ด้านข้างของพระสมเด็จวัดระฆัง ส่วนใหญ่ ทั้งสี่ด้าน จะมีความหนาแน่นของมวลสารน้อยที่สุด
เมื่อเทียบกับด้านหน้าและด้านหลัง ที่มีการกดอัดจากแม่พิมพ์ หรือไม้กระดานที่รองรับด้านหลัง
ดังนั้น จึงมักมีการงอกของน้ำปูนได้โดยง่าย จากช่องว่างที่มีมากกว่า
(ยกเว้น กรณีที่มีการลงรักปิดด้านข้างไว้)
ฉะนั้น การดูด้านข้างของพระสมเด็จวัดระฆัง จึงช่วยในการตัดสินแท้-เก๊ ได้ดีพอสมควร
เพราะด้านข้างมักจะมีการปริแยก การงอกแบบ 3+2 ที่ทำให้เกิด ความฉ่ำ เหลือง และนวล อย่างกลมกลืนกัน
ยิ่งกว่านั้น บนพื้นที่แคบๆนี้ ช่างมักจะแต่งเนื้อและผิวได้ยาก จึงทำเก๊ได้ไม่เนียน และสังเกตได้ง่าย
แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่า พระเนื้อผงปูนเปลือกหอยทุกองค์จะต้องเป็นเช่นนี้
องค์ที่ไม่เป็น ก็อาจจะเนื่องมาจากการลงรัก และความหนาแน่นของมวลสาร ที่เกิดมาจากขั้นตอนการเตรียมและการกดพิมพ์
แต่ถ้ามีร่องแยกแบบนี้ก็จะมั่นใจได้มากขึ้นครับ
ขอให้โชคดี เรียนรู้เร็วๆ และมีพระแท้ๆ กันถ้วนหน้าครับ
เพื่อที่จะพร้อมไปทำสิ่งที่ดีกว่าให้กับชีวิตของท่านเอง
เก๊ตาเปล่าครับ
คุณไฟไหม้ยา (แกล้งอ่านและแปล...ห้ามโกรธนะครับ)..อันดับแรกที่จะจำพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ ให้ดูและเพ่งรูปของท่านสมเด็จฯที่นั่งขัดสมาธิราบ (รูปถ่ายท่าน หวังว่าคงมีหรือเคยเห็นครับ) จะสังเกตุเห็นว่าท่านนั่งหันหน้าเอียงไปทางด้านซ้าย ส่วนมือขวาทับมือซ้ายก็จะโย้ไปทางขวา กรุณาสังเกตุให้ดีๆ เพ่งหลายๆครั้ง หลายๆวัน แล้วจึงมาเทียบเคียงกับพระสมเด็จฯพิมพ์ใหญ่ จะมีลักษณะเหมือนกันตามที่บอก (เคล็ดไม่ลับ) และกรอบพิมพ์พระสมเด็จฯ ด้านล่างก็จะไม่ขนานกับขอบพระ กล่าวคือทางขวามือของสมเด็จฯจะเอียงสูงกว่ากรอบพิมพ์ด้านซ้าย เบื้องต้นแค่นี้ครับ..ขอขอบคุณและสวัสดี..
ต้องขอขอบคุณท่าน อ. และคุณธรรศ ที่ช่วยชี้แนะ ตอนนี้กำลังฝึกตามที่ชี้แนะครับ
ผมทดลองส่งรูปจากหนังสือพิมพ์บ้านเมืองให้ดูเพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็น ตามที่ได้แนะนำไว้ครับ ขอขอบคุณครับ.
ดีมากเลยครับทำให้มีแนวทาง
และมีโอกาศได้ร่ับพระแท้ครับอาจารย