สวัสดีค่ะกลับมาบันทึกกิจกรรมที่ประทับใจช่วงปิดเทอมค่ะ ได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน ที่ อ. ท่าวังผา จ. น่าน ได้กลับไปนั่งคุยกับแม่นานๆ สงกรานต์ได้รดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ ....แต่เศร้าใจกับการเสียชีวิตของน้าหนานสม ที่จากไปกระทันหัน ซึงท่านยังปกติทุกวัน แต่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดรวดเร็วจริงๆ ... มาเล่าถึงการร่วมกิจกรรมในชีวิตประจำวันของแม่ที่อายุมากแล้ว แต่ยังชอบทำนั่นโน้นนี่ ตลอดค่ะ เล่นเปตองเก่งด้วยสิ วันนี้ขอนำภาพการทำข้าวต้มหัวหงอกแบบบ้านๆ มาให้ได้เห็นกันนะคะ
ส่วนผสมมีข้าวเหนียวแช่ค้างคืนล้างให้สะอาด กล้วยน้ำว้าสุกปอกเปลือกผ่าสี่ ใบตองสำหรับห่อข้าวต้ม ฉีกใบตองตักข้าวใส่ช้อนนึงเอากล้วยใส่ชิ้นนึงห่อพับหัวท้ายนำมาประกบกันมัดหนึ่งได้ ห้าชิ้นจัดเรียงสามชิ้นอีกสองประกบข้างๆ เทคนิคการห่อมัดที่ต้องแน่นมากๆๆๆๆ...กันน้ำจะเข้าในขนม...นำไปต้มในหม้อใบใหญ่เพราะแม่ทำทีก็ได้ 10 มัด ต้มประมาณ 40 นาที ตักมาแกะดูเลือกมัดที่อยู่ด้านบนไฟไม่แรงเพราะถ้ามัดนี้สุก นอกนั้นสุกหมดค่ะ.... ไม่เชืออย่าลบหลู่บางคนทำยังไงก็ต้มไม่สุกนะคะ แปลกเนาะ ...สุกไม่หมดแข็งๆ สุกๆ ...แม่บอกนะคะ
krutoom มีต้นแบบคือ คุณแม่ นี่เอง ;)...
ใช่ค่ะอาจารย์เสือ คุณแม่เป็นลูกคนโตของคุณยายหรือแม่อุ้ยน่ะ..เลี้ยงน้องอีก 9 คนนะคะ.. ตลกมากๆคือ ลูกคนแรกของแม่กับน้องสุดท้องของแม่คือลูกยายนะคะ อายุเท่ากันคือมีท้องพร้อมกัน..งง..ไหมนั่น สมัยนั้นโทษว่ามีลูกมากเพราะการทำหมันลำบากมาก เดินทางไป รพ. ไกล ไม่มีสะตังค์...
น่ากินมากนะครับครู
..
คุณแม่ท่าน..มองแข็งแรงจังครับ
น่ากินมาก
ผมเคยไปท่าวังผาด้วย
มีพระอาจารย์ให้การศึกษาแก่น้องเณรชื่อพระอาจารย์คงศิลป์ครับ
ขอบคุณค่ะคุณแสง แม่แข็งแรงค่ะเล่นเปตองทุกวันค่ะ
ajankoy สาธุ สวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะ ใช่เลยขนมไทยพื้นบ้านยุคนี้สู้ไม่ได้กับขนมในห้างต่างๆนะคะ..ลูกๆก็ไม่ค่อยได้ทาน กลับบ้านยายก็ต้องทานกับยายและเรียนรู้ไปกับยายค่ะ ขนมพื้นบ้านปลอดภัยจริงๆค่ะ ไม่รู้จักสารปรุงแต่งอะไรเลย ถามยายว่าทานไม่หมดเก็บอย่างไร ยายว่าเอาไว้บนโต๊ะแหละไม่ต้องเข้าตู้เย็นรับรองไม่บูดไม่แข็ง คงเดิม รสชาติ เพียงแต่ไม่ร้อนๆ เท่านั้นค่ะ
ขจิต ฝอยทอง ขอบคุณค่ะอาจารย์ ดีใจจังที่เดินสายถึงท่าวังผานะคะ ทางไกลโค้ง แต่ผู้คนใจดีนะคะ พระอาจารย์คงศิลป์อยู่วัดอะไรน้อ.. พี่ก็ปิดเทอมปีละครั้งได้กลับบ้านค่ะ
ภาพนี้ ให้บรรยากาศดีจังจ้ะน้องครูตูม