เราสามารถขอพรบนอินเทอร์เน็ตได้จริงหรือ

ความฝันเหล่านั้น คงไม่อาจเป็นจริงได้ หากแค่เราเขียนไว้ในเว็บไซต์แล้วไม่ทำอะไร

มนุษย์เป็นมีสิ่งมีชีวิตที่มีความต้องการมากกว่าสิ่งที่มีอยู่เสมอ เมื่อความหวังมีขนาดไม่เท่ากับความเป็นจริง คนส่วนมากจึงมักจะพึงพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของตน บ้างก็ถูต้นไม้เผื่อเห็นเลข บ้างก็แขวนถุงเท้าไว้หน้าเตาผิงเผื่อมีชายร่างอ้วนใจดีเอาของมาให้ และในญี่ปุ่นก็มีเทศกาลที่เรียกว่า "เทศกาลแห่งดวงดาว" หรือ "tanabata" ที่คนจะขอพรจากดวงดาว เนื่องในโอกาสที่ดาวสองดวงคือ Vega และ Altair โคจรมาพบกัน ทำให้เป็นค่ำคืนที่สุกสว่าง สดใส โดยเกิดขึ้นเพียงปีละครั้งเดียวเท่านั้น

ตามตำนานเล่าไว้ว่า เจ้าหญิงโอริฮิเมะ ธิดาของเทพเจ้าแห่งสวรรค์ผู้มีพรสวรรค์ในการทอผ้า อาศัยอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำแห่งสวรรค์ เจ้าหญิงโอริฮิเมะเป็นที่เลื่องลือในฝีมืองานทอผ้า เย็บปักถักร้อย และเป็นที่โปรดปรานของเทพเจ้าแห่งสวรรค์เป็นอย่างมาก อยู่มาวันหนึ่งเทพเจ้าแห่งสวรรค์ ได้เห็นว่าเจ้าหญิงโอริฮิเมะทำงานหนักตลอดเวลาสมควรที่จะได้พักผ่อนบ้าง จึงแนะนำให้เจ้าหญิงได้รู้จักกับฮิโกะโบชิชายหนุ่มผู้เลี้ยงวัว ซึ่งอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำแห่งสวรรค์ และในที่สุดเทพเจ้าแห่งสวรรค์ก็ให้ทั้งสองได้อภิเษกกัน

นับวันความรักของเจ้าหญิงกับฮิโกะโบชิก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทั้งคู่ละเลยงานของตนและใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดเวลา จนทำให้บรรดาเทพต่างๆพากันเดือดร้อนจากการละเลยงานของเจ้าหญิง ถึงแม้จะได้รับคำตักเตือนจากเทพเจ้าแห่งสวรรค์แล้วก็ตาม ทั้งคู่ก็ยังไม่สามารถทุ่มเทเวลาให้กับงานของตนได้ ซึ่งทำให้เทพเจ้าแห่งสวรรค์โกรธมาก และส่งฮิโกะโบชิกลับไปยังอีกด้านไกลโพ้นของแม่น้ำแห่งสวรรค์ การจากกันนั้นทำให้เจ้าหญิงเสียใจ และเอาแต่ร้องไห้ทุกวัน ดังนั้นเทพเจ้าแห่งสวรรค์จึงให้สัญญาว่า ถ้าเจ้าหญิงโอริฮิเมะตั้งใจทอผ้าดังเดิมแล้ว จะอนุญาตให้ทั้งคู่ได้พบกันปีละครั้งในคืนของวันที่ 7 เดือน 7

ด้วยเหตุนี้ในทุกปีท้องฟ้ายามค่ำคืนของวันที่ 7 เดือน 7 จะมีดาวฤกษ์สุกสว่าง 2 ดวง คือ ดาว Vega ของเจ้าหญิงโอริฮิเมะ (เป็นดาวที่สดใสที่สุดในกลุ่มดาวพิณ) และดาว Altair ของฮิโกะโบชิ (เป็นดาวที่สดใสที่สุดในกลุ่มดาวนกอินทรี) โคจรข้ามทางช้างเผือกมาพบกัน ด้วยบรรยากาศแห่งดาวดวง ชาวญี่ปุ่นจึงเชื่อว่า ถ้าเขียนคำอธิษฐานไว้บน กระดาษ 5 สี ที่เรียกว่า "ทังซาคุ" แล้วนำไปแขวนไว้บนต้นไผ่ ความหวังนั้นจะเป็นกลายเป็นจริง

สำหรับชาวไซเบอร์สเปซ เว็บไซต์ wish.in.th ให้บริการรับฝากความหวังไว้บนเว็บไซต์ ผู้ใช้บริการที่เรียกว่า "Wishr" (wisher) สามารถบันทึกความฝันและความหวังของตนไว้ในพื้นที่ของตนเองคล้ายการเขียน blog แต่มันเป็น blog แห่งความหวังที่รวบรวมความปรารถนาดีๆ ของทุกคนไว้ เปรียบเสมือนการขอพรจากเว็บไซต์ ที่จะมีบรรดาทวยเทพไซเบอร์จากทั่วทุกสารทิศเข้ามาร่วมอวยพร แชร์ความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

แต่ความฝันเหล่านั้น คงไม่อาจเป็นจริงได้ หากแค่เราเขียนไว้ในเว็บไซต์แล้วไม่ทำอะไร เพราะเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เรารู้จักตั้งเป้าหมาย ทำให้รู้ว่าเราจะมุ่งไปไหนเพื่ออะไร ตัวอย่างที่ได้แนะนำไว้ใน animation คือ 1) เขียนและทำ มุ่งมั่นเพื่อให้ได้ฝันนั้นมาด้วยตัวเอง 2) เขียนแล้วบอก เพราะคนที่คุณรักก็อยากรู้ว่าคุณปรารถนาอะไร 3) เขียนแล้วเขียนแล้วรอ แล้วก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา ผมเชื่อว่าทุกคนมีความฝัน ความปรารถนาของตัวเอง และการที่จะทำให้มันเป็นจริงได้นั้น คงไม่ใช่แค่เพียงเขียนไว้บนกระดาษหรือบนเว็บไซต์ เพราะเว็บแอพพลิเคชั่นก็เป็นแค่เครื่องมือที่จะทำให้ฝันเหล่านั้นชัดเจนขึ้น จากสิ่งที่จับต้องไม่ได้ กลายเป็นตัวอักษร เป็นรูปภาพ แล้วคุณหละคิดอย่างไร How do u think?

เขียนใน GotoKnow โดย TheInk
ใน How do u think?