ดอกไม้


ดร. แสวง รวยสูงเนิน
เขียนเมื่อ

เมื่อวาน 18 เมย 56 มีนักเรียนรุ่นใหญ่ ที่เป็นนักธุรกิจรุ่นกลางๆ จาก กทม ขับรถเบนซ์มาเรียนวิธีดู พระเนื้อผง เนื้อดิน และเนื้อชิน ที่บ้านผม

ขนพระเก๊มา 2 กระเป๋าใหญ่ ผมใช้เวลาดู ทั้งหมดประมาณ 10 นาที ก็ตีเก๊ได้หมดทุกกล่อง
โดยการดูทีละกล่อง เพราะเก๊ตาเปล่าล้วนๆ รวมแล้วเกือบร้อยกล่อง
ที่น่าจะมีทุนการหยิบมาหลายล้าน มีเลี่ยมทอง ตลับทอง ไม่ต่ำกว่า 20 องค์ เต็มสองกล่อง

ผล...... เก๊ 100%

หลังจากนั้น ผมก็ให้หัดดู "วัสดุการสอน" ของแท้ ทั้งเปลือกหอย ดิน หิน ทราย ฯลฯ

พอทดสอบความรู้แล้ว จึงให้เริ่มดูจากพระแท้ดูง่าย ไปหาพระแท้ดูยาก

พอดูเป็น ก็เริ่มอธิบายหลักการดูพระแท้ ทีละองค์

โดยเน้นหลักการ และพัฒนาการของพระแต่ละเนื้อ

ทำให้เขาเพิ่งเข้าใจวิธีการดูพระแท้
และรู้ว่าตัวเองหลงทางมานาน หมดไปหลายล้าน

พออธิบายจบ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง

เขาก็พูดออกมาอย่างโล่งใจ ว่า

"ผมรู้สึกว่า "ดูพระแท้ เป็นแล้ว" อย่างน้อยก็อีกระดับหนึ่ง"

เป็นเช่นนี้เอง
555555

11
1
ดร. แสวง รวยสูงเนิน
เขียนเมื่อ

หลังจากผมใช้หลักการ Input-output ในการลดจำนวนไขมันสะสมในร่างกายจนได้ผล

ค่อยๆลด 16 กก ภายใน 6 เดือน จาก 80 เหลือ 64 ในปัจจุบัน

น้ำหนักปัจจุบัน เท่าๆกับสมัยเรียนปริญญาตรี เมื่อเกือบ 50 ปีมาแล้ว

 ประมาณว่า มีค่าเท่ากับใช้ไขมันที่สะสมมา 50 ปี ไปแล้ว

 ผมจึงพยายามมองย้อนไปทำความเข้าใจคนที่ยังลดไขมันสะสมไม่ได้ ว่าทำไม

ก็แค่ลด Input เพิ่ม Output
ปริมาณไขมันสะสม ไม่ลดลง จะเป็นไปได้อย่างไร

เพราะ 
ผิดหลักการทุกข้อ ทุกสาขาวิชา เลยละครับ

ไม่เข้าใจ และไม่เชื่อครับ

ผมจึงคาดว่าเขาเหล่านั้น น่าจะไม่จริงใจกับตัวเองมากกว่าครับ อิอิอิอิ

6
0
ดร. แสวง รวยสูงเนิน
เขียนเมื่อ

ในสังคมปัจจุบันมีความสับสนอยู่เรื่องหนึ่ง ทั้งระดับปัจเจก และระดับสังคม

ที่เกิดจากการคิดไม่ชัด เลยทำอะไรได้ไม่ชัด

และบางคนที่ไม่ชัด ก็จะน้อยอกน้อยใจในชีวิตของตัวเอง เช่น บางท่านปฏิเสธสุภาษิตไทย ไม่ยอมรับ "ทำดีได้ดี" ไปเลย

ทั้งๆที่

ความดี และความชั่ว นั้นมีสองระดับ

ระดับสำหรับตัวเราเองนั้น วัดกันที่ "เจตนา" และก็ได้ดี ที่ความสุข ความสบายใจ 

ในระดับสังคมนั้น เขามิได้ตัดสินกันที่ "เจตนา" หรือ กิจกรรมใน "การกระทำ" แต่อย่างใด



เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ทราบ หรือ ไม่สน และบางทีก็ไม่ยินดีรับรู้ "เจตนา" เสียด้วย จะดีจะเลวไม่เกี่ยวทั้งสิ้น


เพราะ ที่สำคัญ............... ตัวชี้วัดที่ใช้กันจริงๆ  สุดท้ายแล้ว ก็อยู่ที่.............

  "ประโยชน์" หรือ "โทษ" ที่เกิดขึ้น กับใครบ้าง กว้างไกลแค่ไหน

นั่นต่างหาก.......ที่เป็นตัวชี้วัดที่สังคมทั่วไปกล่าวถึง ได้ นานนน แสนนานนนนนนน

และยอมรับ นับถือ ยกย่องว่า "เป็นคนดี" และ "ทำความดี" จริงๆ
หรือไม่ก็ ก่นด่า กันทั้งโคตรทั้งตระกูล ว่าเป็น "คนเลว" ไปอีกร้อยปี พันชาติ

ดังนั้น ถ้าทำแล้วไม่เกิดผลลัพธ์ที่ดี แม้จะเจตนาดีแค่ไหน ไม่นาน สังคมก็จะลืมมมมมมมมมมม
แต่ แม้จะเจตนาดีขนาดไหนก็ตาม ถ้าเกิดผลร้ายสักหน่อยละก็ เป็นคนชั่วทันที และลืมยากกกกกกกกกกกกกกกก

ก็..........แค่คิดดังๆ อิอิอิอิอิอิ

6
0
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท