ผู้เขียนกลับมาถึงมหาวิทยาลัยแล้วครับ วันนี้ได้แต่คิดว่า ที่ชาวบ้านเป็นหนี้นั้นเกิดจากอะไร ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า บางหมู่บ้านไฟฟ้ายังไม่เข้า แค่มีเสาไฟตั้ง ปรากฏว่าชาวบ้านบางบ้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว โดยมีคนมาขายอุปกรณ์ไฟฟ้าเงินผ่อน ถามว่าทำไมรีบซื้อ ได้คำตอบว่า เห็นบ้านอื่นๆๆเขามีเลยอยากมีบ้าง เรียกว่าเป็นหนี้ตั้งแต่ยังไม่มีไฟฟ้า
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify">เลยมาคิดตั้งโจทย์เอาเองว่า ถ้าชาวบ้านมีแหล่งน้ำสามารถปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงวัว เลี้ยงไก่ ได้จะเป็นหนี้ไหม มีพี่คนหนึ่งเป็นนายดาบตำรวจ ชื่ออุทัย บอกว่า ถ้าเราไม่หน้าใหญ่ ทำแบบเขารับรองว่า สามารถอยู่ได้ แต่พบว่า ข้าราชการตำรวจก็เป็นหนี้ค่อนข้างมาก แกสารภาพเองว่า เป็นหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal"> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify">เคยมีคนบอกว่า อยากให้บัณฑิตคืนถิ่น ถ้าบัณฑิตคืนถิ่นแล้วมีอะไรให้เขาทำบ้าง เป็นเพราะพ่อแม่ คาดหวังว่า ลูกที่ส่งไปเรียนต้องกลับมาเป็นข้าราชการ เมื่อตำแหน่งน้อยก็ไม่สามารถเป็นข้าราชการได้ ด้วยความที่เด็กอยู่ในกรุงเทพฯหรือเมืองใหญ่ๆๆหลายปี ทำให้ยึดติดกับความสบาย กลับไปบ้านลำบาก อยู่ทำงานที่กรุงเทพฯดีกว่า </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal"> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify">ที่เขียนมานี้อยากบอกว่า ระบบการศึกษาบ้านเราส่งเสริมระบบค่านิยมที่ผิดหรือไม่ เป็นเพราะเราบ่มเพาะความฟุ่มเฟือย ความหรูหรา แต่เราไม่ได้ส่งเสริมให้บัณฑิตเรา มีการต่อสู้กับปัญหา เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา แต่บัณฑิตเราเรียนรู้จากตำราต่างประเทศ การท่องจำ มากกว่า ทำให้เรารู้ไม่เท่าทันกับปัญหาและวิธีการแก้ปัญหา </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify"></p><p align="justify"> เป็นไปได้ไหมที่ทีวีบ้านเรา ไม่โฆษณา ยั่วเย้าให้ซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย แต่ส่งเสริมให้เราประหยัด อดออม เป็นไปได้ไหมที่เราจะมีการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ของเราเอง ให้สอดคล้องกับท้องถิ่น โดยไม่ ปฏิเสธความรู้ใหม่ๆ ใครมีความรู้ในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ การส่งเสริมให้ชุมชนไม่ฟุ่มเฟือย มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นให้หน่อยนะครับผม… </p><p align="justify"></p><p align="justify"> อ่านบันทึกเพิ่มเติมที่</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> ครูบาสุทธินันท์ </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> อาจารย์วรภัทร์ </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <h2 style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> คุณทวีสิน </h2><p align="justify"> </p>
ใครมีความรู้ในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ การส่งเสริมให้ชุมชนไม่ฟุ่มเฟือย มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นให้หน่อยนะครับผม…
สิ่งที่ควรสอน คือ การจัดการและการบริหารความรู้สึก ความอยากได้ครับ
ชอบมากครับ ข้อเขียนนี้
ขอแสดงความคิดเห็นดังนี้ครับ
เรียน ท่าน อาจารย์ ดร.ขจิต
ยินดีครับ กลับเข้าบ้าน
ความเห็น JJ เรียนเสนอ ให้ทำตนเป็นตัวอย่างครับ ครู อาจารยื เด็กเห็น ทำตามเองแหละครับ ไม่ต้องออกแบบให้เหนื่อยใจ
สวัสดีค่ะ
จัดกิจกรรมให้คิดเป็น ให้คิดบ่อยๆ คิดแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผล เคยใช้กรณีศึกษาแล้วให้ช่วยกันวิเคราะห์ แก้ปัญหา ถ้าเป็นเราเราจะทำเช่นนั้นหรือไม่ เพราะอะไร...ร่วมกันคิด เด็กๆก็คิดเป็นและปฏิบัติได้นะคะ ไม่ซื้อเพราะเห็นเพื่อนซื้อ แต่ซื้อเพราะจำเป็น คงพอจะประหยัดได้บ้าง (น่าห่วงนะคะ...ตอนนี้เด็ก ป.1ก็มีโทรศัพท์มือถือแล้ว รุ่นใหม่ล่าสุดด้วย)
เห็นด้วยอย่างยิ่งกับทุกท่านค่ะ
ชอบภาพ ปลาเล็กๆ ในถาดมากเลย...กินแบบทอด นี่จะอร่อยมาก...
เวลาไปบ้านชาวบ้าน ที่เขาพึ่งตนเอง ดูแลตัวเอง จากการปลูกพืชผัก เลี้ยงปลา ทำนา เลี้ยงสัตว์
แล้วยิ่ง เป็นบ้าน กลุ่มที่ทำเกษตรอินทรีย์ด้วย นี่ก็ปลื้มชาวบ้านมากเลย
พี่ว่า ต้อง เผยแพร่ กลุ่มชาวบ้าน ที่พึ่งตนเอง ให้เป็นตัวอย่างเยอะๆนะ
จะได้เป็นค่านิยมที่ดี
สวัสดีค่ะ
สมัยก่อน ดิฉันยังเด็ก ยังได้มีโอกาสเจอการดำรงชีวิตตามเศรษฐกิจพอเพียง เพราะที่บ้านจะปลูกผักผลไม้ กินเอง
ไม่เคยได้ซื้อ ที่เหลือยังได้ไปขายตลาด เช่น กล้วย มะม่วง หน่อไม้ น้อยหน่า ฝรั่ง
ที่สวนมีบ่อปลา
ที่นามีข้าวให้เขาปลูกข้าว แล้วมาแบ่งกัน
ปัจจุบันเด็กสมัยใหม่ทำไม่เป็น และมีสิ่งยั่วยุมากมาย
คุณครูก็ช่วยกันสอนเด็กร่วมกับพ่อแม่ ก็คงพอได้ค่ะ
ผมคิดว่าต้องให้ผู้บริโภคเรียนรู้ระบบคิดเรื่อง ความต้องการจำเป็น คุณค่าแท้คุณค่าเทียมของสินค้า การเปรียบเทียบคุณลักษณะ (spec) ของสินค้า เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย การวิเคราะห์ราคาต่อหน่วย ฯลฯ ซึ่งอาจจะทำให้เห็นแง่มุมด้านต่างๆ ของการบริโภคที่ใช้เหตุใช้ผลมากขึ้นครับ
การคิดเป็นระบบสำคัญนะคะ คิดเล่นๆค่ะ
สวัสดีครับท่าน อ.ดร.ขจิต
การออกแบบกระบวนการเรียนรู้ การส่งเสริมให้ชุมชนไม่ฟุ่มเฟือย...เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากๆครับ
ผมขอพูดแบบเรื่อยเปื่อยไปนะครับ ตามใจปรารถนาอาจผิดบ้างถูกบ้าง เผื่อจะมีอะไรที่เข้ากับประเด็นการออกแบบกระบวนการเรียนรู้บ้าง
ขอบคุณมากครับสำหรับบันทึกดีๆครับ
ขอต่ออีกหน่อยนะครับ เหมือนว่าจะยังไม่ได้ขมวดปม คือ ผมมองว่าถ้าเด็กคิดได้ คิดเป็น รู้จักคิดอะไรที่เป็นเหตุเป็นผลแล้ว และมีความคิดสร้างสรรค์ น่าจะลดการฟุ่มเฟือยได้ไปเปราะหนึ่ง
ส่วนการมองโอกาส และมองจากภายนอกสู่ภายใน ก็หมายถึงเขาสามารถจะหาช่องทางทำเงินจากวิชาที่เขาเรียนมา จากทุนที่เขามี ทรัพยากรที่เขามองเห็นที่ไม่ไกล และประยุกต์ใช้เป็น
ดังนั้นคนจะไม่มากองอยู่จุดใดๆจุดหนึ่ง เมื่อเห็นช่องทางทำเงิน ผสานกับความมีเหตุมีผล มองอะไรแบบบวกๆ น่าจะทำให้การสานต่อเรื่องอื่นๆง่ายขึ้นครับ ที่สำคัญต้องพัฒนาไปพร้อมกับสติ และคุณธรรมครับ
หวัดดีครับ น้องบ่าว
สวัสดีค่ะ
ถ้ายึดในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และทำเป็นนิสัยตลอดเวลา ก็จะไม่ฟุ่มเฟือยค่ะ
นั่นสิค่ะเมื่อท่านให้บัณฑิตของท่านกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนเพื่อไปพัฒนาบ้านของตนเองนั้นก็เป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะเป็นสิ่งที่ยากสมควรที่บัณฑิตจะกลับคืนสู่บ้านตนเอง
การที่ซื้อสิ่งของก่อนที่จะมีไฟฟ้านั้นเพราะเห็นบ้านอื่นมีแล้วอยากมี
เป็นการฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุ และอีกอยากก็เป็นการผ่อนสิ่งของมาเป็นหนี้สำหรับตัวเองอีกด้วย
อาจารย์ค่ะ คิดถึงอาจารย์จัง ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาคุยใน gotoknow เลย เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไรนัก จะว่าเรียนนักก็ไม่เท่าไรนะคะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเอาเวลาไปทำอะไรหมด เพราะในแต่ละวันนั้นเวลามันเดินเร็วมากเลย
สวัสดีค่ะ
ขอให้รัฐบาลได้มองเห็นปัญหานี้ และได้นำมาแก้ไข อย่างจริงจัง
อยากให้มีโรงเรียนแบบท่านครูบา ทุกๆ ที่ในประเทศไทย ...
...เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย season change ฮ่าๆๆ เดินทางบ่อย รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
เห็นด้วยค่ะ อ. ขจิต
ปัจจุบัน คนเป็นหนี้สินเพิ่มขึ้น เพราะไม่เข้าใจกับคำว่าอยู่อย่างพอเพียง ที่ในหลวงท่านได้สอนมาตลอด มีน้อยใช้น้อย ประหยัดใช้ ตามอัถภาพของตัวเอง
ดังนั้นควรปลูกฝังตั้งแต่เด็ก และผู้ใหญ่ควรทำให้เป็นตัวอย่างแก่เด็ก เพราะเด็กสมัยใหม่ไม่ค่อยเข้าใจต่อความยากลำบากเป็นอย่างไร ไม่รู้คุณค่าของเงิน ขอเท่าไหร่พ่อแม่ให้ หรือไม่มียืมกองทุนกู้ยืม เผลอๆ อาจนำไปใช้ในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์
ปัญหานี้ เป็นปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการแก้ไข ไม่งั้นประเทศไทยจะแย่ไปกว่าที่เป็นอยู่
ตอนนี้อยากกิน ปลาทอด กับน้ำพริกเผ็ดๆ ข้าวสวยร้อนๆ เฮ้อ....
เมื่อเด็กๆ เราจะถูกพ่อแม่สอนอย่าให้เป็นหนี้ ถ้าจะมีอะไรให้เก็บเงินเพื่อซื้อ ให้หยอดกระปุก
แต่เดี๋ยวนี้ หลานน้อยรู้จักรถยนต์ยี่ห้อนั้นนี้ แถมรู้ว่าคันนั้นป้ายแดง มีอะไรน่าส่งสัยในระบบการศึกษาของเด็กๆที่ต้องตามเพื่อนหรือไม่ น่าคิดนะคะ
สวัสดีค่ะ จากเด็กไม่มีเวลา
อาจารย์สบายดีไหมค่ะ
จากมุกและน้องพี
เห็นด้วยกับอาจารย์ขจิตจริงๆค่ะ อยากให้คนประหยัดและไม่ฟุ่มเฟือยแต่ยังคิดไม่ออกจริงๆ
เชื่อไหมคะอ.ขจิต คนที่ซื้อสินค้าในห้าง(บิ๊กซี,โลตัสในนฐ) น้อยที่สุดคือใคร
ลองไปรีวิวทีวีวงจรปิดดูได้ เดือนหนึ่งอาจไปแค่ครั้งเดียวและซื้อเพียงนมกล่องของลูกและพ่อแม่ ที่ต้องซื้อเพราะร้านค้าปลีกไม่ค่อยมีที่ไหนขายนมกล่องถั่วเหลืองชนิดจืด ค่ะ
เวลาเข้าแถวจ่ายเงินจะคุยกันเสมอว่า..คนอื่น ๆ ซื้อจนเต็มรถเพราะอะไร
โฆษณาได้ผล?,มีความจำเป็นต้องซื้อจริง ๆ? ,ราคาถูกกว่าร้านปลีก?(ลืมคิดว่าต้องซื้อแพ็คใหญ่) ....
ส่วนตัวจะซื้อร้านข้างเคียงก่อน คนอื่น ๆ คิดอย่างไรบ้างคะ อย่าเพิ่งหมั่นไส้นะคะ
สวัสดีครับ
เป็นนโยบายของรัฐที่ส่งเสริมให้คนฟุ่มเฟือย
ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าคนไทยส่วนใหญ่เป็นหนี้กันมาก
ทุกวันนี้ข้าราชการ พนักงานมีเวลาในการทำหนี้มากกว่าเวลาทำงาน
น้องขจิตครับ พี่ขอเอาบันทึกนี้ไปวิเคราะห์ ได้ไหมครับ ขออนุญาตก่อนครับ ส่วนตัวพี่มีข้อคิดเห็น เพราะเป็นงานที่พี่ทำอยู่แล้ว แต่อยากรวบรวมความเห็นทุกท่านไปวิเคราะห์ด้วยครับ
รอคำตอบครับ