- แด่กัลยาณมิตร ทุกท่าน
- ผมเป็นคนที่เกิดจากหมู่บ้านติดลำน้ำปาว และลำน้ำนั้นก็เติบใหญ่เป็นเขื่อนลำปาว...ถึงไม่กว้างใหญ่ไพศาล แต่ก็ลึกและยาวหล่อเลี้ยงผู้คนอย่างกว้างไกล..
- ผมจึงชอบสายน้ำ เพราะสายน้ำสอนให้รู้คุณค่าของความฉ่ำเย็นและกว้างลึก อันหมายถึง "ใจกว้างและอาทร" หากแต่ผมเป็นสายน้ำที่อาทรและหลากไหลได้ทั้งชาเย็น ห้วนแรง หรือแม้แต่กระชากกระชั้น
- แหละเมื่อเข้าสู่การเขียนบล็อก เป็นการเข้าสู่เวทีโดยภาวะส่วนตัวผ่านการเชิญชวนของรุ่นพี่ในสำนักงาน มิได้เข้าสู่กระบวนการขององค์กร และมิใช่คนทำงาน KM ในทีมอนุกรรมการฯ แต่เพราะการได้ฟังผู้บริหารท่านหนึ่งพูดในเวทีว่า "เริ่มด้วยใจ" และจากนั้น ทุกครั้งที่พบท่านท่านก็จะบอกเสมอคือ "มาช่วยกันนะ" ... ผมให้ความเคารพต่อท่านไม่น้อยกว่าการให้ความเคารพตนเอง ปรารถนาที่จะช่วยทั้งกายและใจ แต่ก็ขอให้ขึ้นอยู่กับกาละโอกาสเป็นสำคัญ
- ผมไม่รู้ที่มาที่ไปและไม่หยั่งรู้ราวศาสดาที่จะฟันธงว่า KM คืออะไรและเช่นไรกันแน่...และที่ตนเองเขียน หรือกระทำอยู่นั้น คือ KM หรือไม่... แม้กระทั่งผู้ที่ถูกยกย่องเชิดชูในแวดวงก็กล่าวแบบปนจริงปนเล่นเสมอว่า "ไม่มีผิด ไม่มีถูก"
- แต่ผมมีความสุขที่จะเขียนเพราะบทบาทหน้าที่ของผมคือ "การอยู่กับนิสิต และดูแลนิสิต" การบอกเล่าและสื่อสารเรื่องราวต่าง ๆ ที่คิดว่ามีผลต่อการสร้างจินตนาการและสำนึกที่ดีแก่นิสิตเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนกลวิธีที่ใช้อยู่ในรูปแบบใด วิธีการใดก็สุดแท้แต่สไตล์ของผู้เล่า ซึ่งนักเขียนท่านหนึ่งก็พูดไว้ว่า "เรื่องของเรา เราต้องเล่าด้วยวิธีของเราเอง"
- แต่ผมมีความสุขที่จะเขียน เพราะคือการเสริมสร้างและสำรวจบางสิ่งบางอย่างในตัวเอง (ซึ่งบ่อยครั้งก็ไม่อาจกล้าหาญที่จะบอกว่ามันคือ ความรู้ในตัวผมเอง) และสำคัญคือ ผมต้องการบอกเล่าเรื่องราวของนิสิตและหน่วยงานไปสู่เวทีที่ "กว้างและไกล" ขึ้นกว่าเดิม เพื่อบอกเล่าให้รู้ว่า "ที่ตรงนี้มีนาฏกรรมอะไร หรือเช่นไร เป็นไปอย่างไร"
- โดยไม่ติดยึดและเคร่งเครียดว่าทุกอักษรที่ดูเหมือนนวนิยายนั้น คือ KM หรือไม่...แต่รู้และตระหนักมั่นอยู่เสมอว่าทุกตัวอักษร "คือเรื่องจริง ความจริง และเป็นความสัตย์จริง" เสมอและที่สำคัญก็คือ "น้ำใสใจจริง" ของผมเองก็เป็นไปตามกระบวนความในอักษรแต่ละตัว
- ผมมีความสุขที่จะเขียน..เพราะโลก G2K สอนให้ผมเห็นคุณค่าของ "มิตรภาพ, กำลังใจ การเติมเต็มกันและกัน" รวมถึงการสอนให้เห็นถึงธรรมเนียม (อันควรนิยม) ที่หมายถึงการให้ความเคารพรัก นับถือ ให้เกียรติและส่งเสริมกันและกันอย่างไม่มีสิ่งใดกั้นขวาง
- ที่นี่สอนให้ผมนิ่งขึ้น เยือกเย็นขึ้น ..และที่สำคัญคือการรู้จักที่จะแสดงความชื่นชมต่อคนรอบข้างมากขึ้น เพราะก่อนนั้นผมตระหนักก็จริง, แต่ไม่ใคร่แสดงออกถึงพฤตินัยเช่นนั้นนัก และที่สำคัญคือการ "เปิดรับ" อย่างมีมิตรภาพ รู้จักเฝ้ารอคนอื่น โดยไม่ด่วนทำตนโชว์เด่นแบบ "ลูกทุ่ง ,ข้ามาคนเดียว" ....
- และบัดนี้ผมก็ได้เห็นความเปลี่ยนสำหรับผมอีกประการก็คือ "ความทระนงที่มีอยู่อย่างมากล้นจนดูเหมือนกระด้างได้อ่อนตัวลงอย่างมาก" ...
- สิ่งที่ผมเคยบอกว่า "ฉันรู้.." (ทำตัวเป็นผู้รู้) วันนี้ผมเรียนรู้จากที่นี่ว่า "นั่นคือสิ่งที่ฉันเข้าใจผิดว่า ฉันรู้"
- รางวัล..ที่ได้รับครั้งนี้ และถึงแม้เป็นรางวัลที่ผมไม่ได้สมัคร หรือแม้แต่การเขียนบล็อกก็เขียนในลักษณะส่วนตัวไม่ได้รับการมอบหมายจากองค์กร และก็ไม่ใคร่ศึกษาสนใจด้วยว่ากฎกติกาเป็นเยี่ยงไร.. เพราะผมไม่ได้สมัครเข้าประกวด...
- แต่ก็มีความสุขใจและกล้าที่บอกว่า "ขอบพระคุณทุกคน ทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งโดยตรง และโดยอ้อม" ...ที่มาเติมเต็ม หรือถ้าจะไม่เต็ม มันก็เพิ่มต้นทุนให้ผมได้เรียนรู้ที่จะ "เต็ม" อย่างมีคุณค่าและมี "คุณภาพ" ในอนาคต
- รางวัลจะไม่ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ หรือกลับไปสู่จุดแห่งความทระนงเหมือนเก่าก่อน และจะไม่มีวันทำให้ผม เป็น "นก" ที่กลายพันธุ์เป็นนกที่บินได้ยิ่งกว่า "นก"
- ผมยังคงปรารถนาเป็นนกที่บินอยู่ในฝูง...ไม่ประสงค์ที่จะบินเหนือฝูง, ต่ำกว่าฝูง หรือแยกฝูงไปตัวเดียวโดด ๆ ...
- ผมไม่ปรารถนาเป็นผู้ชนะแต่ปราศจากคุณค่าใด ๆ ในสายตาคนรอบข้าง....
นี่กระมัง..คือ ความรู้สึกบางอย่างที่บางท่านอยากรู้ว่าผมรู้สึกเช่นไร....ต่อการได้รับรางวัล....
ผมไม่รู้หรอกว่า KM เป็นอย่างไร ผมรู้แต่เพียงว่าบล็อกช่วยให้ผมเรียนรู้ความงดงามของมิตรภาพที่เป็นประหนึ่งสายน้ำที่ไหลอย่างไม่ขาดห้วง , เบาบ้าง แรงบ้างตามวาระและฤดูกาล หากแต่ยังคงไว้ซึ่งความฉ่ำเย็นและอาทรอย่างไม่รู้จบ
นี่มิใช่สุนทรพจน์...หากแต่เป็นความรู้ที่เป็นเสมือนคำขอบคุณที่มีต่อกัลยาณมิตรทั้งหลาย
ให้โอกาสผมได้พูดในสิ่งที่รู้สึกอย่างสัตย์จริงเช่นกับการให้โอกาสผมได้เขียนบันทึกอย่างสัตย์จริงโดยไม่จำเป็นต้องชั่งวัดคุณค่าใด ๆ ... อย่างน้อย 2 เดือนในโลกแห่งการเรียนรู้นี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงผมไปในทางที่ดีแล้ว...
ส่วนบันทึกของผลจะมีประโยชน์ต่อใครอื่นหรือไม่ และเป็น KM มากน้อยหรือไม่นั้น...ผมไม่มีความรู้พอที่จะชี้วัดใด ๆ .... และไม่จำเป็นที่ผมจะต้องชี้วัดด้วยตนเอง หากแต่ขอรับผิดชอบในทุกอักษรในบันทึกของผมอย่างทระนง
และไม่มีคำอื่นใดที่ควรกล่าวปิดประเด็นอันยาวยืดนี้เท่ากับ "ขอบคุณ"
ขอบคุณครับ ...
(ผมได้ทำหน้าที่บอกกล่าวความรู้สึกนี้ตามคำสัญญาแล้วนะครับ)
<<<<<<<<<<<<< >>>>>>>>>>>>>
อาจนำข้อคิดเห็นนี้พิจารณา ไปลงในวารสารการจัดการความรู้ ของ มมส. ในฉบับต่อไปได้ครับ คิดว่าจะเป็นแรงกระตุ้นอีกทางหนึ่ง เพื่อขับเคลื่อน KM ในองค์กรครับ
กัมปนาท