่งเสริมความสุขของพนักงานนั้น “มี” ย่อมดีกว่า “ไม่มี” แน่นอน แต่จะทำอย่างไรให้เกิดขึ้น ให้มีผู้เข้าร่วม และประสบความสำเร็จตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ นั้นก็เป็นหน้าที่ของพนักงานทุกคน โดยเน้นหลักไปที่ฝ่าย HR ที่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมที่ดีเหล่านี้ขึ้นมาๆได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ อย่างแน่นอนครับ

หมายเลขบันทึก: 115765เขียนเมื่อ 31 กรกฎาคม 2007 02:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 12:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (34)

อยากรู้ว่า ถ้าอยากให้มีกิจกรรมพวกนี้ในองค์กร จะต้องมีการจ้าง Specialist เข้ามาเพื่อทำกิจกรรมโดยเฉพาะหรือเปล่า หรือว่าจะทำยังไงให้พนักงานมีส่วนร่วมในเรื่องเหล่านี้อ่ะคะ

 บอกหน่อยนะ อยากรู้ค่ะ

^_^

 

  ..เข้ามาหยอดโดยเฉพาะ ^^  ..อิอิ..

 

ตอนนี้กำลังแก้ไขงานตัวเองอยู่  ไว้แก้เสร็จแล้วค่อยเข้ามาหยอด เอ้ย เข้ามาเม้นท์แบบมีสาระให้นะ

 

  ^^

 

ต้องคะ

    อยากทราบว่า กิจกรรมนันทนาการที่ใช้ในการฝึกอบรมมีการประเมินผลว่าตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่คะ

ขอบคุณค่ะ

ภู่

citrus say:

คุณต้องคะ

อ่านแล้วให้รายละเอียดดี และเรื่องนี้ก็น่าสนใจมาก แต่ยังขาดตัวอย่างอยู่นะ ลองหาข้อมูลองค์กรที่เขาทำกิจกรรมแรงงานสัมพันธ์เยอะๆ อย่าง KTC มาวิเคราะห์กันหน่อยสิคะ ใช้กิจกรรมนันทนาการรูปแบบไหน   แล้ว TK Park ล่ะ ถ้าเราจะนำมาใช้ หรือที่ใช้อยู่มีข้อดี ข้อเสียอะไร มีอะไรต้องปรับปรุงบ้าง

ถ้าเขียนได้ตามนี้ perfect ขอบคุณที่เข้าไปให้ความเห็นของเพื่อนๆ ด้วย ช่วยสร้างบรรยากาศการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สมกับที่อยู่อุทยานการเรียนรู้

เรื่องการทำงาน ผลตอบแทนก็สำคัญ ต้องถามว่างานที่เราทำยังสนุก เป็นสุขอยู่ไหม ถ้า OK ก็อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะคะเรื่องเงินๆ ทองๆ

ตอบเก๋ ก่อนนะ

คงไม่จำเป็นถึงกับต้องจ้าง  Specialist  หรอกครับ เพราะมันคงเปลืองงบเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ยกเว้นถ้าหน่วยงานไหนมีพนักงานมาก มีองค์กรลูก หรือหน่วยงานย่อยเยอะๆ แล้วก็ควรที่จะต้องมีฝ่ายรับผิดชอบงานด้านแรงงานสัมพันธโดยตรงเลย เช่น ธนาคาร หรือ บริษัทที่มีลูกเยอะๆ เช่น RS promotion มีบริษัทย่อย 8 บริษัทเลย ซึ่งการจะจัดกิจกรรมที่ให้หน่วยงาน ฝ่ายงานต่างๆ มา Co กันได้นั้นก็เป็นงานหนักอยู่ก็ควรมีฝ่ายแรงงานสัมพันธ์ เพื่อคอยคิดกิจกรรม ติดต่อประสานงานในเรื่องนี้โดยตรง

 

ส่วนถ้าเป็นหน่วยงานเล็กเราก็อาจจัดตั้งเป็นตัวแทนของแต่ละฝ่ายมาช่วยคิดกิจกรรมกัน ดังเช่น หน่วยงานของผม(TKpark) ก็มีการระดมสมองจากฝ่ายกิจกรรม และฝ่ายบุคคล ช่วยกันจัดกิจกรรมพวกนี้กันนะครับ หรือบางคนในองค์กรมีไอเดียดีๆ ก็ช่วยกันแชร์ได้ โดยอาจเป็นการประชาสัมพันธ์ให้พนักงานช่วยเสนอกิจกรรมที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ในองค์กรกัน

 

ซึ่งเท่าที่ผ่านมาก็มีการแบ่งจัดเป็นฝ่าย จัดเป็นทั้งองค์กรก็มี อย่างงานกีฬาสีนั้น อาจแข่งขันป็นฝ่าย หรืออาจแบ่งคละกันเเต่ละฝ่ายตามสี ทุกสีมีทุกฝ่ายงาน เป็นต้น แต่โดยส่วนตัวแล้ว การแบ่งฝ่ายแบบนี้ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป นะครับ ลองไปคิดดูนะ

ตอบภู่ นะ

การประเมิน นั้น จำเป็นต่อทุกกิจกรรมการเรียนรู้ อยู่เเล้วเนื่องจากนอกจากประเมินว่ากิจกรรมประสบผลสำเร็จหรือไม่ ยังสามารถนำมาปรับปรุงในเรื่องต่างๆ ที่จะทำในอนาคตได้อีก

จะยกตัวอย่างที่ที่เคยทำมาก่อนนะครับ

 

เช่น กิจกรรม ในTKpark นั้นถ้ามีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ เราก็มีการประเมินผล เช่น กิจกรรมดนตรีเพื่อการเรียนรู้ เราก็มีการประเมิน เรื่องสถานที่ ศิลปิน รูปแบบงาน หรือศิลปินที่ท่านสนใจ อยากให้มาแสดง แนวเพลงที่ชอบเป็นต้น ซ่งมันก็สามารถต่อยอดเพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมของเราต่อได้

 

หรือกิจกรรมที่เราออกไปเปิดบูทจัดกิจกรรม ภายนอก TKpark เช่นไปจัดบูท งานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์ เราก็มีการประเมินแก่ผู้มาเยี่ยมชมทำ กิจกรรมที่บูท เช่น เรื่อง กิจกรรมเหมาะสมมั้ย บูทน่าสนใจมั้ย เป็นต้นนะครับ

 

 มีอีกครับ เช่นการจัดค่ายพักแรม หรือการนำทัวร์ท่องเที่ยว ก็มีการประเมินด้าน ยานพาหนะ เวลาทำกิจกรรม กิจกรรมเหมาะสมมั้ย สถานที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร เป็นต้น นะครบ

 

นี้ก็เป็นในส่วนการประเมิน กิจกรรมนันทนาการต่างๆ นะครับ

 

 

เช่นเดียวกัน ถ้ามีการจัดกิจกรรมด้านแรงงานสัมพันธ์ ยั้ย ก็ควรมีการประเมินเหมือนกัน เช่น กิจกรรมปีใหม่

 

เราก็ควรตั้ง จุดประสงค์ของงานเอาไว้เช่น

- พนักงานมีความสุข สนุกสนานในกิจกรรม

- พนักงานได้รู้จักเพื่อนร่วมงานต่างฝ่ายมากขึ้น

- เพิ่มโอกาสสร้างความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้าและลูกน้อง

เป็นต้น โดยอาจมีด้าน สถานที่ อาหาร หรือของรางวัล เพิ่มขึ้นตามแต่ละกิจกรรม

พอจบงานแล้ว เราก็ให้ผู้ร่วมงานประเมินกิจกรรมที่เราทำตามจุดประสงค์ที่เราตั้งไว้ โดยอาจมีคำถามปลายเปิดไว้ให้พนักงานแนะนำ กิจกรรม หรือข้อดีข้อเสียของงานเพิ่มด้วย เพื่อเราจะได้นำมาปรับปรุงกิจกรรมอื่นต่อไปนะครับ

อาจารย์ ส้ม ครับ

เรื่องตัวอย่างผมจะพยายาม หามานะครับ เพราะเรื่องนี้ ที่องค์กรผมเองก็ยังไม่มีฝ่ายนี้โดยตรง

 

จะไปสอบถามคุณแม่ที่เคารพของผมดู เพราะรู้สึกว่าหน่วยงานของแม่ก็จะมีเรื่องนี้อยู่ครบ เเล้วจะรีบเพิ่ม หลังสอบ Stst วันที่ 12 สค. นี้นะครับ อาจารย์ส้ม ตอนนี้ขออ่านหนังสือก่อนนะครับ

 

ชะแว้บบบบบ

เขียนได้ดีมากค่ะ ทำให้เห็นคุณค่าของนันทนาการในหลายด้าน เท่าที่ทราบตอนนี้มีบริษัทที่รับทำฝึกอบรมโดยนำนันทนาการมาเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรพอจะบอก ชื่อบริษัทที่ทำได้ดีได้ไหมคะ

อุไรวรรณ ทองเจริญ ค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอชมก่อนเลยว่า ช่างดูเป็นบันทึกที่มีชีวิตชีวาจังเลยนะคะ :-) ใช้ถ้อยคำที่เป็นกันเอง เข้าใจง่าย ทำให้น่าอ่าน น่าติดตามดี...ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีนะคะ ถ้าองค์การจะจัดทำเรื่อง Recreation in work ให้ความสนใจเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงาน รวมทั้งสังคม ไม่มุ่งแต่งานเพียงอย่างเดียว อย่างนี้ถือเป็นการสร้างให้พนักงานเกิดความผูกพันต่อองค์การอีกทางหนึ่งด้วยนะคะ คงไม่มีใครที่จะปฏิเสธความบันเทิง นันทนาการ หรือสิ่งต่างๆที่ผ่อนคลาย เพราะชีวิตของคนเราทุกวันนี้ ก็มีความเครียดกันเพียงพอแล้ว มีกิจกรรมต่างๆเหล่านี้เข้ามา ถือเป็นการช่วยลดปัจจัยต่างๆที่บั่นทอนสุขภาพลงได้ เพิ่มความฉลาดทางอารมณ์ รวมทั้งเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอีกทางหนึ่งด้วย...สำหรับองค์การตัวเอง ที่ทำงานเก่าก็มีการจัดกิจกรรมต่างๆเหมือนกันค่ะ ในส่วนของการเพิ่มศักยภาพของพนักงานและองค์กรก็จะมีการจัดสัปดาห์ความปลอดภัย มีการประกวดคำขวัญวันแม่ชิงรางวัล แข่งตอบปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด ฯลฯ กิจกรรมประจำปีต่างๆก็จะมี งานวันปีใหม่เหมือนกันค่ะ โดยก่อนหน้านี้ก็จะมีการแข่งขันกีฬาสี เชื่อมสัมพันธภาพ เป็นเวลาประมาณสองสัปดาห์ ก็จะมีกีฬาประเภทต่างๆ แข่งขันเก็บรอบไปเรื่อยๆจนถึงรอบชิงน่ะค่ะ ทุกทีมก็จะสมัครสมานสามัคคีกันดีมาก ก็ประมาณนี้ล่ะค่ะ แต่อยากให้มีกิจกรรมการออกกำลังกายตอนเช้าหรือไม่ก็ตอนเย็นด้วยก็จะดีนะคะ เพราะคนวัยทำงานทุกวันนี้ มักทำงานจนไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย ถ้าบริษัทมีกิจกรรมเหล่านี้ หรือมีโครงการเต้นแอโรบิคเพื่อสุขภาพ ก็จะดีมากๆค่ะ จริงไหมคะ แล้วยังไงจะมาติดตามอ่านต่อนะคะ :-)

อ่านแล้วรู้สึกว่านันทนาการที่คุณต้องเขียนนิ ดีมากเลยทำให้เห็นว่ามันไม่ได้เป็นทางการจนเกินไปมีทั้งกิจกรรมหลายๆอย่างที่ไม่เคยรู้เลย..คิดว่ามีแต่อบรมพนักงาน ปฐมนิเทศพนักงานอะไรประมาณนี้ (เพราะที่ทำงานของเอ๋ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจ แต่เค้าก็กำลังปรับปรุงกันอยู่ค่ะ)

ปล.นันทนาการตอนเรียนกับตอนทำงานนี่มันต่างกันจังเลยเพราะอะไรหรือค่ะ เช่นตอนทำงานมันจะดูเป็นทางการและจะต้องเป็นประโยชน์กับบริษัทเท่านั้นจริงหรือเปล่าค่ะ

มีประโยชน์มากเลยค่ะ 
ชัยยุทธ (ปิค) กลีบบัว

อ่านแล้วไม่เครียดแฮะเรื่องนี้.....อ่านสบายอย่างไม่เครียดเลย............เรื่องนี้ตอนทำรายงาน HRM เรื่องแรงงานสัมพันธ์ได้ไปสัมภาษณ์พนักงานของบริษัทหนึ่งเค้าบอกว่าพวกกิจกรรมสัมพันธ์หรือพวกกิจกรรมนันทนาการของบริษัทเค้าอะก็ดีแหละแต่มันจัดซ้ำๆซากๆ จำเจ เลยไม่ค่อยอยากทำซะเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้เลยคิดว่ามันอาจทำให้วัตถุประสงค์ของการจัดนั้นไม่สัมฤทธิ์ผลเท่าที่ควร พนักงานขาดการร่วมมืออย่างจิงจัง .......ไม่ทราบว่าบริษัทของพวกพี่ๆเจอปัญหาแบบนี้มั่งมั๊ยครับหรือเป็นเฉพาะบริษัทที่ไปทำรายงานมา....แล้วเราจะแก้ยังไงนอกจากให้ HR จัดเปลี่ยนกิจกรรมไปเรื่อยๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่นำมาแบ่งปัน

ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ

 

แล้วจะรีบหาตัวอย่างกิจกรรมแรงงานสัมพันธ์มาให้ดูกันนะครับ

ต้อง

พี่ก็รอต้องแนะนำตัวอย่างกิจกรรมอยู่ค่ะ เพราะต้องหามาเพิ่ม หรือปรับแตงเรื่อยๆไม่งั้นควจะรู้เกสม์กัน และเบื่อนะ

พี่บุป

จริงๆ ก็เคยได้ยินคำว่า recreation มาบ้าง แต่มักนึกไปถึงวิชากิจกรรมสมัยเรียนมัธยม  เรื่องของน้องต้องทำให้ได้มุมมองใหม่ว่ามันสามารถเป็นแนวทางที่นำมาพัฒนาทรัพยากรบุคคลในองค์การเลยนะเนี่ย

สาขาวิชาที่จบมาตอนป.ตรีของน้องต้องดูน่าเรียนดีจังค่ะ  "นันทนาการศาสตร์" (ตอนเราเรียน สมัยนานมาแล้ว ไม่เห็นมีมั่งเลย^^)

พี่แป๋ม

 

ต้อง แกจะเป็นคนสุดท้ายในวันนี้นะที่จะMent เหนื่อยมาก ก็อ่านแล้วเห็นด้วยกะปิคนะว่า ไม่เครียดเลย มีส่วนของข้อมูลมาร่วมนะ คือว่าถ้าพูดถึงนันทนาการเป็นการที่ทำให้พนักงานเปรียบเสมือน Refresh นะ พี่ว่า KTC น่าจะเป็นกรณีตัวอย่างที่ดีมากเรื่องนี้ เพราะเคยอ่านบทสัมภาษณ์ คุณ นิวัติ จิตตาลาน ผู้บริหารมานะเขาว่า(จาก GM Magazine)  นโยบายเขาจะไม่มีการบังคับว่าต้องีการแต่งตัวแบบทางการแต่จะรีเล็กซ์มากเหตุผลสุดยอด เขาว่า เพราะงานของเขาเป็นงานด้านCreativeล้วนๆ ดังนั้นถ้าการแต่งตัวคุณยังมาจำกัดกะลูกน้องก็อย่าไปหวังการสร้างสรรค์สิ่งดีๆที่จะไปสู่ลูกค้าได้ แล้วก็ที่ทำงานจะไม่มีที่นั่งประจำเพื่อส่งเสริมการทำกิจกรรมของพนักงานที่มีส่วนร่วมกันมากขึ้น อีกตัวอย่างนะเวลาทำงานเครียดก็สามารถมาเล่นพูลได้ แทงสนุ๊ก ก็ได้นะ แบบประชุมกันไปก็แทงพูลกันไปได้ไม่เกิดความเครียดด้วย แล้วคิดดูสามารถนอนประชุมได้ด้วยนะ สุดยอดเลย ที่สำคัญสุดพี่ว่าทุกอย่างต้องมาจากผู้บริหาร คือ คุณ นิวัติ ใส่กางเกงยีนส์มาทำงานนะคะ เป็นการบ่งบอกว่าเอานโยบายมาจากตัวเองล้วนๆเป็นแบบอย่างไปโดยปริยาย ถ้าในหลายองค์กรสามารถที่จะทำนโยบายที่นำเอา นันทนาการมาประยุกต์ได้อย่างนี้นะเยี่ยมเลย และก็อยากได้กรณีการนำไปใช้กับองค์กรอื่นที่เมรูปแบบเลยมีมั้ย หรือว่า การนำมาใช้รูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ Walk Rally หรือการเล่นเกมส์น่ะ ชอบนะ ไม่ได้ชอบแกนะ หมายถึงชอบเรื่องที่ต้องทำเป็นกำลังใจให้นะ                                        

ปิยา เดชาภิวุฒิ ^^ Chippo

ไม่น่าเชื่อว่า หัวข้อนี้เอามาทำรายงานได้ด้วย ^^ เพราะมันเป็นอะไรที่ดูสบายๆนะ  ไม่คิดว่าจะมีหลักการและทฤษฎีแบบที่ต้องหามา

ที่ร.พ.มีทุกกิจกรรมที่ต้องบอก เช่นการสะสมคะแนนแลกของรางวัล คาราโอเกะ ฟิตเนส กีฬาสี งานปีใหม่ Walk Rally ...ฯลฯ

ซึ่งได้ผลมั๊ยเนี่ย คงวัดเป็นตัวเลขไม่ได้ แต่ทุกกิจกรรมที่ว่ามา พนักงานให้ความร่วมมือดี และดีกว่าไม่มีแน่นอน บริษัทไหนที่ไม่มีกิจกรรมด้านนี้เลย คงจะเครียดกันน่าดู อย่างน้อยกิจกรรมต่างๆที่บริษัทจัดให้พนักงาน ก็แสดงถึงการเอาใจใส่พนักงานได้อย่างนึง ถือว่าเป็นผลทางอ้อมในการซื้อใจพนักงาน ^^

 

 

โบว์ พัชวรินทร์ ภัทรนาวิก

อ่านแล้วเหมือนต้องมาเล่าให้ฟังเองเลยนะเนี่ย 555 เขียนได้ดีมากเลย สมแล้วที่จบมาด้านนัทนาการโดยตรง ไม่เสียชื่อจริงๆ

แต่โบว์สนใจตรงที่ต้องบอกว่าการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเพิ่มศักยภาพของพนักงานแล้องค์กรก็เป็นกิจกรรมนันทนาการด้วย แล้วอย่างนี้ที่ TK Park เนี่ย ฝ่ายนันทนการ กับฝ่ายHRD มีความแตกต่าง หรือมีการทำงานสัมพันธ์กันอย่างไร มีการแบ่งแยกเป็นสัดส่วนเลยมั๊ยว่าเธอเป็นนันทนาการนะ ส่วนชั้นเป็น HRD อะไรงี้อะจ้ะ ยังไงช่วยตอบหน่อยนะจ๊ะ ขอบคุณมากๆสำหรับบทความที่ให้ความรู้+ความสนุกสนานของต้องด้านบนจ้า

ทำงานมาเหนื่อย ๆ พอเห็นหัวข้อนี้แล้ว อยากให้องค์กรของตัวเองจัดบ้างจัง จะได้ Relax เพราะที่ผ่านมาจัดนอกสถานที่ทีไรต้องเน้นเรื่องงานด้วยเสมอ มีกิจกรรมนันทนาการอะไรบ้างไหมคะที่เหมาะกับคนวัยทำงาน (มาก ๆ)อย่างเรา

บุษบงค์ (ยิน : ปี 2)

หวัดดี ต้อง
นายแน่มาก เข้าไปอ่าน และ comment ได้ดีซะทุกหัวข้อเลย
สำหรับเรื่อง Recreation In Work ของต้อง เป็นสิ่งที่พี่อยากให้เกิดขึ้นในบริษัทของพี่มากเลยครับ แต่ทำได้ค่อยข้างยาก เพราะทุกคนต่างมีงานล้นมือ ( ผู้บริหารไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก ) แต่ก็คงเป็นหน้าที่ของ HR ที่จะต้องทำให้เกิดให้ได้ เพื่อเป็นการผ่อนคลายพนักงาน จากที่เคยจัดมานะครับ คือ การฉายภาพยนตร์ และอื่นๆ ในช่วงเย็นวันศุกร์ ก่อนสิ้นเดือน เดือนละครั้ง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากพนักงาน แต่จัดได้อยู่ไม่กี่เดือนก็เลิกไป เพราะสภาพธุรกิจของบริษัทไม่ค่อยดีนัก ซึ่งการที่เราจะมาจัดกิจกรรมนันทนาการ ทำให้ได้รับ feed back กลับมาไม่ค่อยดีนัก จากพวก Sale (หน่วยงานหลักในการหาเงินเข้าบริษัท) จึงเลิกกิจกรรมนี้ไป
จึงอยากขอ idea จากต้อง ว่ามีกิจกรรมอะไรบ้างที่น่าจะเหมาะกับสถานะการบริษัทซึ่งสภาพคล่องไม่ค่อยดี และมีงบประมาณน้อย แต่อยากจะจัดกิจกรรม (เพราะหัวคิดทางด้านนี้ไม่ค่อยมีเลย)
ขอบคุณล่วงหน้า... P' บอย

พี่ต้องคะ

การนำเอานันทนาการมาใช้ในการปรับปรุงบุคคลน่าจะเป็นการทำให้คลายความเครียดได้นะคะ แล้วพอคนเราเมื่อไม่มีความเครียดแล้วก็น่าจะสามารถทำงานหรือออกความคิดสร้างสรรค์ดีดีได้คะ

มีกรณีตัวอย่าง ของดีแทคที่ผู้บริหารคือคุณ ซิคเว่ เบรเก้ ชอบนำเอาการทำกิจกรรมต่างๆมาใช้เพื่อกระตุ้นตลาด โดยเอาตัวเองเป็นต้นแบบในการทำด้านนี้โดยเฉพาะ ทำให้เห็นภาพคะว่าการใช้ส่วนของนันทนาการมาใช้ก็จะเป็นเหมือนสารที่ส่งไปยังพนักงานทุกคนว่า ดีแทด จะทำแบรนด์ให้เป็นแบรนด์ใจดี ภาพลักษณ์ออกมาอย่างนั้นเลย นั่นก็เป็นส่วนที่มีผลโดยตรงต่อ การพัฒนาคนในองค์กรของดีแทค เพราเมื่อผ๔บริหารลงมาทำเองซะแล้วย่อมเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ดีกว่าการประชาสัมพันธ์แบบอื่น

ขอบคุณคะ ที่มีแง่มุมดีดี แบ่งปันกัน

คุณน้องต้อง พี่ขอแนะนำอีกกิจกรรมหนึ่ง ไม่รู้ว่านันทนาการหรือเปล่า แต่ว่าน่าจะถือว่าเป็นกิจกรรมแรงงานสัมพันธ์ได้ คือ กิจกรรมการปฏิบัติธรรม เพราะพี่เพิ่งพาพนักงานไปปฏิบัติธรรมมา ที่วัดป่าสุนันทวนาราม จ.กาญจนบุรี (ทำมาได้ 2 ปีแล้ว) รู้สึกว่าได้ประโยชน์ดีมาก ได้ข้อคิดที่ดีในการทำงาน และการใช้ชีวิตในประจำวัน และถือว่าเป็นการผ่อนคลายหลังจากเหนื่อยจากการทำงานได้ด้วย

ต้อง  เขียนเกี่ยวกับเรื่องนันทนาการ มันดีมากค่ะ ที่สำคัญสนุกด้วย  แล้วเป็นงานที่ต้องกำลังทำและถนัดอยู่ด้วยค่ะ

พี่เอ่

หวัดดีค่ะ..น้องต้อง

  • อ่านแล้วรู้สึกเหมือนคนอื่นๆค่ะ คือ สนุก ไม่เครียด ไม่เหมือนกำลังทำการบ้านเลย อิอิ
  • ที่ทำงานเก่าพี่ก็มีกิจกรรมด้านนี้เยอะเหมือนกัน มีบางรายการที่น่าสนใจ เช่น มีการแข่งขันโอลิมปิคพนักงาน อาจงงว่า โอลิมปิคอะไร ดูจริงจังเชียว มันเป็นการแข่งทักษะในการปฏิบัติงานของพนักงานทุกตำแหน่งค่ะ เช่น พนักงานต้อนรับ(ที่ยืนจดคิว/รับลูกค้าอยู่หน้าร้าน)ก็แข่งด้านทักษะการคุยกับลูกค้า สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีระดับไหน รอบรู้ข่าวสารขององค์กร ลูกค้าถามต้องตอบได้ บุคลิกท่าทาง ยิ้มแย้มแจ่มใส ประมาณนี้ เค้าก็จะคัดเลือกตัวแทนร้าน จากนั้นก็แข่งขันในระดับเขต ระดับภาค ตามลำดับ สุดท้ายก็ไปแข่งชิงแชมป์ระดับประเทศ(ฟังดูโก้หรู) ได้รางวัล+สนุกสนานกันไปทั้งผู้เข้าแข่งขันและกองเชียร์
  • มีกิจกรรมสันทนาการอื่นๆอีกเยอะแยะมากมาย ไว้น้องต้องไปอยู่ แล้วจะรู้เองจ้า!!!!

ก่อนอื่นขอขอบคุณเพื่อนอีกทีนะครับสำหรับความเห็นดีๆ และตัวอย่างกิจกรรมที่เกี่ยวกับนันทนาการ ที่สามารถนำมาใช้ในที่ทำงานได้ บางกิจกรรมผมก็พึ่งได้รู้เนี่ยแหละครับ

 ส่วนคำว่า นันทนาการ กับ สันทนาการ มีความหมายใกล้เคียง จนเกือบเหมือนกันครับ แต่นันทนาการเป็นศัพท์ใหม่ที่พิ่งบัญญัติกันไม่นานมานี้ครับ และมีความหมายที่คลอบคลุมและกว้างกว่าครับ

จะตอบคำถามทีละคนนะครับ

พี่บุป

ต้องจะรีบมาเขียนเพิ่มก่อนเดดไลน์นะครับ สำหรับกิจกรรมตัวอย่างจากองค์กรอื่นๆ

 

พี่เอ๋

บางทีคำว่าเป็นประโยชน์กับบริษัทนั้น บางทีเราเอาแค่คำว่ากิจกรรมนั้นทำให้พนักงานมีความสุข นั้นก็อาจตอบได้แล้วว่า มีประโยชน์กับบริษัทครับ เพราะว่าถ้าพนักงานมีความสุขในการทำงาน หรือมีการผ่อนคลายความตึงเครียดบ้าง มันก็น่าจะเป็นส่วนในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ใช่มั้ยครับ :)

 

ตอบปิคนะ

ใช่อย่างที่ปิคบอกครับ ว่าถ้ากิจกรรมมันซ้ำซากน่าเบื่อมันก็คงเกิดผลที่น้อยลง เราก็อาจเพิ่มความท้าทาย หรือของรางวัลลงไปด้วยก็ได้นะ แต่เราก็ต้องคิดกิจกรรมท้าทายใหม่ด้วยนะ นี้ก็ถือว่าเป็นความท้าทายของส่วนงานแรงงานสัมพันธ์เหมือนกันเนอะ

 

พี่อาฟ

พอดีกำลังหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ด้านแรงงานสัมพันธ์ของ KTC พอดีเลย ได้ประโยชน์มากครับสำหรับแนวคิดนี้ เพราะเราไม่ควรจะไปตั้งกรอบให้พนักงานมากเกินไปมันอึดอัดเนอะ ถ้ากฏมาก ระเบียบมากจัด มันก็จะเป็นส่วนที่จะบีบความคิดเราให้แคบด้วย และเราก็จะไม่สามารถคิดอะไรใหม่ๆ หรือลดพลังการจินตนาการของเราด้วยครับ

ตอบพี่ชิพนะ

ส่วนนึงของกิจกรรมที่ยกมาเล่าก็มาจากโรง'บาล พี่นั้นแหละเห็นแล้วมันน่าสนใจดี เลยนำมาผูกกับข้อมูลของตัวเองเล่าเป็นเรื่องให้ฟังนี้แหละครับ และกิจกรรมที่ว่านั้น มี ย่อมดีกว่าไม่มีแน่ๆ แต่จะทำให้ได้ผลนั้น จะต้องได้รับความร่วมมือที่ดีจกพนักงานทุกคนด้วยแหละ :)

 

โบว์

คงเป็นเพราะว่าต้องใช่ ภาษาพูดเขียนลงไปละมั้ง เลยเหมือนเล่าให้ฟัง 55 ที่โบว์ถามเรื่อง HRD ขององค์กรต้องนั้น ยังไม่มีจ๊ะ เพราะมี HR อยู่สามคน ส่วนใหญ่จะทำเรื่องเงินเดือน การรับคน แล้วก็ประเมินมากกว่า ยังไม่มีเรื่องพัฒนาพนักงานพนักงานเท่าไร ต้องเลยมาเรยนด้านนี้เผื่อที่จะได้นำมาใช้ในองค์กรตัวเองได้บ้าง ส่วนมีการ co กันอย่างไรอย่างเช่นงานปีใหม่ ทางฝ่ายบุคคลเสนอมาให้ฝ่ายต้อง(ฝ่ายกิจกรรม)คิดว่าเราควรจัดรูปแบบงานเป็นแบบไหน ตกแต่งอย่างไร มีกิจกรรมอะไรบ้าง ส่วนคนดำเนินการส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายต้องที่มีหน้าที่เอนเตอร์เทน ทุกคนอะนะ

 

และโดยส่วนของกิจกรรมการเรียนรู้ที่เกิดใน TKpark นั้น พนักงานทุกคนก็สามารถเข้าร่วมได้ฟรีตามความสนใจเลยซึ่งส่วนใหญ่ต้องเองก็จะเข้าไปนั่งฟังนั่งดูอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน แล้วก็มีทำเองบ้างเล็กน้อย เช่นเล่านิทานให้เด็ก เล่นเกมกับเด็กประมาณนี้ เพราะเป้าหมายเราเป็นเด็กอะนะ แต่อย่างดนตรีหรือชมภาพยนตร์ก็มีทุกอาทิตย์ แต่ส่วนใหญ่ทุกคนก็ต้องทำงานกันเต็มหน้าที่เพราะผู้ใช่บริการเยอะสุดๆ เลยวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่ก็อยู่วันเหล่านี้ทั้งหมด แต่มีข้อดีอย่างพนักงานยืมหนังสือไปอ่านเล่นได้ฟรีจ้า แต่ตั้งแต่อยู่มาปีกว่ายืมไปแค่ 2 ครั้งเอง เอื๊กๆ

ตอบพี่ยินนะครับ

 

กิจกรรมนั้นบางทีเราก็สามารถผ่อนคลายด้วยตัวเองได้ครับไม่จำเป็นต้องรอทางองค์กรอย่างเดียว ทำสิ่งที่พี่ชอบทำ และแบ่งเวลาให้กับมันครับ อย่างผมนี้ไม่เคยหอบงานกลับบ้านเลยย เพราะตั้งใจให้มันจบอยู่แค่ที่ทำงาน เวลาหลังจากนั้นน่าจะเป็นเวลาผ่อนคลายของเราแทน ยกเว้นมันด่วนจริงๆ

ส่วนเดียวนี้ผมก็เวลาน้อยลงเหมือนกัน เพราะต้องเรียน และทำรายงานต่างๆ เวลาก็ลดลง แต่ผมก็ให้ความสำคัญกับกิจกรรมนันทนาการต่างๆ ในชีวิตผมมาเป็นอันดับต้นๆ เหมือนกันครับ เพราะเมื่อเราไม่เครียดเราก็น่าจะทำงานได้ดีครับ

 

พี่บอยครับ

บางทีกิจกรรมบางอย่างอาจจะแทบไม่ต้องใช้งบประมาณขององค์กรเลยก็ได้นะครับ เช่น เรานัดกับเพื่อนตั้งชมรมดูหนังทุกวันพฤหัส หรือจัดการประกวดเล็กๆ เช่น ประกวดรูปภาพแสดงสีหน้ามีความสุข และมีรางวัลเล็กร่วมกันแชร์กันสำหรับคนประกวดก็ได้ครับ ประมาณค่าสมัครอะไรอย่างงี้ ครับ

 

ขอบคุณน้องนัน สำหรับความเห็นนะ

ด้านคุณผู้บริหารของดีแทคนี้พี่ว่าเขาเป็นคนไอเดียดีเลยแหละ และหวังว่าเขาจะพูดไทยชัดเร็วๆ นะ เพราะถ้าCEO เป็นคนเอนเตอร์เทนแล้ว ลูกน้องก็คงไม่เครียดกับงานจนเกินไปเนอะ

พี่พิงค์ ครับ

กิจกรรมนี้พี่พิงค์เคยบอกต้อง มันเป็นกิจกรรมนันทนาการเหมือนกันครับ น่าสนใจดีมากๆ เลยครับกิจกรรมนี้ เพราะเป็นการทำให้จิตสงบผ่อนคลายใช้หลักพระพุทธศาสนามาช่วยในการทำงาน(ซึ่งต้องเกือบทำเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน) และยังเป็นการออกนอกสถานที่ที่จำเจ มันจะช่วยเพิ่มพลังชีวิตได้มากเลย อยากรู้เหมือนกันว่ามันมีอะไรในโปรแกรมบ้างครับพี่พิงค์ เปิดใจไปกับธรรมชาติ สายลม แสงแดด โอโซน สมองสดชื่นพร้อมเริ่มงานใหม่ครับ พี่ cool

 

พี่เปิดครับ

อยากไปแข่งโอลิมปิคกับพี่เป็ดบ้างจังครับ เเละอยากเรียนรู้งานด้านนี้เยอะๆหวังว่าสักวันคงมีโอกาสได้ลองงานทางด้านนี้บ้างจัง

 

ปล. พี่เป็ดพูดยังกับต้องได้แล้วเลยครับ เเต่ต้องอยากไปทำจริงๆ นะ อยากเรียนรู้กับองค์กรใหญ่ก่อนเเล้วค่อยมาใช้กับองค์กรเล็ก เผื่อจะได้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานต่อไปเนอะ

อัพเดท เนื้อหา แล้วครับ วันที่ 4 กันยายน เพื่อนๆ ไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะครับ

 

อาจารย์ส้มครับ

เนื้อหาที่โพสลงไปมันเต็มแล้วครับ ถ้าเกินจากนี้ผมโพสต่อในความเห็นได้เลยมั้ยครับ

 

ผมคิดว่าจะวิเคราะห์เพิ่มอีกหน่อยครับ

เพื่อนๆ ครับ บันทึกอัพเดทแล้วครับ วันที่ 4 กันยายน ใครมาอ่านหลังจากวันนี้ สามารถอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ครับ

 

และอย่าลืมแวะ ติ ชม เสนอเเนะเพิ่มเติมได้นะครับ

 

ขอบคุณครับ

 

อาจารย์ส้มครับ

คือเนื้อที่มันเต็มครับ เพิ่มเนื้อหาไม่ได้เเล้ว

 

ผมขอเอาบทวิเคราะเพิ่มเติมมาใส่ในความเห็นได้เลยมั้ยครับ

และรายงานผมควรเพิ่มเติมตรงจุดไหนอีกครับ อาจารย์ส้ม ช่วยชี้แนะด้วยครับบบบบ

 

ขอบคุณครับ

ดีนะคะที่รู้จักเอากิจกรรมสันทนาการมาช่วยเสริมในHRD หนูเห็นด้วยนะคะที่การใช้กิจกรรมมาผ่อนคลายจะทำให้การเรียนรู้และการพัฒนาตัวเองดีขึ้น ดูอย่างพวกเราสิ ถ้าเกิดเรียนกันเครียดๆมากเกินไป ไม่ออกมาเมาท์ออกมากิน สมองมันก็ไม่รับ ส่งผลต่อปฏิกิริยาที่แสดงออกมา จะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ไม่สนุก ก็ไม่รับความรู้อะไรเข้ามา หรือถ้ารับก็ได้ไม่เต็มที่ เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ควรคู่ไปกับการผ่อนคลาย ความสนุกสนาน การเล่น บ้าง ถึงจะดีค่ะ

 

 

 

อีกอย่างหนึ่งคือ น่าจะจัดหัวข้อให้อ่านง่ายกว่านี้น่ะคะ

ต้องคะ

พี่ขอบคุณมากที่ต้องช่วยสร้างบรรยากาศ และเป็นคนที่ตั้งใจเรียนดีคนหนึ่ง ถ้าอยากจะเขียนเพิ่ม จะใส่ลงในความเห็นก็ได้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท