ประกาศผลรางวัล "ฅ KM มมส." ประจำเดือนมกราคม 2550


ผู้ที่ได้รับรางวัล "ฅ KM มมส." ประจำเดือนมกราคม 2550 คือ   

เจ้าของบล็อก

P

แผ่นดิน
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม


อีเมลติดต่อ

ชื่อ นายพนัส ปรีวาสนา

สังกัด กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

<<<<<<<<<<<<<< >>>>>>>>>>>>>>

รางวัล  คือ  เสื้อแจ็กเก็ต ทีม MSU-KM  1  ตัว

คณะกรรมการพิจารณา

  1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิศมัย  ศรีอำไพ           ที่ปรึกษา
  2. รองศาสตราจารย์ ดร.อรรณพ  วราอัศวปติ        ประธานกรรมการ
  3. นายวิชิต  ชาวะหา                                                 กรรมการ
  4. นายไกรษร  อุทัยแสง                                             กรรมการ
  5. นางสุชานาถ  บุญเที่ยง                                         กรรมการ
  6. นายกัมปนาท  อาชา                                              กรรมการและเลขานุการ

 เกณฑ์การตัดสินรางวัล    KM มมส”  มีดังนี้

  1. มีการบันทึกอย่างน้อย  10  บันทึก/เดือน  ใน  Blog  (www.Gotoknow.org)
  2. มีการติดป้ายใน  Blog  อย่างสม่ำเสมอและเหมาะสม
  3. มีการบันทึกความรู้ฝังลึกที่ได้มาจาก  การปฏิบัติจริง  ในเรื่องนั้น ๆ
  4. มีการบันทึก  การนำการจัดการความรู้ไปใช้กับงานประจำของตนเอง/กลุ่ม
  5. ชื่อเรื่อง  น่าสนใจ  และสอดคล้องกับเนื้อหา
  6. ความสวยงามของบล็อก
  7. มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น

แก้ไขครั้งสุดท้าย วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา 8.33 น. (กัมปนาท)

หมายเลขบันทึก: 79841เขียนเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2007 12:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)
ขอแสดงความยินดีกับพี่พนัสด้วยครับ
เมื่อวานทานข้าวเย็นด้วย (ปฏิบัติการ F2F) พี่พนัสวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ด้วยอย่างออกรสชาติ

และแล้ว พี่พนัสก็ได้รับรางวัลทันที ขอแสดงความยินดีด้วยครับ

ถอดหมวกในฐานะกรรมการและเลขานุการ พิจารณารางวัลแล้ว เลยเข้ามาแสดงความยินดีกับพี่พนัสครับ

  • ขอบคุณ แจ๊ค ที่ทำหน้าที่ได้รวดเร็วทันใจ
  • และขอแสดงความยินดีกับคุณ
  • P ด้วยครับ
  • ถอดหมวกกรรมการด้วยคน  และขอแสดงความยินดีกับพี่พนัสด้วยค่ะ
  • ขอแสดงความยินดีกับอาจารย์ครับ
  • บันทึกของอาจารย์มีเรื่องและสำนวนชวนอ่าน
  • อ่านแล้วชวนฝัน
  • ฝันแล้วชวนอยากลงมือทำ
  • ชื่นชม งดงาม
  •           เหมาะสม

              ชื่นชม

              ให้กำลังใจ....ครับ

        ..............................................

    สำหรับคุณมนัส...ขอร่วมดีใจด้วยครับ ไม่ว่าจะรางวัลอะไรก็ตาม ตัวตนที่แท้ คือ คนทำงานที่ทำงานด้วยใจ มีพลังมุ่งมั่นจนผมรู้สึกได้

    โทรศัพท์พูดคุยกันบ่อยๆ รับรู้พลังของความตั้งใจได้ครับ

    ขอบคุณครับ

     

    • บันทึกของอ.พนัสเตะตามาแต่แรก เมื่อติดตามยิ่งติดพัน
    • เมื่อวานทราบว่าคณะกรรมการจะประกาศรางวัลในวันนี้ ก็ลุ้นมาตลอดวัน เป็นไปตามคาดนะคะ
    • ยินดีด้วยจริง ๆ ค่ะ
    • ขอแสดงความยินดีกับมาเฟียกิจกรรมด้วยครับ
    • ยิ้ม ยิ้ม
    • อันที่จริง...ผมไม่ทราบว่าจะมีการประกาศรางวัล หรือพิจารณาในวันนี้  มารู้อีกทีตอนออกจากห้องประชุมเมื่อเวลา 1 ทุ่ม  โดยได้รับข่าวจากน้องแจ๊คส่งข้อความมาบอก...
    • ช่วงนี้ชีวิตวุ่น ๆ กับการงาน, การเดินทาง, ปัญหาสุขภาพ  ... แต่กลับได้พบมิตรชาวบล็อกแบบถึงลูกถึงคนอย่างน่าทึ่ง...
    • ก่อนนั้นไปเม็กดำ...พานพบชาวบล็อกหลากท่าน   ชื่นชมและชื่นชอบ ศรัทธา...เมื่อวานพบคุณบอนและหนูนิด...คนหนึ่งนิ่งเงียบ คนนึงสดใส ช่างคิด ช่างฝัน...
    • และท้ายที่สุด...ขอบคุณทุกท่านในบันทึกนี้...
    • คำใดจะเอ่ยได้ดังใจ,....ผมขอบคุณจริง ๆ ครับ
    • เป็นไปตามที่คิดไว้เลยค่ะ
    • ยินดีด้วยนะคะ

    ผมไม่อยากให้มีการเล่นคำเกิดขึ้นครับ ข้อสังเกตุจาก

    เกณฑ์การตัดสินรางวัล    KM”  มีดังนี้

    จากข้อความข้างบนนี้ไม่ทราบว่าจะใช้คำไหนกันแน่ ระหว่าง "ฅ KM" กับ "ฅ KM มมส." ...ฝากพิจารณาด้วยครับ

    ท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะบอกและตะขิดตะขวงใจเล็กๆ ว่า เอ๊ะ! เรื่องแค่นี้เอง..... นั้นแหละครับ บ่งบอกถึงความ เนียน ในการทำงานว่าเป็นอย่างไร เวลาทำงานจริงๆ คงพอจะทราบว่าเปิดอะไรขึ้นนะครับ โดยเฉพาะคณะกรรมการตัดสินรางวัล

    ขอบคุณคณะกรรมการฯ ทุกท่านครับ ที่ร่วมกันทำงานชิ้นแรกจดสำเร็จลุล่วง

    ไม่ขอแสดงความยินดีกับพี่พนัสนะครับ เพราะคนอื่นๆ ท่านแสดงไปหมดแล้ว ...แต่ขอชื่นชมแทนครับ ชื่นชมที่ช่วยเป็นอีกแรงที่ขับเคลื่อน มมส. ด้วย KM Tooling

     

    • แด่กัลยาณมิตร  ทุกท่าน 
    • ผมเป็นคนที่เกิดจากหมู่บ้านติดลำน้ำปาว และลำน้ำนั้นก็เติบใหญ่เป็นเขื่อนลำปาว...ถึงไม่กว้างใหญ่ไพศาล แต่ก็ลึกและยาวหล่อเลี้ยงผู้คนอย่างกว้างไกล..
    • ผมจึงชอบสายน้ำ  เพราะสายน้ำสอนให้รู้คุณค่าของความฉ่ำเย็นและกว้างลึก อันหมายถึง "ใจกว้างและอาทร"  หากแต่ผมเป็นสายน้ำที่อาทรและหลากไหลได้ทั้งชาเย็น  ห้วนแรง  หรือแม้แต่กระชากกระชั้น
    • แหละเมื่อเข้าสู่การเขียนบล็อก  เป็นการเข้าสู่เวทีโดยภาวะส่วนตัวผ่านการเชิญชวนของรุ่นพี่ในสำนักงาน  มิได้เข้าสู่กระบวนการขององค์กร และมิใช่คนทำงาน KM ในทีมอนุกรรมการฯ  แต่เพราะการได้ฟังผู้บริหารท่านหนึ่งพูดในเวทีว่า "เริ่มด้วยใจ"  และจากนั้น  ทุกครั้งที่พบท่านท่านก็จะบอกเสมอคือ "มาช่วยกันนะ" ... ผมให้ความเคารพต่อท่านไม่น้อยกว่าการให้ความเคารพตนเอง  ปรารถนาที่จะช่วยทั้งกายและใจ  แต่ก็ขอให้ขึ้นอยู่กับกาละโอกาสเป็นสำคัญ
    • ผมไม่รู้ที่มาที่ไปและไม่หยั่งรู้ราวศาสดาที่จะฟันธงว่า KM คืออะไรและเช่นไรกันแน่...และที่ตนเองเขียน หรือกระทำอยู่นั้น คือ KM หรือไม่... แม้กระทั่งผู้ที่ถูกยกย่องเชิดชูในแวดวงก็กล่าวแบบปนจริงปนเล่นเสมอว่า "ไม่มีผิด ไม่มีถูก"
    • แต่ผมมีความสุขที่จะเขียนเพราะบทบาทหน้าที่ของผมคือ "การอยู่กับนิสิต และดูแลนิสิต"  การบอกเล่าและสื่อสารเรื่องราวต่าง ๆ ที่คิดว่ามีผลต่อการสร้างจินตนาการและสำนึกที่ดีแก่นิสิตเป็นเรื่องสำคัญ  ส่วนกลวิธีที่ใช้อยู่ในรูปแบบใด วิธีการใดก็สุดแท้แต่สไตล์ของผู้เล่า  ซึ่งนักเขียนท่านหนึ่งก็พูดไว้ว่า "เรื่องของเรา  เราต้องเล่าด้วยวิธีของเราเอง"
    • แต่ผมมีความสุขที่จะเขียน  เพราะคือการเสริมสร้างและสำรวจบางสิ่งบางอย่างในตัวเอง (ซึ่งบ่อยครั้งก็ไม่อาจกล้าหาญที่จะบอกว่ามันคือ ความรู้ในตัวผมเอง)  และสำคัญคือ ผมต้องการบอกเล่าเรื่องราวของนิสิตและหน่วยงานไปสู่เวทีที่ "กว้างและไกล"  ขึ้นกว่าเดิม เพื่อบอกเล่าให้รู้ว่า "ที่ตรงนี้มีนาฏกรรมอะไร หรือเช่นไร เป็นไปอย่างไร"
    • โดยไม่ติดยึดและเคร่งเครียดว่าทุกอักษรที่ดูเหมือนนวนิยายนั้น คือ KM หรือไม่...แต่รู้และตระหนักมั่นอยู่เสมอว่าทุกตัวอักษร "คือเรื่องจริง ความจริง และเป็นความสัตย์จริง"  เสมอและที่สำคัญก็คือ "น้ำใสใจจริง" ของผมเองก็เป็นไปตามกระบวนความในอักษรแต่ละตัว
    • ผมมีความสุขที่จะเขียน..เพราะโลก G2K  สอนให้ผมเห็นคุณค่าของ "มิตรภาพ, กำลังใจ การเติมเต็มกันและกัน"  รวมถึงการสอนให้เห็นถึงธรรมเนียม (อันควรนิยม)  ที่หมายถึงการให้ความเคารพรัก นับถือ ให้เกียรติและส่งเสริมกันและกันอย่างไม่มีสิ่งใดกั้นขวาง
    • ที่นี่สอนให้ผมนิ่งขึ้น เยือกเย็นขึ้น ..และที่สำคัญคือการรู้จักที่จะแสดงความชื่นชมต่อคนรอบข้างมากขึ้น  เพราะก่อนนั้นผมตระหนักก็จริง, แต่ไม่ใคร่แสดงออกถึงพฤตินัยเช่นนั้นนัก และที่สำคัญคือการ "เปิดรับ"  อย่างมีมิตรภาพ  รู้จักเฝ้ารอคนอื่น  โดยไม่ด่วนทำตนโชว์เด่นแบบ "ลูกทุ่ง ,ข้ามาคนเดียว"  ....
    • และบัดนี้ผมก็ได้เห็นความเปลี่ยนสำหรับผมอีกประการก็คือ "ความทระนงที่มีอยู่อย่างมากล้นจนดูเหมือนกระด้างได้อ่อนตัวลงอย่างมาก" ...
    • สิ่งที่ผมเคยบอกว่า "ฉันรู้.." (ทำตัวเป็นผู้รู้)  วันนี้ผมเรียนรู้จากที่นี่ว่า "นั่นคือสิ่งที่ฉันเข้าใจผิดว่า ฉันรู้"
    • รางวัล..ที่ได้รับครั้งนี้  และถึงแม้เป็นรางวัลที่ผมไม่ได้สมัคร หรือแม้แต่การเขียนบล็อกก็เขียนในลักษณะส่วนตัวไม่ได้รับการมอบหมายจากองค์กร  และก็ไม่ใคร่ศึกษาสนใจด้วยว่ากฎกติกาเป็นเยี่ยงไร.. เพราะผมไม่ได้สมัครเข้าประกวด...
    • แต่ก็มีความสุขใจและกล้าที่บอกว่า "ขอบพระคุณทุกคน ทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งโดยตรง และโดยอ้อม" ...ที่มาเติมเต็ม  หรือถ้าจะไม่เต็ม  มันก็เพิ่มต้นทุนให้ผมได้เรียนรู้ที่จะ "เต็ม"  อย่างมีคุณค่าและมี "คุณภาพ" ในอนาคต
    • รางวัลจะไม่ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่  หรือกลับไปสู่จุดแห่งความทระนงเหมือนเก่าก่อน  และจะไม่มีวันทำให้ผม เป็น "นก" ที่กลายพันธุ์เป็นนกที่บินได้ยิ่งกว่า "นก"
    • ผมยังคงปรารถนาเป็นนกที่บินอยู่ในฝูง...ไม่ประสงค์ที่จะบินเหนือฝูง, ต่ำกว่าฝูง หรือแยกฝูงไปตัวเดียวโดด ๆ ...
    • ผมไม่ปรารถนาเป็นผู้ชนะแต่ปราศจากคุณค่าใด ๆ ในสายตาคนรอบข้าง....

    นี่กระมัง..คือ ความรู้สึกบางอย่างที่บางท่านอยากรู้ว่าผมรู้สึกเช่นไร....ต่อการได้รับรางวัล....

    ผมไม่รู้หรอกว่า KM  เป็นอย่างไร  ผมรู้แต่เพียงว่าบล็อกช่วยให้ผมเรียนรู้ความงดงามของมิตรภาพที่เป็นประหนึ่งสายน้ำที่ไหลอย่างไม่ขาดห้วง ,  เบาบ้าง แรงบ้างตามวาระและฤดูกาล  หากแต่ยังคงไว้ซึ่งความฉ่ำเย็นและอาทรอย่างไม่รู้จบ

    นี่มิใช่สุนทรพจน์...หากแต่เป็นความรู้ที่เป็นเสมือนคำขอบคุณที่มีต่อกัลยาณมิตรทั้งหลาย

    ให้โอกาสผมได้พูดในสิ่งที่รู้สึกอย่างสัตย์จริงเช่นกับการให้โอกาสผมได้เขียนบันทึกอย่างสัตย์จริงโดยไม่จำเป็นต้องชั่งวัดคุณค่าใด ๆ  ... อย่างน้อย 2 เดือนในโลกแห่งการเรียนรู้นี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงผมไปในทางที่ดีแล้ว...

    ส่วนบันทึกของผลจะมีประโยชน์ต่อใครอื่นหรือไม่  และเป็น KM  มากน้อยหรือไม่นั้น...ผมไม่มีความรู้พอที่จะชี้วัดใด ๆ .... และไม่จำเป็นที่ผมจะต้องชี้วัดด้วยตนเอง  หากแต่ขอรับผิดชอบในทุกอักษรในบันทึกของผมอย่างทระนง

    และไม่มีคำอื่นใดที่ควรกล่าวปิดประเด็นอันยาวยืดนี้เท่ากับ "ขอบคุณ" 

    ขอบคุณครับ ...

    (ผมได้ทำหน้าที่บอกกล่าวความรู้สึกนี้ตามคำสัญญาแล้วนะครับ)

     

    ยินดีด้วยค่ะ  คุณแผ่นดิน
    เป็นบันทึกที่มีชีวิตชีวา   อ่านสนุก
    ได้ทั้งสาระและบันเทิงค่ะ

    ถึง พี่วิชิต

    ขอบคุณครับที่สนใจในรายละเอียด จะรับปรับแก้ให้ครับ

    กัมปนาท

    ถึง พี่พนัส

    ในข้อคิดเห็นนี้

    P
    แผ่นดิน เมื่อ พฤ. 22 ก.พ. 2550 @ 06:08 จาก 202.28.35.245 ลบ
    • แด่กัลยาณมิตร  ทุกท่าน 
    • ผมเป็นคนที่เกิดจากหมู่บ้านติดลำน้ำปาว และลำน้ำนั้นก็เติบใหญ่เป็นเขื่อนลำปาว...ถึงไม่กว้างใหญ่ไพศาล แต่ก็ลึกและยาวหล่อเลี้ยงผู้คนอย่างกว้างไกล..
    • ผมจึงชอบสายน้ำ  เพราะสายน้ำสอนให้รู้คุณค่าของความฉ่ำเย็นและกว้างลึก อันหมายถึง "ใจกว้างและอาทร"  หากแต่ผมเป็นสายน้ำที่อาทรและหลากไหลได้ทั้งชาเย็น  ห้วนแรง  หรือแม้แต่กระชากกระชั้น
    • แหละเมื่อเข้าสู่การเขียนบล็อก  เป็นการเข้าสู่เวทีโดยภาวะส่วนตัวผ่านการเชิญชวนของรุ่นพี่ในสำนักงาน  มิได้เข้าสู่กระบวนการขององค์กร และมิใช่คนทำงาน KM ในทีมอนุกรรมการฯ  แต่เพราะการได้ฟังผู้บริหารท่านหนึ่งพูดในเวทีว่า "เริ่มด้วยใจ"  และจากนั้น  ทุกครั้งที่พบท่านท่านก็จะบอกเสมอคือ "มาช่วยกันนะ" ... ผมให้ความเคารพต่อท่านไม่น้อยกว่าการให้ความเคารพตนเอง  ปรารถนาที่จะช่วยทั้งกายและใจ  แต่ก็ขอให้ขึ้นอยู่กับกาละโอกาสเป็นสำคัญ
    • ผมไม่รู้ที่มาที่ไปและไม่หยั่งรู้ราวศาสดาที่จะฟันธงว่า KM คืออะไรและเช่นไรกันแน่...และที่ตนเองเขียน หรือกระทำอยู่นั้น คือ KM หรือไม่... แม้กระทั่งผู้ที่ถูกยกย่องเชิดชูในแวดวงก็กล่าวแบบปนจริงปนเล่นเสมอว่า "ไม่มีผิด ไม่มีถูก"
    • แต่ผมมีความสุขที่จะเขียนเพราะบทบาทหน้าที่ของผมคือ "การอยู่กับนิสิต และดูแลนิสิต"  การบอกเล่าและสื่อสารเรื่องราวต่าง ๆ ที่คิดว่ามีผลต่อการสร้างจินตนาการและสำนึกที่ดีแก่นิสิตเป็นเรื่องสำคัญ  ส่วนกลวิธีที่ใช้อยู่ในรูปแบบใด วิธีการใดก็สุดแท้แต่สไตล์ของผู้เล่า  ซึ่งนักเขียนท่านหนึ่งก็พูดไว้ว่า "เรื่องของเรา  เราต้องเล่าด้วยวิธีของเราเอง"
    • แต่ผมมีความสุขที่จะเขียน  เพราะคือการเสริมสร้างและสำรวจบางสิ่งบางอย่างในตัวเอง (ซึ่งบ่อยครั้งก็ไม่อาจกล้าหาญที่จะบอกว่ามันคือ ความรู้ในตัวผมเอง)  และสำคัญคือ ผมต้องการบอกเล่าเรื่องราวของนิสิตและหน่วยงานไปสู่เวทีที่ "กว้างและไกล"  ขึ้นกว่าเดิม เพื่อบอกเล่าให้รู้ว่า "ที่ตรงนี้มีนาฏกรรมอะไร หรือเช่นไร เป็นไปอย่างไร"
    • โดยไม่ติดยึดและเคร่งเครียดว่าทุกอักษรที่ดูเหมือนนวนิยายนั้น คือ KM หรือไม่...แต่รู้และตระหนักมั่นอยู่เสมอว่าทุกตัวอักษร "คือเรื่องจริง ความจริง และเป็นความสัตย์จริง"  เสมอและที่สำคัญก็คือ "น้ำใสใจจริง" ของผมเองก็เป็นไปตามกระบวนความในอักษรแต่ละตัว
    • ผมมีความสุขที่จะเขียน..เพราะโลก G2K  สอนให้ผมเห็นคุณค่าของ "มิตรภาพ, กำลังใจ การเติมเต็มกันและกัน"  รวมถึงการสอนให้เห็นถึงธรรมเนียม (อันควรนิยม)  ที่หมายถึงการให้ความเคารพรัก นับถือ ให้เกียรติและส่งเสริมกันและกันอย่างไม่มีสิ่งใดกั้นขวาง
    • ที่นี่สอนให้ผมนิ่งขึ้น เยือกเย็นขึ้น ..และที่สำคัญคือการรู้จักที่จะแสดงความชื่นชมต่อคนรอบข้างมากขึ้น  เพราะก่อนนั้นผมตระหนักก็จริง, แต่ไม่ใคร่แสดงออกถึงพฤตินัยเช่นนั้นนัก และที่สำคัญคือการ "เปิดรับ"  อย่างมีมิตรภาพ  รู้จักเฝ้ารอคนอื่น  โดยไม่ด่วนทำตนโชว์เด่นแบบ "ลูกทุ่ง ,ข้ามาคนเดียว"  ....
    • และบัดนี้ผมก็ได้เห็นความเปลี่ยนสำหรับผมอีกประการก็คือ "ความทระนงที่มีอยู่อย่างมากล้นจนดูเหมือนกระด้างได้อ่อนตัวลงอย่างมาก" ...
    • สิ่งที่ผมเคยบอกว่า "ฉันรู้.." (ทำตัวเป็นผู้รู้)  วันนี้ผมเรียนรู้จากที่นี่ว่า "นั่นคือสิ่งที่ฉันเข้าใจผิดว่า ฉันรู้"
    • รางวัล..ที่ได้รับครั้งนี้  และถึงแม้เป็นรางวัลที่ผมไม่ได้สมัคร หรือแม้แต่การเขียนบล็อกก็เขียนในลักษณะส่วนตัวไม่ได้รับการมอบหมายจากองค์กร  และก็ไม่ใคร่ศึกษาสนใจด้วยว่ากฎกติกาเป็นเยี่ยงไร.. เพราะผมไม่ได้สมัครเข้าประกวด...
    • แต่ก็มีความสุขใจและกล้าที่บอกว่า "ขอบพระคุณทุกคน ทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งโดยตรง และโดยอ้อม" ...ที่มาเติมเต็ม  หรือถ้าจะไม่เต็ม  มันก็เพิ่มต้นทุนให้ผมได้เรียนรู้ที่จะ "เต็ม"  อย่างมีคุณค่าและมี "คุณภาพ" ในอนาคต
    • รางวัลจะไม่ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่  หรือกลับไปสู่จุดแห่งความทระนงเหมือนเก่าก่อน  และจะไม่มีวันทำให้ผม เป็น "นก" ที่กลายพันธุ์เป็นนกที่บินได้ยิ่งกว่า "นก"
    • ผมยังคงปรารถนาเป็นนกที่บินอยู่ในฝูง...ไม่ประสงค์ที่จะบินเหนือฝูง, ต่ำกว่าฝูง หรือแยกฝูงไปตัวเดียวโดด ๆ ...
    • ผมไม่ปรารถนาเป็นผู้ชนะแต่ปราศจากคุณค่าใด ๆ ในสายตาคนรอบข้าง....

    นี่กระมัง..คือ ความรู้สึกบางอย่างที่บางท่านอยากรู้ว่าผมรู้สึกเช่นไร....ต่อการได้รับรางวัล....

    ผมไม่รู้หรอกว่า KM  เป็นอย่างไร  ผมรู้แต่เพียงว่าบล็อกช่วยให้ผมเรียนรู้ความงดงามของมิตรภาพที่เป็นประหนึ่งสายน้ำที่ไหลอย่างไม่ขาดห้วง ,  เบาบ้าง แรงบ้างตามวาระและฤดูกาล  หากแต่ยังคงไว้ซึ่งความฉ่ำเย็นและอาทรอย่างไม่รู้จบ

    นี่มิใช่สุนทรพจน์...หากแต่เป็นความรู้ที่เป็นเสมือนคำขอบคุณที่มีต่อกัลยาณมิตรทั้งหลาย

    ให้โอกาสผมได้พูดในสิ่งที่รู้สึกอย่างสัตย์จริงเช่นกับการให้โอกาสผมได้เขียนบันทึกอย่างสัตย์จริงโดยไม่จำเป็นต้องชั่งวัดคุณค่าใด ๆ  ... อย่างน้อย 2 เดือนในโลกแห่งการเรียนรู้นี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงผมไปในทางที่ดีแล้ว...

    ส่วนบันทึกของผลจะมีประโยชน์ต่อใครอื่นหรือไม่  และเป็น KM  มากน้อยหรือไม่นั้น...ผมไม่มีความรู้พอที่จะชี้วัดใด ๆ .... และไม่จำเป็นที่ผมจะต้องชี้วัดด้วยตนเอง  หากแต่ขอรับผิดชอบในทุกอักษรในบันทึกของผมอย่างทระนง

    และไม่มีคำอื่นใดที่ควรกล่าวปิดประเด็นอันยาวยืดนี้เท่ากับ "ขอบคุณ" 

    ขอบคุณครับ ...

    (ผมได้ทำหน้าที่บอกกล่าวความรู้สึกนี้ตามคำสัญญาแล้วนะครับ)

    <<<<<<<<<<<<< >>>>>>>>>>>>>

    อาจนำข้อคิดเห็นนี้พิจารณา ไปลงในวารสารการจัดการความรู้ ของ มมส. ในฉบับต่อไปได้ครับ คิดว่าจะเป็นแรงกระตุ้นอีกทางหนึ่ง เพื่อขับเคลื่อน KM ในองค์กรครับ

    กัมปนาท

    ยินดีด้วยค่ะ บอกตามตรงว่าแอบเชียร์อยู่ค่ะ ทั้งเนื้อหาบันทึก และข้อคิดเห็นเป็นการลปรร ที่เนียนและเป็นตัวของตัวเองดีค่ะ --ถูกใจมากค่ะ

    • ขอชื่นชมและแสดงความยินดีกับคุณพนัส ด้วยครับกับรางวัลที่คณะกรรมการได้ตัดสินให้
    • และที่น่ายินดีคือการทำงานอย่างมีความสุขของคุณพนัสครับ ที่เป็นพลังขับเคลื่อนให้คุณพนัส งาน และหน่วยงานมีคุณภาพ
    • ขอชื่นชมกับการทำงานของคณะกรรมการฯ ด้วยครับ
    • ดีใจนำเด้ออ้ายเด้อ อิอิ
    • ขออนุญาตใช้พื้นที่บันทึกของคุณแจ๊คกล่าวขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่าน..จากใจจริง
    • รักและอิ่มสุขกับโลก G2K  เสมอ
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท