ชีวิตที่พอเพียง : (221) ตามเสด็จทัศนศึกษา ๒


      วันจันทร์ที่ ๒๙ ม.ค. ๕๐  ผมตื่นแต่เช้ามืด ออกไปวิ่งและถ่ายรูปที่ชายหาด     แล้วมากินข้าวเช้า และถ่ายรูปโรงแรมซึ่งเขาจัดน้ำพุและน้ำหล่ออาคาร     นอกจากความสวยงามร่มรื่นแล้ว น่าจะช่วยทำให้ลดความร้อนลงได้ด้วย      แต่เช้านี้อากาศดีเป็นพิเศษ คืออุณหภูมิเย็นลง     ทำให้อากาศตอนเช้าเย็นสบาย

          ขบวนไปรับเสด็จที่วังไกลกังวล     ทำให้ผมได้เข้าวังนี้เป็นครั้งแรก     แล้วไปเยี่ยมชมศูนย์การศึกษาการพัฒนาห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ  อ. ชะอำ  จ. เพชรบุรี      ผมได้รู้จัก "ดินดาน" เป็นครั้งแรก     ในสายตาของผมมันคือหินดีๆ นี่เอง      ได้เห็นวิธีใช้หญ้าแฝกในการพัฒนาดิน จากดินดาน ให้สามารถปลูกต้นไม้ได้      ผมได้ "รู้จัก" หญ้าแฝกจริงๆ เป็นครั้งแรก     ดร.

สุเมธ ตันติเวชกุลบอกผมว่า ในเวลาแค่ ๓ เดือน รากหญ้าแฝกสามารถชอนลงไปลึกถึง ๗ เมตร      นับเป็นหญ้ามหัศจรรย์จริงๆ     เรื่องนี้สอนผมว่า ปัญหาของธรรมชาติ (ดินเสีย) ก็แก้ได้โดยธรรมชาติ     เมื่อรากหญ้าแฝกไชชอนลงไป ความชื้นก็ตามลงไป ช่วยให้จุลินทรีย์เติบโตและทำหน้าที่ของมันได้     โครงการตามพระราชดำริได้สร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับหญ้าแฝกอย่างมากมาย      น่าชื่นชมมาก

          มีการทดลอง (ซึ่งก็คือวิจัยนั่นเอง) ใช้หญ้าแฝกบำรุงดินในรูปแบบต่างๆ มีโจทย์วิจัย และคำตอบออกมาจากผลงานมากมาย   ผมมองว่านี่ก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่โครงการ BRT น่าจะมาแสวงหาความร่วมมือ หาโจทย์วิจัยให้แก่ นศ. บัณฑิตศึกษา     

         เราใช้เวลาฟังการบรรยายสรุปนานเป็นชั่วโมง      แล้วจึงเดินไปที่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก   ชื่อทางการคือ ศูนย์เด็กก่อนวัยเรียน "อับดุลราฮิม"  มีเด็กมาใช้บริการ 60 คน เป็นมุสลิม 38 คน     มีเด็กจำนวนหนึ่งกับพี่เลี้ยงมานั่งเล่นของเล่นอยู่สิบกว่าคน     เห็นของเล่นแล้วรู้สึกว่าดีกว่าที่ลูกผมเคยมีเสียอีก     หนังสือเกี่ยวกับพัฒนาการเด็กก็มีอยู่บนหิ้งมากมาย      เห็นแล้วผมน้ำลายไหล     แต่หนังสือยังใหม่เอี่ยม ไม่มีริ้วรอยการใช้งานเลย      ก่อนถึงศูนย์เด็กเล็กมีเพิง ชาวบ้านมารับเสด็จกว่า ๕๐ คน     มีการเอาเด็กพิการ เด็กป่วย คนแก่ มาขอความช่วยเหลือ สมเด็จพระเทพรัตน์ฯทรงมีทีมดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ     ดูทีมงานจะชำนาญมากในการซักถามและให้ความช่วยเหลือ
 
        จากนั้นเราเดินเลยไปที่โรงเจียระไนพลอย     มีชาวบ้านกว่า ๑๐ คนนั่งที่เครื่อง ทำงานอยู่ตามปกติ     ถามได้ความว่ารายได้สม่ำเสมอไม่ต่ำกว่า 6 พันบาทต่อเดือน  ดีกว่าทำงานอื่นมาก    เดือนไหนงานมากก็ได้มาก     คือได้ค่าเจียระไนเม็ดละ 1 - 3.50 บาท     บางครั้งงานมากถึงขนาดต้องทำงานวันเสาร์อาทิตย์    พลอยที่เจียรไนวันนี้คือ  topaz (สีม่วง) 

        หลังจากนั้นเราข้ามถนนไปดูโรงนม    เป็นโรงงานพาสเจอไรซ์และบรรจุถุงนมวัวของสหกรณ์โคนมห้วยทราย     เวลานี้ผลิตได้วันละ 6-8 ตัน   รับซื้อนมจากสมาชิก  200  ครอบครัว     เฉลี่ยเลี้ยงวัวครอบครัวละ 15 ตัว     มีรายได้ครอบครัวละ 15,000 - 20,000 บาทต่อเดือน     พอเข้าไปในโรงงานเขาก็แจกนมถุง (๒๐๐ ซีซี) เย็นเจี๊ยบ และอร่อยมาก   

        รถพาเราไปกินอาหารเที่ยงที่ สวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  ต. สามพระยา  อ. ชะอำ  จ. เพชรบุรี      เป็นอาหารที่พิเศษมาก คือเป็นอาหารชุดห่อใบบัว      ทำให้ผมระลึกชาติสมัยเรียนชั้นมัธยมที่ชุมพร เพื่อนผมหลายคน "คดข้าวห่อ" (ภาษาปักษ์ใต้) มากินที่โรงเรียน โดยห่อใบบัวแบบนี้แหละ      ตอนนั้นต้องห่อใบบัวเพราะไม่มีเงินซื้อภาชนะใส่     คือกินข้าวห่อใบบัวเพราะจน    แต่เวลานี้ข้าวห่อใบบัวกินได้เฉพาะคนมีเงินเท่านั้น     นอกจากข้าวในชุดแล้วก็ยังมีอาหารพิเศษมาให้ลองหลายอย่าง อร่อยทั้งนั้น      รวมทั้งของหวานคือข้าวต้มมัดซึ่งอร่อยมาก    พอผมชม ดร. สุเมธ จึงเอาใส่ถุงกรอบแกรบให้เอากลับบ้านอีกถุงใหญ่

           บริเวณที่ตั้งโต๊ะรับประทานอาหารร่มรื่นและประดับดอกไม้สวยงามมาก      หลังจากนั้นเรานั่งรถที่เขาใช้รับส่งภายในสวน (นั่งได้คันละ ๒๐ - ๓๐ คน) ผ่านแปลงดอกไม้      ไปบริเวณสวนพฤกษศาาสตร์  ไม้วรรณคดี  และสมุนไพร      มีการบรรยายสรุปให้ฝรั่งฟัง     มีการสาธิตการนวดและประคบสมุนไพร      มียาดองเหล้า ดองน้ำผึ้ง ฯลฯ มาแสดงและให้ชิม     ผมได้ลองชิมสมุนไพรดองน้ำผึ้งด้วย     นึกในใจว่าลองเสี่ยงท้องเดิน     โชคดีไม่มีปัญหา

          จากนั้นเรานั่งรถบัสไปบ้านของจ่าเอกเขียน สร้อยสม  เพื่อดูของจริงในการใช้เทคโนโลยีของ ศูนย์การศึกษาการพัฒนาห้วยทราย ในชีวิตจริง     ดังที่ผมได้บันทึกไว้แล้วใน http://gotoknow.org/blog/thaikm/76550    

           เราไปส่งเสด็จก่อนจะกลับมาพักผ่อนที่โรงแรม และแต่งตัวด้วยชุด "พระราชทาน" ที่เขาแขวนไว้ให้ในห้องที่โรงแรม     ของผู้หญิงเป็นชุดไทยลายดอกไม้     ส่วนผู้ชายเป็นเสื้อคอกลมสีเหลือง มีเข็มกลัดกลมๆ วาดลวดลายกลัดไว้เพิ่มสีสัน   สำหรับไปในงานเลี้ยงอาหารเย็นที่ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน      เมื่อไปถึงก็มีฝรั่งมาอ่านกลอนเช็กสเปียร์ให้ฟังที่  สวนเวนิสวานิช     ซึ่งผมฟังไม่รู้เรื่อง     อากาศตอนใกล้ค่ำเย็นสบาย      มีวงเครื่องสายฝรั่งบรรเลงอย่างไพเราะ     เราไปนั่งฟังเพลงและถ่ายรูปมีพระที่นั่งเป็นฉากหลังอันงดงาม

           เมื่อเสด็จมาถึง ทรงนำเข้าไปชมพระที่นั่ง มีวงดนตรีไทยวงเด็กที่ฝึกหัดเด็กลูกหลานเจ้าหน้าที่ในพระราชนิเวศน์ บรรเลง     มีภาพฉายรัชกาลที่ ๖     และศิลปวัตถุ     ขึ้นไปชั้น ๒ มีพระบรมรูปปั้นรัชกาลที่ ๖    สมเด็จพระเทพรัตน์ทรงเล่าโจ๊กว่า รัชกาลที่ ๖ ไม่โปรดเสวยผัก    ทำให้คอแข็งอย่างที่เห็นในพระบรมรูป    พอเริ่มพลบค่ำ เราก็เข้านั่งประจำโต๊ะ     ผมนั่งเกือบปลายสุดของโต๊ะตามเคย     และก็โชคดีเพราะเป็นตำแหน่งเหมาะ ที่เวลามีการแสดง ผมถ่ายดีวีดีได้สบาย      อาหารเป็นอาหารฝรั่ง และมีไวน์อย่างดี พนักงานเสิร์ฟเป็นนักเรียนวชิราวุธ เสิร์ฟเสร็จก็นั่งรถกลับกรุงเทพเลย      ระหว่างกินอาหาร มีวงดนตรีไทยเล่นไพเราะมาก     มีการแสดง ๒ ชุด คือรำศรีนวล     กับโขนตอนพระรามตามกวาง     ผมถ่ายดีวีดี ด้วยกล้อง HDD ตัวใหม่ได้อย่างหนำใจ และออกมาดีด้วย      ผึ้งได้จัดการอัดลงแผ่นดีวีดี แจกกรรมการ IAC ด้วย

            พอรับประทานอาหารเสร็จ สมเด็จพระเทพรัตน์ก็เสด็จไปที่วงดนตรีไทย ไปทรงขับเพลงไทยเดิม "อันโดรเมดา" ยาวเกือบครึ่งชั่วโมง      ผมถ่าย ดีวีดี ไว้ตามเคย     และก่อนจะกลับ ได้พระราชทานของที่ระลึกแก่ทุกคน    ได้รับความสดชื่นและประทับใจกันถ้วนหน้า

             ภรรยาและผมรีบเข้านอน เพราะรุ่งขึ้นจะต้องติดรถของ ศ. นพ. ปิยะสกล กลับกรุงเทพ     เพื่อทำงานของ สคส. และไปฟังการบรรยายของผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ปี 2006 ในตอนบ่าย ที่ศิริราช     เท่ากับเราขาดโอกาสตามเสด็จไปดูโรงงานสกัดน้ำมันพืชและไบโอดีเซลครบวงจร ที่ ต. หนองพลับ  อ. หัวหิน    และสถานีเพาะเลี้ยงม้า ของสภากาชาดไทย     ในวันที่ ๓๐ ม.ค. ครึ่งวัน

                            

               วิ่งออกกำลังกายที่ชายหาดชะอำ ยามอรุณรุ่ง

                            

                                อาทิตย์อุทัยเหนือหาดชะอำ

                            

                           บนรถขณะไปรับเสด็จที่วังไกลกังวล

                            

                  ห้วยทราย การวิจัยปลูกหญ้าแฝกบนดินดาน

                             

     ห้วยทราย  การใช้หญ้าแฝกช่วยให้ปลูกต้นไม้บนดินดานได้ 

                              

                                            ศูนย์เด็กเล็ก

                            

                                             สวนสมุนไพร

                             

                                   บ้าน จอ. เขียน สร้อยสม

                             

                                         โรงเจียระไนพลอย

                            

                       ราษฎรนำเด็กป่วยมาขอความช่วยเหลือ

                             

                                                 โรงนม

                            

                       บรรยากาศอาหารเที่ยงในสวนสมเด็จฯ

                            

                                           ข้าวห่อใบบัว

                           

                                            ภายในใบบัว

                            

                                               โต๊ะเสวย

                           

                       ดอกไม้อันงดงามบนโต๊ะอาหารเที่ยง

                           

                     นั่งฟังเพลงที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

                           

                                            พระบรมรูป ร. ๖

                           

                                         บรรยากาศโต๊ะเสวย

                           

                      พระที่นั่ง ถ่ายจากโต๊ะพระราชทานเลี้ยง

                           

                                                   รำศรีนวล

วิจารณ์ พานิช
๑๔ ก.พ. ๕๐ 

 



ความเห็น (2)
กำไรชีวิต อย่างนี้จะมีสักกี่คนที่มีโอกาส ขอปลื้มด้วยคนคะ

ปิติยินดีมากด้วยครับกับท่านที่มี บุญวาสนา  บุญบารมีครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท