บ่อยครั้งที่ผมพบว่า เมื่อเราว่าง หรือพักผ่อนจากการค้นคว้า หรือทำงานแล้ว เราไม่ได้พักจริงๆ กลับรู้สึกฟุ้งซ่าน เศร้าหมอง กลัดกลุ้ม กว่าเดิม พอนอนแล้วตื่นขึ้นมา ดันเหนื่อย ไม่มีเรี่ยวแรงซะนี่
ผมถามตัวเองว่า เราเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า
เมื่อมีโอกาสได้อ่านงานของ ท่านพุทธทาสภิกขุ ผมพบว่า เรายึดติดเกินไป คิดแต่ว่า "ตัวเราเป็นตัวเรา" "ตัวเขาเป็นตัวเขา" หรือที่ท่านพุทธทาสเขียนตรงๆ โต้งๆ ว่า "ตัวกู-ของกู" นั่นแหละครับ
โดยคร่าวๆ ท่านเสนอทางออกแก่ผู้อ่าน ซึ่งผมพิจารณาแล้ว ลองเอามาฝึกกับใจตัวเองแล้ว พบว่าได้ผล แม้จะเพียงชั่วขณะหนึ่งก็ตาม คือ การทำความเข้าใจถึงหลัก "สุญญตา" คือ ว่างจากตัวตน ว่างจากของของตน เข้าใจให้ได้ว่า ทุกสิ่งอย่างทั้งปวงไม่อาจหมายยึดมั่นลงได้ มีแต่จะเสื่อมถอยผุพังไปตามกาลเวลา เมื่อยึดถือก็จะเกิดกังวล คิดหาหนทางต่างๆ เพื่อสนองใจ สนองพิษแห่งกิเลศ ไม่อาจพบความสุขสงบได้อย่างแท้จริง
แม้ว่าผมเองจะเข้าใจหลัก "สุญญตาธรรม" ไม่ถึงที่สุดก็ตาม หากแต่การพิจารณาตามหลักธรรมของท่าน กลับทำให้ผมมั่นคง สงบได้ชัวขณะหนึ่ง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเขียนบล็อกได้อย่างรื่นไหล เพราะบล็อกของเรา ก็ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ของใคร ทำไปสักแต่ว่าทำ คนที่อ่านเมื่อเห็นคุณ เห็นโทษ หากนำไปประยุกต์ใช้กับตนจนก่อประโยชน์แล้วปล่อยวาง ปางว่อย (ท่านครูบาสุทธินันท์ เคยเล่าให้ฟังถึงพระปางว่อย ที่ดูกว่าพระปางอื่นๆ หลายเท่า) ก่อจะสามารถนำธรรมะไปสร้างสรรค์ ไดอย่างไม่รู้จบ จิตก้ประภัสสรต่อเนื่องยาวนาน
ความว่าง นี้มีประโยชน์จริงๆนะครับ
ทุกท่าน ว่างไหมครับ
ถือก็หนัก วางก็เบา
เอาอะไรแน่ไม่ได้โลกนี้
จะไปทุกข์กับมันทำไม...
ทำใจสบายปล่อย ๆ ซะมั้งดีกว่า
ไม่กลุ้มอยู่กับอดีต
ไม่เพ้อฝันถึงอนาคต
ดำรงชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด
สุดยอด "พุทธะ" ธรรมครับ
สาธุกับธรรมครับ